Manop

บนเวทีท่านอย่าพูดเพียงเพื่อเรียบกมวลชน  ใครหน้าไหนพูดอย่างไรผมจำได้  คราวนี้เหตุการณ์เป็นดั่งที่ท่านเคยลั่นวาจา  ท่านจะทำตามสิ่งที่ท่านพูดหรือทำเพียงแค่แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต

 

ไม่อยากชักใบให้เรือเสีย  แต่ตอนนี้น้ำตาผมตกในเมื่อรู้ว่าพี่น้องนักศึกษาในรามคำแหงถูกไล่ปู้ยี่ปู้ยำโดยพวกระยำจรรไร  แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาได้เลยหรือ?  แล้วคำพูดสวยเหลือของพวกท่านทั้งหลายมันจะมีค่าอะไร 

ผมมีความคิดเห็น  ดังนี้

 

        คืนนี้ผมติดตามข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรามคำแหงทั้งคืน  นักศึกษาถูกยิงแต่ไม่มีตำรวจเข้าไปช่วยเหรือหรือพยายามระงับเหตุความรุนแรงเลย  ดังนั้นเป้าหมายสำคัญในวันนี้คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ  หากได้ติดตามการชุมนุมมาโดยตลอดจะทราบว่ารัฐบาลแทบจะโดนนวดอยู่ฝ่ายเดียว ที่ผ่านมาไม่มีภาพเหตุการณ์ตำรวจทำร้ายประชาชนเลยแม้แต่เหตุการณ์เดียว  แม้แต่ที่รามคำแหงก็เป็นชายชุดดำพกอาวุธทำร้ายนักศึกษา  เรายังไม่เห็นตำรวจในเครื่องแบบใช้ความรุนแรง  เขารักษาภาพลักษณ์ตำรวจที่ดีมาโดยตลอดหรือกล่าวได้ว่าตำรวจจะคอยดูแลการชุมให้อยู่ในความสงบ ( เหตุการณ์ที่รามคำแหง ปิยะ รายงานว่าวัยรุ่นสองกลุ่มทะเลาะกันแล้วยิงกันตาย )

 

        วันนี้มีเสื้อแดงถูกเกณฑ์เข้ามาจำนวนมาก  แกนนำก็ปลุกปั่นให้เสื้อแดงมีอารมณ์ความรุนแรงอยู่ตลอดเวลา  พรุ่งนี้คุณสุเทพนำมวลชนไปเยี่ยมสถานที่สำคัญต่างๆ  เสื้อแดงก็คงไม่น้อยหน้าคุณสุเทพเช่นกัน ( แกนนำคงไม่ขนมานั่งตบยุงเฉยๆหรอก )  เมื่อไหร่ที่คนเสื้อแดงเผชิญหน้ากับ กปปส. เมื่อนั้นคงหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันไม่ได้แน่ๆ  เมื่อเหตุการณ์เริ่มจะบานปลายตำรวจก็อ้างสิทธิ์อันชอบธรรมในการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและเข้าควบคุมฝูงชนทั้งสองฝ่าย

 

        ลองคิดดูเล่นๆ  สถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลไม่อาจหาช่องโหว่เพื่อสลายการชุมนุมได้เลยเพราะที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมที่สันติมาโดยตลอด  ทั้งๆที่รัฐบาลอยากให้เลิกชุมนุมใจจะขาด  หากสั่งตำรวจสลายโดยไม่มีเหตุก็ส่งผลเสียต่อรัฐบาลเอง  และตอนนี้รัฐบาลก็จนแต้มแล้วหากปล่อยให้ กปปส. ทำได้ตามแผนที่วางไว้ รัฐบาลจบเห่ทันที  ดังนั้นทางรอดที่รัฐบาลยังมีหากหวังบริหารงานต่อไปโดยไม่ยุบสภาและไม่สนคำด่าคำชี้แจงของใครๆทั้งสิ้นนั่นก็คือทำให้การชุมนุมสลายไป  เขารอให้มีเหตุการณ์รุนแรงแต่มันไม่มี  เมื่อไม่มีเขาก็ต้องสร้างเหตุให้มันมีความรุนแรงให้ได้  จากเหตุการณ์ที่รามคำแหงผมว่าเขาไม่สนหรอกว่าใครจะบาดเจ็บล้มตายยังไง  ขอให้มีเหตุการณ์รุนแรงก็พอจะัได้มีข้ออ้างในการสลายการชุมนุม

 

 

        ข่าวมาจากแหล่งที่น่าเชื่อเป็นสิ่งที่ดี  ข่าวที่ไม่ทราบที่มาแน่ชัดต้องวิเคราะห์  แต่ข่าวก็คือข่าว  จริงบ้างเท็จบ้าง  หวังดีบ้างประสงค์ร้ายบ้าง  การหาทางป้องกันย่อมดีกว่าการหาทางแก้ไข  โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว  

 

         ขอให้ทุกคนปลอดภัยและไร้เหตุการณ์รุนแรงใดๆทั้งสิ้นด้วยเทอญ

การชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมโดยประชาชนเพื่อประชาชน

 

        อย่าได้มามัวลังเล อย่าทำตัวเป็นพ่อยก แม่ยก อย่าไปสนใจว่าใครจะทะเลาะกับใคร  สู้ครั้งนี้เพื่อชาติ  เพื่อประชาชน  ไม่ใช่เพื่อตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง  หากยังมัวยึดติดในสิ่งที่ตนชอบเป็นที่ตั้ง  ความมุ่งมั่นเพื่อไปสู่จุดหมายย่อมไขว้เขว  รักใครชอบใครเก็บไว้ในใจ  แต่ตอนนี้ขอให้รักลุงกำนันผู้นำสูงสุดในการชุมนุมครั้งนี้แบบสุดขั้วหัวใจ  

 

        ทุกคนมีความคิด โปรดสละเวลาศึกษาข้อมูลว่าเหตุใดจึงมีการลุกฮือของประชาชนทั่วประเทศเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเช่นนี้  ใช้เหตุผลให้มากๆมองให้ลึกๆ  หากท่านสละเวลาศึกษาความเป็นมาในการชุมนุมครั้งนี้ดีแล้วและเห็นด้วยในการชุมนุมก็ขอให้ทุ่มสุดใจ  การใหญ่สำเร็จได้ด้วยไซร้ไร้ซึ่งความลังเลห่วงหน้าพะวงหลัง

 

        การชุมนุมที่สามเสนโดยพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวตั้งตัวตี  ผมมองว่าเป็นม็อบของพรรคประชาธิปัตย์  ที่กล่าวแบบนี้ก็เพราะคนที่ไปส่วนใหญ่เขาต้องชื่นชอบพรรคประชาธิปัตย์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมเชื่อเช่นนี้

 

        ต่อมาเป็นการชุมนุมที่เวทีราชดำเนิน  ถาพติดว่าเป็นม็อบของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มจางหายจากสายตาของผม  สายตาของผมมองเห็นการชุมนุมของประชาชนเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม  แต่ผมยังเห็นเงาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ด้านหลังเวที ( ชิชะ เป็นแดง ถึงเกลียดการบริหารงั้นของรัฐบาลชุดนี้ แต่จะให้ทุ่มสุดตัวกับคนของพรรคประชาธิปัตย์น่ะเหรอ ไม่มีทาง)

 

        เหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงปัจจุบัน  ผมมองเห็นผู้นำสูงสุดในการชุมนุมเพียงคนเดียวคือลุงกำนันสุเทพ  ผู้เป็นอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์  ตอนนี้เป็นการชุมนุมโดยประชาชนเกือบเต็มรูปแบบ  นี่คือการชุมนุมของคนรักชาติ  ไม่ใช่การชุมนุมของกลุ่มผู้รักนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดๆ  ยังมีแดงแอ๊บๆอีกมากที่ต่อต้านพรรคประชาธิปัตย์และนักการเมืองของพรรคนี้  

 

        ถ้าอยากให้แดงๆ  คนกลาง  หรืออื่นๆที่่ไม่ค่อยได้ติดตามการเมืองเปลี่ยนใจมาสู้เพื่อชาติ  ได้โปรดลบภาพการเมืองออกจากการชุมนุมครั้งนี้ซะ  ให้นี่คือการต่อสู้ของประชาชนเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง  เชื่อว่าเมื่อนั้นประชาชนอีกมากย่อมลุกขึ้นมาสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกำนันและญาติมิตรผู้รักชาติทุกๆท่านอย่างแน่นอน

อ่านกระทู้นี้แล้วรู้สึกว่า "โลกนี้ช่างสดใส" ขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้มากครับ 

http://www.youtube.c...h?v=iVkbuQgFVr8

ท่าน SPDZ ทันเหตุการณ์จริงๆ 

ท่าน ว.วชิระเมธี ดำรงตำแหน่งใดทางการเมืองครับ ทำไมบางคนจ้องจับผิดกันจัง

หากเห็นว่าไม่เหมาะสมก็แจ้งไปที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดีกว่าไหม หรือไม่ก็ติดต่อสอบถามไปยังท่านโดยตรงเลย

เอามาโพสตำหนิท่านในบอร์ดมีประโยชน์อันใด

วันก่อนจิรายุบอกว่า "นายกรัฐมนตรีไม่มีส่วนรู้เห็นกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ" พอมาวันนี้เฉลิมบอกว่า "ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี" ตกลงจะให้เชื่อใครดีครับ

เพราะทำความผิดไว้มากหากไม่เลวจนถึงที่สุดแล้วชนะก็จบแบบแพ้ย่อยยับพังพินาศ อดีตสมัยแม้วเรืองอำนวจมีผู้คนมากมายหลงไหลไปอำนาจเงินตราที่ได้มาแบบผิดๆ ต่อเนื่องยาวนานมาถึงปัจจุบันเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นมากมาย บางคนรู้ตัวตอนนี้ว่าผิดแต่ก็ลงจากหลังเสือก็ไม่ทันแล้ว หนทางเดียวที่จะทำให้พวกตนพ้นผิดทุกข้อกล่าวหาคือการแก้กติกาให้เอื้อประโยชน์ฝ่ายตนให้ได้ มิฉะนั้นแล้วความหายนะมาเยือนบุคคลเหล่านั้นแน่นอน

อีกเหตุผลคือเรื่องเสื้อแดง ผมคิดว่าแม้วไม่ต้องการมวลชนเสื้อแดงแล้วเพียงแต่ตอนนี้ยังจำเป็นต้องอาศัยเสื้อแดงอยู่บ้าง ลองคิดเล่นๆว่าการชุมนุมของเสื้อแดงในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ที่ผ่านมาต้องเสียค่าใช้จ่ายในการชุมนุมมากเท่าไหร่ หรือในการปลุกระดมคนแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน ผมว่าที่ผ่านมาแม้วเสียค่าใช้จ่ายในการชุมนุมเป็นเม็ดเงินมหาศาล การที่แม้วนั้นเป็นพ่อค้าเมื่อทำสิ่งใดก็มักเล็งเห็นถึงผลกำไรไว้ก่อน การชุมนุมที่ผ่านมาต้องลงทุนไปเยอะแต่ก็ยังถือว่าได้กำไรเพราะสุดท้ายน้องสาวตัวเองได้เป็นนายก แล้วต่อไปแม้วจะเก็บมวลชนเสื้อแดงที่เป็นเครื่องมือทำกำไรที่มีต้นทุนสูงและควบคุมลำบากเอาไว้ทำไมครับ สู้แก้ไขรัฐธรรมนูญและกติกาต่างๆในบ้านเมืองให้เอื้อประโยชน์แก่ตัวเองไม่ดีกว่าหรือ เพราะถ้าสำเร็จดั่งที่แม้วหวังก็เหมือนได้เครื่องจักรคุณภาพสูงในต้นทุนต่ำ สามารถใช้งานหากำไรได้ยาวนานกว่า เสียค่าบำรุงดูแลรักษาน้อยกว่าแต่ได้กำไรมากกว่า เงินกำไรที่ได้ก็ไม่ต้องแบ่งให้ใครนอกจากนำมาลงทุนเพิ่มในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น

แม้วและพรรคพวกหวังปิดเกมส์ให้เร็วเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ แต่เขาเหล่านั้นคงได้แค่ฝัน แม้พยายามทุกวิถีทางทั้งดีเลวแต่สุดท้าย "ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม เสมอ"

ผมเป็นคนอีสาน แล้วยังไงครับ(ด่าคนอีสานว่าโง่ทางอ้อมนี่รวมผมด้วยไหม) ไม่ใช่คนอีสานทุกคนที่เป็นเสื้อแดง ยายของผมที่อายุ "เก้าสิบกว่าปี" ก็เกลียดเสื้อแดง เกลียดทักษิน คนครอบครัวของผมทุกคนก็ไม่เคยชอบทักษินเลย

ปล. ผมก็เกลียดคนที่หลงอำนาจของเงินเช่นกัน ใครทำไม่ดีสมควรด่าก็ด่าไป ผมเพียงอยากปกป้องศักศรีของคนอีสานอีกหลายๆคนที่ไม่ได้หลงอำนาจเงิน ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่อยากให้คนเหล่านั้นต้องโดนดูถูกด้วยคนไทยด้วยกันเอง

ขอพูดถึงประเด็นที่ว่าทำไมคนอีสานถึงชอบรัฐบาลกันบ้าง (ความเห็นของผมนะครับ)
1. แม้ว หว่านเงินมานานเป็นสิบปี คือหว่านมาก่อนที่จะได้เป็นนายกสมัยแรก
2. เงินได้เปล่า สารพัดโครงการ ใช้คืนบ้าง ไม่ใช้คืนบ้าง
3. นโยบายขายฝัน เมื่อทำไม่ได้ก็ปล่อยข่าวว่าถูกกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายฝ่ายตรงข้าม
4. ผู้น่านับถือในพื้นที่ชักจูงชาวบ้าน เขาบอกอย่างไรชาวบ้านก็เชื่อไปหมด
5. สื่อ โดยเฉพาะฟรีทีวีนำเสนอข่าวด้านเดียว อวยรัฐบาล ดิสเครดิตฝ่ายค้าน (เคยเห็นผู้สื่อข่าวพูดว่า "นักโทษชายแม้ว" ออกสื่อกันกี่ครั้ง?)
6. ผู้รักษากฏหมาย "มีวันนี้เพราะพี่ให้", "ผมมันเป็นขี้ข้าแม้ว" ตำรวจระดับนั้นยังยกย่อง แล้วชาวบ้านจะเชื่อว่าแม้วเป็นคนเลว เป็นนักโทษหนีคดีได้อย่างไร ถ้าผิดจริงทำไมตำรวจไม่จับ?
7. พวกเห็นแก่ตัว รู้ว่าเขาเลว โกงกินบ้านเมือง แต่ฉันได้ส่วนแบ่งด้วยดังนั้นจะเลวอย่างไรก็ช่างฉันไม่สน

อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณโลกใบนี้ที่มีอินเตอร์เน็ต ทำให้สามารถรับข่าวสารได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น คนที่ได้รับรู้ข่าวสารอีกด้านที่ฟรีทีวีไม่เคยนำเสนอก็กลับตัวกลับใจมาแล้วหลายคน จากการบริหารงานของรัฐบาลเองก็ดีที่ทำให้ชาวบ้าน เกษตรกรคิดได้ขึ้นมาบ้างอีกหลายคน อีกทั้งการแต่งตั้ง "นายเต้น" ให้ได้รับตำแหน่งสำคัญทางการเมืองยิ่งทำให้มีชาวบ้านไม่พอใจกันอีกหลายคนเพราะไม่ชอบสโลแกน "เผาเลยครับพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง"

ผมหวังว่าต่อไปคนอีสานจะตาสว่างมากขึ้้่น มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆจนเหลือผู้หลงผิด คนเห็นแก่ตัวหลงเหลืออยู่ในสังคมเพียงน้อยนิดหรือหมดไปเลยยิ่งดี

ขอความสมัครสมานสามัคคีจงหวนคืนสู่ชาติไทยอีกครั้ง ขอให้ประเทศไทยกลับมาเป็นสยามเมืองยิ้ม เมืองไทยจงเจริญ

ทุกวันนี้ผมรู้สึกสับสนในความคิดเป็นอย่างมาก ว่าสิ่งไหนคือความถูกต้อง สิ่งไหนคือศีลธรรม สิ่งไหนควรทำ สิ่งไหนไม่ควรทำ สิ่งไหนควรยกย่องเชิดชู สิ่งไหนควรถูกตำหนิ ผมรู้สึกว่าช่วงเวลานี้ทุกๆอย่างเกี่ยวกับศีลธรรม จริยธรรมที่ครูบาอาจารย์ท่านได้สั่งสอนผมมา จะนำมาใช้ในสังคมสมัยนี้ไม่ได้จริงๆ

หลังอยู่ครบ 4 ปี ประเทศไทยคงจะมีหนี้สินท่วมหัว ส่วนพรรคพวกก็กอบโกยเงินภาษี เงินที่กู้มาในนามของประเทศ หมดวาระก็พากันหอบเงินเผ่นหนีไปเสวยสุขในต่างแดน ขณะที่ประชาชนที่เป็นคนดีเคารพกติกาก็ยังเป็นคนดีต่อไปโดยการก้มหน้าก้มตาหาเงินมาใช้หนี้ให้ประเทศ ส่วนพรรคพวกน่ะเหรอ นู่นนนนนน.....ถึงตอนนั้นมันคงจะสนใจกันหรอกนะว่าประเทศชาติจะเสียหายอย่างไรบ้าง

"ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลได้แก้ไขให้แล้ว"

ประชาชนคนไทยมองเห็นปัญหา นักการเมืองมองเห็นผลประโยชน์ส่วนตัวและเงิน

ผมมองว่าหากทาง กทม.ผิดจริงทางฝ่าย พท.ไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเฉยๆแน่ แต่ถ้า กทม.ทำงานล่าช้าเพราะมีมารผจญคอยขัดแข้งขัดขา ทาง พท. ก็คงไม่สอบสวนข้อเท็จจริงอะไรมากมายและน่าจะใช้วิธีถนัดคือ "ปัดความรับผิดชอบ พร้อมกล่าวโทษอีกฝ่ายโดยปราศจากหลักฐานข้อเท็จจริง" ผมอยากรอดูข้อมูลจากทุกฝ่ายเสียก่อน รวมทั้งเรื่องลับๆที่คาดว่าจะถูกเปิดโปงในไม่ช้า ถึงตอนนั้นค่อยมาสรุปหาข้อเท็จจริงและกล่าวโทษผู้ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการดำเนินงานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับ พท.คงไม่ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตเพราะขึ้นป้ายเอาหน้าซะขนาดนั้น เพียงไม่กี่วันให้หลังเหตุการณ์กลับพลิกไปเป็นอีกอย่างหากจะเอาเรื่องตัวเองก็เสียหน้าไม่น้อย นอกจากนี้หากขุดคุ้ยเบื้องลึกเบื้องหลังกันแบบละเอียดถี่ยิบ เกรงว่าฝ่าย พท.เองนั่นแหละที่จะโดนเปิดเผยเรื่องฉาวมิใช่น้อย

เห็นบางคนขับรถก็อดเป็นห่วงความปลอดภัยไม่ได้ ทางหลวงถนน 4 เลนแต่อยู่ในเขตหมู่บ้านก็เหยียบกันไม่มียั้ง เห็นชาวบ้านจะข้ามถนนทีก็ลำบากเพราะไม่มีทางม้าลาย ไม่มีสะพานลอย สงสัยเน้นความสะดวกของผู้ขับขี่มากเกินไปจนลืมนึกถึงความปลอดภัยของคนในชุมชนที่มีถนนตัดผ่าน หรือในตลาดบ้านนอกๆที่ผมอาศัยอยู่ก็ได้ทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซต์บางคนจะเลี้ยวก็ไม่เปิดสัญญาณไฟ บางคนจะจอดรถซื้อของในตลาดก็จอดเอาซะดื้อๆ(เห็นบางคนมีรถยนต์แล้วเดินไม่เป็น ที่ว่างใกล้ๆร้านค้าก็มีกลับไม่สนใจไปจอดแล้วเดินมาซื้อของ แต่จอดกลางถนนแล้วตะโกนซื้อของแทน) ทางวันเวย์ที่ให้รถวิ่งได้ทิศทางเดียวก็ยังมีคนมักง่ายขับรถย้อนศร