Pasitnat

ดูวี่่แววแล้วประเด็นนี้คงไม่จบกันง่ายซะแล้ว...

อ่านมาตั้งนานหล่ะ ขอสรุปวันที่ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ซะหน่อยน่ะจะได้ง่ายขึ้น

ประมาณกลางปี 2529 คุณอภิสิทธิ์สำเร็จหลักสูตรปริญญาตรี กลับถึงประเทศไทย

4 กค. 2529 ได้รับเอกสาร สด.9 เล่มที่ 54 ฉบับที่ 5352
29 กย 2529 กพ ทบ มีหนังสือเลขที่ 0401/2003 ถึง รร จปร เพื่อให้พิจารณาบรรจุคุณอภิสิทธิ์เข้าเป็นอาจารย์
4 พย. 2529 ได้รับเอกสาร สด.41 เลขที่ 4892 / 29 เพื่อผ่อนผันไปศึกษาหลักสูตรปริญญาโท ณ ต่างประเทศในช่วง 2530 - 2532
19 มีค 2530 รร จปร มีหนังสือเลขที่ 0460/762 เพื่อขอบรรจุคุณอภิสิทธิ์ในตำแหน่งอาจารย์
31 มีค. 2530 กองควบคุมคุณวุฒิ สบ ทบ มีหนังสือเลขที่ 2682 / 30 แจ้งให้เขียนใบสมัครใหม่และขอเอกสารเพิ่ม
7 เมย. 2530 มีการตรวจ คุณอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก เพราะมีใบผ่อนผัน สด.41
31 กค. 2530 กห มีหนังสือรับรองเลขที่ 0481.62/5053 รับรองว่าคุณอภิสิทธิ์เข้าบัญชีทหารกองเกินในปี 2525
07 สค. 2530 คุณอภิสิทธิ์เข้ารับราชการเป็น ข้าราชการพลเรือนสังกัดกระทรวงกลาโหม ตามคำสั่งที่ 720/30
8 เมย. 2531 คุณอภิสิทธิ์แจ้งขอใบแทน สด.9 เลขที่ 1178 แทนใบเก่าที่ชำรุด สูญหาย
25 เมย. 2531 สำเร็จหลักสูตรฝึกอมรมนายทหารสัญญาบัตร คุณอภิสิทธิ์เข้าฝึกอบรมรุ่นนี้ด้วย
26 เมย. 2531 ตามคำสั่งที่ 339/31 แต่งตั้ง ขรก พลเรื่อนกลาโหม เป็น นายทหารสัญญาบัตร รวมทั้งคุณอภิสิทธิ์
2 มิย. 2531 รร จปร นำคุณอภิสิทธิ์ขึ้นทะเบียนกองประจำการ จ. นครนายก
12 เมย. 2532 คำสั่ง กห 270/32 อนุมัติให้คุณอภิสิทธิ์ลาออกจากกองประจำการ


มีเท่านี้กระมั้ง...ส่วนรายละเอียดแต่ละช่วง..พรุ่งนี้ค่อยมาสรุปกัน....

มีแต่เจ๋งๆ ทั้งนั้นเลย
ผมคนขายบะหมี่เกี๊ยว

ผมเห็นด้วยกับ mod นะว่าควรจะตัดข้อสามออกไป เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าข้อเสนอข้อ 3 นั้นน่าจะอยู่ในเงื่อนไขของผู้ชนะได้นะครับผมจึงอยากเสนอว่า

ถ้าคุณ Jaidee20 แพ้การเดิมพันครั้งนี้ จะยอมปฏิบัติตามข้อเสนอข้อที่ 3 ของคุุณเด็กปากดี อย่างนี้น่าจะใช้ได้นะครับ

ขออนุญาตแสดงความเห็นเฉพาะกับ คุณ Gop นะครับ ดังนี้

1.ผมจะไม่ขอก้าวล่วงวินิจฉัยของ Mod จึงไม่ขอคุยในวินิจฉัยนะครับ

2.ถ้าสมมุติผมชนะ แล้ว คุณ jaidee20 ไม่ทำตามละครับ ใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นการเคลียตัวเองให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบ log-in จึงเป็นเรื่องที่ผมว่าน่าจะยุติธรรมกับทุกฝ่ายครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็น้อมรับในวินิจฉัยนะครับ

ผมเห็นด้วยกับ mod นะว่าควรจะตัดข้อสามออกไป เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ผมเห็นว่าข้อเสนอข้อ 3 นั้นน่าจะอยู่ในเงื่อนไขของผู้ชนะได้นะครับผมจึงอยากเสนอว่า

ถ้าคุณ Jaidee20 แพ้การเดิมพันครั้งนี้ จะยอมปฏิบัติตามข้อเสนอข้อที่ 3 ของคุุณเด็กปากดี อย่างนี้น่าจะใช้ได้นะครับ

นักข่าวต่างประเทศพวกนี้ เลวมาก
มันรายงานข่าวออกไปจนโลกเข้าใจผิด คิดว่า ที่เกิดเพลงไหม้ในกรุงเทพ
วันเดียว 30 กว่าจุด เป็นฝีมือเสื้อแดง

ฮือๆๆๆๆๆๆๆ

World condemns Bangkok violence
May 20, 2010

The United States has led world condemnation of unrest in Thailand that has left at least six people dead while the United Nations called for renewed efforts to end the violence.

Anti-government Red Shirt protesters in Bangkok set more than two dozen buildings ablaze, including the stock exchange, in an upsurge of violence that prompted authorities to declare a curfew across about a third of the country.

Washington said on Wednesday it was "deeply concerned that Red Shirt supporters have engaged in arson, targeting electricity infrastructure and media outlets and have attacked individual journalists", said State Department spokesman Gordon Duguid.

"And we condemn such behaviour and call on (their) leaders and affiliated opposition politicians to urge their supporters to stop such acts."

UN chief Ban Ki-moon also expressed concern about the mounting level of violence and demanded efforts to end the crisis peacefully.

"He continues to urge that every measure be taken by both the Thai authorities and protesters to avoid any further violence and loss of life and to address issues peacefully," UN spokesman Martin Nesirky said.

The European Union insisted that reconciliation between the parties was no longer just an option.

"Thailand enters now a period where national reconciliation is not simply an option, it is absolutely mandatory," EU parliament president Jerzy Buzek said in a statement.

"Too much blood has been spilled on the streets of Bangkok," said Buzek. "I hope that the violent confrontation between governmental forces and protesters is finally approaching an end."

Brazil expressed solidarity with the "Thai nation" and said it hoped the situation would rapidly return to normal.

Danish foreign minister Lene Espersen said she was "deeply preoccupied by the situation in Thailand" and urged "all parties, the government and the protesters, to show the greatest restraint in this very tense situation".

The minister also called for "negotiations to begin as soon as possible so as to put an end to the troubles," and to address Thailand's "fundamental problems."

Denmark has closed its embassy in the capital since Sunday and staff have been transferred to a hotel outside the danger zone. Other embassies have also closed.

"It is too insecure," Sweden's ambassador to Thailand told Swedish news agency TT, as he announced its embassy would shut on Thursday "due to the security situation."

The Scandinavian country meanwhile said it was extending its advice against all but essential travel to Bangkok, announced on April 23, indefinitely.

Britain also warned its nationals against travelling to Bangkok under any circumstances, saying the risks had increased because of the "unpredictable violence" across the Thai capital.

Finland's foreign ministry also issued a recommendation for all travel to Bangkok to be avoided. The Finnish embassy in Thailand has opened a Facebook page which it is updating regularly with political and incident developments, information on areas to avoid and evacuation guidelines.

Meanwhile Italian politicians paid tribute to Fabio Polenghi, an Italian photographer who died in clashes in Bangkok between the Thai military and protesters.

The Red Shirts have been campaigning for elections to replace the administration of Prime Minister Abhisit Vejjajiva, which they consider illegitimate because it came to power with the backing of the army in 2008.

AFP

http://www.smh.com.a...00520-vfl7.html

เอาไปอ่านซะ จะได้เลิกโง่ รำคาญ

ข้อแท้จริง "ทหาร" อดีต พณฯนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ..
1)อายุ 17 ปี ลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินที่สัสดีในอำเภอ/สนงเขต
2)อายุ 21 ปี (ครบ 20 ปี ย่าง 21 ปี) ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเกณฑ์
... เมื่ออายุ17ปี คุณอภิสิทธิิ์ไปศึกษาต่างประเทศ จึงไม่ได้ไปลงทะเบียนเป็นทหารกองเกิน(สด9)
วันที่ 4 ก.ค. 2529 ไปรับใบ สด9 ภายหลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี
วันที่ 4 พ.ย. 2529 ไปรับใบ สด41 เลขที่ 4892/29 ผ่อนผันเพื่อไปศึกษาปริญญาโทในต่างประเทศ
ช่วง เมษายน 2530 ไม่ได้ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเกณฑ์ เนื่องจากทำการผ่อนผันไปศึกษาปริญญาโทในต่างประเทศ สด41 แล้ว

แต่หน่วยทะเบียนบกพร่องในการบันทึกเอกสาร จึงแจ้งว่า"ขาดการตรวจเลือก" ซึ่งจะต้องไปเข้ารับการตรวจเลือก เพื่อบันทึกทะเบียนในเดือนเมษายนของปีถัดไป
สิงหาคม 2530 นายอภิสิทธิ์สมัครเข้าเป็น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร (ตามกฎหมายนับเป็นข้าราชการทหาร แม้จะมีคำว่า"พลเรือน")

ประเด็นต่อไปที่ต้องวิเคราะห์คือ คุณอภิสิทธิ์มีสิทธิที่จะไปสมัครเป็นข้าราชการทหารหรือไม่? เกณฑ์การรับสมัครเป็นข้าราชการทหารมีดังนี้
1.. อายุไม่ถึง 21ปี ใช้ใบ สด9 อย่างเดียว
2.. อายุเกิน 21ปี ใช้ใบ สด9 และใบ สด43 (ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร) หรือ
*** ใบ สด9 และใบ สด41 (ผ่อนผันไปเรียนต่างประเทศ) ***

คุณอภิสิทธิ์ในขณะนั้นอายุเกิน 21 ปีจึงเข้าเกณฑ์การใช้ใบสด9 และใบสด41 (ไม่ใช่ใบสด43 เพราะไม่เคยผ่านการเกณฑ์ทหาร) แต่ใช้สิทธิในการเข้ารับราชการทหารตามกฎหมาย
....
ขณะที่ พ.อ.สมโชค ตอบคำถามซักค้านของทนายโจทก์ ว่า พยานไม่ทราบว่าการไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษของ นายอภิสิทธิ์ มี ก.พ.เป็นผู้ดูแลทำหนังสือผ่อนผันโดยตรง และไม่ต้องมารับการตรวจเลือกฯ .. แต่ถ้าเป็นกรณีแบบนี้จริง ยอมรับว่าไม่ใช่การหนีทหาร แต่เป็นเรื่องที่ได้รับการผ่อนผัน
และเมื่อนายอภิสิทธิ์ได้เป็น อาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อย จปร.แล้ว
จึงไม่ต้องถูกเรียกเข้าประจำการ ตามมาตรา 14 วรรค 7
...
เพราะฉะนั้น เราๆท่านๆที่มีจิตใจเที่ยงธรรม ก็ต้องเข้าใจว่า ไม่จำเป็นต้องสอบถามคาดคั้นใบสด43 จากคุณอภิสิทธิ์
อย่าปล่อยให้แกนนำแดงที่จิตใจโสมมโกหกตอแหลเป็นนิจสิน สร้างกระแสหลอกลวงประชาชน ด้วยข้อความอันเป็นเท็จประเด็นนี้ กรอกหูซ้ำซาก<br/><br/><a rel="nofollow" target="_blank" href="http://www.facebook....433&#38;type=1" id="" title="" style=""><img class="img" src="https://fbcdn-photos...25150749_s.jpg" alt=""/></a><br/>รูปภาพของ มังฉงาย พรายกระซิบ<br/>ไอ้คางคกมุสา มุกแป๊ก
... ข้อแท้จริง "ทหาร" อดีต พณฯนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ..
1)อายุ 17 ปี ลงทะเบียนเป็นทหารกองเกินที่สัสดีในอำเภอ/สนงเขต
2)อายุ 21 ปี (ครบ 20 ปี ย่าง 21 ปี) ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเกณฑ์
... เมื่ออายุ17ปี คุณอภิสิทธิิ์ไปศึกษาต่างประเทศ จึงไม่ได้ไปลงทะเบียนเป็นทหารกองเกิน(สด9)
วันที่ 4 ก.ค. 2529 ไปรับใบ สด9 ภายหลังสำเร็จการศึกษาปริญญาตรี
วันที่ 4 พ.ย. 2529 ไปรับใบ สด41 เลขที่ 4892/29 ผ่อนผันเพื่อไปศึกษาปริญญาโทในต่างประเทศ
ช่วง เมษายน 2530 ไม่ได้ไปแสดงตนเพื่อรับหมายเกณฑ์ เนื่องจากทำการผ่อนผันไปศึกษาปริญญาโทในต่างประเทศ สด41 แล้ว

แต่หน่วยทะเบียนบกพร่องในการบันทึกเอกสาร จึงแจ้งว่า"ขาดการตรวจเลือก" ซึ่งจะต้องไปเข้ารับการตรวจเลือก เพื่อบันทึกทะเบียนในเดือนเมษายนของปีถัดไป
สิงหาคม 2530 นายอภิสิทธิ์สมัครเข้าเป็น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร (ตามกฎหมายนับเป็นข้าราชการทหาร แม้จะมีคำว่า"พลเรือน")

ประเด็นต่อไปที่ต้องวิเคราะห์คือ คุณอภิสิทธิ์มีสิทธิที่จะไปสมัครเป็นข้าราชการทหารหรือไม่? เกณฑ์การรับสมัครเป็นข้าราชการทหารมีดังนี้
1.. อายุไม่ถึง 21ปี ใช้ใบ สด9 อย่างเดียว
2.. อายุเกิน 21ปี ใช้ใบ สด9 และใบ สด43 (ใบผ่านการเกณฑ์ทหาร) หรือ
*** ใบ สด9 และใบ สด41 (ผ่อนผันไปเรียนต่างประเทศ) ***

คุณอภิสิทธิ์ในขณะนั้นอายุเกิน 21 ปีจึงเข้าเกณฑ์การใช้ใบสด9 และใบสด41 (ไม่ใช่ใบสด43 เพราะไม่เคยผ่านการเกณฑ์ทหาร) แต่ใช้สิทธิในการเข้ารับราชการทหารตามกฎหมาย
....
ขณะที่ พ.อ.สมโชค ตอบคำถามซักค้านของทนายโจทก์ ว่า พยานไม่ทราบว่าการไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษของ นายอภิสิทธิ์ มี ก.พ.เป็นผู้ดูแลทำหนังสือผ่อนผันโดยตรง และไม่ต้องมารับการตรวจเลือกฯ .. แต่ถ้าเป็นกรณีแบบนี้จริง ยอมรับว่าไม่ใช่การหนีทหาร แต่เป็นเรื่องที่ได้รับการผ่อนผัน
และเมื่อนายอภิสิทธิ์ได้เป็น อาจารย์สอนหนังสือที่โรงเรียนนายร้อย จปร.แล้ว
จึงไม่ต้องถูกเรียกเข้าประจำการ ตามมาตรา 14 วรรค 7
...
เพราะฉะนั้น เราๆท่านๆที่มีจิตใจเที่ยงธรรม ก็ต้องเข้าใจว่า ไม่จำเป็นต้องสอบถามคาดคั้นใบสด43 จากคุณอภิสิทธิ์
อย่าปล่อยให้แกนนำแดงที่จิตใจโสมมโกหกตอแหลเป็นนิจสิน สร้างกระแสหลอกลวงประชาชน ด้วยข้อความอันเป็นเท็จประเด็นนี้ กรอกหูซ้ำซาก
....
....
ซุกหุ้น ***กว่าหนีทหาร ก็ยังเป็นนายกได้ ชึมิ ไอ้สุกำพวง(พยานจำเลย)
...
..//..<br/>007 / 009 AVATAR อวตาร

ดูในเฟซบุค

สำหรับผม ถ้าถามความเชื่อส่วนบุคคลของผม เกี่ยวกับ พล.อ.เปรม ผมตอบแบบตรงๆ

• เชื่อว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร โค่นทักษิณ ..จริง !
• เชื่อว่า พล.อ.เปรม พยายามเลียนแบบเจ้าในหลายโอกาสและวาระ..จริง !
• เชื่อว่า พล.อ.เปรม และพวกพ้อง คิดอะไรกับเจ้ามากกว่าที่เห็นและเป็นอยู่..จริง !

อนึ่ง หมวด 2 แห่งรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยเรื่องพระมหากษัตริย์ ที่ท่านหวงนักหวงหนา

ไม่ยอมให้มีการแก้ไข ผมถามว่า..ผู้สำเร็จราชการแทนพระมหากษัตริย์ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งใครไว้ คือใคร ?

ขอสักนิดก็ยังดี งั้นหรือ ?

เหมือนท่านอื่นๆ

ขอหลักฐานสนับสนุนความเชื่อทั้งสามข้อด้วยครับ

ครับ คำถามนี้
ยินดี จะปฏิบัติตาม (เท่าที่พอหาได้ครับ)

ข้อ 1

ข้อ 2

ข้อ 3 เน้นคำ "มิบังควร" ควรใช้กับ พล.อ.เปรมหรือ ?

http://news.mediatha...hp?newsid=18356

พอมีเวลาหาได้
ผิดถูกช่วยชี้แนะ


และผมไม่ได้มา เพื่อดิสเครดิส พลเอกเปรม
ผมหาหลักฐานมาให้ดูเบื้องต้นเท่านั้น
ตาม่ที่สมาชิกขอมา

ผมขอจบในกระทู้นี้ครับ !

ผมไม่คิด แบบปลายอ้อ นะ
1.เชื่อว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร โค่นทักษิณ ..จริง !
คนที่ทำรัฐประหารก็บอกเเล้วว่าพลเอกเปรมไม่เกี่ยว
2.เชื่อว่า พล.อ.เปรม พยายามเลียนแบบเจ้าในหลายโอกาสและวาระ..จริง
ขอดูข่าว ที่ว่าหน่อยครับ
3.เชื่อว่า พล.อ.เปรม และพวกพ้อง คิดอะไรกับเจ้ามากกว่าที่เห็นและเป็นอยู่..จริง
ผมไม่คิดแบบนั้นนะ เพราะพลเอกเปรมรับใช้ราชวงมาก็นาน เเต่ก้ไม่เห็นจะมีข่าว ทำนองนี้ออกมา เเล้ว พลเอกเปรมก้เคยพูดว่า ทหารเป็นม้ารับใช้กษัตริย์ ถ้าคิดไม่ดีจริงๆ จะพูดไห้ทหารมีสึกนึกแบบนี้ทำไม
รึคุณ ปลายอ้อ ว่าไงครับ ลองบอกความคิดคุณมา

สรุป

ไม่มีหลักฐานแล้วจะทำ แกนนำเค้าเล่า เรื่องแบบนี้ใครๆก็รู้ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน ก็ผมเชื่ออย่างนี้

"ผมเชื่อว่า" แมนซิตี้ได้แชมป์ลีกเพราะแม้ว
"ผมเชื่อว่า" นิวคาสเซิลไม่ได้อยู่ในพรีเมียร์ลีก

กฏหมายเรื่องตั้ง ผู้สำเร็จราชการลองไปหาอ่านในรัฐธรรมนูญ 40
หรื่อก่อนหน้านั้นแตกต่างกันยังไง ปลายเอ้ย

รัฐธรรมนูญปี 40 ถูกฉีกทิ้งแล้ว
จะอ่านทำไม ให้เสียเวลา

อ่านรัฐธรรมนูญปี 50 ครับ
ที่ยังมีผลใชับังคับอยู่

เทียบกันให้เห็นเลยนะครับ สำหรับเรื่องผูสำเร็จราชการแทนพระองค์และเรื่องที่เกี่ยวกับองคมนตรีที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐

มาตรา ๑๘
ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือ จะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

มาตรา ๑๙
ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๑๘ หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่สามารถทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพราะยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะหรือเพราะเหตุอื่น ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง

มาตรา ๒๐
ในระหว่างที่ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ในระหว่างที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือในระหว่างที่ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคสอง ประธานองคมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นประธานองคมนตรีมิได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน

มาตรา ๒๑
ก่อนเข้ารับหน้าที่ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมรัฐสภาด้วยถ้อยคำดังต่อไปนี้
"ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ (พระปรมาภิไธย) และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาตามมาตรานี้

มาตรา ๒๒
ภายใต้บังคับมาตรา ๒๓ การสืบราชสมบัติให้เป็นไปโดยนัยแห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสัตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗
การแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ เมื่อมีพระราชดำริประการใด ให้คณะองคมนตรีจัดทำร่างกฎมณเฑียรบาลแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลเดิม ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อมีพระราชวินิจฉัย เมื่อทรงเห็นชอบและทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประธานองคมนตรีดำเนินการแจ้งประธานรัฐสภาเพื่อให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้รัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคสอง

มาตรา ๒๓
ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบและให้ประธานรัฐสภาอันเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะองคมนตรีเสนอพระนามผู้สืบราชสันตติวงศ์ตามมาตรา ๒๒ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ในการนี้ จะเสนอพระนามพระราชธิดาก็ได้ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์ผู้สืบราชสันติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคหนึ่งหรือให้ความเห็นชอบตามวรรคสอง

มาตรา ๒๔
ในระหว่างที่ยังไม่มีประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา ๒๓ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน แต่ในกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงในระหว่างที่ได้แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไว้ตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ หรือระหว่างเวลาที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง ให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น ๆ แล้วแต่กรณี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไป ทั้งนี้ จนกว่าจะได้ประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์
ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไปตามวรรคหนึ่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวตามวรรคสอง ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐ วรรคสาม มาใช้บังคับ

มาตรา ๒๕
ในกรณีที่คณะองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือประธานองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือมาตรา ๒๔ วรรคสอง และอยู่ในระหว่างที่ไม่มีประธานองคมนตรีหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้คณะองคมนตรีที่เหลือออยู่เลือกองคมนตรีคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประธานองคมนตรี หรือปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม แล้วแต่กรณี

http://th.wikisource..._พระมหากษัตริย์

กับ

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐

มาตรา ๑๘ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

ในเมื่อพระมหากษัตริย์จะไม่ประทับอยู่ในราชอาณาจักร หรือจะทรงบริหารพระราชภาระไม่ได้ด้วยเหตุใดก็ตาม จะได้ทรงแต่งตั้งผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ
[แก้ไข]มาตรา ๑๙ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

ในกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๑๘ หรือในกรณีที่พระมหากษัตริย์ไม่สามารถทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพราะยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะหรือเพราะเหตุอื่น ให้คณะองคมนตรีเสนอชื่อผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งสมควรดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาประกาศในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ แต่งตั้งผู้นั้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่ง
[แก้ไข]มาตรา ๒๐ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

ในระหว่างที่ไม่มีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในระหว่างที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่ง หรือในระหว่างที่ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคสอง ประธานองคมนตรีจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นประธานองคมนตรีมิได้ ในกรณีเช่นว่านี้ ให้คณะองคมนตรีเลือกองคมนตรีคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่ประธานองคมนตรีเป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
[แก้ไข]มาตรา ๒๑ (ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์)

ก่อนเข้ารับหน้าที่ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมรัฐสภาด้วยถ้อยคำ ดังต่อไปนี้
"ข้าพเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอปฏิญาณว่า ข้าพเจ้าจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ (พระปรมาภิไธย) และจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชน ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ"
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาตามมาตรานี้
[แก้ไข]มาตรา ๒๒ (การสืบราชสมบัติ)

ภายใต้บังคับมาตรา ๒๓ การสืบราชสมบัติให้เป็นไปโดยนัยแห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗
การแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะ เมื่อมีพระราชดำริประการใด ให้คณะองคมนตรีจัดทำร่างกฎมณเฑียรบาลแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลเดิมขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อมีพระราชวินิจฉัย เมื่อทรงเห็นชอบและทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ให้ประธานองคมนตรีดำเนินการแจ้งประธานรัฐสภาเพื่อให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้รัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับเป็นกฎหมายได้
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคสอง
[แก้ไข]มาตรา ๒๓ (การสืบราชสมบัติ)

ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗ แล้ว ให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบและให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
ในกรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์มิได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะองคมนตรีเสนอพระนามผู้สืบราชสันตติวงศ์ตามมาตรา ๒๒ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อรัฐสภาเพื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ ในการนี้ จะเสนอพระนามพระราชธิดาก็ได้ เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ
ในระหว่างที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุหรือสภาผู้แทนราษฎรถูกยุบ ให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาในการรับทราบตามวรรคหนึ่งหรือให้ความเห็นชอบตามวรรคสอง
[แก้ไข]มาตรา ๒๔ (การสำเร็จราชการแทนชั่วคราวระหว่างไม่มีผู้สืบราชสมบัติ)

ในระหว่างที่ยังไม่มีประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ตามมาตรา ๒๓ ให้ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน แต่ในกรณีที่ราชบัลลังก์ว่างลงในระหว่างที่ได้แต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไว้ตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ หรือระหว่างเวลาที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง ให้ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์นั้น ๆ แล้วแต่กรณี เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไป ทั้งนี้ จนกว่าจะได้ประกาศอัญเชิญองค์พระรัชทายาทหรือองค์ผู้สืบราชสันตติวงศ์ขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์
ในกรณีที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ซึ่งได้รับการแต่งตั้งไว้และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อไปตามวรรคหนึ่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานองคมนตรีทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวไปพลางก่อน
ในกรณีที่ประธานองคมนตรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ตามวรรคหนึ่งหรือทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นการชั่วคราวตามวรรคสอง ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๐ วรรคสาม มาใช้บังคับ
[แก้ไข]มาตรา ๒๕ (การปฏิบัติหน้าที่ขององคมนตรี)

ในกรณีที่คณะองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๓ วรรคสอง หรือประธานองคมนตรีจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่ง หรือวรรคสอง หรือมาตรา ๒๔ วรรคสอง และอยู่ในระหว่างที่ไม่มีประธานองคมนตรีหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้คณะองคมนตรีที่เหลืออยู่เลือกองคมนตรีคนหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ประธานองคมนตรีหรือปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา ๒๐ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือตามมาตรา ๒๔ วรรคสาม แล้วแต่กรณี


http://th.wikisource...ราช_๒๕๕๐/หมวด_๒

มีสาระสำคัญตรงไหนที่แตกต่างกันครับ???

การเมืองก็แบบนี้ เถียงกันยาวเป็นหน้าๆ
ถ้าเพียงกล้ายอมรับความจริง ตอบสองสามคำก็จบแล้ว

ท่านปลายอ้อครับ ตอนนี้อำมาตย์อายุเท่าไหร่แล้ว?

1) แปดสิบกว่าๆ ตามที่ท่านทักษิณบอก
หรือ
2) เก้าสิบกว่าๆ เพราะท่านทักษิณบอกไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้น่าจะเกินแล้ว

ขอตอบจากใจจริงนะครับ รู้ไม่รู้ใจทักษิณไม่ว่ากัน

วันนี้ เห็นผู้ตรวจการอะไรสักอย่าง ออกมาบอกว่านายกฯไม่ผิดอะไรสักอย่าง แล้วก็ยกคำร้อง

ไม่รู้ใครไปร้อง ร้องด้วยเรื่องอะไร ?

ดูหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่มีจริต และจิตใจคล้ายๆกัน..

ประเภทว่า คนคล้ายกัน ก็ต้องอยู่ด้วยกัน

ถ้าเป็นลูกผู้ชายจริง
โปรดรับผิดชอบ ที่เอาเรื่องโกหก ใส่ความผู้อื่นมาเผยแพร่ด้วย

ขอถามจขกทหน่อยครับว่า โครงการที่ว่านี้เป็นของภาคเอกชน ภาครัฐ หรือกทมครับ

*ขวามือคือรั้วโครงการหมู่บ้านแสนสิริ

โครงการของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ทีมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็น รมต.
ก่อสร้างโดยบริษัทอิตาเลียน-ไทย และบริษัทนวรัตน์
ชัดไหมว่า นี่คือ การทุจริตเชิงนโยบาย ที่เอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชน คือ แสนสิริ ที่กำลังก่อสร้างหมู่บ้านอยู่ด้านใน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เปิดให้จอง
ฝั่งตรงกันข้ามที่น้ำท่วม มีค่ายทหาร มีบ้านประชาชนมากมาย ไม่มีโครงการก่อสร้างผนังกั้นน้ำแต่อย่างใด
ฝั่งที่น้ำไม่ท่วม กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างกันใหญ่

ตอน : My slip (เงินเดือน) is coming soon 31 ม.ค. เจอกัน

http://webboard.seri...n-31-มค-เจอกัน/


ปฐมบทของปฏิบัติการลอกวานคางคูด ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ สรท. เมื่อ 26 มกราคม 2555 เวลา 09:02 มหากาพย์ที่แม้แต่จ่าพิชิตยังเอาไปเป็นดราม่า คางคูดเปิดตัวอย่างงดงาม กับมหากาพย์ลวงโลก มาชม Review ย้อนความทรงจำกัน สำหรับเพื่อนๆสมาชิกที่ขี้เกียจคลิ๊กอ่านยาวๆ

เตรียมจ๋อยได้เลยะแมงหวาป ไอคางคูดเค้าว่ามางั้น

เยาะเย้ยเพื่อสมาชิกสุดฤทธิ์

ยังมีหน้ามาบอกว่า " พูดความจริงแล้วสบายใจ " ดูมันไอคางคูด

แหมมีบ่นท้อด้วยนะ ไอคางคูด ไม่คิดใช่ไหมว่าจะมีวันนี้

นี่เป็นไงละ ไม่สลด " ไม่แน่จริง ไม่ตั้งกระทู้หรอกว้อย " คางคูดมั่นสุดๆ หรอยๆพี่หลวง

นี่ยังโม้เรื่องงานคุมคอนโดด้วย ลองหลับตาคิดซิครับว่า แบบนี้เค้าน่าจะทำมาหากินอะไร

อุส่าซื้อยา " โลโมติล " มาตุนซะด้วย พ่อคู๊ณ ช่างรอบคอบจริงๆไอคางคูด

อุ้ย 30 ม.ค.แล้วหรือนี่ คางคูดไม่ยี่หระ สบายๆ นั่งจิบชาเบาๆ เป็นไงล่ะ แมงวาปเตรียมหงายเงิบ

ยังโม้รสนิยมกินชาให้เพื่อนๆฟังซะด้วย

ใกล้ถึงเวลาแล้ว คางคูดออกตัว เรื่องบริษัทก่อนเลยว่า ไม่ได้ใหญ่โตน้า

อาจจะมีเพื่อนสมาชิกบางคนไม่คุ้นหูก็ได้

ว้าว เรียกไปรับสลิปแล้ว

มาเต็มครับทั้งชื่อ-สกุล และเชื่อบริษัท นี่ของเดือนที่แล้ว

นี่ 15,000 เห็นๆ

แต่ต่อมาไม่นานเพื่อนสมาชิกหลายท่านเห็นถึงความไม่ปกติของสลิปเงินเดือนของคางคูด

บางท่านถึงขนาดคำนวนให้เบ็ดเสร็จ

เพื่อนสมาชิกบางท่านก็แนะนำหาทางออกให้ ด้วยการตรวจสอบจากหน่วยงานของรัฐ

และบางท่านถึงขนาดกรุณาไปตรวจสอบเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้คางคูด แล้วผลเป็นไงดูเอาครับ

ต่อมามีเพื่อนสมาชิกได้ตรวจสอบภาพถ่ายสลิปของคางคูด ผลปรากฎว่า

ถามว่าคางคูดกลัวไหม ตอบเลย ไม่กลัว เตรียมตอกกลับให้พวกแมงวาปหงายเงิบ

เพื่อนสมาชิกชี้จุดผิดสังเกตุตลอดจนหลักฐานการพิสูจน์ภาพถ่ายมาชี้แจง คางคูดมันว่าไง มันโบ้ยให้ออฟฟิศชิบ แถมมีหน้าจะเล่นงานลูกน้องในออฟฟิศด้วย โดยข้ามประเด็นเวลาในการถ่ายรูปภาพส่งมาประหนึ่งมองไม่เห็น

นี่เป็นกระทู้ที่เสียสติที่สุดแล้ว