Jump to content


pglovethai

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 27 พฤษภาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2557 17:41
-----

#706303 'กรรมสนองกรรม' เป็นฉันใด?

โดย pglovethai on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:31

http://www.thaipost....ws/090513/73293

 

 

กรรมสนองกรรม' เป็นฉันใด? ...เปลว สีเงิน

 

 
 

  อาการ "อกไหม้-ไส้ขม" หรือ "ตกนรกทั้งเป็น" มันเป็นอย่างไร คนที่ "นายเหวง โตจิราการ" ประกาศยกย่องกลางดง นปช.ว่า "จากปาฐกถาอูลาน-บาตอร์ ทำให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ผงาดขึ้นสู่ตำแหน่ง 'หญิงแถวหน้า' ของโลก" คนนั้นนั่นแหละ สามารถอธิบายได้ดีที่สุด!


    เพราะตอนนี้ ไม่ว่าทำอะไร ที่เคยมีแต่คนชม..อุ๊ย น่ารักจุงเบย ก็กลายเป็นน่าตึ๊บเจ๊งกะบ้ง กระทั่งมีคนแฮ็กเว็บสำนักนายกฯ เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ เก๋ไก๋ด้วยภาษาอินเตอร์


    แต่คณะพรรค "เสื้อแดง" ซึ่งล้วนเป็นผู้ดี ระดับอำมาตย์ไพร่ บอกว่าทนไม่ได้ เพราะไม่เคยพูดหยาบ-ทำหยาบ-คิดหยาบ กับใครเช่นนี้มาก่อน!?


    โลกยุคไอทีมันก็ดีไปอย่าง "บันทึกเท็จบนเวที" ไว้ย้อนเกล็ด "จับเท็จ" ได้ง่าย ก็อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ..นายกฯ เดี๋ยวท้องผูก สิวหัวช้างเหยียบย่ำจะทำให้หน้าสวยๆ ต้องหมองคล้ำซะเปล่าๆ


    อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน ต้องหัดปลงให้เป็นแต่เนิ่นๆ เพราะนี่...คราชะตาตก "เพิ่งเริ่ม" ส่วนของจริง จากนี้-ชนกันยาโน่น


    ฉะนั้น ฝึกใจให้ชินกับสภาพ "ยามบุญมา จากกา...ไอ้พวกสอพลอมันก็ว่าเป็นหงส์ แต่ยามบุญหมด จากหงส์...เจ้าพวกขันทีทั้งมีเดือยและไม่มีเดือยมันก็ว่าเป็นกา" เอาไว้เสียแต่เดี๋ยวนี้


     และนายกฯ ช่วยไปบอกบาทบริจาริกาทั้งหลายด้วย ถ้าคิดจะต่อปาก-ต่อคำเป็นการแก้ตัว-แก้ต่างให้นายหญิงละก็ มีมุมไหนคิดว่าเจ๋ง เอาเลย...จีบปากใส่สู้เขาไปให้มันสุดๆ แต่อย่าไปยก "ความเป็นหญิง" มาอ้างกับเขา


    มันสะเหล่อน่ะ...เจ๊!


    เพราะนี่...เป็นเวทีตำแหน่งคนบริหารประเทศ ไม่ใช่เวทีมวยเมียหลวง-เมียน้อยขึ้นชกชิงสามี ฉะนั้น การที่ประชาสังคมวิพากษ์-วิจารณ์-ติ-ชม-ถล่ม-ด่า คนเป็น "นายกรัฐมนตรี" ซึ่งเป็นผู้นำประเทศ ก็ต้องทนให้ได้ แต่ถ้าทนไม่ได้ เห็นว่าใช้สิทธิเสรีภาพล่วงล้ำก้ำเกิน


    ก็ฟ้องศาลเอา!


    พวกรัฐบาลเสื้อแดงนี่ก็พิลึก อะไรที่ศาลตัดสินแล้วไม่ถูกใจ ก็ว่าศาลยุติไม่เป็นธรรมบ้าง รวมหัวกันประกาศ "ไม่ยอมรับอำนาจศาล" บ้าง
    แต่พอตัวเองหวังจะได้จากศาล หรือเข้าตาจน มีคนยกปรัชญาหญิงขายตัว-หญิงคนชั่วมาพูด...ก็ฟ้องศาล ยึดศาลเป็นที่พึ่งทันที
    ตอนตัวเองไปปาฐกถาแบบ "ยำประเทศขาย" ฝ่ายค้านเขาทำหนังสือชี้แจงความจริงเป็นการพิทักษ์ศักดิ์ศรีประเทศไปบ้าง อู๊ย....หนูทนไม่ได้
    ถ้าใช้สิทธิ์รักษาประเทศมาทับสิทธิ์ยำประเทศขายของหนูแบบนี้ ฟ้องผู้หมวด ตำรวจขา...ช่วยจับตัวมาดำเนินคดีให้หนูด้วย!?


    กระทั่งไอ้ตัวที่ตะกายตึกอยู่นอกประเทศ สไกป์เข้ามาชักใยให้บรรดาสมุนล้างบ้าน-ผลาญเมือง ไม่มีใครไปทำอะไร แต่พอมีคนโต้เข้าดอก..สองดอก เจ้าขี้ข้ามักครอกมันกลอกตาสำรากแทนนาย


    ระวังนะ...เดี๋ยวฟ้อง!


    ไอ้สิทธิของพวกแดง ของทักษิณ ของยิ่งลักษณ์นี่ ดูมันจะพิเศษเหนือกว่าชาวบ้านเขาทั้งหมด ศาลให้ติดคุก มันก็ให้ฉีกรัฐธรรมนูญเขียนใหม่ ส้นมือ-ส้นตีนมันอ้าง "ทักษิณไม่ผิด กฎหมายตะหากไปเขียนเองให้ผิด"


    ฮ่าาาา เอาก๊ะมันซี...


    ฟังแล้วลำไส้ใหญ่กูเลื่อนลงหำเลยว่ะ...แบบนี้!


    เผาบ้าน-เผาเมือง-ฆ่าทหาร เป็นคดีอาญามีโทษจองจำ ต้องคิดคุก-ติดตะราง การสะสาง จัดเรื่องราวคดีทั้งหลาย ไหนการบ้าน-ไหนการเมือง-ไหนอาญา-ไหนขี้ข้ารับจ้างตามแห่ ให้เข้าเป็นหมวดหมู่ ไหนสารภาพ ไหนผู้ร้ายปากแข็ง ก็ยังทำกันไม่ได้-ไม่เสร็จ


    มันก็เล่นบทนักเลงโตคุมประเทศ จะใช้พวกมากลากออกกฎหมายล้างโทษให้พวกมัน แถมเรียกกฎหมายปรองดอง...มะเหงกแน่ะ...!
    อย่างนี้เขาเรียกกฎหมายแตกแยกโว้ย ออกเมื่อไหร่จะเป็นกฎหมายส่งเสริมให้ชาวบ้านถือมีด-พร้า-คทา-ขวาน ออกมาพล่านตัดหัวกัน เพื่อต่างฝ่าย-ต่างเอาไปดอง


    นั่นล่ะตรงเพ้งเลย!


    มาตรฐานประชาธิปไตยของพวกเจ้านี่ ข้าปวดเฮดมายฮาร์ตจริงๆ มันขึ้น-ลงตามสันดานมากกว่าตามมาตรฐานอย่างพวกแดงทักษิณไปล้อมศาลรัฐธรรมนูญ พลิกพจนานุกรมผู้ดีแดงตะโกนด่าตุลาการเป็นรายมาตราอยู่ครึ่งเดือน แถมไล่ล่า หวังจับตัวมาขึ้นศาลเตี้ย


    ยิ่งลักษณ์บอก...ระบอบประชาธิปไตย "เป็นสิทธิ์ทำได้"!


    แต่พอใครไปแตะทักษิณ ไข่แดงยังไม่ทันกระเพื่อมด้วยซ้ำ คุ่ยองครักษ์ขู่ฟ่อ...เดี๋ยวฟ้องนะ "ชัย ราชวัตร" ร่ายตรรกะหญิงขายตัว-หญิงชั่ว เท่านั้นแหละ


     พวกบาทบริจาริกาบ้าง พวกขันทีมีเดือยบ้าง แร่ๆ ไปแจ้งจับบ้าง อ้างความเป็นหญิง เป็นบุปผาเปราะบาง ชอกช้ำได้แม้เพียงตีนแมลงสัมผัส ควรที่ต้องทนุถนอม ไม่ดอมดมแล้วยังมาขยี้แบบนี้...มิใช่ชายบ้าง!


    เดี๋ยวผมถือเนื้อ-ถือตัว "ความเป็นชาย" ขึ้นมาบ้าง แล้วจะว่าไง ที่หญิงใดช้อนชายตา ฉ่ำชม้อยรดใจ เห็นชายเป็นดอกไม้ริมทาง นึกอยากเด็ดไปขยี้ขยำก็จะทำตามอำเภอใจ กิริยากายแบบนั้น เท่ากับ "ปัสสาวะรดใจ" หยามเกียรติความเป็นชาย...รู้มั้ย!


    บรรดาสมาคม-ชมรมชายเอาเรื่องขึ้นมาบ้าง มันก็จะเสียชั้นแห่งเชิงหญิงนะ!


    นี่ก็อีกมาตรฐานของนายกฯ หญิง กระทรวงต่างประเทศเสนอของบประมาณ "จากงบกลาง" เพิ่มเติมอีก ๔๕ ล้าน เพื่อการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหาร เพราะที่อนุมัติไปสมัยอภิสิทธิ์ไม่เพียงพอ ต้องใช้จ่ายค่าทีมทนาย ทีมผู้เชี่ยวชาญแผนที่ และค่าเดินทาง และอื่นๆ อีก


    ก็ให้...แต่กระฟัด-กระเฟียดให้แบบเสียไม่ได้ มีการตัดพ้อต่อว่าทำนอง ก็รู้อยู่แล้วต้องใช้เท่าไหร่ ทำไมไม่ขอตั้งแต่แรกไว้ให้พอ "งบกลาง" ของชั้น สำรองไว้กรณีฉุกเฉินรู้มั้ย!


    "งบกลาง" คืออะไร...งบกลาง คืองบสำหรับ "สำนักนายกฯ" ไว้ใช้กับเรื่องฉุกเฉินที่จำเป็น ใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องเล่าแจ้งแถลงไขกับรัฐสภา แต่ในทางปฏิบัติจะเรียกว่า "เงินทัดหูนายกฯ" ก็ได้


    ไปไหน-มาไหน อยากเปรี้ยว อยากหวาน นายกฯ ควักเงินทัดหูจ่ายได้ทันที กระทรวงต่างประเทศมาขอเจียดเงินทัดหูอย่างนี้ มันก็ต้องแสดงอาการ "ต่อว่า-ต่อขาน" กันหน่อย


    แต่ โถ...กับเงินอีก ๔๕ ล้านที่ต้องใช้ด้วยมี "ศักดิ์ศรีและแผ่นดิน" เป็นเดิมพัน แถมทีมทนาย-ทีมแผนที่ "ผลงานเข้าตา" ถือว่าที่ต้องจ่ายกับสิ่งที่ได้ "คุ้มเกินคุ้ม"


    หรืออิจฉา...อลินา มิรอง!?


    เอ้า...ถ้างั้น ลองมาดูการใช้ "งบกลาง" ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์บ้าง ตอนน้ำท่วม เอาไปท่วมน้ำไว้เองตั้งเกือบ ๒ แสนล้าน จนบัดป่านนี้ เข้าปีที่ ๒ แต่ผลงานรัฐบาลปีแรกที่ต้องแถลงต่อรัฐสภา ก็คงรู้ตัวไม่มีผลงานเพื่อบ้านเมืองอะไร นอกจากผลาญหมดไปกับประชานิยม แจงตัวเลขได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
    ก็เลยทำไขหู ไม่ยอมแถลงจนถึงวันนี้!


    เอาไปให้เสื้อแดง นปช.สู้คดีตั้งเกือบ ๕๐ ล้าน แล้วนั่น มันมันจำเป็น-ฉุกเฉินหรือ และจ่ายเพื่อคนเผาบ้าน-เผาเมืองเช่นนี้ มันเป็นศักดิ์ศรีประเทศ-ศักดิ์ศรีแผ่นดินหรือ?


    ๔ พ.ย.๕๕ ครม.อนุมัติ ๒,๐๐๐ ล้านบาท เยียวยาพวกเผาบ้าน-เผาเมือง คนละ ๗.๕ ล้าน ลงไปถึงระดับแสน นี่ก็จากงบกลาง เมื่อเทียบกับที่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นค่าสู้คดีปราสาทพระวิหารต่อเนื่องมา ๒-๓ ปี อีก ๔๕ ล้านบาท


    มันน่าบ่นตรง ๔๕ ล้าน?


    หรือ...


    มันน่าด่าตรง ๒,๐๐๐ ล้าน...หือ?


    และเพื่อทีมทนายสู้คดีศาลโลก ซึ่งมีแผ่นดินเป็นเดิมพัน ถูกนายกฯ ค่อนขอดที่มาตอดงบกลางอีก ๔๕ ล้าน ผมก็อยากให้ดูนี่เปรียบเทียบ เพื่อให้ตัดสินใจกันว่า แบบนี้...สมควรเลี้ยงไว้เป็นรัฐบาลหรือไม่?


    .........ในการประชุม ครม. ๒๐ พ.ย.๕๕ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เสนอที่ประชุม ครม.เพื่อขออนุมัติในการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ๕ หมื่นนาย ในการควบคุมดูแลม็อบ (เสธ.อ้าย) และขออนุมัติงบประมาณฉุกเฉินจำนวน ๒๐๐ ล้านบาท จากงบกลาง เพื่อดำเนินการทั้งใช้เป็นค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าเดินทางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง ๕ หมื่นนาย


    ซึ่งงบ ๒๐๐ ล้านบาทดังกล่าว ครม.ได้อนุมัติทันที โดยไม่มีรัฐมนตรีคนใดคัดค้าน!
    ๒๐๐ ล้าน ค่าปาแก๊สน้ำตา-ค่ากระทืบประชาชน ทีอย่างนี้....
    นายกฯ จัดให้...เอาไปเลย!

 

http://www.thaipost....ws/090513/73293




#700515 'สุนทร จันทร์รังสี' ชี้..ส.ส.เพื่อไทยไม่ฟัง ศาล รธน. มีโทษถึงสิ้นสมาช...

โดย pglovethai on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 12:02

  ... ASTVผู้จัดการรายวัน

 

http://www.manager.c...D=9560000053475

 

 

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กล่าว ได้ว่าขณะนี้ลิ่วล้อแห่งระบอบทักษิณพร้อมใจกันเดินหน้าท้าชน ใช้ทุกองคาพยพขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 'พานายใหญ่กลับบ้าน' ไม่ว่าจะเป็นการใช้เสียงข้างมากในสภาฉุดดึงถูไถแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ...ใช้ความถ่อยเถื่อนของมวลชนคนเสื้อแดงข่มขู่คุกคามการทำงานของ 'ศาลรัฐธรรมนูญ' ซึ่งทำหน้าที่ถ่วงดุลไม่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติใช้อำนาจแก้กฎหมายโดยมิชอบ.... ขณะเดียวกัน ส.ส.เพื่อไทย ก็น้อมรับคำสั่งจากแดนไกล ประกาศกร้าวไม่ยอมรับและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ
       
       ทำให้หลายคนสงสัยว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจยับยั้งการแก้กฎหมายของฝ่าย การเมืองหรือไม่ ? ….การดำเนินการทั้งหลายทั้งปวงของ ส.ส.เพื่อไทยนั้นถูกต้องหรือเปล่า..... จะเข้าข่ายทำผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่..... และหากเป็นการกระทำที่มิชอบหรือผิดกฎหมาย จะเกิดผลอย่างไรตามมา ?
       
       'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' จึงได้สัมภาษณ์พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่าง 'สุนทร จันทร์รังสี' อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 50 ซึ่งได้ไขข้อข้องใจ รวมถึงวิเคราะห์ตัวบทและเจตนารมณ์ของกฎหมายในแต่ละบทแต่ละมาตราอย่างแจ่มแจ้งชัดเจนในทุกประเด็น
       
       มองอย่างไรกับกรณีที่พรรคเพื่อไทยดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งที่หลายฝ่ายทักท้วงว่าเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ
       
       คือรัฐธรรมนูญแก้ไขได้ ไม่ใช่ว่าแก้ไขไม่ได้ แต่ต้องแก้ไขเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ความพยายามในการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา นั้นกลับไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติหรือประชาชน อีกทั้งขั้นตอนในการดำเนินการยังไม่ถูกต้อง เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยที่เขาอ้างนักอ้างหนา เพราะการแก้มาตรา 291 เพื่อให้สามารถตั้ง(ส.ส.ร.)สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาแก้รัฐธรรมนูญ ก็แปลว่าคุณจะดำเนินการแก้รัฐธรรมทั้งฉบับ ไม่ใช่แก้รายมาตราอย่างที่อ้าง เท่ากับคุณยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยไม่ถามความเห็นประชาชนว่าเขาต้อง การให้มีการยกเลิกรัฐธรรมนูญเก่าหรือเปล่า และถ้ามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เขาต้องการให้ร่างใหม่เป็นอย่างไร แก้ไขตรงไหนบ้าง แต่จะตีเช็คเปล่าให้ ส.ส.ร.ที่คุณตั้งไปกรอกรายละเอียดในการแก้กฎหมายเองทั้งหมด ซึ่งการกระทำเช่นนี้มันชัดเจนว่าเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่ามีความผิดข้อหากบฏ
       
       ทางพรรคเพื่อไทยก็อ้างว่าเป็นอำนาจของรัฐสภาที่สามารถดำเนินแก้ไขรัฐธรรมนูญได้
       
       ระบอบประชาธิปไตยไม่ได้แปลว่าคุณได้รับเลือกตั้ง ได้เสียงข้างมากมาเป็นรัฐบาลแล้วคุณจะทำอะไรก็ได้โดยไม่สนใจว่าถูกหรือผิด อย่างนั้นเขาเรียกว่าเผด็จการรัฐสภา ซึ่งที่ผ่านมาเราเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าการดำเนินการของเสียง ข้างมากไม่ใช่จะถูกต้องเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงข้างมากในสภาของประเทศไทยมันได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ได้มาด้วยการทุจริต ด้วยการซื้อเสียง ซึ่ง กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้งเนี่ยทำงานใช้ไม่ได้ เราเคยมี กกต.ชุดที่เลวที่สุดคือยุค 3 หนา 5 ห่วงซึ่งทุจริตต่อหน้าที่และศาลชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุกไปแล้ว เหลือแต่ในชั้นศาลฎีกากำลังพิจารณาอยู่ ขณะที่ กกต.ชุดปัจจุบันก็แค่เลวน้อยกว่าชุดยุค 3 หนา 5 ห่วงเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมกติกาได้ ที่ผ่านมาเราต้องยอมรับความจริงว่าผู้ที่ชนะเลือกตั้งนั้นกว่า 90`% ใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อที่มาไม่ถูกต้องจะมาอ้างว่าเป็นตัวแทนประชาชนได้อย่างไร
       
       เพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลจะแก้กฎหมายโดยอ้างว่าเป็นเสียงข้างมากเพียงอย่างเดียวก็คงไม่ถูกต้อง
       
       ใช่ครับ เพราะเป็นการใช้เสียงข้างมากทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เสียงข้างมากบ่งบอกความต้องการได้ แต่ไม่สามารถบ่งบอกความถูกต้อง
       
       พรรคเพื่อไทยระบุว่าการดำเนินการของศาลรัฐธรรมนูญซึ่งรับ วินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ นั้น ถือเป็นการใช้อำนาจตุลาการแทรกแซงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ
       
       อันนี้เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่ถูกต้อง เป็นการใช้วาทะกรรมเพื่อบิดเบือนให้ร้าย เพราะการรับวินิจฉัยเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นั้นเป็นหน้าที่ตามกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญครับ มาตรา 68 ก็ระบุชัดเจนว่า “ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระทำการเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตาม วิถีทางที่บัญญัติ ไว้ในรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ทราบถึงการกระทำดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุงตรวจสอบ และยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการให้เลิกการกระทำดังกล่าว ” ซึ่งก็หมายความว่าผู้ที่ทราบเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้ 2 ช่องทาง คือจะยื่นร้องต่ออัยการก็ได้ หรือจะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ ซึ่งกฎหมายเขาเขียนเพื่อเป็นการถ่วงดุลกัน ในกรณีที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งไม่ทำหน้าที่ก็สามารถอาศัยช่องทางของอีก หน่วยงานหนึ่งได้
       
       ซึ่งที่ผ่านมาสังคมก็เห็นชัดเจนว่าอัยการไม่ทำหน้าที่ ยื่นเรื่องอะไรไปก็ไม่ส่งฟ้อง เพราะอัยการก็เป็นคนของเขา กรณีการแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้ก็มีคนยื่นเรื่องต่ออัยการไปแล้วเช่นกัน แต่อัยการเตะถ่วง ไม่ดำเนินการ กระทั่งการดำเนินการในสภาผ่านวาระ 3 ไปแล้วถึงออกมาบอกว่าอัยการไม่รับพิจารณาเรื่องนี้ อัยการจึงไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนได้ ผู้ที่ทราบเรื่องนี้เขาจึงไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
       
       ขณะนี้กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่มาจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ส.ว.ที่อยู่ข้างรัฐบาล กำลังดำเนินการแก้ไขมาตรา 68 เพื่อให้ยื่นเรื่องผ่านอัยการสูงสุดเท่านั้น
       
       ผมว่าการแก้ไขกฎหมายในลักษณะนี้เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องเพราะเท่ากับ เป็นการตัดอำนาจของฝ่ายที่ทำหน้าที่ถ่วงดุล ที่ผ่านมาเราก็เห็นว่าในหลายๆกรณีนั้นอัยการไม่ทำหน้าที่ อย่างเช่น คดีหมอวิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ซึ่งฆาตกรรม พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ซึ่งเป็นภรรยา ญาติของ พญ.ผัสพร ได้ยื่นเรื่องให้อัยการส่งฟ้องหมอวิสุทธิ์ในข้อหาฆ่า พญ.ผัสพร แต่อัยการไม่ส่งฟ้อง จนญาติไปฟ้องเอง ปรากฏว่าสุดท้ายศาลตัดสินว่าหมอวิสุทธิ์กระทำผิดจริง หรือคดีของนายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. ต่างประเทศ ที่ทำผิดกฎหมายมาตรา 190 อย่างชัดเจน เพราะได้ลงนามร่วมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่าย เดียว โดยที่ไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาของไทยก่อน ทั้งที่เป็นกรณีที่เกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างประเทศซึ่งตามกฎหมายระบุว่าต้อง นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาก่อน เมื่อมีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช.(คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) เมื่อ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่ามีมูลก็ส่งเรื่องให้อัยการฟ้องดำเนินคดีแต่อัยการ ไม่ยอมส่งฟ้อง ทาง ป.ป.ช.ก็เลยยื่นฟ้องเอง โดยยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลก็ได้ใช้เวลาพิจารณาอยู่นานหลายเดือนจึงได้ประทับรับฟ้อง ตรงนี้ถือเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลขององค์กรอิสระ
       
       ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลพรรค เพื่อไทยในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จะเกิดอะไรขึ้น
       
       ก็วี้ดบึ้ม ! กันหมดล่ะครับ เพราะฉะนั้น ส.ส. 200 กว่าคนของเพื่อไทยเขาจึงประกาศชนศาลรัฐธรรมนูญด้วยการปฏิเสธที่จะไปชี้แจง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่คุณทักษิณก็สไกป์เข้ามาในที่ประชุมพรรคเพื่อไทยสั่งไม่ให้ ส.ส.เพื่อไทยรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แล้วก็มีข่าวออกมาว่าตอนแรกเนี่ยคุณสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานฯอีกคนหนึ่ง จะไปให้ปากคำกับศาลรัฐธรรมนูญ ทักษิณก็กำชับเข้ามาเลยว่าต้องไปรายงานตัวที่ดูไบคุณสมศักดิ์ก็เลยไม่ไปชี้ แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เขาก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามคำบัญชา
       
       การที่ ส.ส.เพื่อไทยปฏิเสธไม่รับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญถือว่ามีความผิดไหม
       
       ผิดแน่นอนครับ ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ศาลรัฐธรรมนูญก็สามารถพิพากษาให้ ส.ส.ดังกล่าวด้วยสมาชิกภาพไปได้ ส่วนกรณีการแก้รัฐธรรมนูญโดยตั้ง ส.ส.ร.ขึ้นมาโดยไม่มีการทำประชาพิจารณ์ถามความเห็นประชาชนก่อนถือเป็นการล้ม ล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีความผิดในข้อหากบฏ มีโทษทางอาญาและต้องถูกยุบพรรค
       
       เพราะฉะนั้นถ้า ส.ส.เพื่อไทยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะถูกต้องตัดสิทธิ์ให้หมดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. แม้ว่าศาลจะตัดสินยุบพรรคเพื่อไทยแล้ว คนที่หมดสมาชิกภาพจะมีเฉพาะกรรมการบริหารพรรค และทางพรรคเพื่อไทยสามารถตั้งพรรคใหม่ขึ้นมาสำรองเพื่อให้สมาชิกพรรคย้ายไป สังกัดพรรคใหม่ได้ก็ไม่มีความหมาย เพราะ ส.ส.ทั้งหมด รวมถึงนายกฯยิ่งลักษณ์ซึ่งก็เป็น ส.ส.ด้วย ต้องหมดสมาชิกภาพทันที
       
       ถูกต้องครับ นี่คือการทำหน้าที่ถ่วงดุลขององค์กรอิสระเพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองที่ เป็นฝ่ายนิติบัญญัติใช้อำนาจตามอำเภอใจโดยไม่คำนึงถึงถูก-ผิด
       
       แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นเสียงข้างมาก ในสภาก็กำลังจะมีการลดทอนอำนาจ และพยายามยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงที่มาขององค์กรอิสระ
       
       ก็องค์กรอิสระถือเป็นหอกข้างแคร่ของนักการเมืองที่ไม่บริสุทธิ์ใจต่อ ประเทศชาติเพราะการออกแบบรัฐธรรมนูญนั้นเขาออกแบบเพื่อให้ประเทศชาติก้าวไป ข้างหน้า ไม่ใช่เพื่อให้ผู้ชนะการเลือกตั้งสามารถทำอะไรก็ได้หรือปู้ยี่ปู้ยำประเทศ ได้ตามใจชอบ จึงมีองค์กรอิสระเป็นผู้ดูแลถ่วงดุล เมื่อเป็นดังนี้เขาก็ไม่พอใจ เขาก็ต้องพยายามล้มล้างโค่นล้ม จะเห็นว่าที่ผ่านมาฝ่ายคุณทักษิณก็มีความพยายามมาตลอดที่จะล้มองค์กรอิสระ ต่างๆซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถทำหน้าที่ถ่วงดุลกับฝ่ายการเมือง เขาพยายามมาตั้งแต่รัฐบาลทักษิณสมัยแรกแล้ว นอกจากนั้นเขาก็พยายามที่จะล้มล้างให้หมดทุกสถาบัน
       
       เห็นคุณอุกฤษ มงคลนาวิน ก็เสนอให้ลดวาระการดำรงตำแหน่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจาก 9 ปี ให้เหลือแค่ 4 ปี
       
       ครับ แล้วก็เสนอให้เพิ่มจำนวนตุลาการจาก 9 คน เป็น 15 คนด้วย จริงๆ คุณอุกฤษแกก็เสียคนมาเป็น 10 ปีแล้วนะ ตั้งแต่ใกล้ชิดกับคุณทักษิณเขาก็ผิดเพี้ยนมาเรื่อย ในวงการนักกฎหมายเขาเลิกนับถือแล้วสำหรับคุณอุกฤษ มงคลนาวิน
       
       เพราะคุณอุกฤษไม่เสนอด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่มีเจตนาแอบแฝง ?
       
       ครับ ใครๆก้รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเป็นข้ารับใช้คนบางคน เป็นข้ารับใช้ความไม่ถูกต้อง
       
       ส.ส.เพื่อไทยบางคนก็บอกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญต้องมาจากเลือกตั้ง
       
       ถ้าอย่างนั้นก็เละล่ะครับ เพราะประเทศเรายังไม่พร้อมทุกด้าน ประชาชนยังไม่รู้เท่าทันเล่ห์กลของนักการเมือง คนไทยยังขาดแคลนหลายอย่าง ขาดแคลนทั้งความรู้และทรัพย์สิน นักการเมืองที่ไม่สุจริตใจก็ใช้วิธีซื้อเสียง เมื่อเข้ามาเป็น ส.ส. เป็นรัฐมนตรีแล้วก็มาถอนทุน ประเทศชาติจึงเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ
       
       สิ่งที่สังคมกำลังเป็นห่วงอยู่ขณะนี้ก็คือพรรคเพื่อไทยกำลังใช้กลไกของคนเสื้อแดงในการบั่นทอนและคุกคามการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ
       
       ก็เหมือนกับการใช้กองกำลังเรดการ์ดซึ่งเป็นมวลชนจัดตั้งของท่าน ประธานเหมา (เหมา เจ๋อตุง ผู้ก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน) ซึ่งหลายสิ่งที่เสื้อแดงทำมันไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้ความรุนแรง แล้วเอะอะก็จะอ้างว่าเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมันไม่จริง มันหลอกได้เฉพาะคนอีกระดับหนึ่ง แต่คนติดตามข้อมูลข่าวสารเขารับไม่ได้
       
       การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงเหมือนกองกำลังเรดการ์ดของประธานเหมายังไง
       
       คือมีการใช้ความรุนแรงเหมือนกัน (ใครที่ต่อต้านประธานเหมาจะถูกเรดการ์ดทำร้าย)ซึ่งการเคลื่อนไหวของคนเสื้อ แดงก็ใช้โมเดลเดียวกัน อย่างการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ก็มีการเผาที่โน่นยิงที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง เผาถังน้ำมันในที่ต่างๆ เนี่ยมันเป็นลักษณะของกองกำลังก่อการร้ายซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมา ก่อน ซึ่งต้องบอกว่ากรณีการชุมนุมเผาบ้านเผาเมืองของคนเสื้อแดงนั้นมันต่างจากการ เผากรมประชาสัมพันธ์เมื่อครั้งเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 ซึ่งตอนนั้นหลังจากนักศึกษาถูกถนอม (จอมพล ถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น) และประภาส (จอมพล ประภาส จารุเสถียร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยในขณะนั้น) ใช้ความรุนแรงปราบปรามนักศึกษา นิสิตนักศึกษาก็เผากรมประชาสัมพันธ์เพราะกรมประชาฯออกข่าวบิดเบือน ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขาจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณถนนราชดำเนินซึ่งเป็น สัญลักษณ์ของระบอบประชาธิปไตย และดำเนินการเฉพาะทรัพย์สินของรัฐซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศ ไม่ได้เผาทำลายอาคารหรือทรัพย์สินของประชาชนเหมือนกับคนเสื้อแดง สมัยนั้นเขาเผาเพื่อเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้กับรัฐบาลที่มีทั้งรถถัง อาวุธสงคราม เอาเฮลิคอปเตอร์มาบินวนกราดยิงประชาชนสองมือเปล่า ประชาชนตอนนั้นมีแต่อิฐกับไม้ ไม่ได้มีอาวุธสงครามหรือถังน้ำมันเหมือนคนเสื้อแดง ไม่ได้ออกมาปล้นแล้วเผาเหมือนคนเสื้อแดง
       
       นายกฯยิ่งลักษณ์บอกว่ารัฐธรรมนูญปี 50 เป็นเผด็จการ แต่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็มาจากการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 50
       
       คำว่าประชาธิปไตยของเขาก็คือเขาจะทำอะไรก็ได้ เขาทำอะไรก็ไม่ผิด ทั้งๆที่จริงๆแล้วการเลือกตั้งไม่ใช่สูตรสำเร็จ ไม่ใช่ว่าชนะเลือกตั้งแล้วทำอะไรก็ได้ ดูอย่างฮิตเลอร์ก็มาจากเลือกตั้ง แต่ถูกคนทั่วโลกตราหน้าว่าเป็นเผด็จการ เพราะฮิตเลอร์บ้าอำนาจเข่นฆ่าประชาชน ทำให้ผู้คนล้มตายไปหลายล้านคน แล้วทั่วโลกก็ไม่มีใครยอมรับว่าฮิตเลอร์เป็นนักประชาธิปไตย ฮิตเลอร์มีความเป็นเผด็จการแบบเดียวกับทักษิณ อดีตผู้นำที่ถูกจัดอันดับว่าเป็นผู้นำเลวอันดับ 5 ของโลก ถึงรัฐบาลจะมาจากการเลือกตั้งแต่ถ้าไม่ฟังเสียงประชาชนก็ไม่เรียกว่ารัฐบาล ประชาธิปไตย เพราะถ้ามีการใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดก็ไม่ต่างจากเผด็จการ
       
       ที่น่าสังเกตคือเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯยิ่งลักษณ์ไปพูดที่มองโกเลียว่าพี่ชายเขาถูกรังแก ถูกยึดอำนาจ ทั้งที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เขาไม่ได้คิดว่าทำไมถึงถูกยึดอำนาจ เขาไม่ได้ดูว่าการยึดอำนาจเมื่อปี 49 เนี่ยมีแต่เสียงชื่นชม ประชาชนแห่แหนไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจทหารที่ออกมาควบคุมสถาการณ์ตามท้องถนน แปลว่าอะไร แปลว่าประชาชนเขาทนไม่ไหวกับรัฐบาลคุณทักษิณ แล้วถ้าหากวันนั้นไม่มีการรัฐประหารประชาชนเสื้อแดงกับเสื้อเหลืองก็ไม่รู้ จะบาดเจ็บล้มตายกันไปเท่าไหร่ ผมว่าสถานการณ์วันนี้ก็กำลังจะย้อนรอยเดิม เพราะรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์กำลังทำเหมือนกับที่รัฐบาลทักษิณเคยทำ การเป็นนักการเมืองเนี่ยต้องทำเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อให้ตัวเองหรือพวกพ้องได้ประโยชน์ ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศจะเป็นยังไงก็ช่าง ถ้าอย่างงั้นประเทศเราก็อยู่ไม่ได้ ที่ผ่านมาเขาทำตัวเขาเอง และถ้าวันนี้มีเหตุการณ์เหมือนกับ 19 ก.ย.49 ผมคิดว่าประชาชนจะพากันแซ่ซ้องมากกว่าเดิม จะตบมือดังกว่าเดิม ทั้งที่โดยธรรมชาติเนี่ยไม่มีใครชอบการปฏิวัติยึดอำนาจหรอก โดยเฉพาะนักกฎหมายอย่างพวกผมยิ่งไม่ชอบ
       
       ท่านคิดว่าทำไมอยู่ๆ นายกฯยิ่งลักษณ์จึงลุกขึ้นมาเล่นบทเดียวกับคุณทักษิณซึ่งเดินสายปาฐกถาใน หลายประเทศเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง
       
       ผมว่าที่ผ่านมานายกฯยิ่งลักษณ์เป็นแค่นักอ่านโพยสะเปะสะปะอยู่ใน ประเทศเท่านั้น แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอได้พัฒนาขึ้นมาจากนักอ่านโพยสะเปะสะปะในไทย เธอไปอ่านโพยโกหกพกลมในระดับโลกแล้ว เราจะเห็นว่าสิ่งที่เธออ่านตามโพยมันไม่จริงเลย เป็นการพูดข้างเดียว แต่เท่าที่ติดตามการทำงานของนายกฯคนนี้มา ผมว่าเธอไม่ได้มีสติปัญญาที่จะพูดเองหรอกครับ คงมีคนเขียนบทให้อ่านมากกว่า
       
       ดูเหมือนว่าตอนนี้ระบอบทักษิณได้ใช้ทุกองคาพยพที่มีอยู่เดิน หน้าท้าชนเพื่อพาคุณทักษิณกลับบ้านแบบไม่มีความผิด ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมายในสภา การใช้คนเสื้อแดงไปถล่มศาลรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่นายกฯยิ่งลักษณ์ซึ่งมักปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้มาตลอด ก็ลุกขึ้นมาเล่นบทเดียวกับคุณทักษิณ
       
       ผมว่างานนี้คุณทักษิณคงสั่งให้ทุกฝ่ายเร่งโจมตี เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพ้นผิดพ้นโทษ และเพื่อให้เขาได้ครองอำนาจ เขาพยายามที่จะบ่อยทำลายและโค่นล้มทุกสถาบัน ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ประเทศชาติจะอยู่อย่างสงบเรียบร้อย ผมว่าคงไม่พ้นปี 56 นี้หรอก ประเทศไทยต้องเข้าสู่กลียุค
       
       คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น..ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยยังคงดึงดันที่จะแก้รัฐธรรมนูญ และล้มล้างองค์อิสระ
       
       ผมว่ามันก็เหมือนวัวบ้าที่พุ่งชนกำแพงแหล่ะ เขาคิดว่านักการเมืองฝ่ายเขาและเหล่าคนเสื้อแดงทั่วประเทศมีมากพอที่จะทำลาย กำแพงแห่งความถูกต้องได้หรือ ที่ผ่านมาก็เห็นแต่วัวบ้าเล่านี้หัวแตก สมองไหลทั้งนั้น กำแพงก็ยังคงเป็นกำแพงอยู่ ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ถูกต้องจะต้องดำรงอยู่ต่อไป และถ้าเกิดเหตุรุนแรงขึ้นก็ต้องมีคนที่มีอำนาจออกมายุติเรื่องนี้ ทหารก็คงอยู่เฉยไม่ได้ ถึงคุณประยุทธ์ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก)ไม่ทำอะไร หรือไม่กล้าที่จะทำ ทหารคนอื่นก็ต้องทำครับ




#700472 การ์ตูน ชัย ราชวัตร... กฎหมายไม่ยุติธรรมต่อผู้คุม ???

โดย pglovethai on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 11:25

การ์ตูน ชัย ราชวัตร... กฎหมายไม่ยุติธรรมต่อผู้คุม ???

 

 

http://www.thairath....ic/chai/ch41/p4

 

328188a8b.jpg




#700453 ถ้า "นายก" จะฟ้อง "ชัย ราชวัตร" จะฟ้องในฐานะอะไร

โดย pglovethai on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 10:54

128634e0a.jpg

นั่นสิเน้อ ^^

ขอบคุณภาพจาก

12863f77e.jpg

ห่วยตูน




#697474 ด้วยความเจ็บปวดครอบครัว

โดย pglovethai on 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - 00:43

เมื่อยิ่งลักษณ์ยืนยัน การนำประเทศตัวเองไปด่าประจานให้คนอื่นฟังในเวทีโลก ด้วยข้อมูลที่บิดเบือนคือประชาธิปไตย ก็หมดประเด็นที่ต้องพูดกัน ยิ่งในนาม "คณะรัฐมนตรี" บอกว่า...นี่คือปาฐกถาที่สะท้อนความเป็นจริงของไทยครบถ้วน ถูกต้อง แหลมคม ทรงพลัง พร้อมทั้งให้นำปาฐกถานั้นเผยแพร่สู่ประชาชนให้กว้างขวาง ผมก็คงต้องบอกว่า
    "ขอบคุณครับ!"
    ที่ตบหน้าประเทศไทย-คนไทยได้ครบถ้วน-ถูกต้องที่สุด.....
    แหลมคมทิ่มฝ่าเท้าทะลุหัวใจ เจ็บปวดทรงพลังกว่าที่ครอบครัวผมได้รับที่สุด!!
    จะว่าไปแล้ว ลุ พ.ศ.นี้ ไม่มีอะไรในประเทศไทย ที่ทักษิณและ "ครอบครัวชินวัตร" ทำแล้วประชาชนหรือองค์กรไหนกล้าหือ แต่หื่นอาจมีบ้าง
    ในเมื่อ สถาบันบริหาร-สถาบันรัฐสภา-ตำรวจ-ทหาร-ข้าราชการ-ครู- อาจารย์-มหาวิทยาลัย-อัยการ-บริหารท้องถิ่น-สื่อ กระทั่งวัด-พระ-แพะ บางคน-บางพวก....
    พร้อมเพื่อ "วงศ์ชินวัตร"!?
    ความจริงนายกฯ ยิ่งลักษณ์นอกจากใบหน้าหวานแล้ว ลูกตาทั้ง ๒ ข้างออกจะ "หวานจัด" เป็นพิเศษด้วย ก็เพิ่งสังเกตชัดๆ จากรูปที่ยืนปาฐกถาที่อูลาน-บาตอร์นี่แหละ หะแรกก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก จนเมื่อวาน จ้องดูตาดำตอนให้สัมภาษณ์นักข่าวในเรื่องเหล่านี้...
    อืมมมม..ตาสาวเจ้า "หวาน" จริงๆ ด้วย!
    แต่โบราณท่านไม่ให้เรียกว่า "หวาน" สำหรับผู้หญิง และก็ไม่ให้เรียกตาเข-ตาส่อน แต่ให้เรียกว่า ตาซื่อ-ตาใส เรียกกันไป-เรียกกันมา ลงตัวเป็น "สาวตาใสซื่อ"
    เพราะสาวเจ้าตาใสซื่อนี่เอง การพูด-การทำ จึงซื่อใสมาตลอด กระทั่ง "อุจจารวาท" ที่อูลาน-บาตอร์ เธอซื่อใสแบบส่อนๆ ว่า...ความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับ จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย!
    ในขณะที่ประชาชนคนไทยฟังแล้ว "ตาขุ่น-ตาขวาง" อยากตะโกนบอกเธอผ่านลำไส้ใหญ่ให้ไปก้องในทำเนียบฯ ว่า
    "การแยกแผ่นดิน-กินโกงแบบปล้นชาติ มุ่งล้มระบอบ-ล้มสถาบันของขบวนการทักษิณ นี่คือความเจ็บปวดที่ประชาชนได้รับ หวังว่านี่จะเป็นความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของประเทศไทย-คนไทย"
    ตามตำรา "พิเคราะห์เนตรมหาบรรลัยจักร" มีอรรถาธิบายถึงลักษณะตาทุรลักษณ์และคุณลักษณ์ไว้มากมายหลายชนิด แต่ผมจำไม่หมด
    จำได้แต่ฝอยโทษตาทุรลักษณ์ มีประมาณว่า คนคนนั้น ซ่อนเล่ห์ ซ่อนนัย ปากอย่างหนึ่ง-ใจอย่างหนึ่ง คบยาก เชื่อยาก เลี้ยงก็ไม่เชื่อง ชีวิตจะพลิกผัน เด้งขึ้น-ดันลง ด้วยอาณัติหัตถ์ดาวมฤตยู+เกตุ
    ทำนองบางคนปากว่า...ไม่แก้แค้น-แต่แก้ไข แต่การกระทำกลับแก้อีกอย่าง เพื่ออีกอย่าง...ซะงั้น!
    แต่เอาหละ...ในเมื่อรัฐบาลระบอบทักษิณยกย่องว่า อุจจารวาทของยิ่งลักษณ์ครั้งนี้ แหลมคม-ทรงพลัง ผมเชื่อเป็นกรณีพิเศษ คือเชื่อว่า ครั้งนี้...ยิ่งลักษณ์เอาความจริง จาก....
    "จิตสังหรณ์" มาพูด!?
    "จิตสังหรณ์" ที่มีความน่าจะเป็นชนิด "มา-ไป" แบบฉับพลัน ไม่มีสัญญาณล่วงหน้าให้ทันตั้งตัว ซึ่งนี่...มันจะเป็นความเจ็บปวด "ครั้งสุดท้าย" ของประเทศไทยแล้ว
     เพราะครอบครัวที่บิดเบือนประชาธิปไตยและเฉือนแทะประเทศ เดินทางใกล้ถึงจุดขีดเส้นใต้เป็น "หมายเหตุประเทศไทย" จะไม่เหลืออะไรและใครให้เป็นความเจ็บปวดอยู่ในแผ่นดินนี้อีก!
    The Longest Day ของทักษิณมาถึงแล้ว "พี่มากพระโขนง" สถิติสูงสุดประเทศไทย ยังไงๆให้ไม่เกิน ๘๐๐ ล้าน แต่วันเผด็จศึกของ "พี่แม้วจันทร์ส่องหล้า" ทลายสถิติโลก กู้ล้างประเทศ ๒ ล้านล้านบาท ฉะนั้น จะได้...ต้องเผด็จศึก!
    แนวรบเพื่อไทย...พร้อม
    แนวรบ นปช. ...พร้อม
    แนวรบรัฐสภา...พร้อม
    แนวรบทำเนียบฯ...พร้อม
    แนวรบไพร่ริมถนน...พร้อม
    แนวรบนอกประเทศ...พร้อม
    แนวรบมะเขือเทศ...พร้อม
    แนวรบแตงโม...พร้อม
    แนวรบโล้นเหลือง...พร้อม
    แนวรบสื่อทุกสาขา...พร้อม
    แนวรบ'จารย์มหา'ลัย...พร้อม
    โอ้โห...พร้อมทุกแนวรบ ประเทศไทยและ "สถาบันตุลาการ" ตกอยู่ภายใต้วงล้อมกองทัพใต้ร่มธงทักษิณที่เกณฑ์ระดมมาจากทั่วทุกสารทิศ ตั้งค่ายตีโอบเป็นปีกอีแร้ง-หาง*** แลไปทางไหนสุดลูกหู-ลูกตา ฝุ่นปลิวตลบคละคลุ้งทั้งวันคืนด้วยรี้พลสกลไกรเคลื่อนย้ายขยายขยับกันยังไม่ สิ้น
    กองทัพเพื่อไทย "มติเป็นเอกฉันท์" ประกาศอิสรภาพ "ไม่อยู่ใต้อำนาจสถาบันตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" อีกต่อไป เย้ย....ศาลรัฐธรรมนูญ "ไม่มีอำนาจ" ที่พวกเขาจะต้องรับฟัง-รับปฏิบัติอีกไปแล้ว!
    ส่วนกองทัพ นปช.เสื้อแดง ส่งกำลังส่วนหนึ่งไปปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญ เป็นกองกำลังผสมจากแนวรบกเฬวรากบ้าง 'จาร์มหา'ลัยบ้าง โล้นเหลืองบ้าง สื่อวิทยุ-ดาวเทียมบ้าง ได้รับคำสั่งให้ตรึงไว้ ไล่ล่าตัวตุลาการไปก่อน
    ไว้รอสมทบ "กองทัพจากแนวรบใหญ่" ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงรอสัญญาณจากโคโมโดตัวการที่กำลังวางแผนให้เปิดรัฐสภา สมัยวิสามัญ "ดันกฎหมายล้างโทษ" ฉบับเบ็ดเสร็จ "พร้อมตะลุยแก้รัฐธรรมนูญชนิด...ให้ราบเป็นหน้ากลอง" ในเมื่อประกาศอิสรภาพจากอำนาจตุลาการแล้ว
    ก็ไม่ต้องกลัวใคร...กลัว "แม้ว-นายใหญ่" แต่ผู้เดียว!
    "หน่วยกำลังรัฐ" บางส่วนพร้อมสวามิภักดิ์ ฝ่ายบู๊-ฝ่ายบุ๋น-ฝ่ายเช็ดไข่ ประจำการครบ เรื่องเสบียงกรังไม่ต้องพูดถึง ๓.๕ แสนล้าน ตุงกระเป๋าซ้าย ๒ ล้านล้านตุงกระเป๋าขวา ไม่นับเศษๆ เลี้ยงหมา จากงบซื้อข้าว งบต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ งบประจำปี
    แล้วยังที่บูรณาการไว้อีก ๓๐-๕๐% ล่ะ!?
    "โอยยยย...มันเป็นความเจ็บปวดที่ครอบครัวดิฉันได้รับสุดที่จะทนนิ่งโดยไม่ เคลื่อนไหว 'ยึดไทยทั้งประเทศ' ไว้ทำมาหาแดกเลี้ยงครอบครัวได้เลย"
    เดิมพัน ๒ ล้านล้านมันลอยอยู่ตรงหน้า แค่เอื้อมมือคว้าก็เข้ากระเป๋าแล้ว ฉะนั้น จะอ้อยสร้อยต้อยติ่งเป็นตูดลิงเสนอีกต่อไปไม่ได้ จึงต้องเด็ดขาด-เผด็จศึก
    "ทุกแนวรบ" ต้องลุย รื้อ-ล้าง-โละ แนวรบด้านรัฐสภาและด้านทำเนียบฯ ต้องผนึก แล้วดัน "กฎหมายนิรโทษ" ให้ทักษิณกลับเข้ามา ก่อนกันยานี้ให้ได้ 
    เพื่อนฝูงใน เพื่อไทย-นปช.-เสื้อแดงน่ะ...ทักษิณรักใคร่ทุกคน
    แต่กับเงิน ๒ ล้านล้านน่ะ....
    เรื่องรักใคร่เพื่อนฝูง ก็ส่วนรักใคร่ แต่เรื่องไว้ใจนั้น ตัวเอง....กับเงินตัวเองยังโกงเลย ฉะนั้น ขอไม่ไว้ใจใครดีกว่า เงินใหญ่ก้อนนี้ ได้มาจะยิ่งกว่า "พญามังกรเสียบปีก"!
    "แล้วมันจะเป็นความเจ็บปวดของครอบครัวดิฉันขนาดไหน.....ถ้าไม่ช่วยพี่ชาย 'ยึดประเทศไทย' ให้สำเร็จ?"

 

 

บทความนี้คัดลอกมาจาก

http://www.thaipost....ws/010513/72926