sudthorn

ผมฟังฉบับเต็มแล้วครับ ผมไม่แน่ใจความแข็งแรงในภาษาอังกฤษของพวกเสื้อแดง

นักข่าวถามคำถามที่แรงมาก นักข่าวสวมวิญญาณราวกับเป็นเสืื้อแดงที่ไม่ค่อยเข้าใจ และไม่คิดจะรับรู้เหตุผลอะไรทั้งสิ้น ผมว่าผู้สัมภาษณ์ทำหน้าที่ตรงนี้่ได้ดีเยี่ยม ผมไม่ว่าอะไรเลยครับ

แต่คำตอบที่คุณอภิสิทธ์ตอบนี่สิครับ เด็ดกว่า เพราะ ตอบด้วยความจริง และ อธิบายด้วยเหตุผล ผมเข้าใจว่าผู้ฟังที่เป็นชาวต่างประเทศจะเข้าใจแน่นอน

และคำสุดท้ายที่ คุณอภิสิทธิ์ตอบ อันนี้ได้ใจคนฟังแน่นอน เขาบอกว่า ไม่ว่าข้อกล่าวหาจะเป็นอย่่างไร เขายินดีขึ้นศาลและยินดีรับคำตัดสินแม้ว่าศาลจะสั่งให้ประหารชีวิตเขาก็ตาม และ เขาก็จะไม่ยอมแลกโทษของเขากับการนิรโทษกรรม ไอ้ทักษิณ ที่จนถึงบัดนี้ยังไม่เคยกลับมารับโทษและสู้คดีที่เหลืออยู่อีกมากมาย

ผมว่า ตรงนี้ผู้ฟังที่เป็นชาวต่างประเทศ เขาเห้นกึ๋น ความเป็นผู้นำแน่นอน ระหว่าง ไอ้แม้วที่แสนจะขี้ขลาด และ คุณอภิสิทธิ์ที่กล้าหาญและเป็นสุภาพบุรุษ

ขอให้พวกเรามั่นใจได้ ว่า ผู้ฟังชาวต่างประเทศเขาไม่โง่เหมือนพวกควายแดงแน่นอนครับ

ไอ้เสือลูกพ่อ ได้เวลาไปผจญรถติดกันแล้ววววววววววว !!

ใช่ ducati หรือเปล่าครับ วิ่งเท่าไรครับ

รู้จริงๆ อิอิ ผมบิดไม่เคยสุดเสียที เต็มที่ 100 ก็อยู่แล้ว ในกรุงเทพทำความเร็วไม่ได้หรอกครับ รถมันติด เน้นขับเรื่อยๆครับ กินลมชมวิวไป
เวลารถติดผมชอบไปจอดเทียมกับพวก เวฟ นะ แล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ 5555++ มันรู้สึกดีครับ อิอิ^^

ผมอยากให้ทุกคนพูดกับผมดีๆในกระทู้นี้ครับ (หวังใจอย่างนั้น)
ทุกครั้งที่ผมตั้งกระทู้ดีๆ พวกคุณก็รุมด่าผม มันทำให้ผมรู้สึกว่า นี่ตูจะทำดีไปทำไม ดีหรือไม่ดีก็โดนรุมด่าอยู่ดี นี่แหละครับสิ่งที่ผมอยากพูดกับพวกคุณ

ไหนเครื่องดูคาติอ่ะ บอกจะเอามาให้ดูหนิ

คุณดูหัวข้อกระทู้ด้วยว่าเค้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน

จริงจริงแล้ว อาทิตย์ นี้ ทั้ง อาทิตย์ ตะนิ่นตาญี ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ใช้ ผรุสวาทวาจา กับผู้ใด

ในที่สุดก็อดไม่ได้จริงจริงกับ ใจดี20 คุณนี่มันเลวจริงจริง โกหกได้บัดซบสิ้นดี

ใช้วาจาที่ "ดูถูก" ผู้อื่นได้อย่างเลวชั่วชาติจริงจริง ทั้งทั้งที่ คุณ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นของจริงสักอย่าง

ไม่ทราบว่าจะใช้คำเช่นใด นอกจาก ใจดี20 คุณเกิดมาเสียชาติเกิดจริงจริงครับ

ตะนิ่นตาญี

วันอังคารที่ ๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๑๘.๓๗ นาฬิกา

เพื่อนๆในบอร์ดคงจำกันได้ ผมเลือกปชป. ส่วนแม่ผมแดงอ่อนๆ แต่รักทักษิณยิ่งชีพ
อย่างไรก็ตามผมก็ไม่เคยทะเลาะกับแม่ คุยกับแม่ได้ว่าทำไมรักทักษิณ ตามหลัก "รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง"
แม่เล่าให้ผมฟังหมดว่ากองทุนหมู่บ้านกลายเป็นแหล่งเงินกู้ของวงศาคณาญาติอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านยังไง
แล้วเงินนั้นไม่เคยตกถึงมือ "คนที่ไม่ใช่พวก"

ช่วงก่อนเลือกตั้งแม่ผมเถียงหัวชนฝาว่านโยยาบต่างๆของทักษิณต้องทำได้แน่นอน "คุณทักษิณเขาเก่ง"
ผมก็ยกทุกโครงการที่มันทำเจ๊ง แต่แม่บ่เจื้อข้อย

พอหลังน้ำท่วมแม่เริ่มเสียงอ่อนลง ไม่ชมเพื่อแม้วเหมือนก่อน
แต่ก็ยังไม่เคยชม "อภิสิทธิ์"
โปรดสังเกต คนที่แก้ตัวว่าไม่แดง มักเรียกแม้วว่า "คุณทักษิณ" และเรียกมาร์คว่า "อภิสิทธิ์" เฉยๆ
ไม่เรียกท่านทักษิณก็เพราะ "กลัวมันชัดเกินไป")

ทีนี้เมื่อวันก่อน ผมถูกเรียกให้เข้าประชุมกับอาจารย์สส.ผุสดี ตามไท โดยมีคุณอภิสิทธิ์แลกเปลี่ยนนโยบายอยู่หัวโต๊ะ
โดยเป็นการประชุมระดมปัญหาและความคิดจากหลายๆหน่วยงาน
(ตอนแรกผมนึกว่าคนจะเป็นร้อย แต่เอาจริงมีไม่กี่สิบคนเองครับ เพราะที่ประชุมจะแบ่งเป็นองค์คณะๆไปในแต่ละวัน)
เพื่อช่วยกันแสดงปัญหาของประเทศและออกความเห็น
คุณอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะนำเอาทั้งหมดที่เราคุยกัน "ร่างนโยบาย 10 รากฐานของประเทศไทย"

แม่โทรมาหาผมว่ากำลังจะไปไหน ผมก็บอกว่าจะไปทำอะไร
แม่ผมพูดขึ้นมาเลยทันที "ระวังนะ พรรคนั้นเขาจะหลอกลูกไปร่างนโยบายโจมตีพรรคฝ่ายตรงข้าม"

ประโยคของแม่ทำให้ผมสะท้อนใจได้เลยทันที...ว่าปัญหาแตกแยกในประทศของเราแก้ไม่ได้แล้วละครับ
เพราะคนกลุ่มหนึ่งในประเทศ ถูกฝังรากความเกลียดและความระแวงไปแล้วเรียบร้อย
เป็น toxic mind หรือ "จิตเป็นพิษ" ที่ใช้ยาขนานใดก็ "รักษาไม่ได้"

ผมอาจมองโลกแง่ร้ายเกินไป เลยต้องเอามาถามเพื่อนๆเสรีไทย
คิดว่าปัญหานี้มันจะแก้ได้ไหมครับ


ส่วนเรื่องที่ 2 ที่ผมอยากเล่าสู่ให้เพื่อนๆฟังคือ
ขณะที่คุณอภิสิทธิ์รับฟังความเห็นและปัญหาอย่างตั้งใจมาก จดทุกอย่าง ถามคำถาม
ผมสังเกตว่า เขายังอธิบายให้ฟังด้วยว่าไอเดียนี้ถ้านำไปปฏิบัติจริงจะเกิดปัญหาอย่างไร ต้องคิดแนวทางป้องกันล่วงหน้าอย่างไรบ้าง
ผมก็เลยนึกถึงการที่มีคนต่อว่าคุณอภิสิทธิ์ "คิดช้า"
แต่ที่จริงเขาไม่ได้คิดช้าครับ เขาคิดข้ามช็อตไปจนจบกระบวนการแล้ว มันถึงดูช้า


เรื่องที่ 3 ระหว่างที่นั่งประชุมกันอยู่ประมาณ 3 ชม.ครึ่ง (จนผมหิวหน้ามืด)
ผมก็คิดถึงเรื่องนายกปู รัฐบาล และการโหวตโน
นายกปูจะทำแบบ"พวกเขา" ที่นั่งอยู่กับเราแล้วรับฟังความเห็นรวมทั้งซักถามอย่างตั้งใจหรือ?
หรือถ้าเราโหวตโนไปแล้วเท่ากับเราไม่ได้นักการเมืองคนไหนมาเลย มันช่วยอะไรกับปัญหาประชาชนได้งั้นหรือ?


เล่าสู่กันฟังกับพี่น้องเสรีไทยแต่เพียงเท่านี้ครับ

แล้วทำไมถึงต้องห้ามให้ที่ว่าการจังหวัดทุกจังหวัด.จุดพลุ.ฉลองวันมหามงคล อันยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทยครับ..ห้ามเพื่ออะไรครับ..ใครมีคำตอบช่วยบอกหน่อย ครับ...

มันอันตรายครับ ไปจุดพลุเล่นกันเอง มีอุบัติเหตุเป็นประจำทุกปี ไม่ควรอย่างยิ่งในวันมหามงคลแบบนี้

อย่ามาโยงมั่วไอ้โปก มันเกี่ยวกันตรงไหน

ผลประโยชน์สำคัญกว่าอุดมการณ์ สำหรับบางคน

อยากขอให้มอดช่วยปิดกระทู้นี้ทีครับ เพราะจขกทตั้งคำถามเพื่อให้ตอบว่า"ใช่"อย่างเดียว
ไม่มีเหตุผลอันใดต้องมีการโต้แย้งหรือเสนอข้อมูล ถ้างั้นให้จขกทประกาศชัยชนะแล้วปิดกระทู้ครับ

ขอบคุณครับ!!

ผมไม่เคยประสงค์ชัยชนะส่วนตัวครับ

ชัยชนะของระบอบประชาธิปไตยต่างหากที่ผมต้องการ

แล้วตอนนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยยังไง??

ผมว่าคุณประกาศชัยชนะแล้วปิดกระทู้เถอะ เพราะมัน"ใช่"ตามที่คุณอยากให้ตอบ

ตอนนี้ประชาะธิปไตย ยังไม่แข็งแรงครับ เพราะผลไม้พิษยังลุแก่อำนาจ

คว ายแดงขี้ข้าทักษิณครับ ไม่มีไรมาก

เจตนาผมยังเหมือนเดิมครับมอด ช่วยปิดกะทู้นี้ด้วย

เพราะความใจกว้างนี่แหละ ผมถึงชอบเสรีไทยไงครับ

เราถึงพูดได้เต็มปากว่า พวกปากประชาธิปไตยน่ะ ไม่จริงเลย
พฤติกรรมเผด็จการชัดๆ

ส่วนเรื่องโดนแดงยึด ไม่ต้องห่วงหรอกครับ
เพราะพวกเราก็วิงวอนร้องขอให้ส่งแดงฝีมือเอกๆมาบอร์ดเราบ้างเหอะ
เพราะที่เจออยู่นี่ ปัญญาอ่อนทั้งนั้น

โปกหลุกก็แดงคิกขุ
เฮนไตก็แดงขี้ขลาด
แต๋มก็แดงปัญญาอ่อน
ใจดีก็แดงโรคประสาท
ห่าเอ็มก็แดงหน่อมแน้ม
สิงห์ก็แดงขี้เท่อ
ปลายอ้อก็แดงกะโหลกกะลา

เฮ้ออออออออออออออออ...

เราขอถามว่า โดยใช้สามัญสำนึกเวลาไปขอใบแทนหรือเอกสารจากราชการ มีกี่คนที่รู้ว่าเราได้รับเอกสารที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะเอกสารจากราชการ?? เราถามอีกตอนอายุ 23 จะสนใจว่ามีการพิมพ์อะไรผิดมาให้เราหรือไม่?? คนเรียนนอก มีเงิน น่าจะมีคนไปทำการต่าง ๆ ให้ เจ้าตัวก็มีหน้าที่เอาเอกสารและไปสมัครงานแค่นั้น ไอ้สุกำพลเอาเรื่องเมื่อ 24 ปีก่อนกับการที่มีคนเอาเอกสารที่หน่วยงานที่ออกให้เกิดออกผิด มาเป็นประเด็น ถึงขั้นละเมิดศีลธรรม จริยธรรม เป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในราชการ
ที่นี้เรามาดูจดหมายที่ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการบ้าง ในนี้มีการพิมพ์ที่ผิดหลายแห่ง และที่สำคัญตำแหน่งตัวเองรัฐมนตรีว่าการทรวงกลาโหม ยังมองไม่เห็น และเป็นคนอายุ 61 ผ่านร้อนผเานหนาวมาจนได้เป็นนายพล และรัฐมนตรี ยังอ่านหนังสือที่ตัวเองจะต้องเซ็นผิด ๆ ถูก ๆ แล้วเช่นนี้จะทำหนังสือไล่ตัวเองไหมครับผม

ขอเอาตัวอย่างคนอายุประมาณยี่สิบกว่าตอนขายหุ้นก็น่าจะประมาณ 26 ปี เป็นคนมีหุ้นรำ่รวยขายได้เป็นหมื่น ๆ ล้านบาทแต่ไปถามเจ้าของหุ้น ดันไม่รู้เรื่องอะไร รู้อยู่อย่างเดียวพ่อกูรวย คนรู้รายละเอียดกลับคือเลขาแม่ ทั้ง ๆ ที่มีข้อมูลชัดเจนว่าเอาชื่อใส่แทนพ่อแม่มัน มีความผิดอาญา แต่ยังเสวยสุขเป็นคุณหนู ถอนหงอกรมวกลาโหมได้

ขออีกตัวอย่างนักโทษหนีคุกมีหมายจับยืดยาว โกงบ้านโกงเมือง เผาบ้านเผาเมือง มีน้องสาวหน้าโง่เป็นนายก พวกแม่งมันกลับไปยกยอ กราบตีน เลียแข้งเลียขา ***** รับใช้ เทิดทูล

สุดท้ายช่วงนี้เราเห็นทั้งฑูต และประธานาธิปดีของสหรัฐ จะมาช่วยกันอวยให้พวกเอี้ยว่าเป็นประชาธิปไตย เพราะได้รับการเลือกตั้งมา ก็อยากบอกว่า ไม่อยากเชื่อเลยว่าชาติมหาอำนาจนี้ดูไม่ออกว่าความต่างระหว่างประขาธิปไตยของไทยกับของเขานั้นเหมือนกัน ยอมรับได้จริงหรือ หรือเป็นเพราะผลประโยชน์ต่างตอบแทน เพราะสิ่งที่เห็น ๆ ที่เกิดในประเทศไทยที่เป็นเช่นนี้ก็มีอย่างเดียวคือ "ผลประโยชน์"

ผมเชื่อว่า อเมริกา มันรู้ แต่ที่ออกมาอวย เพราะรัฐบาลนี้มันโง่ โอกาสหาผลประโยชน์จากประเทศเรา มันทำได้ง่ายๆ เลย แหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่อเมริกาจ้องจะมีหุ้นส่วน มันก็น่าจะได้ง่ายๆ เลย อย่าถามถึงคุณธรรมจากประเทศอเมริกา หรือประเทศใดๆ ในโลก ผลประโยชน์มาก่อนเสมอ

โดยส่วนตัวยังไม่เชื่อคนๆ นี้ครับ...รอตรวจสอบให้แน่ใจดีกว่า

ประชาชนทนไม่ไหวแล้ว (โดยเฉพาะเว็ปพันทิพย์) อย่าลืมเอาบัตรประชาชน ไปลงทะเบียนไม่เอารัฐบาลด้วย

โดยเฉพาะความเป็นกลางที่สุดในสามโลก

หุหุหุ

คงหายไปเที่ยว.....คนเดียว....

(เพราะคาดว่าชีวิตนี้คงไม่มีเพื่อน คริคริคริ ครุครุครุ )

เค้าบอกว่าไปเที่ยววันหยุด 2 สัปดาห์ครับ เดี๋ยวคงกลับมาแล้วละครับ

แหม!!ถึงกะตั้งทู้บ่นถึงเชียว
ช่างน่าภาคภูมิใจแทนเสียจริงๆ เอิ๊ก เอิ๊ก

ชิส์.....หยุมหยิมกันไม่เลิกนะ พวกสลิ่ม แมลงวาป

เห็น "คนกลางแห่งสามโลก" ไม่เข้ามาหน่อยเดียว

ทำเป็น ดีดดิ้น ดี๊ด๊า กันใหญ่ ถึงกับเอามาตั้งกระทู้

ขี้อิจฉาแบบนี้ เป็นเสียงส่วนน้อยต่อไปเหอะ...เชอะ

5555+ เค้าไม่กล้าเข้าไปสตูดิโอนี้ กลัวเสนียดติด

พวกดารานักร้อง เนี่ยมันทำกันประจำแหละ มนุษย์เงินดือนทั้งหลายเอ๊ย

ตัวมาร้องเพลง มาออกงาน แต่ตอนรับตังค์ ดันเอาบัตรประชาชนใครก็ไม่รู้ หน้าเหียก ตัวดำ บ้านนอกๆ มารับเงิน

ลองอ่านบทความนี้ของคุณอิทรายุธ ดูนะครับ
เผื่อบางท่านยังไม่ได้อ่าน

บทวิเคราะห์พิเศษ/แผนฆ่ามวลชนตนเองรีเทิร์น

by อิทรายุธ » Fri Nov 20 2009

บทวิเคราะห์พิเศษนี้เรื่องแผนการฆ่ามวลชนตนเอง ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่การวิเคราะห์อะไรมากมาย เพราะแผนการฆ่ามวลชนตนเองของแกนนำเสื้อแดงนั้น เป็นที่รู้กันดีพอควรอยู่แล้ว เพียงแต่ขอนำมาเรียบเรียงอีกครั้ง เพราะเขากำลังจะนำแผนนั้นมาใช้อีกแล้ว และคราวนี้เขาทบทวนจุดผิดพลาดของครั้งที่ผ่านๆมา มันจึงมีแนวโน้มน่ากลัวกว่าครั้งก่อน

ย้อนกลับไปเมื่อเขาใช้แผนนี้ครั้งแรกช่วงสงกรานต์ปีที่แล้ว 52

วิธี การคือปลุกปั่นมวลชนให้บ้าคลั่งถึงขีดสุด ปิดเมือง เผาเมือง เผารถ และไล่ฆ่าคน เขาคำนวณเป็นแม่นมั่น ว่าก่อความรุนแรงถึงขนาดนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆคือโดนทหารปราบปรามอย่างรุนแรง มวลชนจะต้องล้มตายจำนวนไม่น้อย เมื่อถึงจุดนั้นทัพหลวงของม๊อบที่รอเวลาอยู่หน้าทำเนียบ นำโดยวีระ ก็จะเคื่อนออกมากดดันหาความชอบธรรม ให้เสียงสาธารณะบีบรัฐบาลให้ลาออก ในช่วงนาทีเช่นนั้น ทักษิณซึ่งตอนนั้นแอบอยู่ข้างชายแดนเขมรก็จะโผล่หัวมานำทัพทันที

แต่แผนเขาพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ก่อความรุนแรงขนาดนี้แล้วฝ่ารัฐไม่ตอบโต้ ด้วยความรุนแรง มีแต่คนบาดเจ็บไม่มีตาย ศพเดียวก็ไม่มี จะว่าไปแล้วช่างเป็นเรื่องบังเอิญเสียด้วยซ้ำ เพราะแม้ตั้งใจมั่นว่าจไม่ปราบรุนแรง แต่ก็น่าพลั้งมือพลาดไปจนมีตายบ้าง แต่กลับไม่มีเลย แรงสุดคือสาหัส

แผนของแกนนำแดงที่จะฆ่ามวลชนตัวเอง ในครั้งแรกนี้จึงเหลวเป่า นำมาสู่ความผิดหวังอย่างใหญ่หลวง ทักษิณรีบชิ่งหนีทันที จักรภพก็เปิดตูดหาย ความผิดหวังนั้นฉายชัดอยู่ในสีหน้าและแววตาของจตุพร ช่วงแรกเขาจึงพยายามปล่อยข่าวลือเท็จว่ามีคนตายมากแต่โดนเก็บศพ เพราะใจจริงเขาอยากให้มวลชนตนเองตายเยอะๆ แต่ที่สุดเมื่อไร้หลักฐานก็ค่อยๆเงียบเสียงไป หันไปสร้างข่าวลือเท็จเรื่องอื่นๆต่อไปตาม***

แผนฆ่ามวลชนตนเองถูกนำ มาทบทวนหาจุดผิดพลาด พวกเขาพบว่าจุดผิดพลาดคือไปหวังให้ฝ่ายรัฐบาลฆ่าม๊อบ เมื่อรัฐบาลไม่ยอมฆ่า แผนนี้จึงไม่สำเร็จ ด้วยเหตุนี้เขาจึงปรับปรุงแผนนี้ โดยจะดึงเอาเสื้อแดงส่วนหนึ่ง ไปอำพรางตัวเป็นฝ่ายรัฐ แล้วฆ่ามวลชนตนเอง ในลักษณะคล้ายๆกับที่โจรใต้แต่งชุดทหารฆ่าชาวบ้านมุสลิมนั่นเอง คือฆ่ามวลชนตนเองเพื่อป้ายสีคู่ต่อสู้ ซึ่งงานแบบนี้คนอย่างจิ๋ว พัลลภ และเศษแดงมีความช่ำชองเป็นอย่างดี แต่การพยายามนำแผนนี้มาใช้ในช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมายังหาจังหวะเหมาะไม่ ได้ ถูกฝ่ายรัฐบล็อคได้หมด ขนาดขนกำลังนักฆ่ามาเตรียมไว้แล้วแถวสวนลุมพินี ก็ยังไม่สามารถลงมือได้

มาในคราวนี้โดยสภาพแวดล้อมของการต่อสู้นั้น ทักษิณอยู่ในสภาพจนตรอกยิ่งขึ้นทุกที ไพ่ในมือแทบไม่เหลือให้เล่น เขาจึงไม่อาจรอได้อีก แผนนี้จะต้องนำมาปฏิบัติให้จงได้ปลายเดือนนี้และรอบนี้ต้องรัดกุมขึ้นและ ต้องแรงกว่าเดิม

โดยสภาพของแผนจะคล้ายของเดิม คือทักษิณจะมาแอบอยู่ชายแดน มวลชนที่บ้าคลั่งจะออกเผาเมืองเผารถ แต่ครั้งนี้จะเพิ่มด้วยการเผาสถานที่ราชการ เผาอาคารบ้านเรือนเอกชน โดยเฉพาะที่เขาพบว่าไม่ยืนข้างแดงจะโดนก่อน และหมัดเด็ดก็คือการฆ่ามวลชน โดยจะฆ่าทั้งมวลชนตนเองและประชาชนทั่วไปให้มากเท่าที่จะทำได้ ยิ่งตายมากยิ่งสยดสยองมากก็ยิ่งดี

เมื่อทุกอย่างปั่นป่วนสุดๆ เขาจะนำมวลชนทัพหลวงซึ่งน่าจะนำโดยวีระอีกครั้งออกทำการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐ โดยร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธสีแดงที่บางส่วนเป็นกำลังฝ่ายรัฐเอง เขาจึงต้องระดมมวลชนให้ได้หลักล้าน หรือหลายๆแสน เพื่อเป็นหลักประกันว่าจะต้องชนะ เนื่องจากมีจุดอ่อนที่กำลังติดอาวุธไม่มากพอจะเป็นกำลังหลัก จึงต้องใช้กำลังมวลชนเป็นหลักในการปฏิวัติ ซึ่งเมือชนะก็จะอ้างต่อสากลได้ด้วยว่าเป็นการปฏิวัติของประชาชน เหมือนการปฏิวัติฝรั่งเศสในอดีต หรือการปฏิวัติล้มราชวงศ์โรมานอฟ ดังที่แกนนำเสื้อแดงเผลอหลุดปากออกมา

แน่นอนเมื่อสถานการณ์ถึงจุดนี้ ทักษิณก็จะโผล่หัวมานำทัพทันที เป็นการยึดอำนาจได้ทันท่วงทีก่อนถูกยึดทรัพย์

ตามการกะคำนวณของพวกเขา แผนในครั้งนี้ไม่น่าพลาดไปได้ ไม่ว่ารัฐจะตอบโต้หรือไม่ เขาก็เดินแผนได้ทุกขั้นตอน เขาจึงมั่นใจยิ่งนักว่าครั้งนี้ต้องชนะเพียงสถานเดียว

แผนฆ่ามวลชนตนเอง เป็นแผนการรบอย่างหนึ่งของการทำสงครามมวลชน บรรดาคนที่ทำสงครามมวลชน หรือสู้รบโดยใช้มวลชนเป็นกำลัง จะรู้จักแผนนี้กันเป็นอย่างดี แต่ปกติแล้วแผนนี้จะไม่ถูกนำออกมาใช้เว้นแต่ผู้นำเห็นว่าถึงจุดจำเป็นจริงๆ ซึ่งสำหรับการต่อสู้ของเสื้อแดงนี้ พื้นฐานเดิมๆแกนนำก็ย่อมไม่อยากฆ่ามวลชนตนเองมาก่อน แต่เพื่อสถานการณ์สู้รบพัฒนามาถึงขั้นนี้ เขาจึงหยิบออกมาใช้ตั้งแต่สงกรานต์ทีผ่านมา

ผมขอขยายความด้วยว่า สำหรับคนที่ทำการสู้รบ หรือมีความรู้ด้านการสู้รบนั้น เมื่อเขาเห็นการสู้รบของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เขาจะมองออกทันทีว่าว่าฝ่ายนั้นกำลังรบอยู่ด้วยแผนการณ์ใด เหมือนๆกับที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลมองออกว่าทีมคู่แข่งกำลังเล่นด้วยแผนใด และทีมของตนจะแก้เกมด้วยแผนใด ในกรณีการรบนี้ก็เช่นกันเมื่อมองออกว่าฝ่ายตรงข้ามจะรุกมาด้วยแผนใด ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องหาทางแก้เกมกันไป ซึ่งที่จริงแล้วในการรบที่ยืดเยื้อติดพัน เขาก็จะประเมินด้วยว่าในการรบครั้งถัดไปคู่ต่อสู้จะรบด้วยแผนใด ดังนั้นแผนฆ่ามวลชนตนเองที่ถูกปรับปรุงนำมาใช้ใหม่นี้ ฝ่ายรัฐบาลเองก็รู้อยู่ครับ

การทำสงครามมวลชนนั้นจะมีอยู่สามระดับ ผมขอเรียกอย่างให้เข้่าใจง่ายๆว่า ขันธรรมดา ขั้นกว่า และขั้นสุด

ขั้นธรรมดาคือจัดมวลชนประท้วงธรรมดา เช่น ม๊อบสมัชชาคนจนเป็นต้น

ขั้น กว่าคือยั่วยุให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายเริ่มก่อความรุนแรงก่อนเพื่อให้สูญเสีย ความชอบธรรม (ในการสงครามฝ่ายใดเสียความชอบธรรมฝ่ายนันจะแพ้เสมอ) แผนระดับนี้เคยนำมาใช้อย่างได้ผลในการต่อสู้เดือน พ.ค. 2535 นำไปสู่ชัยชนะของฝ่ายประชาชน และในการต่อสู้ของพันธมิตรก็นำมาใช้สองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้ผลที่ชัดเจน เนื่องจากแผนระัดับนี้เป็นที่รู้กันดีของคู่ต่อสู้ทุกฝ่ายแล้ว จึงมักแก้เกมกันได้หมด

ขั้นสุด คือฆ่ามวลชนตนเองแต่ผลักให้ฝ่ายตรงข้ามเสียความชอบธรรม แผนนี้ที่ชายแดนใต้ฝ่ายแบ่งแยกดินแดนใช้หลายครั้งในช่วงสองสามปีแรกๆ และได้ผลเป็นอย่างมาก แต่มาถึงระยะหลังๆทั้งฝ่ายรัฐและประชาชนดูจะรู้ทัน เลยไม่ค่อยมีการใช้กันอีก โดยปกติแผนนี้จะมีสองระดับคือ

ระดับแรกบีบ คั้นให้ฝ่ายตรงข้ามฆ่ามวลชนตนเอง เช่น ที่โจรใต้ทำสำเร็จอย่างงดงามในกรณีกรือเซะและตากใบ และฝ่ายเสื้อแดงนำมาใช้เมื่อสงกรานต์ แต่ไม่สำเร็จ
ระดับสองคือฆ่ามวลชน ตนเองด้วยฝ่ายตัวเองที่อำพรางเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นที่ทราบแน่ชัดว่าฝ่ายเสื้อแดงจะนำแผนระดับนี้มาใช้ โดยพยายามหาช่องนำมาใช้สองสามเดือนมาแล้ว จนถึงการประท้วงใหญ่ที่กำลังจะกิดขึ้นนี้ ก็คือมุ่งแผนนี้เป็นหลัก
(แผนระดับนี้ถ้าไม่ใจดำจริงจะทำไม่ได้)
แต่แนนอนว่ามันจะต้องไล่ระดับไปจากขั้นธรรมดาก่อนในวันแรกๆ จากนั้นจะยกระดับไปสู่ขั้นกว่า และไปสู่ขั้นสุด ชนะได้ที่ขั้นไหนก็อยุดที่ขั้นนั้น

ผมคงไม่สามารถเสนอหลักฐานอะไรได้ ชนิดมีใบเสร็จ ท่านผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณเอาเอง แต่ขอบอกเพิ่มเติมว่าในบรรดาแกนนำของทั้งแดงและเหลืองนั้นมีพวกที่เรียกว่า "ซ้ายเก่า" คืออดีตพลพรรคอมมิวนิสต์ไทยอยู่ด้วย และแม้แยกฝ่ายกันรบแต่ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ยังติดต่อ โทรหา นัดพูดคุยกันอยู่ตลอด ผมเองก็ทำเช่นนั้น เมื่อตอนสงกรานต์ผมก็โทรหาเพื่อนที่เป็นซ้ายเก่าถึงกลางม๊อบแดงตลอดเวลา ซึ่งพวกนี้พื้นฐานจิตใจจะรักมวลชน จึงไม่ค่อยยินยอมพร้อมใจกับแผนฆ่ามวลชน ข้อมูลต่างๆจึงรั่วออกมาจากพวกนี้เอง (การฆ่ามวลชนตนเองนั้นปกติเป็นพฤติกรรมของพวกขวาจัด) ครั้งนี้ก็เช่นกัน

คุณกรกช ผมเอามาลงกระทู้นี้นะครับ

ตอนนั้นติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดโดยตลอด ทั้งจากทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และเว็บต่างๆ ทั้งของคนเสื้อแดง และไม่ใช่เสื้อแดง จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด และวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ สืบเนื่องมาจากปี 52 และ 53 ทำให้เชื่ออย่างสนิทใจว่า ประเด็นที่คุณแอมฯ ว่า เสื้อแดงฆ่ามวลชนของตนเองเพื่อใช้ศพมาโจมตี โค่นล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นเรื่องจริง และตามความคิดของตนเอง ก็เห็นว่า รัฐบาลของคุณอภิสิทธิ์ทำถูกต้องแล้ว เพราะหากมีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วโจมตีทั้งทหารและมวลชนของตัวเอง แล้วยังให้ทหารสู้ด้วยกระบองและมือเปล่าแล้ว ก็เท่ากับส่งทหารไปตาย การชุมนุมที่ผ่านมาไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบ แต่เข้าข่ายจะเป็นการกบฎด้วยซ้ำ ช่วงนั้น ยังรู้สึกโกรธรัฐบาลที่นุ่มนวลเกินไป แต่ก็เข้าใจว่ามันยากแค่ไหนที่จะไม่ให้ไปเข้าทางแผนของพวกเสื้อแดง