ypk

ผมไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ ผมผิดด้วยหรือที่ไม่ได้เข้าข้างใคร

เหอะ เหอะ  ไม่ผิดหรอก คุณจะเข้าข้างใครหรือไม่เข้าข้างใคร มันก็เรื่องของคุณ

แต่คุณกำลังบิดเบือนว่า เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์

เพื่อชิงอำนาจทางการเมือง

คนที่เลือกคุณ เขาไม่โง่อย่างที่คุณคิดหรอก เพราะเขารู้ดีว่า นี่เป็นการเผชิญหน้ากันระหว่าง

รัฐบาลที่ประกาศตนเป็นรัฐบาลนอกกฎหมาย กับประชาชนผู้รักความถูกต้องเป็นธรรมไม่ใช่เรื่อง

การชิงอำนาจของ พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์

คุณไม่เห็นด้วยกับสุเทพ มันก็เป็นสิทธิของคุณ แต่พฤติกรรมของคุณมันขัดแย้งกับสิ่งที่คุณพูด

มาตลอด เขาชุมนุมกันที่ไหนคุณก็ไปโผล่ในที่ชุมนุมอยู่เรื่อย แล้วมาบอกว่าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่

สุเทพทำ ก็เมื่อไม่เห็นด้วยแล้วคุณไปร่วมชุมนุมทำหอกอะไรมิทราบครับ คุณจะมีจุดยืนอย่างไร

ยืนอยู่ตรงไหน พฤติกรรมของคุณมันบอกได้ครับ

เขาว่ากันว่า พฤติกรรมของคุณมัน แทงกั๊ก ครับ

เหอะ เหอะ  แทนที่จะช่วยรณรงค์ให้คนออกมาให้เยอะ ดันมาเสี้ยมมายุแยงตะแคงรั่วอีก

ปชป ไม่ยอมปิดทางถอยของนางยิ่งลักษณ์ เพราะไม่ยอมประกาศว่าจะไม่ส่ง สส ลงสมัคร

ถ้านางยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภา หรือ ลาออก

นี่มันเป็นความเห็นแบบ ปัญญาอ่อน หรือไม่ ก็เชียร์ไอ้เหลี่ยมแบบสุด ๆ นั่นแหละ เพราะถ้า

ปชป ประกาศแบบที่นายจิตนาถ ทาสไอ้เหลี่ยม แนะนำ รับรองได้เลยว่านางยิ่งลักษณ์ประกาศ

ยุบสภา หรือลาออกทันที เพื่อไปเลือกตั้งใหม่แบบไร้คู่แข่งอย่าง ปชป เลย

ส่วน ดร เสรี นั้น ก็อย่าหน้ามืดให้มันมากนัก ไอ้ 300 กว่าตัวในสภา น่ะ มันหมดความชอบธรรม

ทางพฤตินัย แต่ทางนิตินัย มันยังมีอยู่  การบอกให้ ปชป ลาออกมาก็เท่ากับทำให้ ปชป หมดความ

ชอบธรรมทาง นิตินัยทันที แต่ไอ้ 300 กว่าตัวนั้นยังมีอยู่ และจะสามารถทำ เห้ ๆ อะไรได้อย่าง

สบายใจเลยเพราะ ปชป โง่ ลาออกตามคำแนะนำของ ดร เสรี

ถ้าหวังผลว่า ปชป ลาออกแล้วให้มาปลุกระดมมวลชนให้ออกมาร่วมชุมนุม นี่ก็เป็นคำแนะนำ โง่ ๆ

อีกเหมือนกัน เพราะถ้าจะปลุกระดมวลชนให้ออกมาชุมนุม จะลาออกมาจาก สส หาวิมานอะไร

ออกมาเป็นประชาชนธรรมดา ๆ แล้วไปปลุกระดมมวลชน แม้แต่ หมา ไม่รู้มันจะเดินตามหรือเปล่า

ถ้า อ เสรี เลือก ปชป ก็น่าจะรู้ดีว่า คนที่เลือก ปชป มันไม่ใช่คนที่เดินตามก้นนักการเมือง เขาออกไป

ชุมนุมเพราะเขาคิดเอง เขาคิดเป็น ไม่ใช่ตามก้นสุเทพ หรือตามก้นอภิสิทธิ์ เพราะฉะนั้น ควรเลิกเพ้อเจ้อ

แล้วช่วยรณรงค์ให้คนที่มีจิตสำนึกออกมาร่วมชุมนุมดีกว่า แค่บอกให้เขาออกมารวมตัวกันหน้าตึกแถว

บ้านเขาให้เต็มถนนทุกสาย ก็พอ ถ้าไม่พอมีใครนอนป่วยอยู่ในบ้านก็เข็นเตียงออกมาหน้าบ้านลงบน

ถนนไปเลย ใครมีลูกเล็ก ๆ ก็อุ้มมันออกมานั่งป้อนข้าวบนถนนหน้าบ้าน หรือเอาผักเอาหมูมานั่งหั่น

นั่งสับอยู่บนถนนหน้าบ้านก็ได้ ถ้าทุกคนทุกย่าน ทำกันแบบนี้ ไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรกับ ปชป หรอก

ถ้าไม่กล้าลงถนน ก็ยืนโบกธงหน้าบ้านนั่นแหละ โบกกันไปโบกกันมาถ้ามันเยอะขึ้นมันก็ลงถนนเองแหละ

ตอนนี้กำลังต้องการคนออกมาแสดงตน ไม่ใช่ต้องการประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้น เลิกบ้ากับ ปชป ได้แล้ว

เหอะ เหอะ ฝากถึง Vkkn

ทักษิณโกงจิง ๆ (ความคิดนะ) แต่โดนคดีซึ่งตรากฎหมายเอาผิดย้อนหลัง

ความคิดเห็นแดง ๆ ผมว่ามันไม่แฟร์

ถ้าเป็นคดีที่ดินรัชดา กฎหมายมันมีมาก่อนทักษิณโกงแล้วครับ เพราะเรื่องมันเกิด

เมื่อปี 46 กฎหมายมันมีมาตั้งแต่ปี 42 มั้ง

ที่เขาโต้แย้งน่าจะเป็นเรื่องว่า กฎหมายนี้มันถูกยกเลิกไปแล้วมากกว่า ไม่ใช่เรื่อง

ออกกฎหมายย้อนหลัง ประเด็นมันก็คือ คณะปฏิรูป เขาประกาศยกเลิก รธน ซึ่งบังเอิญ

กฎหมายฉบับนี้ของ ปปช มันเป็น พรบ ประกอบรัฐธรรมนูญ เขาก็เลยเอามาโต้แย้งในศาลว่า

เมื่อ รธน ยกเลิกไปแล้ว กฎหมายประกอบ รธน ก็ต้องเลิกไปด้วย เมื่อเลิกไปแล้วก็เอามาใช้ไม่ได้

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาว่า กฎหมายนี้มันเป็นกฎหมายประกอบ

รัฐธรรมนูญก็จริง แต่เมื่อตราออกมาเป็นกฎหมายแล้วมันก็สมบูรณ์ในตัวเองเหมือน พรบ อื่น ๆ ไม่มีอะไร

ต้องไปเกาะเกี่ยวกับ รธน แล้ว การยกเลิก รธน จึงไม่เกี่ยวอะไรกับ กฎหมายนี้

เขาโต้แย้งอีกว่า ถ้าไม่เกาะเกี่ยวกับ รธน แล้ว คณะปฏิรูปมีประกาศออกมาทำไมว่า ไม่ยกเลิกกฎหมายนี้

ศาลพิจารณาว่า ที่คณะปฏิรูปออกประกาศมาว่ากฎหมายนี้ไม่ยกเลิกตาม รธน ก็เพื่อเน้นย้ำให้รู้ว่าการ

ยกเลิก รธน ไม่เกี่ยวกับกฎหมายนี้นั่นแหละ

ว่าแล้วก็มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ข้อโต้แย้งอันนี้ตกไป

เลขาธิการ กปปสเล่นเรื่องศาลเยอะไปแล้ว ศาลไม่ได้สั่งให้รัฐบาลทำอะไรเลย ก็บอกว่ารัฐบาลต่อต้าน

(แดงเค้าว่าที่ต่อต้านเป็นฝ่ายรัฐสภานะ แต่ผมว่ามันก็ไอ้พวกเดียวกันแหละ) ประเด็นคือศาลไม่ได้สั่งให้

ทำอะไรเลยแต่ดันมาว่าขัดคำสั่งศาล

ตรงนี้ผมว่าเอาสองเหตุการณ์มาปนกันนะครับ

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาว่าในการแก้ไข รธน นั้น การกระทำของสภามันขัดต่อรัฐธรรมนูญ ไม่

สามารถทำได้ ตรงนี้ที่บอกว่าศาลไม่ได้สั่งให้ทำอะไรก็มีส่วนถูกครับ คือทำไม่ได้นั่นแหละ

ประเด็นที่ เลขา กปปส เอามาพูดมันหลังจากที่ศาลวินิจฉัยออกมาแล้ว และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยซึ่งดำรง

ตำแหน่ง รมต มหาดไทย ก็นำคณะออกมาแถลงข่าวบอกไม่ยอมรับอำนาจศาล อย่างที่วงเล็บตัวแดง ๆ

นั่นแหละ เขาแถลงว่าไม่ยอมรับอำนาจศาล มันเป็นรัฐบาลนอกกฎหมายเลยนะ จะให้พูดน้อย ๆ คงยาก

ผมยกตัวอย่างความเห็นของท่านมีชัย ฤชุพันธ์ ที่ให้สัมภาษณ์ใน ไทยโพสต์ เมื่อ 26 พย 56 มาให้ดูบางส่วน

ที่ท่าน รมต มหาดไทยกับคณะท่านออกมาพูดปฏิเสธไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาล รธน ท่านคงลืมไปว่าท่าน

ยังคงเป็น รมต อยู่ และอยู่ในกระทรวงที่รับผิดชอบการปกครอง ซึ่งต้องดูแลให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎกติกา

การปกครองบ้านเมืองนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชนมีต่อ

ผู้ปกครองบ้านเมืองด้วยเป็นสำคัญ ถ้าประชาชนขาดความเชื่อถือศรัทธาแล้ว ต่อให้มีเสียงข้างมากอย่างไร ก็

ถูลู่ถูกังได้ไปเพียงระยะเดียว ไม่ว่าจะทำอะไร คนก็จะไม่เชื่อถือ มีแต่ความระแวงสงสัย

ดูเหตุการณ์สองสามวันก่อนนี่ก็จะรู้ มีใครก็ไม่รู้ เอาตะปูไปโรยเพื่อสกัดไม่ให้คนเดินทางมาชุมนุม ไม่ว่ารัฐบาล

คนของรัฐบาล และตำรวจ จะออกมาบอกอย่างไรว่าไม่รู้ไม่เห็น แต่ลองไปถามคนรอบข้างหรือแม้แต่คนเสื้อแดง

เองก็เถอะ เขาก็ปักใจว่า เป็นการกระทำของรัฐบาล คนของรัฐบาล และตำรวจทั้งนั้น และเมื่อเขาเชื่ออย่างนั้น เขา

ก็เลยต้องหาทางมากันให้ได้ ใครที่ไม่คิดว่าจะมาก็ทนอยู่ไม่ได้ ต้องพยายามออกมากันจนล้นฟ้า อย่างที่เห็น

ด้วยความที่เชื่อว่า รัฐบาลอำมหิต รังแกประชาชนโดยไม่สนใจว่า ถ้ายางแตกชาวบ้านจะเจ็บตายกันอย่างไร คนเป็น

รัฐบาล ถ้าถูกกล่าวหาอย่างนั้น จะบริหารงานต่อไปได้อย่างไร

เพราฉะนั้น "ไอ้อ้วน" ของตำรวจในรัฐบาลอำมหิต ก็มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมของรัฐบาลนี้นั่นแหละ (อันนี้ผมพูดเอง)

เหอะ เหอะ  มาตรา 7 มันทำได้ครับ แต่เงื่อนไขมันเยอะและยากที่จะทำ เพราะมันต้อง

เกิดสุญญากาศขึ้นโดยไม่คาดคิด เช่นกรณีเหตุการณ์ 14 ตค 16

กรณีที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้มันเป็นการขัดแย้งทางความคิด คือผู้ชุมนุมเห็นว่ารัฐบาลหมดความ

ชอบธรรมไปแล้วเพราะทำตัวอยู่นอกกฎหมายที่ประกาศไม่ยอมรับคำวินัจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

ซึ่งตรงนี้เป็นไพ่ใบสำคัญที่ลุงเทือก ถืออยู่ โดยฝ่ายรัฐบาลเองก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันถึงกับ

หุบปากเงียบกันไประยะหนึ่ง

แต่ประเด็นมันมาเปลี่ยนเป็นปฏิรูปประเทศโดยตั้งสภาประชาชนขึ้นมา รัฐบาลที่เคยหุบปากเงียบก็เลย

เริ่มออกมาส่งเสียง โดยเริ่มที่นางยิ่งลักษณ์ออกมาบอกประชาชนทางทีวีว่า สุเทพขอให้ทำในเรื่องที่

มันไม่มีอยู่ในรัฐธรรมนูญ แล้วมันก็โต้กันไปโต้กันมาจนถึง มาตรา 7 นี่แหละ

เพราะฉะนั้น ถ้ารัฐบาลและสภาไม่เอาด้วย มาตรานี้ก็พับเก็บใส่กระเป๋าไปเลยครับ ทำยังไงก็ไม่เวิร์ค

ปฏิรูปประเทศ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาพูดบนเวทีผู้ชุมนุม หรือมาถกเถียงกันในบอร์ดได้ เพราะที่พูดบน

เวที หรือถกเถียงกันในบอร์ด มันเป็นเพียงปัญหาที่เรามองเห็นเท่านั้น เช่นปัญหาตำรวจรีดไถ ตำรวจขี้ข้า

หรือ น้ำมันแพง อาหารแพง เด็กจบ ป 4 อ่านหนังสือไม่ออก ทวงคืน ปตท เรื่องเหล่านี้มันเป็นเพียงประเด็น

ปัญหา อาจจะเป็น 1 ใน 10 หรือ 1 ใน 100 ของปัญหาที่มีอยู่ก็ได้ แต่การปฏิรูปมันใหญ่กว่านี้มาก เพราะมัน

ต้องรวบรวมประเด็นปัญหาทั้งหมดแล้วไปมองในเชิงโครงสร้าง ด้วยว่าจะแก้ไขอย่างไร ไม่ใช่วันเดียวจบ อาจ

เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลายปี

บนเวที ยกตัวอย่างได้ครับ ความเลว ความชั่วร้ายทั้งหลายของประเทศที่เป็นอยู่ เพื่อโน้มน้าวให้คนในประเทศ

เห็นด้วยว่า ประเทศเรามันต้องถึงคราวปฏิรูปแล้ว เอาความเห็นร่วมของคนในประเทศตรงนี้ให้ได้ก่อน ส่วนจะ

ปฏิรูปกันอย่างไร รอให้ได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือแล้วค่อยว่ากัน  เอาอำนาจรัฐมาก่อน

สภาประชาชน อันนี้ก็เหมือนกัน แต่ดูจะเพ้อเจ้อกว่าเรื่องการปฏิรูปประเทศ ไม่รู้จะรีบเสนอออกมาเพื่ออะไร รอ

ให้ได้อำนาจรัฐมาก่อนค่อยคิดค่อยทำก็ได้ เพราะพูดออกมาตอนนี้มีใครเขายอมรับกันบ้าง มีแต่ความคลางแคลง

สงสัย

ทั้งสองเรื่องนี้ ประเด็นหลักมันอยู่ที่ว่า จะสามารถได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือได้หรือไม่ ถ้าได้อำนาจรัฐมาอยู่ในมือแล้ว

จะทำบ้าอะไรมันได้ทั้งนั้นแหละ เพราะฉะนั้นปัญหาขณะนี้ก็คือ จะได้อำนาจรัฐมาด้วยวิธีใด เพราะเท่าที่ดูอยู่ในขณะนี้

มันเป็นลักษณะรัฐบาลต้องร่วมมือด้วย ถึงจะทำได้ ต่างฝ่ายต่างกดดันกัน โดยลุงเทือกมีมวลชน และความผิดของรัฐบาล

เป็นทุน รัฐบาลมีอำนาจรัฐและตำรวจกับทหารบางกลุ่มหนุนหลัง

มันจะจบอย่างไร ไม่มีใครรู้ แต่ที่ รู้ ๆ ก็คือ พรุ่งนี้ต้องออกไปร่วมถวายพระพรกันให้มือฟ้ามัวดิน ก็จะเป็นแต้มต่อได้อีกครับ

เหอะ เหอะ  ผมว่าน่าจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่นะครับ

ความรู้สึกว่าตนถูกเหยียดหยาม

คนที่จะได้รับเกียรติแบบนี้ ต้องเป็นคนที่ไปอยู่ข้างทักษิณก่อนนะครับ เพราะ

ไปอยู่ข้างคนโกงชาติจึงถูกเหยียดหยาม มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ถูกเหยียดหยามก่อน

แล้วจึงไปอยู่ข้างทักษิณ

ปัญหานี้ถ้าเป็นข้าราชการจริงก็แก้ไขง่ายครับ แค่บอกเขาว่า อะไรถูกอะไรควรเท่านั้น

อธิบายสรรพคุณของทักษิณให้เขาฟังให้เข้าใจ ไม่น่ายากสำหรับคนเป็นข้าราชการนะครับ

และไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากสังคมทำให้เขาไม่มีที่พึ่งมากนัก

สังคมไม่เอาใจใส่ แล้วข้าราชการเอาใจใส่หรือเปล่าละครับ มันเป็นหน้าที่ของข้าราชการเลย

นะนั่น ถ้าสังคมไม่เอาใจใส่ ข้าราชการก็ต้องไปหาวิธีให้สังคมดูแลช่วยเหลือกัน เขาจะได้มี

ที่พึ่งในสังคมของเขา

ปัญหานี้ถ้าเป็นข้าราชการก็แก้ไขง่ายอีกนั่นแหละ และเป็นหน้าที่โดยตรงด้วย

ผมมองว่าชาวบ้านในชนบทที่เขาไปหลงไหลได้ปลื้มกับทักษิณก็เพราะพวกข้าราชการนั่นแหละ

ตัวดี ถ้าข้าราชการไม่ทำตัวเป็นขี้ข้าทักษิณ ชาวบ้านเขาก็ไม่เข้าข้างทักษิณหรอกครับ

เหอะ เหอะ  เขาว่า จขกท เสี้ยม เพราะความเห็นที่แสดงมา ส่วนใหญ่มันมีที่มาจาก

กลุ่มของสนธิ ทั้งนั้นไงครับ เขาถึงมองว่า เสี้ยม

จขกท รับแนวทางของกลุ่มสนธิมา ต้องติดตามความคิดของเขาให้ตลอดด้วย เพราะ

เขาจะเปลี่ยนความคิดไปตลอดตามสถานการณ์ พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีจุดยืนอะไรเลย

คำพูดเดิม ๆ ของเขาเมื่อสองสามปีที่แล้ว สามารถงัดมาใช้กับเหตุการณ์ปัจุจุบันได้

อย่างซ้ำซากไม่เบื่อหน่าย อย่างส้มหล่น ตีกิน นักการเมืองมันเลวหมด เลือกตั้งกี่ครั้ง

ทักษิณมันก็ชนะ เพราะฉะนั้นต้องปฏิรูปประเทศ แช่แข็งประเทศอย่างน้อยสิบปี

จขกท เคยได้ยินไหมครับคำพูดพวกนี้

แช่แข็งประเทศนี่ เคยไปแทรกแซงทางความคิดในกลุ่ม เสธ อ้าย จนรัฐบาลระดมตำรวจ

มาสลายไปแล้วนะครับ

ปฏิรูปประเทศ เคยเข้าไปแทรกแซงทางความคิดตอนกลุ่มหน้ากากขาวกำลัง ฮอต จำได้

ไหมครับ เที่ยวไปกล่าวหาว่า ปชป พยายามไปตีกินกลุ่มโน้นกลุ่มนี้จนทะเลาะกันตั้งแต่

สนามหลวงไปถึงสวนลุม จำได้ไหมครับ

สภาประชาชน อันนี้เขาไม่ได้คิดครับ แต่อดีตแกนนำ พธม คือ สมเกียรติ เป็นคนคิดครับ

ผมบอก จขกท ตรง ๆ ว่าผมไม่เห็นด้วยกับลุงเทือกที่ไปรับแนวความคิดเรื่องนี้มา แต่ผมก็

ไปร่วมกับลุงเทือก ไปดื่มกินแก๊สน้ำตามมาสองวันแล้ว ทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นด้วยครับ

ผมเห็นด้วยกับ ปชป ที่ไปเล่นอีกระดับหนึ่ง แต่ผมไม่มีปัญญาไปช่วยทำอย่างเขา ปัญญาของผม

มันแค่ไปกินแก๊สน้ำตาเท่านั้น

จขกท ต้องไปถาม สนธิ หรือ ปานเทพ ว่าวิธีที่จะนำไปสู่การปฏิรูปประเทศที่คุณพล่ามกันมาเป็นปีแล้วนั้น

มันจะต้องทำอย่างไร เพราะคุณกดดันคนอื่นเรื่องปฏิรูปประเทศมาตลอด แต่คุณไม่เคยกดดันพรรคเพื่อไทยเลย

ใครเขาตั้งกลุ่มต่อต้านรัฐบาล คุณก็เข้าไปตีกินเรื่องปฏิรูปในกลุ่มเขา แถมด่ากราด ปชป กลัวว่าเขาจะเข้าไปยุ่ง

ลุงเทือกมาตั้งกลุ่มต่อต้าน พรบ ล้างผิด คุณก็เข้าไปแทรกแซง เรื่องปฏิรูปประเทศ ทั้งสาวกทั้งบทความโจมตี

กดดันให้เขาลาออกจาก สส แล้วก็อ้างอย่างที่ จขกท เอามาพูดนั่นแหละ

แล้วตอนนี้เป็นยังไงล่ะ นั่งทำตัวเป็นกลาง ๆ นั่งวิเคราะห์การเมืองระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายลุงเทือก เผลอเมื่อไร

ก็ด่า ปชป โทษ ปชป ไม่ยอมลาออกมาช่วยลุงเทือก

ผมบอกตรง ๆ ว่าผมผิดหวังมากที่ลุงเทือกไปรับความคิดของคนกลุ่มนี้มา เพราะเขาล้มเหลวมาหลายครั้งแล้วจำกัน

ไม่ได้หรือ ตอนคุณล้มเหลว คุณก็อ้างว่า คนมันน้อย มันต้องมีคนเยอะกว่านี้ แล้วตอนนี้คนเป็นล้านคุณเริ่มทำออกตัว

มาโทษ ปชป อีกแล้ว

ผมจะบอกให้ว่า เรื่องปฏิรูปประเทศ เรื่องสภาประชาชน นั้น ถ้าเอามาพูดกันตอนนี้ มันก็เหมือนเพ้อเจ้อนั่นแหละ เหมือน

ที่โบราณเขาพูดไว้ว่า "ยังไม่เห็นน้ำตัดกระบอก" ตัดกระบอกไปแล้วก็แบกไปเดินหาน้า เป็นเหมือนเปิดช่องว่างให้นาง ปู

เอามาลอยหน้าฟ้องประชาชน ฟ้องต่างประเทศ ว่า ปูไม่รู้จะทำยังไง ก็ คุณสุเทพขอในเรื่องที่มันไม่มีในรัฐธรรมนูญนั่นแหละ

ลุงเทือกต่อยมวยคะแนนนำมาทุกยก แต่มาเจอกองเชียร์ แบบสนธิ แบบสมเกียรติ เข้า ตอนนี้เหมือนเปิดหน้า เปิดท้องต่อย

จนนางปูและพวกเริ่มสวนได้แล้ว

ถ้ามวลชนที่อยากปฏิรูปประเทศ อยากมีสภาประชาชน ยังเหนียวแน่เหมือนที่ออกมาเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา ก็ปิดประตูแพ้ครับ

แต่ถ้ามันไม่เหนียวแน่นเหมือนเดิม จะโทษใครครับ โทษ ปชป หรือ สนธิ หรือสมเกียรติ ดีครับ

เหอะ เหอะ  ผมว่าเขาตั้งคำถาม เพื่อปกป้องรัฐบาลที่เขาเชียร์ นั่นแหละ แต่ดูจากคำถามแล้ว

มันเหมือนไม่ใช่คำถามเชิงวิชาการเท่าไร เป็นเชิงการเมืองซะมากกว่า เหมือนคำถามของ

ทนายความที่พยายามซักคู่กรณีในศาล โดยพยายามหยิบประเด็นที่คิดว่าเป็นช่องว่างช่องโหว

ของฝ่ายตรงข้ามมาตั้งเป็นคำถาม

ถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นนักวิชาการ สิ่งหนึ่งที่เขาควรคิดก่อนมาตั้งคำถาม ถามคนอื่น คือ

เขาต้องรู้ว่า คนที่เขาจะตั้งคำถามนั้น คิดอย่างไร เพราะถ้าไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไรแล้วไปตั้งคำถาม

เพื่อถามเขา มันจะเกิดปัญหาว่า ตอบยังไงก็ไม่เข้าสมองคนถาม เพราะคำถามมันไม่ได้มีเหตุมาจาก

ความคิดของคนถูกถาม แต่มันมาจากความคิดของตัวคนถามเองที่มองการกระทำหรือคำพูดของ

คนถูกถาม แล้วเอามาตั้งเป็นคำถามว่า ทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ เหมือนเด็กเห็นอะไรก็ถาม

เพราะฉะนั้น ถ้าเขาพยายามศึกษาว่า สุเทพ คิดอย่างไร ให้ได้เสียก่อน เขาก็อาจไม่ต้องมาตั้งคำถาม

แบบนี้ก็ได้เพราะที่ สุเทพ เขาคิดนั้น เขาเห็นว่า รัฐบาลนี้มันหมดความชอบธรรมไปแล้ว เป็นรัฐบาล

นอกกฎหมายถึงขั้นกบฎต่อรัฐธรรมนูญไทย ที่ บังอาจประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อรัฐบาลทำตัวเป็นคนนอกกฎหมาย ใย นายวีรพัฒน์ ยังหยิบประเด็นย่อย ๆ ที่เขาต่อต้านรัฐบาล มา

ตั้งคำถามเชิงการเมือง เหมือนพยายามเบี่ยงเบนประเด็นความผิดของรัฐบาล ที่ประกาศตัวเป็นรัฐบาล

นอกกฎหมายไปแล้ว เหมือนมีเหตุโจรปล้นบ้าน ฆ่าเจ้าของบ้านตายแล้วหนีออกมา แต่ถูกคนในละแวก

นั้นจับตัวได้แล้วรุมกระทืบโจร นายวีรพัฒน์ ก็พยายามไปตั้งคำถามกับคนที่รุมกระทืบโจรว่าไปกระทืบโจร

มันทำไม แทนที่จะไปตั้งคำถามกับโจรว่า ไปปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ทำไม

หรือนาย วีรพัฒน์ คิดว่ารัฐบาลนี้ไม่ผิด ไม่ได้ทำตัวอยู่นอกกฎหมาย ที่นายวีรพัฒน์ อุตส่าห์ร่ำเรียนมา

หรือนายวีรพัฒน์คิดว่า โจรมันก็คือโจร ไปตั้งคำถามกับโจรไม่มีประโยชน์ ถามมาก ๆ กลัวโจรฆ่าไปอีกคน

สู้ถามคนกระทืบโจรดีกว่า

สุดท้าย หรือนายวีรพัฒน์ เห็นว่าโจรมันดีกว่าคนที่กระทืบโจร

เหอะ เหอะ กำลังจะไป มาเห็นคอมเมนท์ข้างบน นี่แหละครับคือตัวอย่าง ว่า

เราไม่รู้ว่า เรากำลังทำอะไรกันอยู่ เพราะมัวมาเถียงกันว่าใครทำก่อน ไหนบอกว่า

เรามาไล่รัฐบาลทราชย์กันไม่ใช่หรือครับ ใครจะเป็นกลางอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ

รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ตั้งกองกำลังเถื่อนมา ฆ่านักศึกษา แล้วให้มาเถียงกันว่าใครทำใครก่อน

เหอะ เหอะ ต้องแยกกันครับ เรากำลังต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการ ไม่ทำให้โลกรู้ เขาก็ฟังแต่

ฝ่ายรัฐบาลนะครับ การให้ข่าวของรัฐบาลมันมีน้ำหนักมากกว่า ถ้าเราไม่ช่วยเผยแพร่ภาพจริง

ต่างประเทศเขาก็มองว่า เราป่วนประเทศนั่นแหละ แต่ถ้าเขาเห็นว่าอะไรเป็นอะไร เขามีอิทธิพล

ช่วยกดดันรัฐบาลได้ครับ

การช่วยนักศึกษาก็ต้องช่วยครับ แต่คนที่ไม่ได้ออกไปร่วม มีฝีมือทางคอมพิวเตอร์ ต้องมี

ส่วนรวบรวมข่าวด้านเราเผยแพร่ครับ คนที่ออกไปช่วยก็ต้องออกไปช่วยครับ ตอนนี้ทาง

พวกเสื้อแดงสร้างข่าวบิดเบือนมาเยอะแล้ว เราก็วิ่งตามข่าวเขากันอยู่นั่นแหละ ไม่มีการ

ตอบโต้อะไรเท่าไร

ผมขอตัวไปก่อนละครับ ไม่มีฝีมือทางคอม ครับ แค่แวะมาบอก

เหอะ เหอะ มันกำลัง ฆ่า ประชาชนแล้วทำสงครามข่าวสาร ลวงโลก ต้องระวัง

อย่าพะวักพะวงเรื่องการชุมนุมอย่างเดียว

ภาพหรือคลิปการชุมนุมที่กำลังเดินขบวนโดยสงบ นั่งชุมนุมโดยสงบ ควรเผยแพร่ขึ้นยูทูบ

เขียนภาษาอังกฤษบอกกำกับไว้ด้วย

ภาพหรือคลิปการชุมนุมที่รัฐบาลส่งกองกำลังเถื่อนยิงนักศึกษาที่ชุมนุมโดยสงบ ต้องเผยแพร่

ขึ้นยูทูบ เขียนภาษาอังกฤษสั้น ๆ บอกเหตุการณ์ด้วย

ใครทำเป็นช่วยกรุณาหน่อย ผมทำไม่เป็น เราอาศัยสื่อในประเทศได้ยาก ต้องตอบโต้โดยการ

ระดมเผยแพร่เหตุการณ์ให้ทั่วโลกรู้

เหอะ เหอะ  ผมว่าคงไม่ใช่เรื่องเตะตัดขาหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของ นิสัย คน

สนธิ มีลักษณะเหมือนกับทักษิณ นั่นแหละ คือ พวกอำนาจนิยม เวลคิดอะไร ทำอะไร

ถ้ามีใครไม่เห็นด้วยก็จะไม่พอใจ ถ้ามีอำนาจอยู่ในมือก็อาจหาเรื่องกลั่นแกล้งจับกุมคุมขัง

ถ้าไม่มีอำนาจอยู่ในมือก็ใช้วิธีด่ากราด ใส่ร้ายป้ายสี ไปหมด

ประเด็นเรื่อง ปชป นี่ มันเป็นเพราะ ลุงเทือก ไปรับแนวความคิดปฏิรูปประเทศ ตั้งสภาประชาชน

มานั่นแหละ เพราะแนวความคิดนี้มันมาจากกลุ่มของสนธิ ซึ่งไม่ใช่มีสนธิคนเดียวหรอกยังมีเบื้องหลัง

สนธิอีกมากมายหลายคน ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ นักวิชาการนักวิชาเกิน เยอะแยะ สนธิแค่ทำตัวเป็น

ลำโพงเอามาโม้ต่อเท่านั้น

เมื่อลุงเทือกไปรับแนวความคิดนี้มาแล้ว สนธิก็ต้องเชียร์สุดขีด โดยพยายามดึงพรรค ปชป ให้

ลงมาช่วยลุงเทือกแบบเต็มที่ คือ ลาออกมาเลย ตั้งความหวังสูงสุดว่า ปชป จะสามารถนำมวลชน

ที่เลือกพรรค ปชป ซึ่งมีสิบกว่าล้าน ออกมาขับไล่รัฐบาลเพื่อตั้งสภาปฏิรูปของประชาชนขึ้นมา

แต่ ปชป ดูเหมือนจะรู้ดีว่า คิดแบบนี้ ความเป็นไปได้มันน้อยมาก และยังมองไม่ออกว่ามันเป็นวิถีทาง

ประชาธิปไตยอย่างไร เนื่องจาก ปชป ยึดมันในระบบรัฐสภามาตลอด แล้วอยู่ ๆ จะมาทำอะไรที่มัน

ขัดแย้ง หรือไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตยแล้ว มันไม่ใช่วิธีของ ปชป จึงประชุมหารือในพรรคแล้ว

ออกมาแถลงเมื่อวานว่า เห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูป แต่จะให้ลาออกนั้น คงไม่ใช่เวลา เพราะพรรค

คิดเองได้ว่าควรจะลาออกเมื่อใด ถ้าถึงเวลานั้น พรรคดูแล้วว่าการลาออกมันจะส่งเสริมให้มีการ

ปฏิรูปได้ ก็ออกแน่นอนไม่ต้องห่วง และไม่ปรารถนาที่จะรับตำแหน่งใด ๆ อีกต่างหาก

แต่สนธิดูเหมือนไม่เข้าใจเพราะอำนาจนิยมในตัวเองมันแรงจัด เลยออกอาการด่ากราดใส่ร้ายป้ายสี

ตามนิสัยเดิม ๆ นั่นแหละ ไปว่าเขาลอยแพลุงเทือกบ้าง เป็นพวกอนุรักษ์นิยมบ้าง มวลชนเขาก้าวหน้า

ไปไกลกว่านักการเมืองแล้วบ้าง ถ้าอภิสิทธิ์กับชวนยังอยู่ ปชป ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง

ความจริง ปชป เปลี่ยนมานานแล้ว เปลี่ยนตั้งแต่อภิสิทธิ์เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคนั่นแหละ เปลี่ยนจน

พวกอนุรักษ์นิยม พวกอำนาจนิยม พวกทุนนิยม ในพรรค พากันส่ายหน้า รับไม่ได้แต่จำใจต้องรับเพราะ

ไอ้นี่มันเป็นหัวหน้าพรรค แถมมี ชวน หนุน อีกต่างหาก เขาพัฒนาไปแล้ว แต่สนธิมองไม่เห็นเอง เพราะ

เขาพัฒนาด้านความคิด ไม่ได้พัฒนาด้านวัตถุ และมันต่างกับความคิดแนวอำนาจนิยมแบบสนธิเยอะ

เพราะสนธิคิดได้อย่างเดียวแบบทักษิณนั่นแหละว่า "กูคือความถูกต้อง" เท่านั้น

เหอะ เหอะ ผมว่า สนธิ และกลุ่มของเขาควรไปศึกษาเรื่องการเมืองให้ดีก่อนที่จะออกมา

เที่ยวแนะนำใครต่อใครนะ  อย่ามองแต่เรื่องการชุมนุมอย่างเดียว

ประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาลเป็นล้าน ไม่ยอมรับรัฐบาลนี้ แล้วรัฐบาลมันเป็นโมฆะหรือเปล่า

จะให้ ปชป ซึ่งเป็นพรรคการเมืองมี สส ร้อยกว่าคน ลาออกมาร่วมกับประชาชน ก็เท่ากับเพิ่มคน

ชุมนุมอีกร้อยกว่าคน แล้วรัฐบาลมันโมฆะ หรือเปล่า

ศักดิ์ศรีของหัวหน้าฝ่ายค้าน เวลาพูดแสดงความเห็นอะไร มันมีน้าหนักกว่าแกนนำผู้ชุมนุม เยอะ

เช่น พูดกับรัฐบาลต่างประเทศ ทูตต่างประเทศ นักลงทุนต่างประเทศ หรือแม้แต่สื่อต่างประเทศ

ถ้าลาออก ไปเป็นแกนนำ หรือเป็นผู้ชุมนุมแล้ว คิดว่า ใคร ที่ไหนมันจะมาสนใจฟังบ้าง หรือคิดว่าถ้า

ชุมนุมได้แล้ว ไม่ต้องอาศัยการวิพากษ์วิจารณ์ของต่างประเทศ ไม่ต้องอาศัยกระแสของภาคส่วน

ต่าง ๆ ในสังคมก็ได้

ปชป เป็นพรรคการเมือง มี สส อยู่ อย่างน้อยมันก็เป็นสถาบันหนึ่งที่พูดจาเห็นด้วยกับ ผู้ชุมนุม

ถ้าลาออกไปแล้ว ก็หมดคนเห็นด้วยไปอีกหนึ่งสถาบัน แต่จำนวนร้อยกว่าคนที่ลาออกไปเพิ่มในกลุ่ม

ผู้ชุมนุมมันจะมีความหมายอะไร การหวังว่าลาออกแล้วจะได้ไปช่วยปลุกระดมคนให้ออกมาได้เยอะ ก็เป็น

ความไม่รู้เรื่องทางการเมืองเหมือนกัน เพราะถ้าจะทำอย่างนั้น อยู่เป็น สส ปลุกระดมคนได้มากกว่า

ลาออกไปเป็นประชาชนเยอะ

สนธิ ถนัดทางด่าคนอื่นอย่างเดียว จึงมองไม่เห็นความสำคัญของกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของต่างประเทศ

หรือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลกดดันต่อรัฐบาลเยอะกว่า

การชุมนุมหลายเท่า ถ้ารัฐบาลนี้มันกลัวการชุมนุม หรือกลัวคนมาก ๆ มันยุบสภาหรือลาออกไปแล้ว สิ่งที่

จะทำให้ไอ้รัฐบาลเฮงซวยนี้ออกไปได้คือ กระแสสังคมต้องช่วยกันกดดันด้วย แต่ตอนนี้กระแสสังคมมัน

หยุดนิ่งอยู่หลังจากที่เคยออกมาต่อต้าน พรบ จนรัฐบาลถอยไม่เป็นกระบวนไปแล้ว

ผู้ที่จะไปช่วยปลุกกระแสสังคมได้ก็คือ ปชป ไม่ใช่ แกนนำผู้ชุมนุม เพราะการชุมนุมตอนนี้กระแสสังคมมัน

อิ่มตัวแล้ว ยิ่งไปชูประเด็นปฏิรูปขึ้นมา กระแสมันก็มันก็เริ่ม งง และเริ่มไม่แน่ใจ ว่า แล้วจะไปยังไงต่อ

เรื่องสำคัญที่การชุมนุมจะต้องชูเป็นประเด็นไปตลอดคือ พรบ ล้างผิด และ การไม่ยอมรับศาล ของรัฐบาล

เพราะสองประเด็นนี้ มันชี้ให้เห็นชัดเจนทั้งในประเทศและต่างประเทศว่า รัฐบาลนี้มันเป็นรัฐบาลนอกกฎหมาย

และมันจะเป็นสิ่งป้องกันการชุมนุมให้มีความชอบธรรมอยู่ตลอดเวลา สามารถนำไปอ้างต่อสู้ทางศาลภายหลังได้

ไม่ใช่มาห่วงว่า ทำไม ปชป ไม่ลาออก หรือกลัวว่า ปชป ยังหวังจะชนะเลือกตั้งอยากเป็นรัฐบาล แบบสนธิพูดเพราะ

มันไร้สาระ และจะทำให้การชุมนุมมีปัญหาไม่จบ

เหอะ เหอะ  กรณ์ เขาไม่ได้พูดขึ้นมาลอย ๆ แบบไม่เห็นด้วยก็พูดออกมา แต่มัน

เป็นการตอบคำถามนักข่าว ที่ไปจี้ถามเขาว่าเห็นด้วยไหม

คนที่เคยเป็น รมต คลัง ถ้าตอบว่า เห็นด้วย ผมก็ว่า บ้า แล้ว แต่เขาก็ตอบชัดเจนว่า 

ไม่เห็นด้วย แต่เข้าใจลุงเทือกว่ามีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้น

แล้วที่ลุงเทือกเอามาแยกตอบเป็นข้อ ๆ นั้น เอามาจากไหน ใครเป็นคนเรียบเรียงให้

หรือหนังสือพิมพ์มันเอาไปลงอย่างนั้น

ผมว่าลุงเทือกอาจจะเครียดมากเกินไป ไม่มีโอกาสติดตามข่าวสาร ควรมีโน้ตบุ๊ค ไว้เปิดดู

สักเครื่องหนึ่ง เปิดไปดูเฟซบุ๊ค ของกรณ์ ว่าเขาเชียร์ลุงอย่างไร เขาช่วยลุงอย่างไร ผมสงสัยว่า

ข้อมูลที่ลุงเทือกเอามาพูดใครเป็นคนเอาไปให้มากกว่า

เหอะ เหอะ กลุ่มนี้น่าจะนั่งอยู่หน้า ปตท นะ เห็นนั่งมานานแล้ว เขาไม่ได้รวมกับ

กลุ่มใหญ่หรอกครับ เป็นกลุ่มของ สมาน ศรีงาม  น่าจะถูกจับแถวหน้า ปตท

นั่นแหละ คงต้องถามยาม ปตท ว่าตำรวจโรงพักไหนจับไป

เหอะ เหอะ  ความคิดทางฝ่ายแป็ะลิ้ม เขามองว่า ถ้า ปชป ลาออกหมดแล้วมาร่วมชุมนุม

จะสามารถระดมคนเข้ามาร่วมได้อีกมากมายมหาศาลครับ  เขาถึงพยายามบอกให้ลาออก

และวันนี้ก็เริ่มมีคำพูด ว่า ส่งสัย ปชป จะทิ้ง ลุงเทือก ซะแล้ว

เขาคิดอย่างนั้นเพราะเขาไม่ได้เลือก ปชป ตรงกันข้าม เขา เกลียดด้วยซ้ำ ถ้าเขาเลือก ปชป

เขาคงเข้าใจว่า คนที่เลือก ปชป มันไม่ใช่คนที่ เฮตาม นักการเมืองที่ตัวเองเลือก เป็นพรรคเดียว

ที่คนเลือก เรื่องมากจริง ๆ จะปั่นหัว จะโน้มน้าวให้เชื่อมันยากเย็นเข็ญใจเพราะคนที่เลือก ปชป

มันเป็น เสรี่ชน อย่างที่ ปชป ชอบพูดนั่นแหละ ก็เลยซวยเอง เพราะจะไปพูดให้คนที่เลือกตัวเองเชื่อใน

เรื่องใดเรื่องหนึ่งมันไม่ง่าย เหมือนที่ แป๊ะลิ้ม และกลุ่มของเขาคิด

ถ้าใช้ ตรรก เดียวกันกับที่ แป๊ะลิ้ม คิด แล้วพรรคเพื่อไทยลาออกหมด เพื่อมาชุมนุมต่อต้าน คนที่เลือก

พรรคเพื่อไทยมันไม่เฮตามกันหมดหรือ

แป๊ะลิ้ม และพวกของเขาอาจเป็นแกนนำ อาชีพ เขาจึงมองมวลชนที่ออกมาชุมนุมเป็นอย่างนั้น คือเชื่อ

ในตัวบุคคล ถ้าตัวบุคคลออกมา มวลชนย่อมออกมาด้วย ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกับการเป็นนักการเมือง

เพราะคนที่เชื่อถือนักการเมือง ส่วนใหญ่เขามองว่าคนนี้เป็นคนดีบ้าง ไม่โกงบ้าง มีน้ำใจบ้าง เขาไม่ได้มองว่า

นักการเมืองคนนี้ ถ้าลาออกไปเป็นแกนนำแล้ว เจ๋งเลย ตามออกไปแน่ พูดง่าย ๆ ก็คือ มันคนละเรื่องเลย

ลาออกไปทั้งพรรค อาจไปแห้งตายอยู่ที่ถนนราชดำเนินก็ได้ เพราะไม่มีใครตามออกไป

ลุงเทือกออกไปนำมวลชน ก็ไม่ได้ลาออกจาก สส แต่แรก แต่ที่ต้องลาออกอาจเป็นเพราะตำแหน่ง สส

มันค้ำคออยู่ทำอะไรไม่สะดวก ถ้าทำอะไรเลยเถิดไปอาจไปผูกพันธ์พรรคได้ ประกอบกับมีเสียงกระแนะกระแหน

อยู่ตลอดว่าไม่จริงใจมาชุมนุมนี่หวังแค่เปลี่ยนขั้วทางการเมืองเท่านั้น แกก็เลยลาออกแค่นั้นเอง การลาออกของ

ลุงเทือก ไม่มีผลอะไรกับจำนวนผู้ร่วมชุมนุม แต่มันมีผลมาจากสถานะของลุงเทือกเอง ส่วนผู้ชุมนุมนั้น เขามาร่วม

เพราะเขาเห็นด้วยกับการต่อต้าน พรบ ล้างผิดให้คนโกง จนเกิดปรากฎการณ์ ออกมาต่อต้านกันทั้งสังคมอย่าง

กว้างขวาง

ปัญหาที่มันเป็นอยู่ขณะนี้ก็คือ กระแสสังคมที่ออกมาต่อต้านมันเงียบไปเพราะรัฐบาลยอมถอย แต่ก็ยังไปทำเรื่อง

บัดสีขึ้นมาใหม่คือการประกาศไม่ยอมรับศาลรัฐธรรมนูญซึ่งน่าจะเป็นโอกาสของผู้ชุมนุม แต่ปรากฎว่าการชุมนุมกลับ

ไปชูประเด็นปฏิรูปประเทศ ตั้งสภาประชาชนขึ้นมาใหม่ ประเด็นนี้ กระแสสังคมมันไม่เก็ทด้วย มันจะเก็ทก็แต่ผู้ร่วม

ชุมนุมเท่านั้น จึงเริ่มมีการเรียกร้องให้ ปชป ลาออกมาให้หมด หวังเพิ่มจำนวนผู้ชุมนุมนั่นแหละ

เมื่อคืนวาน ถ้าใครไปชุมนุมแล้วได้ฟังอาจารย์กิติศักดิ์ ปกติ ปราศรัย จะเห็นว่า อาจารย์แกพยายามพูดดึงให้กลับ

เข้ามาอยู่ในประเด็น พรบ ล้างผิดคนโกง กับ การไม่ยอมรับอำนาจศาล ของรัฐบาล ซึ่งมันเป็นการทำลายความ

ชอบธรรมของรัฐบาลแบบรัฐบาลแก้ตัวไม่ได้เลย แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจเลยไม่ว่าจะเป็นผู้ชุมนุม พิธีกร และแกนนำ 

การชุมนุมจะชนะอำนาจรัฐได้ มันต้องประกอบด้วย ความชอบธรรมของผู้ชุมนุม กระแสสังคมที่ขานรับการชุมนุม จำนวน

ผู้ชุมนุมไม่ใช่ตัวตัดสิน คุณจะออกมาชุมนุมห้าล้านคน ถ้าเหตุผลการชุมนุมของคุณมันไม่ชอบธรรม ก็เอาชนะยาก

วันนี้ตอนบ่าย นางยิ่งลักษณ์ออกมาแถลงแล้วว่า การเรียกร้องให้ตั้งสภาประชาชนมันไม่มีในกฎหมายรัฐธรรมนูญ เขา

แถลงออกฟรีทีวีครับ มันเป็นการแถลงเพื่อทำลายความชอบธรรมของการชุมนุม ขณะเดียวกันตำรวจก็ออกมาแถลงว่า

มีการตัดไฟโรงพยาบาลตำรวจ นิติเวชที่แช่เย็นศพ ตำรวจต้องเตรียมการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตำรวจถูกหนังสติกยิงหัวพร้อม

เอารูปมาโชว์ ม็อบประกาศว่าจะบุก สตช ขอร้องม็อบอย่าทำอย่างนั้นเลย

เขาเริ่มตอบโต้ทันทีที่เห็นช่องทางได้เปรียบ ผมว่าถ้าบรรดาแกนนำไม่ว่ากลุ่มไหน ยังคิดว่ามีคนร่วมชุมนุมมากมายแล้ว

ทำต้องตามที่ผู้ร่วมชุมนุมเรียกร้องต้องการ ต้องคิดให้ดีนะครับ กระแสสังคมมันจะกลับมากดดันผู้ชุมนุมเอง