Jump to content


blue

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 7 พฤศจิกายน 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2557 11:23
-----

#1168603 ผิดหวังกับวุฒิสภา สุดๆ

โดย blue on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:49

ที่ สว เขาแถลงออกมา ผมว่า ความกดดันมันไปอยู่ที่ รัฐบาล กับ พวกเสื้อแดง

ที่ชุมนุมกันอยู่มากกว่า แต่ กปปส กลับพยายามเอามากดดันตัวเอง

 

เขาเดินสาย หาความชอบเหมือนที่อภิสิทธิ์ทำ เพียงแต่ทำมากกว่าอภิสิทธิเยอะ

เพราะมีทั้ง กองทัพ นักธุรกิจ สื่อมวลชน สถาบันการศึกษา ฯ ทุกภาคส่วนล้วนเห็นด้วย

กับสิ่งที่ สว ทำ ที่เหลือก็คือ รัฐบาล กับ กลุ่มเสื้อแดงเท่านั้นที่ยังไม่ยอมมาคุยด้วย 

 

ถ้ารัฐบาล และเสื้อแดงปฏิเสธ ก็เท่ากับเป็นส่วนน้อยของภาคประชาสังคมแล้วนะ

สิ่งที่ กปปส ควรทำก็คือ รอดูไปก่อน ระหว่างรอดูไปก่อนนี่ ก็ควรให้ทนายความไปร้องศาล

ขอให้ยกเลิกหมายจับไปพลาง ๆ ก่อนดีกว่า จะได้ไม่กดดันมาก




#1165084 ม๊อบเก่าไป ม๊อบใหม่มา ล้าน%

โดย blue on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 12:38

ทำประชามติเรื่องนายกคนกลาง ก็เหมือนไปจุดชนวนให้เกิดความแตกแยกทั้ง

ประเทศนั่นแหละ เพราะมันจะเกิดการไปปลุกระดมกันอย่างกว้างขวางกว่าที่เป็นอยู่

ปัจจุบัน

 

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เสื้อแดงที่ชุมนุมอยู่ ตอบตัวเองได้หรือเปล่าว่า ไม่ต้องการนายก

ที่วุฒิสภาดำเนินการ เพราะรักประชาธิปไตย หรือต้องการรักษาสถานะภาพของ "ติ่ง"

ที่นายกปู ทิ้งไว้เพื่อขวางการพัฒนาของประชาธิปไตย 




#1161354 ชูวิทย์ คือคนของรัฐบาลไหม?

โดย blue on 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:39

ตั้งแต่ระบอบทักษิณ เข้าอุปถัมภ์ตำรวจได้หมดตั้งแต่หัวยันหาง บรรดาเจ้าพ่อที่ทำ

ธุรกิจสีดำ สีเทา ทั้งหลายแหล่ก็ถูกบีบ ถูกเคล้น ให้มาสยบอยู่ใต้อุ้งตีนทักษิณแต่เพียง

ผู้เดียว ชูวิทย์ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในนั้น เพราะก่อนมาเล่นการเมือง ชูวิทย์ก็เคยเป็นผู้

อุปถัมภ์ตำรวจรายหนึ่งเหมือนกัน มีการสร้างป้อมให้ตำรวจอยู่ ติดนามสกุลตนเอง

ตัวเบ้อเริ่มไว้เป็นหลักฐาน

 

ชูวิทย์ขัดแย้งกับตำรวจจนเป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ น่าจะมีสาเหตุ

มาจากถูกบีบถูกเคล้นนี่แหละ และน่าจะถูกตามรังควาญตลอดมา อาจเป็นเหตุให้ต้อง

ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง เพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันการถูกรังควาญ

 

เมื่อเข้าสู่การเมืองได้แล้ว ก็น่าจะคิดตีเมืองขึ้นคืน โดยใช้วิธี แฉ ตำรวจโดยเฉพาะ

เรื่อง บ่อน ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องที่ชูวิทย์เอามาแฉนั้น ใคร ๆ เขาก็รู้ทั้งนั้น เพียงแต่

ว่า รู้แล้วไม่รู้จะทำยังไง ผิดกับชูวิทย์ที่อาศัยความเป็นนักการเมือง แฉ ออกมาให้

เป็นข่าว พร้อมโชว์ความเป็นนักปราบปรามทุจริตของตนเองไปด้วย จึงไม่น่าแปลก

ที่เรื่องที่ชูวิทย์ แฉ ออกมา จะเกี่ยวข้องกับตำรวจซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่มันน่าแปลก

ก็คือ ทำไม แฉ แล้วเงียบ แฉ แล้วหาย

 

เหตุผลประการหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะ ต้องการแค่ แฉ เพื่อเป็นการปรามลักษณะว่า

"รู้นะโว้ย อย่ามายุ่งอะไรกับข้ามากนะโว้ย ยุ่งมาก ๆ เดี๋ยว พ่อด แฉ ดะ"

 

การ แฉ ครั้งใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่อง โรงพัก นั่นแหละ เพราะงานนี้ ชูวิทย์ มองว่าตำรวจ

คือจำเลย แต่บังเอิญมันผิดแผนเพราะ เป็ดเหลิม เฟอะฟะ เข้ามาไม่ดูตาม้าตาเรือ เห็นว่า

เป็นเรื่องสมัย ปชป ก็หลับหูหลับตาคว้าไปเล่นเป็นประเด็นทางการเมืองทันที โดยสั่ง

สมุนคู่ใจ ธาริต เดินหน้าเต็มที่ กะเอา ปชป ให้อยู่หมัด

 

ธาริตก็ไวทายาท ระดมแด๊นเซอร์ ออกเดินสายสอบตำรวจหาหลักฐานทันที แต่ยิ่งสอบ

ดูเหมือนหลักฐานมันจะเบนไปหาตำรวจเรื่อย ๆ จึงต้องเปลี่ยนเป้าไปเป็นผู้รับเหมาแทน

จนชูวิทย์ต้องออกมาโวยวายว่าน่าจะมีการเบี่ยงเบนประเด็น ซึ่งธาริตก็สวนกลับทันทีด้วย

ความอาจหาญว่า ไม่ว่าสอบถึงใครก็ไม่ไว้หน้าทั้งนั้น ร้อนถึง ผบ ตร ต้องออกมากระแอม

ผ่านสื่อว่า เฮ้ย ทำอะไรให้เกียรติกันบ้างนะโว้ย ธาริตถึงกับสะดุ้ง รีบปิดปากปิดคดี สั่งฟ้อง

ผู้รับเหมาไปเลย

 

ผมมองว่า เรื่อง แฉ ของชูวิทย์ นั้น เป็นเรื่องระหว่างตัวเขากับตำรวจซะส่วนใหญ่และเป็นการ

แฉ ในลักษณะ ปราม ไม่ใช่แฉเพื่อเอาเรื่องเอาราวอะไร

 

เรื่อง ชูวิทย์ กับ กปปส และ ปชป ถ้าเราสังเกตุดูจะเห็นว่าในช่วงแรก ๆ ที่ กปปส ชุมนุม ชูวิทย์

จะเขียนในเฟซบุ๊ค ลักษณะไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้เขียนตำหนิอะไรมากมาย ซึ่งพอเข้าใจได้ว่า

ชูวิทย์เข้ามาสู่การเมืองเพราะหวังความเป็น สส ในการคุ้มครองตนเอง ย่อมไม่เห็นด้วยกับ กปปส

แน่นอน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็มีพฤติกรรมเหมือนเหยียบเรือสองแคม เพราะไม่เห็นด้วยกับการ

กระทำ แต่กลับไปร่วมด้วยในระยะแรก ๆ ซึ่งเป็นไปได้ว่า เพราะเขามองว่ามันมีมวลชนจำนวนมาก

นั่นแหละ

 

ปัญหามันก็เลยเกิด เพราะมวลชนจำนวนหนึ่งไม่พอใจในพฤติกรรมเหยียบเรือสองแคมของเขา มองว่า

ชูวิทย์เป็นพวกตีกินมวลชน จนเกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้น และก็บานปลายมาจนถึงการกล่าวหากัน

อย่างเป็นเรื่องเป็นราวทางเฟซบุ๊คของเขาอยู่ในปัจจุบัน

 

ประเด็นนี้ ผมมองว่า มันเป็นเรื่องการชิงมวลชนของนักเลือกตั้งอย่างชูวิทย์มากกว่า เพราะถ้ามวลชนมองเขา

ในแง่ไม่ดี เลือกตั้งคราวหน้าอาจ วืด การจะไปบอกมวลชนว่าเขาเป็นคนดีเลิศประเสริฐศรี ก็คงไม่มีใครอยากฟัง

สู้เตะตัดขา กำนัน กับ ปชป ซึ่งถือว่าเป็นกระดูกชิ้นใหญ่ในการเลือกตั้งไปเรื่อย ๆ ดีกว่า พฤติกรรมคล้าย ๆ สนธิ

แหละครับ ต่างกันตรง สนธิ เตะตัดขา เพื่อให้มวลชนกลับไปเชื่อเขา แต่ ชูวิทย์ เตะตัดขาเพื่อให้มวลชนกลับไป

เลือกเขา




#1160602 วันนี้พงษ์เทพไม่รักศักดิ์ศรี ความเที่ยงธรรม ความสัตย์ซื่อ ?

โดย blue on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 22:14

ผมกลัวว่าชาวอาเซียนจะดูหมิ่นดูแคลน ว่าไม่รู้จักกาละเทศะ...

 

อย่าไปกลัวครับ เพราะเขาดูหมิ่นดูแคลนมานานแล้วครับ

 

ถ้าได้ฟังที่ท่านสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียนพูด

ท่านบอกว่าบทบาทของรัฐบาลในการประชุมนานาชาติ มันไม่มี

ความเป็นผู้นำอะไรเลย ไปนั่งประชุมเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าเขา

พูดเรื่องอะไรกัน ไม่มีข้อเสนอ ไม่มีความเห็น นั่งเฉย (เหมือนหมา

หงอย อันนี้ผมพูดเอง)

 

เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกลัวอับอายขายหน้าอะไรอีกแล้ว เพราะที่ผ่าน

มามันก็สุด ๆ แล้ว




#1160545 หรือจะเป็นแค่ ประธานเถื่อน

โดย blue on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:44

ผมมองว่า สมาชิกวุฒิสภา เขามองว่าการเลือกประธานวุฒิ ฯ  นี่มันเป็นอำนาจของเขา

นั่นแหละ

 

การเปิดประชุมตาม ม 132 ( 2 ) เขาก็ดำเนินการไปตามนั้นแล้ว ไม่มีอะไรขัดกับรัฐธรรมนูญ

ส่วนการเลือกประธานนี่ เขามองว่ามันเป็นอำนาจของเขา และเป็นเรื่องภายในที่เขาต้องทำ 

เมื่อที่ประชุมมีมติให้เลือกประธาน เขาก็เลือกกันไปตามมติที่ประชุม ส่วนรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่าย

บริหารมองว่าไม่น่าจะถูกต้อง มองว่าเป็นการทำเกินเลย ม 132 ( 2 )  ก็มีสิทธิ์ส่งเรื่อง

ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ เพราะเป็นอำนาจของนายกเหมือนกันที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ

วินิจฉัย เว้นเสียแต่ว่า รัฐบาลจะทำนิ่งเฉย แต่ใช้วิธีโจมตีทางหน้าสื่อแทน ซึ่งรู้สึกว่าจะเป็น

แนวทางเดียวที่รัฐบาลนี้ถนัดที่สุด ที่ไม่ถนัดก็คือขึ้นศาล เพราะขึ้นทีไรไม่ถูก ปลด ก็ติดคุก

จนต้องมาตั้งโต๊ะปฏิเสธอำนาจศาลทุกที คุณจาฤก ว่าไม๊




#1159481 ว่าด้วยเรื่อง " สะเอ-อะ " กับสนธิ ลิ้มทองกุล

โดย blue on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:54

มาตรา 3 มาตรา 7  มันอยู่ในรัฐธรรมนูญ และที่เขากำลังคิดทำกันอยู่หลายกลุ่มนี่

ก็เพื่อให้มันเป็นไปตามวิถีทางตามรัฐธรรมนูญที่มันควรจะเป็น มันไม่ใช่ว่า อยู่ดี ๆ

ไปยื่นถวายฎีกา เพราะถ้าเป็นแบบนั้นแหละ ที่เขาเรียกว่า ไปกดดัน

 

สนธิพูดเรื่องนี้ รู้หรือเปล่าว่า กำนัน เขาจะทำอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ หลวงปู่ อาจารย์

ของสนธิเองนั่นแหละโดนเต็ม ๆ แต่ก็น่าแปลกที่บรรดาสาวก (ตอนนี้ไม่รู้สาวกของ

ใครกันแน่) นั่งเป่านกหวีด ปี๊ดป๊าด แสดงความพออกพอใจกันมากอยู่เหมือนกัน ไม่รู้

ว่าอนาคตมันจะเหมือนเสื้อแดงไหมเนี่ยะ ประเภทพอใจคนพูดแต่ไม่สนใจเนื้อหาที่พูด

 

บอกให้เขาท่องนโมตลอดเวลาว่า ไม่เอานักการเมือง ขอให้พวกมึงลงนรกไป

 

ตรงนี้ก็ต้องขอยืมคำของสนธิเองมาถามว่า แล้วยังไง

 

คิดจะอยู่แบบ เกาหลีเหนือ ตลอดชีวิตหรือยังไง

 

การยึดอำนาจของทหารนั้นมันเป็นเรื่อง กำปั้นทุบดิน ถ้าสนธิ กำหมัด แล้วทุบลงไปยังไงมัน

ก็โดนดิน มันไม่มีผิดหรอก (อย่าทุบลงไปในน้ำก็แล้วกัน)  เรื่องแบบนี้ใคร ๆ มันก็พูดได้

แม้แต่เจ้า Phat ศิษย์เอกของสนธิก็พูดได้ เพราะมันไม่ได้ใช้สติปัญญาอะไรในการพูดเลย

ไอ้ที่มันเป็นปัญหาคาราคาซังอยู่นี่ ก็เพราะเขาพยายามใช้สติปัญญาในการคิดไง ว่าทำ

อย่างไรจะหลีกเลี่ยง เรื่องที่ไม่ใช้สติปัญญาแบบสนธิได้




#1152974 ข้อเสนอ“อภิสิทธิ์”มีตำหนิ! เพราะต่อชีวิตให้“ทักษิณ”

โดย blue on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:25

ผมว่า คนเขียนนี่ มันส่อเจตนานะ บอกว่าอภิสิทธิ์ไปลอกของกำนันมายกกะบิเลย

ต่างกันตรงเอามาใส่ถ้อยคำสำนวนใหม่ ดูแล้วยังไม่กล้าหักดิบกับกำนัน

 

ไอ้ที่เขียนมาเนี่ยะ ต้องการอะไร ต้องการให้อภิสิทธิ์ทะเลาะกับกำนัน ว่างั้นเถอะ

 

ผมว่าถ้าจะมีการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณจริง ๆ คงไม่พอแล้วละครับ คงต้องขุดรากถอนโคน

พวก แก๊งค์เสี้ยม นี้ด้วยนะ




#1152857 วันนี้ไปม๊อบที่ผ่านฟ้า

โดย blue on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 19:34

กลุ่มของสันติอโศกเขาถือศีลกินมังสะวิรัตครับ เขาไม่กินเนื้อ ถ้าจะไปหา

อะไรอร่อย ๆ กิน ต้องไปกลุ่มอื่นครับ เพราะกลุ่มนี้เขากินแต่ผัก และมันก็

ไม่ใช่อาหารเหลือจากวัดอะไรหรอกครับ เขากินของเขาอย่างนั้นเป็นปกติ

ของชีวิตครับ เขากินเพื่อให้ร่างกายอยู่ได้ ไม่ได้กินเพื่อความอร่อยเหมือน

คนทั่วไป ถ้าจะไปหาอะไรกินอร่อย ๆ ต้องไปกลุ่มอื่นครับ แต่ถ้าจะไปถือศีล

ฟังธรรม ก็ไปกลุ่มนี้แหละครับ

 

มันอยู่ที่ว่า คุณสมพร จะไปทำไรครับ




#1152463 เรามาถึงวันนี้ได้อย่างไร?

โดย blue on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:13

ดูแต่ละคอมเมนท์แล้ว ส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้เรื่องการให้ย้ายสถานที่ชุมนุมมากกว่า

ไม่ได้ตอบโต้เกี่ยวกับการที่ พันเอกท่านนั้นถูกทำร้าย จึงคงไม่น่าถึงกับเป็นซอมบี้อะไร

หรอกครับ น่าจะแค่ใช้คำพูดที่ไม่น่าเหมาะสมไปบ้างเท่านั้น

 

ถ้าจะถามว่าเรามาถึงวันนี้ได้อย่างไร คงต้องตั้งคำถามกับรัฐบาลแล้วละครับ เพราะรัฐบาล

มีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แล้วเหตุการณ์แบบนี้มันเกิด

ขึ้นได้อย่างไรครับ

 

ทำไมการชุมนุมต้องมีการตั้งสิ่งกีดขวาง มีกระสอบทรายเป็นบังเกอร์ มีประเทศไหนบ้างครับ

ที่การชุมนุมเรียกร้องโดยสงบ สันติ แต่ผู้ชุมนุมต้องทำเครื่องป้องกันตัวไม่ให้ถูกทำร้ายจาก

ฝ่ายรัฐบาล

 

ผมอยากให้ จขกท ไปตั้งคำถามกับรัฐบาลครับ ว่าพฤติกรรมของรัฐบาลที่ทำให้ประเทศชาติ

เดินมาถึงจุดนี้ เขาเรียกว่า พฤติกรรมของ ซาตาน หรือเปล่า




#1152224 หลังมาร์คเสนอทางออกชาติเป็นแผนปฏิบัติชัดเจน หลวงปู่บอกไม่ใช่ทางออก แก๊งน้ำด่...

โดย blue on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 09:59

แนวทางของอภิสิทธิ์ มันคือแนวทางที่ กำนัน และ กปปส เรียกร้องในช่วงการชุมนุม

ระยะแรก ๆ นั่นแหละ แต่มันจะเป็นการเรียกร้องที่ไม่มีรายละเอียดว่าโดยวิธีการแล้ว

มันจะต้องทำอย่างไร ส่วนใหญ่จะพูดว่า นายกต้องลาออกไป เพื่อให้เกิดสุญญากาศ แล้ว

ใช้มาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญ

 

เพราะฉะนั้น ที่อภิสิทธิ์ทำ มันก็คือ หยิบตรงนั้นนั่นแหละมาแจกแจงรายละเอียดวิธีการว่า

ถ้ามันจะเป็นไปได้ มันควรจะทำอย่างไร

 

ประเด็นของปัญหาก็คือ กปปส ชุมนุมมายาวนาน มันมีเหตุการณ์ผ่านเข้ามาในการชุมนุม

มากมายหลายเรื่อง ทำให้ต้องก้าวข้ามจุดเดิมที่เรียกร้องไปแล้ว

 

รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารประเทศดูแลทุกข์สุขของประชาชน แต่ไร้สำนึกของความ

เป็นรัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบ มุ่งแต่จะเกาะติดอำนาจเพราะมองว่าถ้าลงจากอำนาจเมื่อใด สิ่งที่

ตนเองเคยทำผิดคิดชั่วเอาไว้ อาจย้อนกลับมาเล่นงานเอาได้ จึงพยายามเดินหน้าเข้าสู่อำนาจ

อย่างเดียว

 

เพราะฉะนั้น การที่อภิสิทธิ์ออกมานำเสนอความคิดในช่วงนี้ เพราะมองเห็นความขัดแย้งที่มันอาจ

นำไปสู่ความรุนแรงได้ เพราะทุกฝ่ายล้วนพูดเหมือนกันว่า ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง ในขณะที่

รัฐบาลที่ไร้สำนึกความรับผิดชอบกลับปลุกระดมประชาชนในลักษณะยั่วยุให้เกิดความรุนแรงอยู่

ตลอดเวลา ซึ่งยังไม่นับพวก เสี้ยม พวกยุแยงตะแคงรั่ว ที่คอยนั่งยุแหย่ ในลักษณะกัลยาณมิตร

ให้ประชาชนลุยกับรัฐบาลแบบแตกหัก หรือสนับสนุนให้ทหารออกมายึดอำนาจอยู่เป็นระยะ ๆ

 

ทางออกที่อภิสิทธิ์เสนอมาจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เสียทีเดียว เพราะรัฐบาลที่เป็นตัวปัญหาหลัก

ถึงแม้ว่า จะไม่รับข้อเสนอของอภิสิทธิ์ แต่ก็ต้องไปเจอกับด่านของศาลรัฐธรรมนูญ และ ปปช อีก

ด่านหนึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นอาจต้องนำมวลชนที่ปลุกระดมไว้ออกมาปะทะกับประชาชนที่ชุมนุมอยุ่

ที่อภิสิทธิ์เสนอแนวทางนี้ ก็เป็นเหมือนการระงับเหตุก่อนที่มันจะเกิดการลุกลามบานปลายนั่นแหละ

แต่มันก็ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกที่เหลือน้อยเต็มทนของรัฐบาลนี้เท่านั้น

 

ส่วนกรณีของหลวงปู่นั้น ผมมองว่า มันยังไม่ใช่เวลานี้ครับ เหมือนกรณีของ คณะรัฐบุรุษนั่นแหละ เพราะ

วิธีการของรัฐบุรุษ และวิธีการของหลวงปู่ ไม่ใช่วิธีการระงับเหตุ แต่เป็นวิธีการเมื่อเหตุมันเกิดไปแล้ว

จึงจะนำมาใช้เท่านั้น




#1151984 "เศรษฐกิจพอเพียง" มีจุดอ่อนตรงไหน ทำไมนักการเมืองไม่ค่อยจะสนับสนุนจริ...

โดย blue on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:58

มันมีจุดอ่อนตรงที่ นักการเมืองไม่รู้ว่าจะไปสนับสนุนอย่างไรมากกว่า ครับ

 

ความจริงเขาก็มีนโยบายสนับสนุนอยู่นะครับ เห็นหน่วยราชการโดยเฉพาะ

หน่วยงานด้านเกษตรกรรมนี่ จะเยอะหน่อยที่เข้าไปสนับสนุน แต่มันเป็นการ

เข้าไปสนับสนุนในเรื่องของ รูปแบบ มากกว่า เช่น เขาทำนาอยู่ ก็เข้าไปสนับสนุน

ว่า ถ้าเขาจะอยู่ได้โดยมีรายได้พอกินพอใช้ ไม่ควรทำนาอย่างเดียวควรทำแบบ

ไรนาสวนผสม อะไรทำนองนั้นแหละ

 

ดูแล้วมันก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่ที่ไม่ได้ผลนั้น มันไม่ใช่เพราะรูปแบบมันไม่

ถูกต้อง รูปแบบนั้นมันถูกต้องแต่คนที่ทำไม่มีจิตสำนึกในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง

เพราะนิสัยเหมือนเดิม เคยฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ใช้จ่ายเกินตัวอย่างไร ก็ใช้อยู่อย่างนั้น

เคยเล่นหวยเล่นแชร์ กินเหล้าเมายาอยู่อย่างไรก็กินอยู่อย่างนั้น เปลี่ยนแค่รูปแบบ

การทำนาเท่านั้น แบบนี้ยังไงมันก็ไม่พอเพียงครับ

 

เศรษฐกิจพอเพียง มันเป็นเรื่องของจิตสำนึกครับ เศรษฐี ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน

ก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้ คนจนดักดานก็ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงได้

ไม่ใช่จนดักดานแต่ใฝ่ฝันฟุ้งเฟ้ออยากได้รถเบนซ์ มาขับ หรือรวยล้นฟ้า แต่ งกแบบขี้

ไม่ให้หมากิน แถมยังเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอยู่ตลอดเวลาแบบไอ้เหลี่ยม ถ้าคิดแบบนี้

มันก็ไม่ใช่เศรษฐกิจพอเพียง

 

ที่สำคัญก็คือ ข้าราชการที่จะออกไปส่งเสริมชาวบ้านให้เขาใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง

ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าจะไปส่งเสริมเขาอย่างไร เพราะเท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเอารูปแบบไปให้

แต่จิตสำนึกไม่เปลี่ยน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องยากครับ เพราะข้าราชการเองก็ยังไม่ใช้ชีวิตแบบ

เศรษฐกิจพอเพียงเลย แค่นางยิ่งลักษณ์ออกนโยบายรถคันแรกมาเท่านั้น ก็วิ่งไปจองกันจน

เป็นหนี้หัวโตอยู่ทุกวันนี้แหละครับ




#1151655 หลังมาร์คเสนอทางออกชาติเป็นแผนปฏิบัติชัดเจน หลวงปู่บอกไม่ใช่ทางออก แก๊งน้ำด่...

โดย blue on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 16:26

ความจริงแล้ว สิ่งที่กำนันทำ สิ่งที่หลวงปู่ทำ สิ่งที่อภิสิทธิ์ทำ มันคือเรื่องเดียวกัน

นั่นแหละ เพราะคำตอบมันจะไปออกที่มาตรา 7  เหมือนกัน มันต่างกันตรงวิธีการ

เท่านั้น

 

สิ่งที่อภิสิทธิ์เสนอ มันคือประชาธิปไตยครับ เพราะมันจะเกิดขึ้นได้จริง รัฐบาลต้อง

ร่วมมือ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่ไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ วราเทพ พยายามบิดเบือน

 

ทำไม รัฐบาล ต้องร่วมมือ ถ้ารัฐบาล มีสำนึกเหมือนนักการเมืองในประเทศที่เขาเจริญแล้ว

ก็ลองมองย้อนกลับไปดูพฤติกรรมของตนเองครับ ว่าคุณทำอะไรมาบ้าง คุณควรมีสำนึก

ให้ความร่วมมือตามแนวทางของ อภิสิทธิ์ไหม หรือคุณจะดันทุรังแบบไม่มีสำนึกความ

รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น แต่มุ่งจะแสวงหาอำนาจที่คุณอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยไม่ว่าจะเกิด

อะไรขึ้นกับประเทศชาติและประชาชน




#1151550 ความสับสนของอภิสิทธิ์

โดย blue on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 15:21

ผมยังถอยจากการเมืองได้นับรวมเป็น 2 ปีนะครับ

 

ผมว่า จขกท อ่านดี ๆ ครับ อย่าผลีผลาม ทำป้ายปรักปรำเขา




#1151381 มาออกปากว่าผมกังวลจริงๆครับเรื่องหลวงปู่ท่านจะนำมวลชนไปถวายฎีกาขอนายกพระราชทาน

โดย blue on 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 10:47

เห็น พิธีกร บนเวทีประกาศอยู่นะครับว่า อยากให้แสดงความเห็นไปว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย

 

แต่ผมมองว่าอย่าไปวิตกกังวลเลยครับ เพราะเรื่องแบบนี้มันเป็นความรู้สึกของคนที่มีความจงรักภักดี

เทิดทูนพระมหากษัตริย์ เป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเขารู้สึกว่ามันมีปัญหาที่เขาไม่สามารถแก้ไขได้เอง สิ่งแรก

ที่เขานึกถึงก็คือ ในหลวง ก็คล้าย ๆ กับ คณะรัฐบุคคลของ ท่านพลเอกสายหยุดนั่นแหละครับ

 

ที่เราเห็นอยู่นี่ เพราะมันปรากฎเป็นข่าว แต่ที่ไม่เป็นข่าว ก็มีอีกเยอะครับ ผมเคยเห็น เขียนจดหมายถึง

ในหลวงให้ช่วยหางานให้ทำยังมีเลย ซึ่งถ้าเรามองอยู่ในสถานะของเรา เราอาจมองว่าเรื่องแบบนี้มัน

ไม่ค่อยจะเหมาะสม แต่ในความรู้สึกของเขามันไม่ใช่ครับ เขาคิดว่าในหลวงคือพ่อของเขา เมื่อเดือดร้อน

อะไรก็วิ่งหาพ่อ ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นความรู้สึกเดียวกันกับที่เขาปกป้องในหลวง เมื่อมีใครมาบังอาจ

จาบจ้วงนั่นแหละครับ เพียงแต่กลับด้านกันระหว่าง ขอความช่วยเหลือ กับ ปกป้อง เท่านั้น

 

ส่วนพวกล้มเจ้านั้น ผมว่าอย่าไปให้ความสำคัญครับ ถ้าแหลมเข้ามาผิดกฎหมายก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

แต่ถ้าทำเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา อย่าไปให้ความสำคัญครับ เพราะพวกนี้แค่เราให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาทำ

เขาก็ถือว่าสิ่งที่เขาทำประสบความสำเร็จแล้ว




#1151113 อ๊อกซฟอร์ดดีลนี่ แก๊งน้ำด่างจะเล่นไปถึงขั้นไหน เรามาดูกัน

โดย blue on 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 20:52

เรื่องอ๊อกฟอร์ดดีลนี่ มันเขียนของมันอยู่คนเดียวนั่นแหละ แต่พอมันไม่ตรง

กับที่อภิสิทธิ์ทำ มันก็มาบอกว่า หลังจากอ๊อกฟอร์ดดีล ล้มเหลวไม่เป็นท่า อภิสิทธิ์

ต้องรับผิดชอบลาออกจากหัวหน้าพรรค

 

จะขำมัน หรือสมเพช มันดีเนี่ยะ มันเต้าข่าวไม่ตรงกับที่เขาทำ ยังไม่สำนึก หาว่า

เขาทำล้มเหลว จะให้เขาลาออกจากหัวหน้าพรรคอีก

 

แล้ว พลเอกประยุทธ์ ก็จบ อ๊อกฟอร์ด เหมือนกันหรือ เพิ่งรู้นะเนี่ยะ