Jump to content


คืนหมาหอน

Member Since 29 September 11
Offline Last Active 7 February 14 10:52
-----

#796250 พระเจ้าอยู่หัว และ พระราชินี เสด็จฯออกจากศิริราช แปรพระราชฐาน ณ วังไกลกังวล

Posted by หมาเน่า on 1 August 2013 - 17:51

G6DU9s.jpg

 

 

 

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน




#796224 พระเจ้าอยู่หัว และ พระราชินี เสด็จฯออกจากศิริราช แปรพระราชฐาน ณ วังไกลกังวล

Posted by tabbar on 1 August 2013 - 17:02

995455_10201098710563252_939816725_n.jpg,

 

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน




#763479 ทำไมยิ่งลักษณ์...............ชอบวิ่งหนีนักข่าว.............

Posted by คนบูรพา on 26 June 2013 - 20:03

ดูข่าวเมื่อกี้......... "อีเม้ย" .........มันวิ่งหนีนักข่าว....ที่ตามสัมภาษณ์มัน......

 

 

ยังกะหมา......วิ่งหนีน้ำร้อน...........เห็นแล้วอนาจใจ.......พูดได้คำเดียว....ว่า..........

 

 

 

"ถ้าตอบคำถามนักข่าวแค่เนี๊ยะ.....และให้ความกระจ่างกับสังคมไม่ได้.......ม รึง ก็ลาออกไปซะ อี โง่"

 

970514_270297353116616_403554603_n.jpg




#755531 เสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง เวอร์ชัน อยากให้ ดร.โสภณ พรโชคชัย อยู่ในบอร์ดต่อไ...

Posted by pookem on 20 June 2013 - 00:37

เสน่ห์ของประชาธิปไตย คือความแตกต่าง..

 

เราควรให้โอกาสเขาแสดงความคิดเห็น..

 

แม้ว่าเราจะไม่ชอบ..

 

ไม่เห็นด้วย..

 

เพราะนี่คือการเคารพสิทธิ์ ซึ่งกันและกัน..

 

ส่วนการใส่ อารมณ์ ความรู้สึกลงไปในความเห็นนั้น..น่าจะมีกันทุกคน

 

และผมเชื่อว่า ทุกคนในที่นี้..มีสติปัญญา..มองออก..ว่าอะไรเป็นอะไร..




#726566 เรื่องเท็จ ทำไมแอมเวย์เฉย:

Posted by tonythebest on 27 May 2013 - 07:59

นี่ดอกเตอร์ถึงกับเชื่อว่า
คนระดับประธานาธปดีและอดีตคนดังของโลก
ขายแอมเวย์ จนถึงกับต้องไป search หาเลยหรือครับ
ไม่แน่ใจว่าในข่าว พวกท่านขายให้ตะวันออกกลางหรือเปล่า


:D


#726471 เรื่องเท็จ ทำไมแอมเวย์เฉย:

Posted by Et tu Brute? on 27 May 2013 - 05:31

เค้าคงเห็นด้อกหน้าตาโง่ๆ มั้งครับ

เลยกะจะหลอกเสียค่าสมัคร  :D




#584321 พระเอกลิเกมาร์คยังแอ็ค ทำท่าเกี้ยเซี้ยคางคก เก็บฉากได้แล้ว ลิเกเลิก

Posted by Can Thai on 31 January 2013 - 10:49

กรณีคางคกจะขอถอนคำพูดหลังพูดจาปราศรัยหมิ่นมาร์ค เมื่อเช้าพระเอกมาร์คยังทำเท่ บอกว่าต้องเคารพศาล ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิ์ของตัวเอง

ถ้ายังกั๊กๆ จะเกี้ยเซี้ยคางคก ก็เลิกหนุนได้เลยครับ ประเทศนี้ไม่ต้องการพระเอกใจงาม

แต่ต้องการคนเด็ดขาดมาเป็นนักการเมือง

ไม่สนับสนุนพวกเก่งแต่ปากครับ เลิกเชียร์ได้แล้ว


#502211 === กระทู้สลิปเงินเดือน

Posted by ตะนิ่นตาญี on 21 November 2012 - 19:18

win


555+ :D ขอแสดงความยินดีกับ คุณพันไมล์ ด้วยครับ

ทานข้าวด้วยกันนะครับ คุณพันไมล์

ตะนิ่นตาญี


#501278 ภาพชายชุดดำพร้อมอาวุธ ยิงสู้กับทหาร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

Posted by นารายณ์สังหาร on 21 November 2012 - 11:06

อ่ะ พอดีมีเวลาว่างนิดหน่อยก่อนประชุม อำมาตย์แบบผมจะลงมาเล่นกับไพร่แบบสิงห์ด้วยนิดๆหน่อยๆพอหอมปากหอมคอ ..แต่หวังว่าคงไม่ตั้งตำถามโง่ๆ ตามสไตล์ไพร่แดงต่อนะ เพราะผมไม่มีเวลาให้คนประเภทคุณมากนัก

ม้อบเสื้อแดงมีอาวุธมาตั้งแต่ก่อน 10 เมษาแล้ว ......เพราะอะไร เชื่อมโยงจากภาพคุณ Redspy คงไม่มีใครกังขาแล้วว่านั้นคือ ปืนอาก้าในม้อบเสื้อแดงเมื่อ 10 เมษายน 2553 .....

เพราะปืนที่เสื้อแดงยึดไปจากทหารเป็น TAR-21 และ M-16 ซะเกือบทั้งหมด..ซึ่งเป็นปืนที่ทหารใช้ในการเข้าสลายม้อบกบฎไพร่แดง...ในเมื่อปืนอาก้ามันมาโผล่ในวันที่ 10 เมษาได้...และมีการใช้กำลังอย่างเป็นขั้นตอน ในการยิงกับทหารที่ถนนดินสอ....แสดงว่าม้อบเสื้อแดงเอง มีอาวุธมานานแล้ว... เพราะถ้าไม่มีอาวุธแล้วคงไม่มีไอ้บ้าที่ไหนวางแผนการรบ สามารถยันกับทหารได้หรอก เวลาวางแผนการรบ มันต้องเอาทุกอย่างมาวางบนโต๊ะแล้วคำนวณ วางแผน.... ถ้าเสื้อแดงไม่มีอาวุธ...คงไม่สามารถวางแนวรับทหารได้แบบในวันที่ 10 เมษาหรอกครับ ... จากการเชื่อมโยงดังนี้ ก็ประเมินได้แล้วว่า เสื้อแดงมีอาวุธมาตั้งแต่ก่อน 10 เมษา แน่นอน ......

ส่วนเรื่องยิงประทับซ้าย ..... โดยทั่วไปปืนมันมีช่องคัดปลอกอยู่ทางขวาครับ เพื่อป้องกันไม่ให้ปลอกกระสุนมันกระเด็นมาโดนหน้า

....โดยปกติการฝึกยิงปืนนั้น...จะต้องฝึกยิงทั้งซ้ายทั้งขวา..เพราะเวลาทำการรบ การเข้าที่กำบังมันบังคับให้เราต้องทำการยิงในอีกมุมหนึ่ง .....
ที่ผมบอกว่าไม่ธรรมดาเพราะ ... โดยธรรมชาติของทหารที่ทำการยิงปืนนั้น เค้าจะยิงปืนทางขวา เพื่อป้องกันเหตุการณ์ด้านบน.. แม้จะเป็นคนถนัดซ้ายก็ตาม......แต่การยิงทางด้านซ้ายนั้น ก็ต้องสามารถทำได้เช่นกัน เพราะในสถานการณ์การรบ เรา "เลือกไม่ได้" ว่าจะยิงข้างไหน เพราะสภาพพื้นที่มันบังคับ.......


นั่นแสดงว่า ไอ้คนในรูปที่ประทับปืนข้างซ้าย ต้องถูกฝึกมาในระดับนึงแน่นอน...ยิ่งย้ำชัดเข้าไปอีกว่านี่คือ กองกำลังติดอาวุธเสื้อแดง....และอาจจะเป็นกลุ่มเดียวกับคนที่ยิงนายวสันต์ อีกด้วย !!


ผมตอบน่าจะชัดเจนตามประเด็นนะ หวังว่าสิงห์ก้อปปี้คงไม่ตั้งคำถามโง่ๆ
เพื่อแถออกนอกประเด็นที่ว่า "ในกลุ่มคนเสื้อแดงมันมีอาวุธ" อีกล่ะ

อำมาตย์แบบผม ไม่มีเวลามาดูแลไพร่ในระดับคุณมากนัก

ขอบคุณ


#498510 เอาสุภาษิตสอนหญิงมาฝากยิ่งลักษณ์-"คุณสะกดคำว่า 'กุลสตรี' เป็นไหม...

Posted by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ on 19 November 2012 - 17:16

สุภาษิตสอนหญิง ท่านสุนทรภูู่ พุทธศักราช 2350

ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์ บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล
สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา
นายกปู โอบาม่า ประหลาด.jpg


อนึ่งเนตรอย่าสังเกตให้เกินนัก จงรู้จักอาการประมาณหมาย
แม้นประสบพบเหล่าเจ้าชู้ชาย อย่าชม้ายทำชะม้อยตะบอยแล
นายกปู อ้อล้อ โอบาม่า 5.jpg


อันนัยน์ตาพาตัวให้มัวหมอง เหมือนทำนองแนะออกบอกกระแส
จริงมิจริงเขาเอาไปเล่าแช คนรังแกมันก็ว่านัยน์ตาคมฯ
obama shame.jpg


อันที่จริงหญิงชายย่อมหมายรัก มิใช่จักตัดทางที่สร้างสม
แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์ อย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคี
นายกปู อ้อล้อ โอบาม่า 6.jpg


ถ้าจะนั่งก็นั่งระวังผ้า ไม่อาฌาเขาจะพากันยิ้มหัว
ยามสำรวลก็อย่าสรวลให้เมามัว แม้นจะหัวหัวร่อพอสบาย
นายกปู อ้อล้อ โอบาม่า 3.jpg


เมื่อยามยิ้มยิ้มไว้แต่ในพักตร์ อย่ายิ้มนักเสียสง่าพาสลาย
อย่าเท้าแขนเท้าคางให้ห่างกาย อย่ากรีดกรายกรอมเพลาะเที่ยวเราะเริง
นายกปู อ้อล้อ โอบาม่า 1.jpg


#493807 ข่าววงใน ไม่อยากให้เชื่อ เรื่องยุทธการ เชือดควายให้เอี้ยดู

Posted by นารายณ์สังหาร on 16 November 2012 - 12:30

บางอย่างถึงรู้ .....แต่ก็ป้องกันไม่ได้....ไม่ใช่ยากจะป้องกันนะ แต่ป้องกันไม่ได้เลย... :)


#455024 ทหารบนรางรถไฟฟ้า 19 พค. คลิบมะเขือเทศลวงโลก

Posted by amplepoor on 17 October 2012 - 22:03

มะเขือเทศกลุ่มหนึ่ง ชวนกันขึ้นไปบนดาดฟ้าสตช. ถ่ายคลิบมาชุดหนึ่ง
ส่งให้เครือข่ายสื่อนรกเลียทรราช ประโคมข่าวลวงโลกว่าเป็นคลิบเมื่อค่ำวันที่ 19 พค 2553
แสดงถึงทหารกำลังยิงผู้ประท้วงในวัดปทุม

บัดนี้ ความจริงเปิดเผยแล้ว ว่าคลิบนี้ไม่ได้ถ่ายเมื่อวันที่ 19
แต่ถ่ายหลังจากนั้น

กระทู้นี้ จะแสดงข้อมูลจับผิดมะเขือเทศเน่าๆ เหล่านั้น








ปล
ขออภัยที่ต้องตั้งกระทู้ใหม่
แต่ก็ทำให้ถลกหนัง HERE ได้ถนัดมือยิ่งขึ้น


#453579 ดูผลประมูล 9 slots ระบบ 3 G เหมือนไม่ค่อยมีการแข่งขันเท่าไร เพื่อนๆ คิดอย่างไร

Posted by เช never die on 16 October 2012 - 20:25

ใจผม ราคาได้เท่านี้ผมไม่คิด เพราะคนที่ได้ไปทั้งสามเจ้าต่างก็ต้องไปลงทุนเพิ่มอีกไม่น้อย

ที่ผมกลัวก็คือการฮั้วการให้บริการมากกว่า ถ้าสมมุติบังเอิญว่ามีการซิกแซ็กแล้วได้ไปแค่สองเจ้า อันนี้จะน่ากลัวกว่า เพราะจะกลายเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ไม่มีการฮั้วค่าบริการ และนั่นจะทำให้ผู้ใช้บริการโดนโขกราคาแบบมัดมือชก เหมือนที่สมัยไอ้แม้วเคยเทคโอเวอร์สามารถ 1800 Mghz

แต่จากที่เป็นอยู่นี้ พอมีผู้ให้บริการใหญ่ๆสามเจ้า แน่นอนการแข่งขันการให้บริการจะต้องดุเดือดเลือดพล่านแน่ และนั่นผลประโยชน์เนื้อๆก็จะไปตกอยู่กับผู้ใช้บริการแน่นอน

เป็นมุมมองของผมครับ


#430934 สิ่งที่อยู่ในบ้านของผม และผมไม่เคยสนใจหรือมองเห็นค่าของมันเลย (ถ้าสนใจกับมัน...

Posted by โจโฉ นายกตลอดกาล on 27 September 2012 - 18:35

ตามหัวข้อกระทู้ครับ มันคือ "ขยะ"

จริงๆแล้วผมไม่ได้เห็นค่าอะไรมันเลย จนเพื่อนคนหนึ่งมาที่บ้าน

แล้วเห็นเด้กในบ้านผมกำลังทิ้ง "ขยะ" เขาก็ห้ามบอกว่าไม่ได้ๆ

แกมสอนโน่นนี่นั่นกับเด็ก แถมให้เก็บ "ขยะ" ไว้ในบ้านอีก

ผมก็ปล่อยๆไป ให้เด็กมันลองทำดูปรากฎว่าเมื่อเย็นนี้

ผมกลับมาบ้าน เด็กเอาเงินมาให้ผมเป็นเงิน 4765 บาท

ผมก็ งง เลยดิครับ ถามว่าเงินอะไร เอามาให้ทำไม

เด็กบอกว่าเงินจากการขายขยะ ผมร้องเสียงหลงเลย

นี่มันได้ "ค่ากับข้าว" เลยนะนี่ เลยถามเด็กแบบไล่เลียงดูว่าเอาอะไร

ไปขายบ้าง เด็กก็ไล่ให้ฟัง หนังสือพิมพ์ กระดาษ พลาสติก กระป๋อง

และแจงว่ามีของรอบริจาคอีก 2 ถุง เฮ้ย ของรอบริจาคอะไรอีก

ผมเริ่ม งง อีกครั้ง พาลไปนึกถึงเจ้าเพื่อนตัวดีแนะนำให้ทำอะไรอีกหว่า

สรุปของที่บริจาคมันคือ "กล่องนม" กับ "ห่วงอะลูมิเนียมจากกระป๋อง"

ผมโทรถามเพื่อนผมทันทีและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง

เหมือนกับที่กำลังเล่าในเสรีไทยนี่แหละ เพื่อนผมบอกว่า

"กล่องนม" เอาไปบริจาคที่บิ๊กซี เพื่อทำหลังคามุงบ้านคนที่ประสบภัย

"ห่วงอะลูมิเนียม" เอาไปบริจาคทำขาเทียม

ไอ้ห่วงอะลูมิเนียมนะพอรู้ว่าไปทำอะไร แต่มีบริจาคกล่องนมด้วย

ความรู้ใหม่จริงๆ และขยะจากบ้านผมกองโตก็ลดลงโดยการแยกขยะ

ที่ขายได้ บริจาคได้ และ ทิ้งได้ เพื่อนผมคนนี้เป็นอาจารย์เกษียณแล้ว

ไม่นึกว่าเรื่องหยุมหยิมแบบนี้จะกลายเป็นเงินเป็นทองขึ้นมาได้

แถมกล่องนมของเจ้าหลานตัวแสบทั้งห้าก็เอามาช่วยคนได้อีก

พรุ่งนี้เพื่อนผมก็จะมารับของไปบริจาคให้.....

ลองดูครับ เผื่อบ้านของเพื่อนสมาชิกจะมีอะไรเปลี่ยนไปเหมือนบ้านผม

ปล. ถ้า Mod เห็นว่าไม่เป็นสาระอะไร จะลบหรือย้ายก็ได้ครับ


#429823 คนไทยเหล่าใดได้อ่านแล้ว...ไม่เข้าถึงหัวใจ...มันก็คงไม่ใช่คนไทย...

Posted by wat on 26 September 2012 - 21:43

King of the Kings (บทความ ดร.วิษณุ เครืองาม)

ในฐานะที่ทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาลโดยหน้าที่ต่างๆกันถึง 15 ปี ผมขอยืนยันว่าพระองค์ทรงมีมาตรฐานเดียวโดยตลอด จะต่างกันก็ที่โอกาสเช่น คณะรัฐมนตรีบางคณะเข้ามาในช่วงที่ทรงพระประชวร บางคณะมีราชการงานเมืองต้องเข้าเฝ้าฯ ขอพระราชทานมหากรุณาบ่อยหรือห่างตามเหตุการณ์

ในการมีพระราชดำริ พระราชดำรัส และการทรงงานใดๆ ไม่มีเลยสักเรื่องที่จะแสดงว่าทรงรับเอาประโยชน์ส่วนพระองค์แม้พสกนิกรจะเต็มใจถวาย

สมัย จอมพลถนอมเป็นนายกฯ คราวหนึ่งประจวบโอกาสครองราชย์ครอบ 25 ปี (พ.ศ. 2514) รัฐบาลจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์และถาวรวัตถุใหญ่โต ที่สุดในประเทศ ถวาย รับสั่งว่า สิ้นเปลืองและไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน สร้างถนนกันรถติดดีกว่า นี่คือที่มาของถนนรัชดาภิเษก

สมัยคุณ บรรหารเป็นนายกฯ เคยกราบบังคมทูลว่า จะสร้างทาวเวอร์หรือหอคอยสูงใหญ่ข้างสะพานพระราม 9 ใช้เป็นหอดูวิว หอโทรคมนาคม และเฉลิมพระเกียรติ รับสั่งว่า เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ต้องสร้างหอโทรคมนาคมและเปลืองเงินเปล่าๆ

นายกฯคนหนึ่งเคยกราบบังคมทูลถามว่า ที่ พระอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ตอนพลบค่ำคนมักมาจุดประทัดแก้บน บางทีก็ยิง ปืนสนั่นหวั่นไหว ดังรบกวนมาถึงสวนจิตรฯ หรือไม่ รับสั่งว่า อยู่ที่หลักการว่าทำอย่างนั้นผิดกฎหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องห้าม แต่ถ้าเป็นเสรีภาพก็ต้องปล่อยไป รำคาญหนวกหูก็ต้องทน อย่าใช้มาตรฐานสวนจิตรฯ หรือทำเนียบรัฐบาลมาตัดสิน

สมัยนายกฯทักษิณ เคยกราบบังคมทูลว่าเมื่อประทับรักษาพระองค์ที่วังไกลกังวลอย่างนี้ รัฐบาลจะขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สำนักพระราชวังปรับปรุงวังไกลกังวล ให้สะดวกสบายสมกับที่จะใช้เป็นที่ประทับยาวนาน รวมทั้งจะปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหินให้ทันสมัยพร้อมทุกประการ รับสั่งว่า การปรับปรุงโรงพยาบาลเป็นประโยชน์แก่ทุกคนถ้ามีงบก็ควรทำ แต่การปรับปรุงวังไกลกังวลเป็นเรื่องพระสำราญ แค่นี้ก็พออยู่พอเพียงแล้ว

รัฐบาลหลายคณะเคยออกกฎหมายที่มุ่งจะเฉลิมพระเกียรติเช่นมีคำว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช มีพระราชกระแสให้รัฐบาลนำกลับไปปรับปรุงเพราะ ไม่อาจทรงสถาปนาพระองค์เองได้ เช่นเดียวกับที่ใน พ.ศ. 2512 ไม่ทรงลงพระปรมาภิไธย ในร่างพระราชบัญญัติยศทหารซึ่งถวายพระยศ ทางทหารเป็น จอมพล จนร่างพระราชบัญญัตินั้นตกไปเองในที่สุด

รัชกาลนี้ทรงลงพระปรมาภิไธยตรากฎหมายมาแล้ว ทั้งที่เป็นพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกานับหมื่นฉบับ ทรงวินิจฉัยฎีกานักโทษ ฎีการ้องทุกข์ขอพระราชทานความเป็นธรรมอีกหลายพันราย บางรายขอพระราชทานยืมเงิน บางรายขอความเป็นธรรมเรื่องแต่งตั้งโยกย้าย

รายหนึ่งพ่อตาย ลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อ อยู่มาก็ไม่ยอมสึก แม่มีลูกชายคนเดียวทำหนังสือถวายฎีกาว่าเดือดร้อนหนัก ขอพระมหากรุณาให้ลูกสึกมาช่วยเลี้ยงแม่เถิด โปรดให้ตรวจสอบแล้วมีพระราชกระแสว่า แท้จริงแม่ไม่ได้อยากให้ลูกสึก แต่ปัญหาคือแม่ลำบากยากจน จึงโปรดให้กรมประชาสงเคราะห์เข้าไปช่วยดูแล สอนอาชีพให้และหาเครื่องมือทำมาหากินไปให้แม่ ลงท้ายแม่ก็ทำมาหากินได้ ส่วนลูกก็อยู่ไปจนเป็นสมภาร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสงเคราะห์ทั้งส่วนรวมและพระองค์เองเพื่อจะได้มีพระอนามัยดี ทรงงานเพื่อส่วนรวมต่อไป จึงทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ ทรงเล่นคอมพิวเตอร์ ทรงฉายภาพ ทรงกีฬา ทรงวาดรูป ปั้นรูป ทรงงานไม้งานช่าง จะทรงจับงานด้านใดก็ทรงทำได้ดี ที่คนไม่ใคร่ทราบคือ ทรงสนพระราชหฤทัยเป็นพิเศษในเรื่องภาษาไทย การศึกษา ระบบสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข และพุทธศาสนา ส่วนที่ทรงพระปรีชาทางดิน น้ำ ระบบระบายน้ำ และการแก้ปัญหาจราจรนั้นเป็นที่ทราบทั่วไปอยู่แล้ว

เมื่อครั้งยังเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมเคยได้รับพระมหากรุณาพระราชทานคำแนะนำเรื่องการใช้ถ้อยคำภาษาไทยหลายหน ครั้งหนึ่งได้ถวาย รายชื่อ บุคคลให้ทรงแต่งตั้ง รับสั่งถามว่า ตั้งกี่คน ผมกราบบังคมทูลว่าคนเดียว ตรัสว่าคนเดียวเรียกว่า ชื่อ ถ้า รายชื่อ ” ต้องหลายคน อีกคราวหนึ่งมีหนังสือกราบบังคมทูลว่า ทูลเกล้าทูลกระหม่อมมาเพื่อทรงพิจารณา ทรงพระสรวลตรัสว่า ถ้าทูลเกล้าทูลกระหม่อมก็อยู่บน กระหม่อมยังไม่ถึงฉัน ถ้าจะให้ถึงฉัน ต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายมาเพื่อทรงพิจารณา

ในทางพระพุทธศาสนาก็ปรากฎว่าทรงรอบรู้ทั้งในทางปฎิบัติและปริยัติ ทรงรู้จักพระเป็นอันมาก เมื่อตรัสถึงเหตุการณ์ครั้งใดจะทรงย้อนไปถึงเรื่องราวครั้งเก่าก่อน เช่น ครั้งสมเด็จพระสังฆราชยังเป็นพระญาณวราภรณ์ ” “ ครั้นเจ้าคุณประยุทธยังเป็นพระราชวรมุนี และเคยตรัสเล่าเรื่องราวความเป็นอัคร ศาสนูปถัมภก ว่า ต้องทรงอุปถัมภ์ และคุ้มครองทุกศาสนา โดยไม่เลือกปฎิบัติ ทรงเล่าพระราชทานว่า ครั้งหนึ่งควีนจากประเทศหนึ่งทูลถามว่า พุทธศาสนาไม่มีพระเจ้าแล้วชาวพุทธนับถืออะไรกัน เหตุใดไม่ยกพระพุทธเจ้าเป็น god เสียเลย ได้ทรงตอบว่า พุทธศาสนานับถือ ธรรม เรานับถือธรรมยิ่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก เพราะธรรมเป็นเครื่องคุ้มครองโลก และได้ตรัสเล่าต่อไปว่า แม้ศาสนาอื่นก็ยังต้องทรงอุปถัมภ์ ฉะนั้นในฝ่ายพุทธศาสนาขอให้ทุกคนวางใจเถิดว่า จะเป็น เถรวาท มหายาน รามัญนิกาย มหานิกาย ธรรมยุต ก็ต้องทรงคุ้มครองและพระราชทานความเป็นธรรมเสมอกัน

รัชกาลที่ 5 นั้น อะไรที่ไม่เคยมีและไม่มีคนไทยคนใดนึกว่าชีวิตนี้จะมี แต่ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีขึ้นเป็นขึ้นทั่วถ้วน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล รถไฟ ไปรษณีย์ เลิกทาส จนคนรุ่นก่อนหน้านั้นต้องคิดว่าเหลือเชื่อ แต่รัชกาลที่ 9 นั้น อะไรที่ควรจะมี ควรจะคิดออก ควรจะทำเป็นนานแล้ว แต่ผู้มีอำนาจหน้าที่ไม่ใคร่คิดไม่ใคร่ทำ ก็ทรงบันดาลหรือวางรากฐานให้มีให้เป็นขึ้น เช่น เขื่อน ฝาย ประตูระบายน้ำ ถนน สะพาน การสงเคราะห์คนเป็นโรคเรื้อน คนประสบภัยธรรมชาติ การแก้ปัญหาจราจร การเพิ่มผลผลิตการเกษตร การแก้ปัญหาความยากจน ปัญหาพลังงาน

สมัยผมเป็นเลขาธิการ ครม. ต้องทูลเกล้าฯถวายเอกสารใส่ซองขนาดใหญ่สีขาว เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย รับสั่งต่อไป หน้าซองไม่ต้องเขียนเลขที่หนังสือ จะได้หมุนเวียนกลับลงมาใช้หลายหนไม่ต้องทิ้ง แม้แต่เรืองเล็กๆ ก็ควรประหยัด เวลาร่างกฎหมายโปรดให้ถวายปะหน้า 2 แผ่น เผื่อว่าทรงลงพระปรมาภิไธยแล้วหมึกซึมเลอะ จะได้ประหยัดเวลาไม่ต้องรอถวายใหม่ เวลาตั้งรัฐมนตรีใหม่จะต้องเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฎิญาณ จะตรัสว่าให้รีบมาจะได้รีบไปทำงานไม่ต้องห่วงว่าติดเสาร์อาทิตย์ ประเทศไทยพระเจ้าแผ่นดินไม่มีวันหยุดราชการ

พระมหากรุณาธิคุณปานนี้จะหาได้จากที่ไหนอีก เจ้าประคุณเอ๋ย!

ปี 2538 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีสวรรคต ลองคิดดูว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จะทรงวิปโยคขนาดไหน เสด็จไปทรงสดับพระพิธีธรรมที่พระที่นั่งดุสิตฯ ทุกราตรี แต่ทราบกันบ้างหรือไม่ว่าพอพระสวดจบ เสด็จลงมาประทับที่พระที่นั่งราชกรัณยสภาใกล้ๆกัน พระราชทานคำแนะนำการแก้ปัญหาจราจรแทบทุกคืน

ปี 2553 อยู่ระหว่างประชวรประทับในโรงพยาบาล พระราชกรณียกิจอื่นภายนอกโรงพยาบาลทรงงดเสียเกือบสิ้น แต่การเสด็จไปเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ทอดพระเนตรโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและเปิดสะพานระบายการจราจรเพื่อพสกนิกรของพระองค์เป็นเรื่องที่ทรงถือเป็นกิจสำคัญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเป็นยอดแห่งผู้อดทนอดกลั้น ในการประกอบพระราชกรณียกิจนั้นย่อมมีทั้งร้อนทั้งหนาวยาวนานและน่าเหนื่อย หนัก ดูเอาจากการพระราชทานปริญญาบัตรเถิด แม้แต่ที่ต้องทรงอดกลั้นด้วยขันติบารมีในคำจ้วงจาบหรือระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทอีกไม่รู้เท่าไร อย่าลืมว่าพระชนมพรรษา 83 แล้ว ทรงงานมา 64 ปีแล้ว


ดะไลลามะเคยพูดว่า ใครอย่ามาชมตัวท่านเลยว่าเป็นยอดคน ไปดูที่พระเจ้าแผ่นดินเมืองไทยเถิด

ผมเคยไปเฝ้าฯ เจ้าชายจิกมี กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฎาน ตรัสว่า กษัตริย์ของท่านเป็นแบบอย่างของข้าพเจ้าในการจะครองราชย์ให้คนรัก

สุลต่านบรูไนที่เป็นผู้แทนกษัตริย์ 25 ประเทศ ถวายพระพรในคราวฉลองการครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี เมื่อ พ.ศ. 2549 เคยทูลว่าการครองราชย์นานถึง 60 ปีเป็นเพียงตัวเลข สำคัญอยู่ที่ว่า 60 ปีนั้นได้ทำอะไรเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ฝ่าพระบาททรงทำทุกอย่างตลอด 60 ปี ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวไทย ชาวเอเซีย และชาวโลก วาระนี้จึงทรงเป็นความภาคภูมิใจของบรรดาพระราชามหากษัตริย์ทั้งปวงโดยทั่วกัน

เมื่อวันเฉลิมพระชนมพรรษาปี 2552 มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า ความสุขความสวัสดีของพระองค์จะมีได้ก็ด้วยการที่บ้านเมืองมีความเรียบร้อย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระองค์นี้มีแต่ทรงให้พวกเรามาตลอด แต่พระราชดำรัสนี้มีนัยเป็นทั้งสิ่งที่ ทรงหวัง ” “ ทรงบอกให้รู้ และ ทรงขอ ซึ่งน่าจะทรงประสงค์ยิ่งกว่าคำถวายพระพร ทรงพระเจริญ ไหนว่า ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดังหวังวรหฤทัย แล้วเรื่องอย่างนี้เราคนไทยจะพร้อมใจกันจัดถวายได้ไหมครับ

:mellow: อ่านกี่ครั้งก็ซึ้งถึงพระบารมีปกเกล้า ปกกระหม่อม...