Jump to content


ทัชชี่

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 7 กรกฎาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: ส่วนตัว
-----

#635010 คน กทม. ชนะอะไรมาในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด?

โดย ทัชชี่ on 10 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 02:41

จริงๆจะโพสตั้งแต่หลังเลือกตั้งจบใหม่ๆ แต่ กกต. ยักท่าไม่ยอมประกาศซะที งั้นก็ขอโพสซะหน่อยละกัน (จริงๆมันยาวแต่คงไม่ต้องอารัมภบทอะไรให้มาก)

เพื่อนๆรู้ไหมครับ ว่า "คนกรุงเทพเพิ่งชนะอะไรมา"

เราเพิ่งชนะ "การโกงเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไทย" มาครับ

และเป็นการโกงแบบหน้าด้านๆ ขนาดที่จับได้คาหลังคาเขา แต่คนที่โกงก็ลอยหน้าลอยตา ทำตาบิ๊กอายแป๋วแหววไม่แคร์สื่อ

เป็นการโกงแบบที่ ไอ้คณะกรรมการโกงการเลือกตั้งอะไรซักอย่าง ที่ต้องรับผิดชอบมาตรวจสอบ ป้องกันการโกง เสือกใส่เกียร์ว่าง ทำไม่รู้ไม่เห็น

ถึงขนาดออกมาบอกว่า "ชื่อตำรวจต่างจังหวัดที่โยกมาอยู่ในทะเบียนบ้านที่กรุงเทพ โดยยังไม่ย้ายออกจากทะเบียนบ้านเดิม สามารถทำได้"

ผมแถมพ่วงท้ายว่า "โดยที่เจ้าของชื่อไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่า ชื่อไปอยู่ในทะเบียนบ้านที่กรุงเทพได้ยังไง เพราะชื่อยังอยู่ในบ้านเดิม และก็ไม่เคยไปอยู่อาศัยในกรุงเทพ มาทราบว่ามีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่ากับเค้าด้วย ก็ตอนที่นายโทรมาสั่งให้ลงไปเลือกตั้งนี่แหล่ะ"

ถามว่า หน้าด้านไหมครับ ผมตอบเลยว่า "มาก"

ผมไม่ขอลงลึกถึงบางขบวนการ ที่มียุทธศาสตร์ตีให้เสียงแตก เพราะเดี๋ยวจะกระทบจิตใจหลายคน เอาเป็นว่าข้ามๆไป

เอาแค่เรื่องโกงเลือกตั้ง บอกได้เลยนะครับว่า

เขาโกงได้สำเร็จ ได้คะแนนตามที่ต้องการ เพราะ หมาเฝ้าบ้านของเราเลี้ยงไม่เชื่อง เปิดบ้านให้โจรเข้ามาปล้น

แต่สิ่งที่ทำให้เขาแพ้คือ เขาคาดไม่ถึงว่า

"ยุทธศาสตร์เสียงแตกของเขาไม่ได้ผล"
แต่กลับยิ่งเหนียวแน่นมากขึ้น

เพราะ"เสียงส่วนใหญ่ของคนกรุงเทพร่วมใจกันต่อต้าน"

ร่วมกันแสดงความกล้า กล้าที่จะสู้ กล้าที่จะต่อต้าน
กล้าที่จะสนับสนุนผู้ว่า ที่ถูกรัฐบาลปัจจุบันเตะตัดขามาตลอด

ถ้าเรากลัว เราคงยอมให้พวกเขาขึ้นมาเป็นใหญ่
ยอมให้เขายึดประเทศ ยอมไปเป็นพวกเขา
ยอมขดตัวอยู่ในรู ยอมให้ประเทศฉิบหาย

"แต่เพราะเราไม่ยอม เรากล้าที่จะสู้ เราจึงชนะ"

มันเป็นชัยชนะที่ประกาศให้รู้ว่า

ถ้าคนไทย ร่วมใจกัน เราก็ทำได้

แม้เขาจะระดมสรรพกำลังมาแค่ไหน
ลงทุนไปมากมายเท่าไหร่
ใช้กลโกงมหาศาลเพียงใด

แต่เราก็ใช้เสียงของเรา เอาชนะได้
ชนะโดยไม่ต้องไปปิดถนน ไม่ต้องไปสร้างความเดือดร้อน
ไม่ต้องปิดสถานที่ ไม่ต้องเผาอะไร
เราชนะด้วยวิถีทางประชาธิปไตย

พี่น้องชาวไทยครับ ประเทศยังไม่หมดหวัง
ให้นำการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโมเดล
แล้วเรามาร่วมใจกัน ช่วยกันสู้ ช่วยกันต่อต้านอีก

ใครคิดว่าการต่อสู้ของเราน่าสมเพช
ตัวเขาเองนั่นแหล่ะที่น่าสมเพช

ขอสดุดีเพื่อนผู้กล้าทุกท่านด้วยใจจริง

 

จากเพจ ห่วยตูน




#632293 ถ้าให้ผมให้คะแนนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้ ผมให้ 9.5 คะแนนครับ

โดย ทัชชี่ on 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 14:30

9.5 เต็ม 100 ใช่ป่ะครับ




#631812 พูดแบบประสาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ กรณีประมูลสร้างโรงพัก "พงศพัศ สุเทพ อภิสิทธ...

โดย ทัชชี่ on 8 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 09:27

อภิสิทธิ์ และ สุเทพ ครับที่ผิด ที่โกงกิน  ที่รวมสัญญาเป็นสัญญาเดียว

 

อภิสิทธิ์เกี่ยวอะไรด้วยหว่า? จงอธิบายชัดๆ




#629013 พท.เตรียมรื้อโครงสร้างภาคกทม.ใหม่ทั้งหมด

โดย ทัชชี่ on 6 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 07:33

พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา13.00 น. วานนี้(5มี.ค.)พรรคเพื่อไทยมีการประชุมส.ส.กทม. ผู้สมัครส.ส., ส.ก. และส.ข.กทม.ของพรรคทั้ง 50 เขต ตามที่พรรคได้ส่งเอสเอ็มเอสแจ้งไป โดยมีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และนายสาโรช หงษ์ชูเวช เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ทุกคนถึงกับตกใจ เพราะไม่ทราบมาก่อนว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะมาเป็นประธานการประชุมครั้งนี้ โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้สั่งในที่ประชุมให้ทุกคนทำรายงานสรุปปัญหาต่างๆ ของทั้ง 50เขต ภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พร้อมทั้งระบุว่า หลังจากนี้จะวางโครงสร้างกันใหม่ทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะเขตที่แพ้การเลือกตั้ง โดยในการประชุมพรรคสัปดาห์หน้าจะเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบความคืบหน้าอีก ครั้ง อย่างไรก็ตาม คุณหญิงสุดารัตน์ยังเสนอให้พรรคติดตามเรื่องร้องเรียนคัดค้านผลการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ด้วย โดยมอบหมายให้นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.เป็นผู้รับผิดชอบ

ด้านนายสาโรช กล่าวว่า จากนี้จะต้องมีการจัดระบบกันใหม่ในทุกเขตของกทม. เริ่มจากศูนย์ หรือ Set Zero จะวางโครงสร้างใหม่ ระดมความเห็น พร้อมทั้งจัดสัมมนา ต่อจากนี้ในการประชุมวงใหญ่ๆ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะสไกป์เข้ามาร่วมด้วยทุกครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

 

http://breakingnews....p?newsid=672996

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ตราบใดที่ทักกี้ยังเป็นเจ้าของพรรค ฝันไปเหอะ

 




#628641 หลัง 4 ปีนี้ ปชป. ก็งานหนักแหละครับผมว่า

โดย ทัชชี่ on 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 22:15

เพิ่งรู้ว่ากองเชียร์นี่เป็น มหรสพ งั้นคงผิดหมดแหล่ะ รวมทั้งแอ๊ดคาราบาวที่ไปแต่งเพลงให้เสาไฟฟ้าด้วย




#628599 คุก 8 แดงขอนแก่นเผาแบงค์ ไม่รอลงอาญา ... ใครหว่าบอกไม่ได้เผา

โดย ทัชชี่ on 5 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 21:42

553187_470300556368387_80735784_n.jpg

จำคุก 1 ปี 8 เเกนนำเสื้อเเดงขอนเเก่น เผาธ.กรุงเทพ จำเลยรับสารภาพ....อย่าเเถอีกนะว่าไม่ได้เผา

**โดยการพิจารณาคดีครั้งนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารับฟังการพิพากษาคดีไม่กี่สิบคน และไม่มีแกนนำเข้าร่วมรับฟังด้วย**

ศาลอุทธรณ์ขอนแก่นพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 8 แกนนำเสื้อแดงขอนแก่นมือเผา ธ.กรุงเทพ คนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้ ธ.กรุงเทพ รวม 29.5 ล้าน ได้ประกันตัว

แต่ทั้งนี้จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยคงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนดโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และ จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 มีกำหนดโทษคนละ 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 3 ที่ 4 และจำเลยที่ 7 คนละ 1 ปี

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มีนาคม ที่ห้องพิจารณาคดี ศาลจังหวัดขอนแก่น ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ได้นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา พิจารณาคดี กรณี ธ.กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาประชาสโมสร เขตเทศบาลนครขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง 8 แกนนำคนเสื้อแดงขอนแก่น ประกอบด้วย นายไชยยงค์ ถูระพี จำเลยที่ 1 นายวีรพันธ์ ไชยจันดา จำเลยที่ 2 นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาว จำเลยที่ 3 นายอดิศัย วิบูลย์เสธ จำเลยที่ 4 นายสุชาติ รักจันดา จำเลยที่ 5 นายบรรจง คำหงษา จำเลยที่ 6 น.ส.ปาริชาติ ภูนกยูง จำเลยที่ 7 และ นายอุดม คำมูล จำเลยที่ 8 ผู้ก่อเหตุบุกเข้าไปใน ธ.กรุงเทพ แล้วก่อเหตุเผาทำลายทรัพย์สินของทางธนาคาร จนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553

ศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นสรุปคดีว่า จำเลยทั้ง 8 คน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358 ,365(1) (2) ประกอบกับมาตรา 83, 362 ,364 คือการกระทำของจำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันร่วมกันบุกรุกเข้าไปในธนาคารเพื่อเจตนาทำลายทรัพย์สินให้ได้รับความเสียหาย จึงให้ลงโทษฐานบุกรุกซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

แต่เนื่องจากการกระทำของจำเลยทั้ง 8 กับพวก ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในทางการเมือง ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมคล้อยตามสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงหลงผิดก่อให้เกิดการกระทำความผิด จึงสมควรกำหนดโทษจำคุกมีกำหนดกระทงละ 1 ปี โดยจำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 กระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 คือจำคุกจำเลยที่ 1 รวมสามกระทง มีกำหนด 3 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 คนละ 1 กระทง มีโทษกำหนดจำคุกคนละ 1 ปี ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 มีความผิดคนละสองกระทง มีกำหนดโทษจำคุกคนละ 2 ปี

แต่ทั้งนี้จำเลยทั้ง 8 คน ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ศาลจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 78 โดยคงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนดโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน และ จำคุกจำเลยที่ 2 ที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 มีกำหนดโทษคนละ 6 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 3 ที่ 4 และจำเลยที่ 7 คนละ 1 ปี

เมื่อพิจารณาถึงผลการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก และจำเลยทั้ง 8 คน ก็มิได้มีการบรรเทาผลร้ายชดใช้ค่าเสียหาย รวมทั้งเพื่อมิให้บุคคลอื่นถือเป็นเยี่ยงอย่างก่อเหตุขึ้นในลักษณะเดียวกัน คือการสร้างความวุ่นวายเสียหายต่อสังคมและสุจริตชน จึงไม่สมควรรอการลงโทษจำคุกให้ และให้จำเลยทั้ง 8 คนร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในความเสียหายแก่โจทย์

โดยให้จำเลยที่ 1 ร่วมรับผิดเป็นจำนวนเงิน 8.3 ล้านบาท จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดจำนวน 1.8 ล้านบาท จำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 7 ร่วมรับผิดคนละจำนวน 5.3 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 5 ที่ 6 และที่ 8 ร่วมรับผิดคนละจำนวน 3.5 ล้านบาท ให้กับโจทก์ คือ ธ.กรุงเทพฯ ผู้เสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังจากที่ศาลได้พิพากษาตัดสินคดีเสร็จสิ้นยืนตามศาลชั้นต้นที่พิจารณาคดี ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงทั้ง 8 คน จำเลยในคดีนี้ถึงกับเข่าอ่อน หลังจากที่ศาลอุทรณ์ยืนยันคำพิพากษาโทษตามศาลชั้นต้น จากนั้นทนายความของทั้ง 8 คน ได้ยื่นขอประกันตัว และเตรียมยื่นต่อสู้คดีใช้ชั้นศาลฎีกา โดยการพิจารณาคดีครั้งนี้มีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มารับฟังการพิพากษาคดีไม่กี่สิบคน และไม่มีแกนนำเข้าร่วมรับฟังด้วย

ล่าสุดศาลอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาในหลักทรัพย์ที่ได้ประกันตัวของศาลชั้นต้น

ที่มา คมชัดลึก

 

 

แล้วใครบอก แดงไม่ได้เผาหว่า




#626115 ขำกลิ้ง....................ผู้ดำเนินรายการ ช่อง 7 ...........มันคิดได้ยังไง

โดย ทัชชี่ on 4 มีนาคม พ.ศ. 2556 - 16:52

ลองดูว่า ถ้าอีเม้ยไม่ได้นามสกุลชินวัตร... คงไม่ได้เป็นนายกหรอก




#618518 ขอวิจารณ์บางนโยบายของคุณสุหฤท ว่าเป็นของใหม่จริงหรือ?

โดย ทัชชี่ on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:27

ง่ายๆ ครับ...นโยบายของสุหฤทไม่มีอะไรใหม่ๆ เลย มีแต่ที่ทาง กทม. เคยทำไปแล้วทั้งนั้น แล้วมันจะเป็นทางเลือกใหม่ได้อย่างไร ในเมื่อของเก่าเขาก็เคยทำกันไปแล้ว

 

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของสุหฤทคือ "ไม่เคยทำงานราชการ" เลย ทำให้เขาขาดประสบการณ์หรือความรู้ด้านระเบียบของราชการที่ "จำเป็น" ต้องใช้ในการทำงาน

 

เขาอาจจะเสนอแนวคิดแหวกแนว...แต่ไม่เคยบอกเลยว่า มันถูกระเบียบราชการหรือเปล่า? มันอยู่ในอำนาจของผู้ว่าหรือไม่?

 

เท่าที่เห็นตอนนี้มีแต่เขาเสนอเรื่องเก่าๆ ที่ กทม. เคยทำมาแล้วทั้งนั้น เรื่องใหม่ๆ แทบไม่มีเลย




#617689 เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย รับ 2 รางวัลระดับโลก ชี้เผยแพร่หลักธรรมจริงจังต่อเนื่อง...

โดย ทัชชี่ on 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 09:38

 

 


 




รางวัลจาก ศรีลังกา และ อัฟกัน ? 2 ประเทศนี้นับถือ พุทธศาสนากันเหรอครับ ??? ศรีลังกาเมื่อก่อนน่ะใช่ ตอนนี้ยังเป็นอยู่เหรอครับ

ศรีลังกายังเป็นพุทธ และเหนียวแน่กว่าไทยมากครับ ส่วนอัฟกันคงไม่ใช่แล้วครับ
โอ งั้น รางวัลดูมีราคาขึ้นมาเลยครับ คงเอาไปอ้างได้อีกหลาย แต่ผมก็ยังไม่เห็นด้วยกับคำสอนของท่านอยู่ดี
^_^ ขยายให้อีกนิสนุง... เนื่องจากพุทธไทยไปขอให้ทางลังกามาช่วยบูรณะ, ปรับปรุงพระธรรมจากสมัยสูญหายเสื่อมไปจากสงครามขอรับ พุทธเราจึงเป็น "ลังกาวงศ์" ต่อมาเราก็ได้ไปช่วยทางลังกาบ้าง ทางลังกาจึงตั้งเป็น "สยามวงศ์" เพื่อเป็นการรำลึกถึงกันขอรับ... พุทธเรากับลังกาจึงมีการสืบสานสัมพันธ์กันเรื่อยมายาวนานแล้วขอรับ...
ขอขยายความ ผมไม่เห็นด้วยแนวคิดวัดนี้แต่แรกแล้วครับ ส่วนความเป็นพุทธของศรีลังกานั้น
ทราบจากพระอาจารย์พงศ์นรินทร์ ว่าเข้มแข็งยิ่ง วันหยุดยังเป็นวันพระ เด็กๆจะเตรียมตัว คึกคักมากกับการตักบาตรยามเช้าวันพระ มีกิจกรรมวันพระใหญ่มากมายที่หล่อหลอมครอบครัวให้ผูกพัน นึกถึงไทยสมัยก่อน(เกิด)อีกครับ

 

ถ้าเราเอาวันพระเป็นวันหยุดบ้าง เหมือนกับสมัยก่อน ก็คงจะดีไม่น้อย

 

ปล.ประเทศไทยเคยใช้วันหยุดเป็นวันพระครับ แต่มาเลิกไปเมื่อ "ท่านผู้นำ" ในสมัยนั้นสั่งยกเลิก เนื่องจากไม่เป็นอารยะประเทศ


  • wat likes this


#615928 ขอวิจารณ์บางนโยบายของคุณสุหฤท ว่าเป็นของใหม่จริงหรือ?

โดย ทัชชี่ on 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:52

482396_143084262522941_1071151496_n.jpg

 

https://www.facebook...elevant_count=1

 

เรื่องขยะต้องทำความเข้าใจ แยกให้ออกระหว่างขยะที่ใช้ไม่ได้(ขายไม่ได้)กับขยะที่เอาไปขายได้

 

ขยะที่เอาไปขายเป็นเงินได้คือขยะประเภท หนังสือพิมพ์, กล่องแข็งๆสีน้ำตาล, ขวดแก้ว, ขวดพลาสติก ฯลฯ

(ของเหลือใช้อะไรก็ได้ค่ะ ที่เป็นกระดาษ,พลาสติก,แก้ว,เหล็ก,อลูมิเนียม)

พวกนี้ถ้าคุณสุหฤทลองนั่งเฝ้าขยะสักวันหนึ่่ง ก็น่าจะเห็นคนมาคุ้ยขยะเพื่อเอาของจำพวกข้างต้นไปขายเพื่อทำเงิน

แต่คนส่วนใหญ่(เสียงส่วนใหญ่เปล่า ก็ไม่รู้นะคะ) จะรู้ดีค่ะว่าของพวกนี้ขายได้

 

อย่างบ้านเจ๊ก็เก็บกระป๋องน้ำอัดลม กล่องกระดาษ หนังสือพิมพ์ ขวดพลาสติกไปขายอยู่ทุกอาทิตย์

ที่อยากจะบอกก็คือของพวกนี้ คุณสุหฤทอยู่เฉยๆเค้าก็เอาของพวกนี้ไปหาเงินได้อยู่แล้วค่ะ

ถ้าทำตามที่คุณสุหฤทว่ามาจริง ก็คือการไปตัดรายได้ของคนพวกนี้ แล้วเอาไปเป็นของ กทม. แทน

ซึ่งเจ๊ว่า อาจจะมีปัญหายุ่งยากตามมาแน่ๆค่ะ หลายๆคนก็มีรายได้จากพวกนี้ละ ที่เอาไปซื้อหวยได้

ถ้าจะทำจริงๆ คงจะต้องเจอเสียงต่อต้านพอสมควร

 

ส่วนขยะที่ขายไม่ได้ก็พวกขยะเหม็นเน่าทั้งหลายนั้นละค่ะ พวกนี้ กทม. เดิมเค้าก็ใช้ระบบกลบฝั่งอยู่แล้ว

แถวบ้านเจ๊ก็มีคนเข้ามาเก็บไปอยุ่บ่อยๆึ่ค่ะ กลางวัน-ตอนเย็นๆอาจจะรกๆไปบ้างเพราะคนทิ้งกันจนล้น

แต่พอตอนเช้าทีไร ถังขยะก็อยู่ในสภาพที่เรียบร้อย สำหรับเจ๊ถือว่าสอบผ่านค่ะ

 

ก็กลับไปคำถามเดิม ในเมื่อประชาชนเค้าเอาขยะแบบที่ยกมาข้างต้นไปขายอยู่แล้ว

บางคนทำจนรวยไปเลยก็มี แล้วอะไรใหม่ๆของคุณสุหฤท มันจะได้ขนาดไหนคะ?

 

 

เอ่อ...ทุก สนง.เขตก็มีนโยบายนี้อยู่แล้วนี่นา.... อ้าว..นึกว่าของใหม่




#613223 พันธมิตรฯ เขาถาม(โง่ๆ)มาครับ

โดย ทัชชี่ on 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 00:17

382174_619577968069395_1525399083_n.jpg

 

 

เพิ่งรู้ว่านายกกับผู้ว่ามีหน้าที่ต้องตามไปดูคนโดนยิงด้วย โดยที่ไม่ได้เกี่ยงข้องอะไรกันเลย?




#613191 ระหว่างคำตัดสินของศาล กับความพอใจของเสียงส่วนใหญ่ในประเทศ เราควรยึดถือสิ่งใดเ...

โดย ทัชชี่ on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 23:01

ถ้าโจรสิบคน บุกขึ้นบ้านที่คุณอยู่กับภรรยา 2 คน

โจรทุกคน หวังอยากข่มขืนภรรยาคุณ

 

ตามเสียงส่วนใหญ่ คุณจะยินดีให้โจรข่มขืนเธอหรือไม่ครับ

 

ภรรยา 2 คนเลยเหรอครับ ไม่ตบกันตายรึ?




#613188 จูดี้หนีดีเบตได้อย่างไร มาอ่านจากใจคนจัดงาน

โดย ทัชชี่ on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 22:53

 

แค่จัดเวลามาดีเบตยังไม่ได้ แล้วจะมีเวลาทำงานให้คน กทม. หรือครับ?

 /人◕ ‿‿ ◕人\

 

ลองอ่านข้อ 15 ครับ..

 

>15. เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. มีโทรศัพท์ จาก พล.ต.อ. พงศพัศ โทรเข้ามีถือผม พูดจาแบบสุภาพ เป็นมิตรบอกว่า วันนี้ไม่ทราบเลยว่ามีดีเบตที่ศรีปทุม หากทราบต้องมาแน่ๆ ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่บอกอะไรผมเลย โดยโทรเข้า ต่อเนื่องในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงถึง 3 ครั้ง และย้ำในประเด็นเดิมว่า ว่าไม่ทราบ ต้องขออภัย หากทราบจะต้องมาแน่ๆ เพราะสนิทกับผม อย่าว่าแต่สามชั่วโมงเลย 6 ชั่วโมงก็ว่าง และในตอนบ่ายวันนี้ก็ว่างไม่มีกำหนดการอะไร ผมแจ้งกลับว่า ถ้าเช่นนั้นก็เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทย หรือ ระบบการจัดการภายในพรรค ที่ท่านจะต้องไปจัดการกันเอง<

/span>

 

แสดงว่าจู้ดี้อยากมา...แต่พรรคกั๊กไว้ไม่ยอมบอกเจ้าตัว เจ้าตัวเลยไม่ได้มา แสดงว่า ปัญหามันอยู่ที่พรรค ไม่ใช่ตัวบุคคล ...  ผมว่าสมัยหน้า จูดี้อาจจะไม่ได้อยู่พรรคนี้อีกต่อไป

 

ยังไปเชื่อมันอีก จูดี้กับภูมิธรรม สองตัว..เอ้ย สองคนนี้ มันก็แค่เล่นบทกู้ดค็อป - แบดค็อป แค่นั้นครับ :angry: :angry:

 

อุ้ฟ.. ลืมไปว่าผมเป็นเสื้อแดง ..   :blink:  :blink:

 

 

อ๋อ...ที่บอกว่าอยากมานี่ "ตอแหล" ใช่มั้ยครับ




#612743 ผมว่าหลายๆคนเข้าใจผิดเรื่องสุขุมพันธุ์เรื่องผลงานเพราะผมเองก็เข้าใจผิดและผมว่...

โดย ทัชชี่ on 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 15:36

อันนี้ถือเป็นผลงานค้วยหรือเปล่าครับ

 

 

กรุงเทพมหานคร ก็มีปัญหาคอรัปชั่นเป็นจำนวนมาก เป็นสิ่งที่ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ต้องเอาใจใส่ แต่ไม่มีสักคนที่เน้นหนักถึงปัญหานี้ ผมขอยกตัวอย่าง

1. อาคารกทม.2 อาคารอภิมหาอมตะนิรันด์กาล สูงแค่ 37 ชั้น เป็นอาคารที่สร้างเพื่อรองรับการขยายตัวของข้าราชการกทม. ย้ายจากศาลาว่าการ กทม.1 อาคารนี้สร้างมา 5 สมัยผู้ว่าฯ ตั้งแต่ผู้ว่ากฤษฎา ผู้ว่าพิจิตต ผู้ว่าสมัคร ผู้ว่าอภิรักษ์ และผู้ว่าสุขุมพันธ์ คนละ 4 ปี รวมเวลา 20 ปีแล้ว ข้างนอกดูเหมือนจะเสร็จ แต่ภายในยังรกร้างว่าเปล่าไร้การดูแล หากเป็นเอกชน เขาเรียกว่า “เจ๊ง” (งบประมาณมาจากภาษีของพวกเราทุกคน)

2. บริษัทกรุงเทพธนาคม เป็นบริษัทซุปเปอร์แมน รับงานจากกทม.ทุกประเภท ตั้งแต่ตะปูยันเรือรบ ไม่ทราบว่าบริษัทนี้มีผู้บริหารเชี่ยวชาญเรื่องอะไรบ้าง เพราะรับงานทุกโครงการ ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดขยะมีพิษ โรงงานฆ่าสัตว์ ไปจนกระทั่งถึง โครงการรถไฟฟ้า BTS ซึ่ง กทม. จ้างบริษัทกรุงเทพธนาคม และบริษัทกรุงเทพธนาคมจ้าง BTS อีกต่อหนึ่ง (เพราะ BTS มีอู่ซ่อมรถไฟฟ้า และรางรถไฟฟ้าอยู่แค่เจ้าเดียว) แบบนี้เขาเรียกว่า “การเลี่ยงประมูล” เพราะไม่เคยเปิดประมูล เอะอะอะไรก็จ้างบริษัทกรุงเทพธนาคม (นี่ก็ภาษีของพวกเรา)

3. BRT ไม่ทราบว่าแก้ไขปัญหาจราจรอย่างไร ในเมื่อมีผิวจราจร 4 เลน แต่ BRT เอาไป 1 เลน คงเหลือผิวจราจร 3 เลน สั้นๆง่ายๆ ผิวจราจรน้อยลง รถยนต์มากขึ้น ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไรว่าจะแก้ปัญหาจราจร (นี่ก็ภาษีของพวกเรา)

4. การสร้างกำแพงกันน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไอเดียริเริ่ม อดีตผู้ว่าฯพิจิตต ผ่านมา 4 ผู้ว่าฯ รวม 16 ปี สร้างไม่เสร็จ แต่หลังๆดันไปเพิ่มความสูง แล้วมันจะไปกันน้ำล้นตลิ่งได้อย่างไร? เปรียบเสมือนรั้วบ้าน สร้างกำแพงยังไม่รอบบ้าน แต่ดันไปเสริมความสูงของกำแพง แล้วจะไปกันขโมยไม่ให้เข้าได้อย่างไร? (นี่ก็ภาษีของพวกเรา)

5. อุโมงค์ส่งน้ำจากพระราม 9 ไปที่ คลองเตย โครงการใหญ่แบบนี้ แต่ไม่มีคนรู้ว่าเสร็จเมื่อไหร่? มีประสิทธิภาพอย่างไร? วินาทีหนึ่งส่งน้ำได้กี่คิว? ผู้รับเหมาส่งมอบงานเมื่อไหร่? ทดลองใช้งานหรือยัง? (เงินภาษีเราทั้งนั้น)

6. ทัวร์ต่างประเทศ “อาหารดี บินสนุก ช็อปปิ้งกระจาย” เอาอบรมสัมนาบังหน้า เฮฮาปาร์ตี้ตั้งแต่ ผู้อำนวยการไปยันหัวหน้ากอง สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันท่องเที่ยว ทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิ้นเปลืองงบประมาณมหาศาล ก่อนผู้ว่าฯลาออก เขาไปกันมาแล้ว 1 ทริป วันที่ 14 มีนาคมนี้ จัดกันอีก 1 ทริป สบายใจ สนุกสนาน (ภาษีของเราอีกเหมือนกัน)

http://news.mthai.co...ews/219349.html

 

 

คน กทม.ป่าววะเนี่ย ทำไมไม่มีข้อมูลห่าอะไรเลย

 

1) มีคนตอบไปแล้ว ผ่านมาหลายผู้ว่า..แล้ว สุขุมพันธ์ต้องรับผิดชอบคนเดียวรึ?

2) บ.กรุงเทพธนาคม คือ บริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้บริหารกิจการที่ กทม. ต้องไปจ้างคนอื่นต่อ ซึ่ง กทม.ถือหุ้น 100% ดังนั้น คงไม่ต้องไปถามเรื่องความโปร่งใสนะครับ เพราะเป็นบริษัทที่เป็นรัฐวิสาหกิจ ไม่ใช่เอกชน

3) BRT ช่วยทำให้ขนคน 100 คนไปบนถนนโดยใช้พื้นที่แค่รถยนต์ 2 คัน แทนที่จะต้องใช้รถยนต์จำนวน 50 หรือ 100 คัน ลองคิดดูละกัน ถ้ามันเป็นแบบนั้นถนนใหญ่แค่ไหนก็ไม่พอ (แค่เพิ่มขึ้นเลนเดียวเนี่ยมันพอเหรอครับ)

4) ที่มันทำยังไม่เสร็จ เพราะมันมีอุปสรรคเรื่องพื้นที่เอกชน ที่เข้าไปดำเนินการได้ช้า หรืออาจจะทำไม่ได้ ต้องผ่านการเจรจาอยู่หลายยก หรือคุณคิดว่าคุณเก่งสามารถทำให้จบได้ในสมัยเดียว?

5) อุโมงค์น้ำมันก็มีสเป๊คของมันอยู่แล้ว อยากรู้ก็โทรไปถามที่ 1555

6) ทำไมตอนนายกไปเที่ยว ตปท. ไปนั่งถ่ายรูปยิ้มแป้น โดยเอาลูกเอาคนที่ไม่เกี่ยวกับงานไปเที่ยว โดยใช้เครื่องบินหลวง นายกไม่ได้จ่ายสักบาท คุณไม่บ่นเลยวะครับ




#610011 จูดี้หนีดีเบตได้อย่างไร มาอ่านจากใจคนจัดงาน

โดย ทัชชี่ on 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 11:49

จูดี้หนีดีเบตยังไงอ่านที่นี่ จากคุณสมชัย ศรีสุทธิยากร องค์กรกลางผู้จัดงาน

@สมชัย ศรีสุทธิยากร
ใครอยากอ่าน เรื่องเฟอร์บี้ ไปดีเบต ศรีปทุม ยาวๆ อ่านที่นี่

ลำดับเหตุการณ์ การติดต่อพรรคเพื่อไทย กรณีดีเบตที่ศรีปทุม

เนื่องจากมีการชี้แจงของพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการจัดดีเบตที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม ในฐานะผู้จัดผมใคร่ขอเรียนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นดังนี้

1. ประมาณต้นเดือน ก.พ. หลังจากที่ รอง โสภิต (รองอธิการบดี ม.ศรีปทุม) ได้โทรหาผม เพื่อเสนอ ว่า ม.ศรีปทุม ควรจัดดีเบต ผมได้โทรหา นายภูมิธรรม เวชยชัย (พี่อ้วน) เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ของพรรคเพื่อไทย ว่าจะมีความเป็นไปได้เพียงไรที่จะจัดดีเบต ผู้สมัครผู้ว่า กทม. ในช่วงสองสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งภูมิธรรม ได้บอกว่า เป็นไปได้ ขอให้ทำรายละเอียดมา


2. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ทำจดหมายเชิญผู้สมัคร 4 ราย ลงนามโดยพลเอกสายหยุด เกิดผล พร้อมร่าง กติกาเบื้องต้น ส่งทางไปรษณีย์ไปยังผู้สมัครทั้ง 4 ราย ซึ่งคาดว่าหนังสือจะถึงพรรคหรือ ผู้สมัคร ไม่เกินวันที่ 10 กุมภาพันธ์


3. หลังจากส่งหนังสือถึงผู้สมัคร ผมได้ติดต่อ ภูมิธรรม อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทราบเรื่องแล้ว และขอให้ผมติดต่อโดยตรงกับระดับเจ้าหน้าที่ โดยให้ชื่อ คุณแพรว (คนเดียวกับที่ผมติดต่อ ตอนดีเบต นายกรัฐมนตรีเมื่อการเลือกตั้งทั่วไป ปี 53) ซึ่งคุณแพรว บอกรับเรื่องแล้วและส่งให้คนที่รับผิดชอบดำเนินการต่อ แต่ไม่ให้เบอร์ติดต่อโดยตรง ดังนั้น จุดเชื่อมต่อที่เชื่อมได้ในขณะนั้น คือ คุณแพรว

4. ระหว่างวันที่ 10-15 กุมภาพันธ์ ผมได้พยายามติดต่อคุณแพรว หลายครั้ง มีประมาณ 3 ครั้งที่โทรติด และได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนที่ดูแลคิวใกล้ชิด คือ คุณชิว หรือ คุณณรงค์ แต่ไม่ยอมให้เบอร์โทรติดต่อ แม้ผมจะขอทุกครั้งบอกว่าจะให้เขาติดต่อกลับ แต่ไม่มีการติดต่อกลับ หลังจากนั้น ผมพยายามติดต่อคุณแพรวด้วยการโทรที่ถี่ขึ้น แต่คุณแพรวไม่ยอมรับสาย ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว มหาวิทยาลัย ต้องเดินหน้าดำเนินการในการจัดเตรียมสถานที่ การประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งรอไม่ได้ และ จากการรับปากเบื้องต้นจาก ภูมิธรรม ที่มีตำแหน่งสูงถึงเลขาธิการพรรค และผู้อำนวยการเลือกตั้ง ผมจึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา


5. สำหรับผู้สมัครรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น มรว. สุขุมพันธุ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และนายโฆสิต ผมได้ใช้วิธีการทาบทามทางโทรศัพท์ ผ่านทีมงานสนับสนุน และ ส่งจดหมายเชิญ เช่นเดียวกัน ทุกท่านรับปากว่าจะมา โดยไม่มีหนังสือตอบรับเป็นทางการทุกราย ยกเว้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ซึ่งมีหนังสือตอบรับเป็นทางการมาเมื่อวันที่วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ เพียงรายเดียว

6. ในระหว่างการดำเนินการ ผู้จัดได้ทาบทาม เคเบิ้ลทีวี 4 ราย เพื่อทำการถ่ายทอดสด คือ วอยซ์ทีวี (ติดต่อผ่านคุณ ปิยะดา ซึ่งเป็นเลขาของคุณทรงศักดิ์ เปรมสุข ผู้อำนวยการสถานี) สปริงนิวส์ (ติดต่อ
คุณสุทธิชัย บุนนาก ประธานกรรมการบริษัท) บลูสกายแชนแนล (ติดต่อผ่านคุณเถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานี) และ มีเดียนิวส์ (ติดต่อผ่านคุณสมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ช่อง 7 สี) ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเพียงรา
ยเดียว คือ สปริงนิวส์ ส่วยวอยซ์ทีวี ตอบปฏิเสธ โดยส่งอีเมลล์ มาว่า เราเป็นสถานีเล็กๆไม่มีความพร้อมในการถ่ายทอด บลูสกายแชนแนล แจ้งว่าต้นทุนสูง ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่อาจเชื่อมสัญญาณทางอินเตอร์เน็ต ในบางช่วงเวลา ส่วนมีเดียนิวส์ แจ้งว่า การนำรถโมบาย (mobile)ออกไปถ่ายทอดเป็นเรื่องใหญ่ คงไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้น จึงไม่เป็นจริงตามที่พรรคเพื่อไทย บอกว่าผู้จัดมีแนวคิดจะถ่ายทอดผ่านบลูสกายแชนแนลเท่านั้น

7. วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ เวลา ประมาณ 17.30 น. ผมได้รับการติดต่อจากคุณณรงค์ โดยโทรเข้ามาที่มือถือของผมเอง (เนื่องจากผมไม่มีเบอร์คุณณรงค์) แจ้งว่า พรรคมีมติไม่ร่วมการดีเบต โดยบอกว่าผู้สมัครติดภารกิจในวันดังกล่าว ซึ่งผมบอกว่า ถ้าเช่นนั้นก็เสียหาย เพราะมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการไปมากแล้ว และใช้งบประมาณเกือบแสนบาทในการดำเนินการ ขอให้ทบทวน เพราะการดีเบตน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน คุณณรงค์ยืนยันว่าพรรคมีมติไปแล้ว คงไม่ทบทวน ผมแจ้งว่า อาจตั้งตุ๊กตาเฟอร์บี้แทน คุณณรงค์ กล่าวว่า อยากทำอะไรก็ทำ เป็นเรื่องของอาจารย์


8. วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ ผมติดต่อกับคุณณรงค์ เพื่อขอทราบความคืบหน้าในการทบทวน คุณณรงค์แจ้งว่า มีมติแล้วว่าไม่ไป โดย บอกว่า จะไป ต่อเมื่อ
1)เป็นการดีเบตกับ ม.ร.ว สุขุมพันธุ์ เท่านั้น เพราะหากไปฟังคนอื่นจะเสียเวลาม
าก
2) จะไปเฉพาะรายการที่มีการถ่ายทอด
สดทางฟรีทีวีเท่านั้น ซึ่งทั้งสองประเด็นดังกล่าว ก็ไม่เป็นจริง เนื่องจากในประเด็นแรก วันพฤหัสที่ 21 ก.พ. ช่วงเช้า พล.ต.อ. พงศ์พัศ ก็ได้ไปที่ คุรุสภา ซึ่งมีผู้สมัครไปพูดถึง 13 คน และ วันพฤหัสที่ 21 ก.พ. ทางเนชั่น ก็จัดดีเบต 2 คน กับ ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ แต่ พล.ต.อ. ก็ไม่ไปเช่นกัน ส่วนการถ่ายทอดดีเบตทางฟรีทีวี ไม่มีใครสามารถทำได้
เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงมาก

9. ผมพยายามเสนอทางเลือกให้ พล.ต.อ.พงศ์พัศ มาเพียงบางช่วง เช่น อาจจะมาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งคุณณรงค์ก็รับปากว่า น่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ โดยจะต้องดูจากตารางเวลาในวันนั้นก่อน โดยแผนการหาเสียงในแต่ละวันจะไม่นิ่ง ปรับเปลี่ยนทุกวัน โดย ของวันพฤหัสที่จะดีเบต จะมีการเคาะกันนาทีสุดท้ายในคืนวันพุธ เวลา ประมาณ 20.00 น. โดยรับปากว่า หากเป็นไปได้ จะพยายามแทรกให้มาในบางช่วงเวลา เพราะกำหนดการที่มีในวันพฤหัส มีดังนี้ ช่วงเช้า ไปคุรุสภา หลังจากนั้นไปที่ สถาบันราชภัฏสวนดุสิต ตอนเที่ยงไป หาเสียงที่ตลาดชลประทาน ถนนสามเสน
หลังมีโปรแกรมอีกที ประมาณ 5 โมงเย็น ไปหาเสียงร่วมกับนายกรัฐมนตรี ที่ตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งไม่มีกำหนดการสำคัญในช่วงบ่
ายซึ่งน่าจะสามารถปลีกเวลามาได้

10. วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ ประมาณ 9.00 น. ผมโทร คุณภูมิธรรม อีกครั้ง แจ้งปัญหาที่ พล.ต.อ. พงศพัศ มาไม่ได้ และ ทำให้งานเสียหาย คุณภูมิธรรม อธิบายว่า ผมต้องประสานกับคุณณรงค์แต่แรก
ไม่ควรประสานกับคุณแพรว (ทั้งๆที่ เป็นคนให้เบอร์ คุณแพรว แก่ผมเองเพื่อเดินเรื่องต่อ) และ แจ้งว่า จะพยายามคุยเพื่อให้ปรับเปลี่ยน
โปรแกรมให้เท่าที่ทำได้

11. วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลา ประมาณ 13.00 น. ผมโทรหาคุณณรงค์แจ้งให้ทราบว่า ผู้สมัครทุกคนมาครบหมด และ มีการถ่ายทอดทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สปริงนิวส์ คุณณรงค์ ก็เล่ากำหนดการให้ฟังว่า วันพฤหัสคิวยังเหมือนเดิม คือ เช้า คุรุสภา สวนดุสิต เที่ยงที่ตลาดชลประทานบ่ายไม่มีกำหนดการสำคัญ และเย็น 17.00 น. ร่วมหาเสียงกับนายกรัฐมนตรีที่ตลาดยิ่งเจริญ ดังนั้นคืนนี้ (วันพุธ) เวลา ประมาณ 20.00 น. จะรายงาน พล.ต.อ. พงศพัศ ให้ทราบถึงการดีเบตที่ศรีปทุม เพื่อให้ท่านตัดสินใจ และ อาจปลีกเวลามาได้ ประมาณ ครึ่ง ถึง หนึ่ง ชม.

12. เวลา 18.56 น. มี SMS จาก คุณณรงค์ มาถึงผม ข้อความว่า “ตกลงพรุ่งนี้ท่านเข้าไม่ได้ครับ ขอโทษด้วยครับ” โดยไม่เหตุผลใดๆ และผมไม่ได้โทรศัพท์กลับ

 

13. วันพฤหัสที่ 21 กุมภาพันธ์ เวลา 7.41 น. ผมส่ง SMS กลับไปยังคุณณรงค์ ข้อความว่า “วันนี้ มีอธิการบดีและผู้บริหารทั้งมหาวิทยาลัยมาร่วมฟัง และถ่ายทอดสดทางสปริงนิวส์ น่าจะใช้เวลาในการดีเบตแค่ 2 ชั่วโมง 13.00-15.00 ทางมหาวิทยาลัย หวังว่าจะได้รับเกียรติจากอนาคตผู้ว่า แวะมาสักครึ่ง ชม. ครับ จะตั้งเก้าอี้รอ รบกวนแจ้งท่านด้วย”

14. การดีเบต มีขึ้น ระหว่างเวลา 13.15 ถึง 15.30 น. โดยประมาณ โดยไม่มี พล.ต.อ. พงศพัศ เข้าร่วม และมีการตั้งตุ๊กตาเฟอร์บี้ ตามที่เตรียมการ

15. เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. มีโทรศัพท์ จาก พล.ต.อ. พงศพัศ โทรเข้ามีถือผม พูดจาแบบสุภาพ เป็นมิตรบอกว่า วันนี้ไม่ทราบเลยว่ามีดีเบตที่ศรีปทุม หากทราบต้องมาแน่ๆ ทำไมพรรคเพื่อไทยไม่บอกอะไรผมเลย โดยโทรเข้า ต่อเนื่องในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงถึง 3 ครั้ง และย้ำในประเด็นเดิมว่า ว่าไม่ทราบ ต้องขออภัย หากทราบจะต้องมาแน่ๆ เพราะสนิทกับผม อย่าว่าแต่สามชั่วโมงเลย 6 ชั่วโมงก็ว่าง และในตอนบ่ายวันนี้ก็ว่างไม่มีกำหนดการอะไร ผมแจ้งกลับว่า ถ้าเช่นนั้นก็เป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทย หรือ ระบบการจัดการภายในพรรค ที่ท่านจะต้องไปจัดการกันเอง

16. ประมาณ 17.00 น. มีโทรศัพท์ จาก คุณภูมิธรรม เข้ามาต่อว่าผมด้วยถ้อยคำที่รุนแรง หยาบคาย โดยผมได้พยายามชี้แจงถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น และ ให้แง่คิดว่า การดีเบต เป็นสิ่งที่ผู้สมัครต้องให้ความสำคัญ และ กลไกในพรรคอาจเป็นปัญหาในการจัดการ


17. การที่พรรคเพื่อไทยกล่าวอ้างว่าพล.ต.อ. พงศพัศ ติดภารกิจ ไม่สามารถมาดีเบตได้ เนื่องจากมีคิวไปพบ คณะครู กทม. เกือบ 1,000 คน ที่ห้องประชุมคุรุสภา ตั้งแต่เวลา 9.00-14.00 น.
การจัดรายการดังกล่าว มี ผู้สมัครไปร่วมรายการ 13 คน และ ให้พูดทีละคน ใครไปก่อนได้พูดก่อน และสามารถกลับได้ จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องอย
ู่จน ถึง 14.00 น. ในทางตรงข้าม ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ ก็ได้ไปร่วมดีเบต ที่ คุรุสภา เช่นกัน แต่ก็สามารถมาร่วมดีเบต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมได้ จึงแปลความหมายได้ว่า การอยู่ที่ หอประชุมคุรุสภา เป็นข้อกล่าวอ้างเพื่อเลี่ยงการดีเบต


18. มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางในการประสานงานให้มีการดีเบต ครั้งสำคัญต่างๆของประเทศ แต่ทุกครั้งที่ประสานกับ พรรคเพื่อไทย (หรือ ไทยรักไทย) มักจะได้รับการตอบสนองแบบเห็นแก่ประโยชน์ความได้เปรียบเสียเปรียบของตนเป็นหลัก เมื่อได้ประโยชน์ ก็จะมา เมื่อเห็นว่าเสียประโยชน์ก็จะหลีกเลี่ยง ไม่ได้คิดถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นหลัก เช่น การดีเบต เลือกตั้งทั่วไป ปี 2554 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ( พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าร่วมดีเบตในฐานะหัวหน้า พรรคไทยไทยรักไทย กับ นายชวน หลีกภัย ในฐานะนายกรัฐมนตรี)
การดีเบต เลือกตั้งทั่วไป ปี 48 ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี หลีกเลี่ยงการดีเบต โดยไม่ตอบรับ ไม่ตอบปฏิเสธ บอกว่า ถ้ามาก็จะมาเอง) การดีเบต เลือกตั้งทั่วไปปี 53 ที่ห้องประชุมบัวหลวง ม.ศรีปทุม (นส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธไม่ยอมร่วมเวทีดีเบตทุกเว
ที และ ส่ง นายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ์ มาแทน) และการดีเบตผู้ว่า กทม. ที่ผ่านมา (มีการกีดกันข้อมูลไม่ให้ผู้สมัครทราบกำหนดการ และตัดสินใจแทนผู้สมัคร) ซึ่งกรณีทั้งหมดถือเป็นเรื่องการขาดสปิริตทางการเมือง ที่จะนำเสนอตนเองต่อสาธารณะ มุ่งหวังเพียงเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง จนขาดความเป็นสุภาพบุรุษ และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่งหากพรรคการเมือง หรือฝ่ายการเมืองต่างๆในประเทศคิดอย่างนี้ ประเทศคงห่างไกลจากความเป็นประชาธิปไตย


สมชัย ศรีสุทธิยากร 22 ก.พ. 2556