Jump to content


isa

Member Since 13 October 08
Offline Last Active 16 May 14 14:07
-----

#836059 การศึกษาไทยล้าหลังเขมร.............โห มันแย่ขนาดนั้นเลยหรือ

Posted by isa on 6 September 2013 - 16:23

ปัญหามันอยู่ที่แนวคิดของคนทั่วไปด้วยครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เหล่ามนุษย์โลกสวยในสังคมลงความเห็นว่า

"ครูโง่เกินไปที่จะสอนนักเรียน" โดยเฉพาะพวกลิเบอรัลตัวแสบๆ นักจิกกัดทั้งหลายนั่นแหละครับ

ตอนสมัยเรียนก็เกๆ โตขึ้นมาก็อวดรู้ ข่มครูซะงั้น

 

ก็เลยกลายเป็นว่านโยบายสมัยใหม่ก็ทุ่มไปที่ครู อบรมโน่นอบรมนี่หวังจะให้ครูเก่งเทพ มีแต่สัมมนาไม่มีหยุด

แล้วก็ทำวุฒิโน่นนี่ จะไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่งั้นเงินเดือนก็จะแป้กเอา แถมยังมีกิจกรรมโรงเรียนที่ผู้บริหารเอามาโยนให้

จะเอาโรงเรียนดีเด่นโน่นนี่นั่น กลายเป็นว่าการสอนเด็กกลายเป็นกิจกรรมรอง

 

แถมดันเอาแนวคิดการผลิตแบบอุตสาหกรรมไปเทียบ เลยกลายเป็นว่าจะให้เด็กสอบตกหรือเรียนซ้ำชั้นไม่ได้

เท่ากับเกิดความสูญเปล่าขึ้นมาในการผลิต ครูก็เลยจำเป็นต้องปล่อยเด็กผ่านๆขึ้นไป ครูที่ตั้งอกตั้งใจสอน 

พยายามจะให้เด็กสอบแก้ตัวจนกว่าจะผ่าน กลายเป็นถูกทั้งผู้บริหาร ทั้งผู้ปกครอง ทั้งเด็กด่าเอาเสียด้วยซ้ำ

เด็กมันก็เลยถูกปล่อยผ่านๆมาทั้งๆที่ยังอ่อนอยู่แบบนั้นแหละ พี่สาวผมที่เป็นครูมัธยมบอกว่า "ไปตามเด็กมาสอบแก้ตัว

พอมันเห็นฉัน มันโดดหน้าต่างหนีเลย" ก็เป็นซะแบบนี้ แถมโดนผอ.เรียกไปดุอีกต่างหาก

 

ในอดีต ครูจบป.4 ยังสอนเด็กให้จบมาเป็นใหญ่เป็นโตทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ปัจจุบัน ครูเก่งกาจจบปริญญาโท 

มีวุฒิอบรมตั้งไม่รู้กี่ใบ แต่เด็กออกมาเละ เพราะมัวไปเน้นการสร้างครู สร้างโรงเรียนเสียจนลืมจุดประสงค์หลักว่า

"เป้าหมายการศึกษาก็คือสร้างนักเรียนที่มีคุณภาพ" ซะงั้น  <_<




#835532 คำถาม ง่ายๆ ว่า ก่อน ทักษิณ จะมาเล่นการเมือง ภาคใต้ วุ่นวายแบบนี้ไหมครับ?

Posted by isa on 6 September 2013 - 11:34

พวกแดงมันจะบอกว่าความผิดพลาดมาจากปชป เพราะปชปอนุญาตให้มีโรงเรียนปอเนาะซึ่งเป็นตัวเพาะเชื้อความแตกแยก ปัญหานี้เลยปะทุในรัฐบาลทักษิณ

สรุปง่ายๆ ***โบ้ยแน่นอน ลองไปหาฟ้าเดียวกันอ่านดิ มาแนวนี้ตลอด

 

ปม 3 จังหวัดภาคใต้นั้นปัญหามาจากหลายส่วนครับ อย่างที่อธิบายแล้วว่าพื้นที่ตรงนั้นเดิมทีไม่ใช่อาณาจักรไทย คนที่ันั่นก็เป็นคนเชื้อสายมาเลย์ไม่ใช่คนไทย จึงเป็นพื้นที่ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและระมัดระวัง ซึ่งแทบทุกประเทศต่างก็มีปัญหานี้ 

 

อีกสาเหตุก็คือศึกระดับโลกระหว่างค่ายอเมริกาและมุสลิม ซึ่งช่วงหลังๆ คนในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้หลายคนไปเม็กกะและไปรับแนวความคิดสายรุนแรงมา และมีคนในพื้นที่บางส่วนที่เคยไปร่วมรบกับอัลกออิดะห์ทั้งในอาฟกานิสถาน หรือในอิรัก มีคนของอัลกออิดะห์ที่มาฝังตัวในพื้นที่แถบนี้ ก็ทำให้ปัญหามันแหลมคมขึ้น

 

แล้วก็ปัญหาสุดท้ายก็คือเจ๊กจากทางเหนือที่พกพาความคิดแบบมักง่ายว่าคนสามจังหวัดก็เป็นเหมือนคนใต้ทั้งภาค ซึ่งก็คงเหมือนคนไทยทั้งประเทศที่ถ้ามีอำนาจตำรวจ อำนาจเงินอยู่ในมือ จะทำอะไรมันก็ไม่กล้าหือ นำไปสู่การยุบศอบก. และการกวาดล้างฆ่าตัดตอนยาเสพย์ติดในภาคใต้ ยังผลให้สายข่าวทหารในพื้นที่ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง และฝ่ายตรงกันข้ามแทรกซึมเข้ามาวางเครือข่ายไว้เต็มพืนที่ จะวางสายข่าวใหม่ก็ทำได้ยาก และทหารอยู่ในที่แจ้งกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำตลอด โดยที่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

 

...ไอ้ที่เห็นรถฮัมวี่ตีลังกา รถยีเอ็มซีเหลือแต่ฐานล้อ นั่นน่ะ ระเบิดถังแก๊สครับ ทำเองในพื้นที่ ขุดเป็นโพรงลงใต้ถนน วางชนวน รอรถทหารผ่าน ตูมเดียวจบข่าว ...ไม่ต้องใช้อาวุธสงครามร้ายแรงเสียด้วยซ้ำ ระเบิดจักรยานยนตร์ก็ระดับมืออาชีพ ...แต่ทางทหารเอาไอ้เณรมือใหม่ผลัดสองหน้าใสๆลงไปรบด้วย จะมีอะไรไปเหลือล่ะครับ!  -_- 

 




#835425 วันนี้ เรื่องเล่าเต้าข่าว ต้องนำเสนอภาพเก้าอี้ถูกโยน ประกอบการเล่าข่าวเต้า ใน...

Posted by isa on 6 September 2013 - 10:57

....ตอนน้ำท่วมมันออกมาพูดว่าจังหวัดอื่นรับน้ำแทนกรุงเทพฯครับ!

 

ผมยังไม่ให้อภัยจนบัดนี้!!




#835376 ถ้าปักษ์ใต้แยกมาปกครองเอง (ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น)

Posted by isa on 6 September 2013 - 10:38

อ้างถึงคำถามของคุณซุ่มเงียบครับ ขอยกมาเฉพาะบางหัวข้อก็แล้วกัน


 


 

 

2. ผมดูถูกคุณสุเทพ?

ไม่ได้ดูถูกแต่ผมถามคนภาคใต้ว่า...ถ้าสมมุติ สุเทพ เทือกสุบรรณ ได้บริหารคุณคิดว่าคนภาคใต้ส่วนใหญ่จะยอมรับรึเปล่า? 

ไม่แปลกนะที่ผมอยากจะรู้

 

- คุณพูดแบบนี้แสดงว่าคุณไม่เข้าใจคนใต้และพรรคประชาธิปัตย์ดีพอนะครับ "คนใต้เลือกพรรค ไม่ได้เลือกคน"  และแม้ Loyalty ของฐานเสียงของพรรคจะค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ความสัมพันธ์ของฐานเสียงกับพรรคเป็นลักษณะเหมือนผู้ถือหุ้นในบริษัท ดังนั้นเวลาผู้บริหารพรรคจะทำอะไรก็ต้องเกรงใจผู้ถือหุ้นใช่ว่าจะทำอะไรชุ่ยๆได้ สส.เองก็ย้ายพรรคชุ่ยๆไม่ได้เหมือนกัน ถึงฐานเสียงเขาจะไม่เปลี่ยนไปเลือกคนอื่น แต่แค่เขางดออกเสียงพรรคก็แย่แล้วครับ 

 

คนภาคใต้เขาพึ่งตัวเองไม่หวังพึ่งสส. ดังนั้นเขามีสิทธิ์วิจารณ์หรือลงโทษสส.ได้เต็มที่โดยไม่ต้องเกรงใจกัน ต่างจากฐานเสียงระบบพึ่งพาของพรรคเพื่อไทย ที่ชาวบ้านก็หวังพึ่งสส. เกิดการยึดติดตัวบุคคล  ทำให้เกิดการกว้านซื้อตัวสส.กันขึ้นมา ดังนั้นสิ่งที่คุณพูดก็คือเอาแนวความคิดแบบภาคอื่นมาตัดสินความคิดคนใต้ครับ!

 

 

3. ผมดีกว่าคุณสุเทพยังไง

ไม่เคยอวดตัวว่าดีกับใครอย่างไรครับ  ผมถือว่าผมวิจารณ์โดยสุจริตใจ 

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นถามว่าผมแย่กว่าคุณสุเทพยังไงผมอาจจะอยากตอบนะครับ

...บุคคลสาธารณะอย่างนักการเมืองไม่ว่าจะดีหรือเลวอย่างไรประชาชนมีสิทธิวิจารณ์ครับ

 

- คุณสุเทพฯ เทือกสุบรรณ หรือ คุณเนวิน ชิดชอบ ถ้าในแง่จริยธรรมแล้วผมให้คะแนนติดลบ แต่ถ้าเทียบกับสส.เพื่อไทย หรือคนอย่างบรรหารหรือชูวิทย์ คุณสุเทพและคุณเนวินดีกว่ามากมายครับ อย่างน้อยก็เห็นแก่ประเทศมากกว่า การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์ และเมื่อมีผลประโยชน์ย่อมมีความสกปรก ผมไม่ได้โลกสวยถึงขนาดคาดหวังว่าสส.ทุกคนต้องดีพร้อมในบัดเดี๋ยวนี้ ถ้าจะทำให้การเมืองดีขึ้น ก่อนอื่นต้องตัดสิ่งที่สกปรกที่สุดทิ้งไปก่อน แล้วค่อยๆซักส่วนที่เหลือให้สะอาดขึ้น เหมือนกับเรามีเสื้อผ้าสกปรกน้อยกับสกปรกมาก ...การร่ำร้องไม่ยอมใส่เสื้อผ้าสกปรกก็เท่ามีทางเดียวก็คือแก้ผ้า... และในภาคใต้ นักเลงกับนักปราชญ์เขาไม่ได้ขัดแย้งกันครับ เขาให้เกียรติกันและรู้ขอบเขตว่าแค่ไหนจึงจะสมควร

 

 

 

6. ที่สำคัญคือ ความเหมาะสมในแต่ละยุคสมัย

ในยุคสมัยปัจจุบันที่มีปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ คุณคิดว่าแนวคิดแบบบทความของคุณบัณรส คุณคิดว่าเหมาะสมหรือไม่?

ถ้าปัญหาราคายางตอนนี้มีคุณอภิสิทธิ์เป็นนายก คุณจะสนับสนุนเรื่องการแบ่งพื้นที่ปกครองไหม?

 

สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่ดินแดนของไทยมาแต่ต้นครับ มันคืออาณาจักรปัตตานีเดิม คนพื้นที่ถิ่นทั้งหมดเป็นคนมลายู พูดภาษามลายูที่เรียกว่าภาษายาวี คนไทยที่อยู่ในพื้นที่เป็นคนอีสานที่ถูกอพยพลงไปในสมัยจอมพลสฤษดิ์เพื่อยึดครองพื้นที่ พวกนี้ส่วนใหญ่พูดภาษาไทยกลาง พูดใต้ไม่เป็น คนใต้แท้ๆในพื้นที่มีน้อยมาก และก็ไม่มีใครอยากไปอยู่ที่นั่นด้วย

ปัญหาพื้นที่นั้นเกิดเพราะอังกฤษ ต้องการไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู เลยยึดไปดื้อๆ แล้วเอาพื้นที่รกร้าง (เพราะเป็นเมืองร้างตั้งแต่สมัยร.3) มาแลกกับไทยแทน (จริงๆแล้วก็เป็นดินแดนไทยที่มันยึดไปก่อนหน้านั้น) จึงกลายเป็นเรื่องคาใจ เพราะถ้ามาเลย์จะเอาไป ก็ต้องเอาไทรบุรี กลันตัน ตรังกานู มาคืนไทยก่อน

 

สรุปก็คือเป็นดินแดนมาเลย์เดิม ที่มีคนมาเลย์พื้นถิ่นอาศัยอยู่ มีคนอีสานเป็นคนไทยอพยพ เอาทหารอีสานกับทหารเหนือลงไปฆ่าฟันกับคนมาเลย์ เพื่อปกป้องคนอีสานในพื้นที่...แล้วคนใต้เกี่ยวตรงไหนครับ?

 

อย่าเอาสามจังหวัดภาคใต้มาเทียบเลยครับ มันคนละประเด็นกัน ภาคใต้น่ะอยู่ร่วมกับประเทศไทยในฐานะหัวเมืองประเทศราชมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว และที่อยุธยาหรือกรุงเทพฯ ไม่โดนมาเลย์บุกเป็นศึกกระหนาบก็เพราะมีนครฯนี่แหละเป็นหัวเมืองหน้าด่านเข้มแข็งดักหน้าให้อยู่ครับ

 

ส่วนเรื่องแบ่งภาคบริหารนั้น ผมมีความคิดมาตั้งแต่ก่อนหน้าคดียางครับ มีมาตั้งแต่เห็นธรรมชาติของการเมืองที่แตกต่างกันในแต่ละภาคแล้ว

 

- ส่วนถ้าใครกลัวว่าภาคใต้เงินไม่พอน่ะ ไม่ต้องห่วงครับ เด็กใต้จบรามเยอะแยะ พวกนี้แหละที่ไปเป็นตำรวจ เป็นนักกฎหมาย  คนใต้ที่ทำธุรกิจ ทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งเยอะแยะ เวลาที่ปักษ์ใต้มีเรื่อง เงินที่ลงไปช่วยปักษ์ใต้น่ะ ไม่ใช่มีเฉพาะของคนกรุงฯแท้ๆเพียวๆหรอกครับ 

 

- แอบเห็นคนภาคตะวันออกมาเมนท์ว่าไม่รู้ไปอยู่กับใคร ไม่ต้องห่วงครับ ภาคของคุณจ่ายภาษีเยอะเป็นอันดับแรกในประเทศ ขี้คร้านจะเนื้อหอมคนขอให้ไปอยู่ด้วยแทบไม่ทัน  :lol: 




#830608 ถ้าปักษ์ใต้แยกมาปกครองเอง (ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น)

Posted by isa on 2 September 2013 - 16:02

 

 

เสี้ยมเสร็จอย่าลืมไปดืมไวน์นะเหลืองเเดงไฮโซสามัคคี  อยากเห็นวันสุดท้ายของพวกเสี้ยมจัง 

 

ไม่มีใครเขาเสี้ยมหรอกครับ แล้วก็ไม่มีใครเหลืองแดงในกระทู้นี้ด้วย มีแต่คนใต้ที่ขัดใจเท่านั้นแหละ

 

และปัญหาที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ บางคนอาจจะบอกว่าเกิดจากทักษิณ แต่ผมมองว่าปัญหาอีกส่วนก็คือวัฒนธรรมการเมืองที่ต่างกันน่ะแหละ

ส่วนหนึ่งก็คือสยามเดิม คือภาคกลางและภาคใต้ ที่ไม่กี่สิบปีนี้ ประชากรส่วนใหญ่ได้ผ่องถ่ายไปสู่ความเป็นประชาชนชั้นกลาง

เป็นส่วนใหญ่แล้ว ปัจจัยสำคัญก็คือการเน้นความสำคัญเรื่องการศึกษาทั้งระดับประเทศและของคนในพื้นที่

 

แต่อีกส่วนก็คือส่วนที่เป็นล้านนาเดิมและประชากรบางส่วนที่มาจากล้านช้าง ซึ่งพูดตรงๆก็คือไทยใหม่

แต่กลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ เพราะดราม่าจัด และนักวิชาการ นักการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายซ้าย

ชอบเข้าข้าง จึงทำให้เกิดอคติเอียงข้างกันอย่างชัดเจน ภาคนี้ยังมีปัญหาอยู่ เพราะในช่วง 40 กว่าปี

ที่ควรจะเป็นช่วงเปลี่ยนชั้นประชากร แทนที่จะเน้นการศึกษา กลับไปเน้นการหารายได้แทน และไม่มีการบริหารทรัพยากร

ที่ได้มาอย่างยั่งยืน ประชากรในส่วนนี้จึงยังตกค้างอยู่ในชั้นแรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่

 

และนักการเมืองที่เราเห็นในสภา ก็คือกลุ่มตัวแทนของคนสองชนชั้นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ในอดีตสัก 20 ปีก่อน ภาพนักการเมืองไต้หวันต่อยกันในสภาเป็นเรื่องปกติ เพราะกลุ่มหนึ่งมาจากชนใช้แรงงาน

นึกไม่ถึงว่าจะเห็นภาพวันนี้ในสภาไทย ซึ่งก็ต้องถามแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บุคคลากรอีกครึ่งประเทศจึงได้

ตามไม่ทันในการพัฒนา

 

นักวิชาการ สื่อ และนักการเมืองจำนวนมากมักจะโบ้ยให้กับเรื่องของการกดขี่ ข่มเหง แต่ผมไม่เชื่อว่ะ

เพราะปัจจัยพวกนี้ คนใต้ก็เจอเหมือนกัน เผลอๆจะแรงกว่าด้วยซ้ำ และคนอีสานเข้าถึงรายได้มากกว่าคนใต้ด้วยซ้ำ

อย่างการรับจ้างแรงงานต่างประเทศที่รายได้สูงๆ เขยต่างประเทศ ก็ภาคอีสานล้วนๆ แต่ทำไมภาคอีสานถึงยังเป็นภาค

ที่มีปัญหาด้านรายได้และการเมือง

 

...ตราบใดที่เราไม่ยอมรับกันตรงๆว่าปัญหามันเกิดจากทัศนคติ การใช้ชีวิต การบริหารทรัพยากร การเห็นความสำคัญของการศึกษา

และการพัฒนาตัวเองเพื่อความก้าวหน้า เราก็ยังจมอยู่ในวงวนเดิมๆนั่นแหละครับ ...เลิกดราม่ากันซะที ตื่นได้แล้ว!

 

แต่มันก็มีวันที่เราอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้นี่คะ มันไม่ใช่ว่าเป็นปัญหาที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยโน้น 

 

ที่ผมจะชี้ก็คือความแตกต่างด้านทัศนคติด้านการเมืองน่ะครับ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะปรับเข้าหากันได้

และอีกอย่างก็คือปัจจัยของความยากจนนั้น ส่วนสำคัญอยู่ที่ตัวประชากรเองด้วย ไม่ใช่อยู่ที่เฉพาะสิ่งแวดล้อม

ทุกวันนี้ผมเจอเพื่อนรุ่นเก่าๆสมัยม.ต้นในเฟซบุ๊ค แม้แต่คนที่กระจอกๆที่สุด นุ่งกางเกงตูดขาดไปเรียน

ทุกวันนี้กลายเป็นเจ้าของกิจการ นายตำรวจ ผู้บริหาร ฯลฯ อย่างแทบไม่น่าเชื่อ

 

ก็เลยต้องมาย้อนถามว่าในส่วนของภาคอีสาน เกิดอะไรขึ้นตรงนั้น ทั้งๆที่มีโอกาสด้านรายได้สูงกว่าเยอะ

(ผมเคยมีโอกาสคลุกคลีกับคนอีสานเยอะสมัยที่อยู่เมืองนอก) ก็พบว่าปัจจัยส่วนใหญ่อยู่ที่เรื่องใกล้ตัวทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็นการเน้นหารายได้ก่อนการศึกษา ความล้มเหลวในการบริหารรายได้ การขาดความมั่นคงในครอบครัว

เจ้าชู้เปลี่ยนคู่ง่าย ครอบครัวล่มสลาย ทำให้เด็กที่เกิดมาขาดโอกาสทางการศึกษา ...ปัจจัยทางสังคม การเมืองเป็นเรื่องรอง

 

ที่ผมบอกว่าให้แยกกันปกครอง ไม่ได้หมายถึงการแยกประเทศนะครับ แต่หมายถึงว่าส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น

ให้สำคัญยิ่งขึ้นเป็น 80% เพื่อให้คนในพื้นที่สามารถตัดสินชะตาชีวิตตัวเองได้ เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่เราต้องมานั่งมอง

นักบริหารคุณภาพต่ำมาปู้ยี่ปู้ยำประเทศโดยที่คุณทำได้แค่มองตาปริบๆ แล้วก็รู้อยู่แก่ใจว่า ไงๆคุณก็ต้องเป็นคนสำคัญที่จะต้องร่วมกัน

เช็ดอึเช็ดฉี่ที่พวกนี้ทิ้งไว้ และคนในพื้นที่ส่วนอื่นก็จะได้รู้จักรับผิดชอบกับการใช้สิทธิ์ใช้เสียงของตัวเอง

เพราะต้องรับผิดชอบเต็มๆกับหนี้สินหรือขยะใดๆที่นักการเมืองที่ตัวเองเลือกมาทำไว้!




#830603 หากไม่มีโครงการจำนำข้าว ชาวนาจะเลิกปลูกข้าว ชาวประชาจะเดือดร้อน

Posted by isa on 2 September 2013 - 15:52

ประมาณสองสามปีก่อน ผมจำได้ว่าเคยเถียงกับลุงแคน ที่แกมีทัศนคติว่าถ้าชาวเมืองยอมกินข้าวแพงขึ้นอีกหน่อย ชาวนาก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

หลังจากนั้นไม่นาน ราคาข้าวก็ขึ้นไปเกือบ 100% มีชาวนาหันมาปลูกข้าวกันใหญ่ แต่กลายเป็นว่าราคาปุ๋ย ราคายา พุ่งแซงหน้าไปทันที

ผลก็คือคนเมืองกินข้าวแพงกว่าเดิมเกือบเท่าตัว แต่ชาวนาก็ยังจนเหมือนเดิม... เหตุการณ์นี้ควรจะทำให้การแอบอ้างว่าชาวนายากจน

เพราะคนเมืองอยากบริโภคข้าวราคาถูกจบไปได้แล้ว!

 

จริงๆแล้วคนเมืองปัจจุบันไม่ได้ต้องการบริโภคข้าวอย่างที่คนส่วนใหญ่ยึดติดกันนะครับ พนักงานออฟฟิศยุคนี้ทำงานใช้สมอง

ไม่ได้ใช้แรงกาย ดังนั้นวันหนึ่งๆเขากินข้าวกันแค่วันละจานสองจานเท่านั้นแหละ แถมข้าวที่กินอยู่เป็นข้าวขัดขาว ไม่มีวิตามินอะไรเลย

มีแต่แป้งกับน้ำตาล กินเยอะไปเกิดโทษด้วยซ้ำไป ...พูดกันตรงๆ คนออฟฟิศทุกวันนี้ ถ้าจะต้องเปลี่ยนไปกินมันฝรั่งหรือขนมปังแทนข้าว

ผมว่าแทบไม่มีผลด้วยซ้ำไป เพราะนิสัยการบริโภคของคนเมืองมันเปลี่ยนไปเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกระดับสูงๆเงินเดือนเยอะด้วยแล้ว

 

ส่วนที่ทำให้ชาวนามีปัญหาก็คือ การพยายามทำการทำนาให้เป็นธุรกิจ จึงต้องลงทุนทุกอย่าง ทั้งปุ๋ย ทั้งยา ยิ่งทำก็ยิ่งลงทุนเยอะ

ทั้งจ้างแรงงาน จ้างเกี่ยว จ้างไถ ทั้งๆที่ยังไม่เห็นรายได้ปลายทาง ยิ่งทำ พ่อค้าปุ๋ย พ่อค้ายา โรงสีก็ยิ่งรวย แต่ชาวนายิ่งจนลงๆ
และการ "ไม่ได้กินในสิ่งที่ปลูก - ไม่ได้ปลูกในสิ่งที่กิน" แต่ใช้ชีวิตซื้อกินแบบคนเมือง ก็ยิ่งเพิ่มภาระให้ตัวเองเข้าไปใหญ่

ทั้งๆที่ตัวเองมีศักยภาพในการเลี้ยงดูตัวเองอยู่แล้ว

 

และผมก็แปลกใจนะที่อ้างบุญคุณกับคนเมือง เพราะผมคิดว่า

ข้าวของไทยจำนวนมากผลิตมาเพื่อการส่งออก โดยเฉพาะข้าวเกรดดี อย่างพวกข้าวหอมมะลิที่มาจากแถวอีสาน เพราะปกติคนออฟฟิศ

ส่วนใหญ่จะกินข้าวแกงหรือข้าวห้องอาหารพนักงานกัน ตอนเย็นก็กินร้านข้างถนน ร้านพวกนี้คงไม่มีใครเอาข้าวหอมมะลิมาทำข้าวแกงหรอก

เว้นแต่พวกที่มีครอบครัว ถึงจะหุงข้าวกินเอง แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ข้าวเช้ากับข้าวเย็น หรือไม่ก็มื้อเย็นมือเดียว

 

ดังนั้น คนที่บริโภคข้าวหนักจริงๆก็คือคนชั้นแรงงานน่ะแหละ แล้วก็พวกร้านอาหารใหญ่ๆ พวกบ้านไทยจีนที่เป็นกงสี

แล้วก็พวกส่งออก ...การให้พนักงานออฟฟิศที่วันๆแทบจะไม่ได้กินข้าวครบสามมื้อมาอุ้มราคาข้าวเนี่ย ผมก็ว่ามันกระไรอยู่นะ ?  <_<




#830577 ถ้าปักษ์ใต้แยกมาปกครองเอง (ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น)

Posted by isa on 2 September 2013 - 15:37

เสี้ยมเสร็จอย่าลืมไปดืมไวน์นะเหลืองเเดงไฮโซสามัคคี  อยากเห็นวันสุดท้ายของพวกเสี้ยมจัง 

 

ไม่มีใครเขาเสี้ยมหรอกครับ แล้วก็ไม่มีใครเหลืองแดงในกระทู้นี้ด้วย มีแต่คนใต้ที่ขัดใจเท่านั้นแหละ

 

และปัญหาที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้ บางคนอาจจะบอกว่าเกิดจากทักษิณ แต่ผมมองว่าปัญหาอีกส่วนก็คือวัฒนธรรมการเมืองที่ต่างกันน่ะแหละ

ส่วนหนึ่งก็คือสยามเดิม คือภาคกลางและภาคใต้ ที่ไม่กี่สิบปีนี้ ประชากรส่วนใหญ่ได้ผ่องถ่ายไปสู่ความเป็นประชาชนชั้นกลาง

เป็นส่วนใหญ่แล้ว ปัจจัยสำคัญก็คือการเน้นความสำคัญเรื่องการศึกษาทั้งระดับประเทศและของคนในพื้นที่

 

แต่อีกส่วนก็คือส่วนที่เป็นล้านนาเดิมและประชากรบางส่วนที่มาจากล้านช้าง ซึ่งพูดตรงๆก็คือไทยใหม่

แต่กลายเป็นเสียงส่วนใหญ่ เพราะดราม่าจัด และนักวิชาการ นักการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายซ้าย

ชอบเข้าข้าง จึงทำให้เกิดอคติเอียงข้างกันอย่างชัดเจน ภาคนี้ยังมีปัญหาอยู่ เพราะในช่วง 40 กว่าปี

ที่ควรจะเป็นช่วงเปลี่ยนชั้นประชากร แทนที่จะเน้นการศึกษา กลับไปเน้นการหารายได้แทน และไม่มีการบริหารทรัพยากร

ที่ได้มาอย่างยั่งยืน ประชากรในส่วนนี้จึงยังตกค้างอยู่ในชั้นแรงงานเสียเป็นส่วนใหญ่

 

และนักการเมืองที่เราเห็นในสภา ก็คือกลุ่มตัวแทนของคนสองชนชั้นที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ในอดีตสัก 20 ปีก่อน ภาพนักการเมืองไต้หวันต่อยกันในสภาเป็นเรื่องปกติ เพราะกลุ่มหนึ่งมาจากชนใช้แรงงาน

นึกไม่ถึงว่าจะเห็นภาพวันนี้ในสภาไทย ซึ่งก็ต้องถามแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บุคคลากรอีกครึ่งประเทศจึงได้

ตามไม่ทันในการพัฒนา

 

นักวิชาการ สื่อ และนักการเมืองจำนวนมากมักจะโบ้ยให้กับเรื่องของการกดขี่ ข่มเหง แต่ผมไม่เชื่อว่ะ

เพราะปัจจัยพวกนี้ คนใต้ก็เจอเหมือนกัน เผลอๆจะแรงกว่าด้วยซ้ำ และคนอีสานเข้าถึงรายได้มากกว่าคนใต้ด้วยซ้ำ

อย่างการรับจ้างแรงงานต่างประเทศที่รายได้สูงๆ เขยต่างประเทศ ก็ภาคอีสานล้วนๆ แต่ทำไมภาคอีสานถึงยังเป็นภาค

ที่มีปัญหาด้านรายได้และการเมือง

 

...ตราบใดที่เราไม่ยอมรับกันตรงๆว่าปัญหามันเกิดจากทัศนคติ การใช้ชีวิต การบริหารทรัพยากร การเห็นความสำคัญของการศึกษา

และการพัฒนาตัวเองเพื่อความก้าวหน้า เราก็ยังจมอยู่ในวงวนเดิมๆนั่นแหละครับ ...เลิกดราม่ากันซะที ตื่นได้แล้ว!




#830550 ถ้าปักษ์ใต้แยกมาปกครองเอง (ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น)

Posted by isa on 2 September 2013 - 15:16

จริงๆแล้วก็อยากให้แยกภาคปกครองเป็นรัฐแบบเหมือนอเมริกาไปเลยครับ
เพียงแต่อาจให้ส่งภาษีเข้ารัฐสัก 20% ของภาคก็พอ ที่เหลือให้แต่ละภาคบริหารกันเอง

 

เพราะรู้สึกปัจจุบันมีการเอาเปรียบกันด้วยเรื่องจำนวนประชากร และเอาเปรียบด้วยการ

ก่อตั้งจังหวัดใหม่ๆเพิ่มขึ้นเพื่อชิงความได้เปรียบในการเลือกตั้ง (ภาคไหน ก็คงพอรู้กันอยู่)

และถ้าถูกถ่วงด้วยจำนวนประชากรไร้คุณภาพอยู่แบบนี้ มีหวังประเทศไทยไปไม่ถึงไหน

ดีไม่ดีจะล่มเอา

 

มีคนร้องขอให้ประชาธิปัตย์ไปบุกภาคอีสานบ้าง แต่ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ ประชาธิปัตย์อยู่ได้ในภาคกลาง

และภาคใต้ เพราะพื้นฐานวัฒนธรรมชีวิตและการเมืองมันเป็นคนละแบบกันเลยกับภาคอีสาน

 

วัฒนธรรมชีวิตแบบภาคใต้คือแต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเอง รับผิดชอบตัวเอง เวลาที่ส่งลูกหลานมาเรียนในกรุง

คนใต้จะไม่เคยเรียกร้องให้ลูกหลานส่งเงินไปให้ หรือวันเทศกาลต้องเอาของไปฝาก ตรงกันข้าม

เวลาคุณกลับบ้านไปเยี่ยมญาติ คุณแทบจะไม่ต้องหิ้วอะไรไปฝากเลย แต่ขากลับขึ้นมา ยังโดนยัดเยียดทั้งผักผลไม้ 

หิ้วกันแขนแทบเคล็ดเสียด้วยซ้ำ เพราะเขาถือว่าพึ่งพาตัวเองได้ ไม่ต้องการจะพึ่งคนอื่น

 

ลองเทียบกับสไตล์ของภาคอีสาน ที่ส่งลูกหลานเข้ามาเพื่อเรียนหรือทำงาน แล้วก็ต้องส่งเงินจำนวนหนึ่งเพื่อไปอุดหนุนครอบครัวที่บ้านนอก

เวลากลับไปเยี่ยมบ้านช่วงเทศกาล ก็ต้องหอบหิ้วของฝากไปให้ บางครั้งหมดเป็นหมื่น นั่นคือธรรมเนียมของเขาที่เน้นการพึ่งพา

และเป็นเรื่องที่เขาเห็นเป็นเรื่องปกติ

 

และสไตล์ชีวิตแบบนี้แหละที่ส่งผลกับแนวคิดของการเมือง  คนใต้เลือกนักการเมืองมาเพื่อทำงานให้ประเทศ ทำไงก็ได้ แต่อย่าให้กรูขายหน้า
ขณะที่สไตล์การเมืองอีสานก็คือแบ่งผลประโยชน์จากส่วนกลางไปเผื่อแผ่ให้ท้องถิ่น แค่เห็นก็รู้แล้วว่ามันสุดโต่งกันไปคนละทิศ
และยิ่งนักการเมืองอีสานเข้ามาบริหารประเทศแบบโกงอย่างมูมมามด้วยแล้ว...คิดว่าคนใต้จะรู้สึกอย่างไร

 

และคนใต้ปัจจุบันก็ไม่ต่างจากคนภาคกลางส่วนใหญ่ ก็คือเป็นคนชั้นกลางที่มีรายได้สูง แต่มีครอบครัวขนาดเล็ก

จ่ายภาษีสังคมสูง พึ่งพาตัวเองได้มาก เห็นความสำคัญของการศึกษา ปัจจุบันผมดูจากความเป็นอยู่ของเพื่อนๆส่วนใหญ่ที่เรียนจบมา

ถ้าจะดูความรวดเร็วในการตั้งหลักปักฐานในสังคมหลังจากเรียนจบ จะเป็นตามลำดับแบบนี้เลย

 

คนไทยเชื้อสายจีน - คนใต้ - คนภาคกลางไทยแท้ - คนภาคอื่นๆ

 

ดังนั้นผมก็เห็นด้วยกับการแยกมณฑลปกครอง ลดอำนาจส่วนกลางลง เพิ่มอำนาจการบริหารท้องถิ่นขึ้น

มันจะได้สะท้อนคุณภาพของประชากรจริงๆ  เพราะพูดตรงๆว่าผมก็รำคาญพวกที่มาแย่งทรัพยากรที่คนอื่น

อุตส่าห์ทำแทบเป็นแทบตายแล้วยังอ้างบุญคุณมั่วซั่วนี่จริงๆเลย

  -_-




#830160 !!!! ไม่มีปัญญาชนะเลือกตั้ง เลยเรียกร้องรัฐประหาร ก๊าก (แตกปร...

Posted by isa on 2 September 2013 - 09:45

...,,มีปัญญาหลอกคนเขลาเพื่อชนะเลือกตั้ง แต่ไม่มีปัญญาบริหารประเทศนี่สิน่าเจ็บปวดมากกว่า

 

เจ็บทั้งคนที่เลือก ทั้งคนที่ไม่ได้เลือก เจ็บไปทั้งประเทศ!!

 

ปล. เจ้าของกระทู้อย่าลืมไปขอขึ้นค่าโพสต์เพิ่มจากนายจ้างนะครับ

จากนี้ไปกระทู้ละบาทคงจะไม่พอยาใส้แล้วล่ะ  -_-




#819525 "นิพิฏฐ์" อัด "ชาญวิทย์" หงอกสมองฝ่อ เห็น "เผาเมือง"...

Posted by isa on 23 August 2013 - 12:11

ผลของการไม่มีศาสนาก็แบบนี้แหละครับ...

 

ถ้าคนมีศาสนา ยิ่งแก่ตัวก็จะยิ่งกลัวบาปกลัวกรรม อะไรไม่ดีก็จะรีบละ ลด เลิก

จะทำอะไรไม่ดีก็ต้องคิดหน้าคิดหลัง

 

แต่พวกซ้ายนิยม ไม่เชื่อศาสนา ไม่เชื่อโลกหน้า  ยิ่งแก่ตัว ก็ยิ่งตามใจกิเลส กิเลสก็ยิ่งหนา

เคยเห็นคนระดับคณะบดีคณะสังคมศาสตร์ประกาศว่า "ถ้าคิดว่าศาสนาพุทธสอนทุกสิ่งแล้วก็ไม่ต้องมาเรียน!"
เห็นแล้วยิ่งหดหู่

 

ถ้าจะแปลงมหาวิทยาลัยให้เป็นอย่างที่คุณต้องการ ก็ช่วยเอาคำว่า "ธรรม" ออกไปจากชื่อ แล้วก็เอากงล้อธรรมจักรออกไปจากตรามหาวิทยาลัยเถอะครับ

จะได้เหลือแค่ "การเมืองศาสตร์" ล้วนๆอย่างที่พวกคุณต้องการ ในเมื่อ "ธรรม" ไม่มีในใจพวกคุณตั้งแต่แรกแล้วนี่...

 

by ศิษย์เก่า




#778175 เลิกกินข้าวแกงนอกบ้านหรือยังครับ

Posted by isa on 11 July 2013 - 14:46

เริ่มรู้สึกแล้วครับว่าข้าวราดแกงโรงอาหารบริษัท หรือร้านใกล้ๆบริษัทชักจะเพี้ยนๆมาพักใหญ่แล้ว

ข้าวทั้งกระด้าง แข็ง และร่วนผิดจากที่เคยท่าทางปัญหาจะลามมาถึงตัวแล้วล่ะ
 

มีน้องที่ทำอยู่มุลนิธิชัยพัฒนา แนะนำข้าวภัตรพัตร ที่เป็นข้าวปลอดสารพิษของมูลนิธิมา

แต่ต้องไปหาซื้อที่ร้าน แต่ก็นั่นแหละ ...ไม่มีเวลามาหุงกินวันธรรมดาอีก

 

สงสัยว่าจากนี้ไปตอนเช้าคงต้องเล่นขนมปัง แฮม กาแฟไข่ลวก ไม่ก็ผักสลัด ข้าวโพดต้ม

ตอนเที่ยงก็เข้าห้างเล่นสปาเก็ตตี้ กินแฮมเบอร์เกอร์ อาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ฮะจิบัง หรืออะไรทำนองนี้ไปเลย

ตกกลางคืนไม่ซัดมาม่าก็งดวิกาลโภชนาไปเลย....ดีเหมือนกัน

สุขภาพดีหุ่นกระชับ  :lol:

 

 

...แต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งน่าจะยังปลอดภัยอยู่มั้ง เพราะข้าวเหนียวยังไม่ได้เข้าโครงการจำนำข้าวของรัฐ...หรือเปล่า? 




#777829 ฟ้าหญิงฯมีพระดำรัสข้าวไทยไม่มีสารพิษ

Posted by isa on 11 July 2013 - 10:36

ล่าสุดมีความพยายามจากฝ่ายแดง จะโหนเจ้าโดยการนำพระราชดำรัสของฟ้าหญิงมาอ้าง

 

ที่จริงแล้วท่านน่าจะหมายถึงข้าวตามธรรมชาติที่เก็บเกี่ยวและสีแล้ว และสารพิษอย่างสารหนู

ที่ท่านหมายถึง ก็คือสารพิษในดินที่จะถูกต้นข้าวดูดซึมขึ้นไปสะสมอยู่ในเมล็ดข้าว ซึ่งเป็น

ขั้นตอนของการปลูกและเก็บเกี่ยวตามปกติ

 

...แต่ไม่ได้หมายถึงสารพิษที่เกิดจากการรมยาเพื่อฆ่ามอดด้วยสารมีฤทธิ์แรงและสลายตัวช้า

สาเหตุมาจากการที่รัฐกักตุนข้าวไว้ในโกดังเป็นเวลานานโดยไม่มีการดูแลที่ดีพอ

และสารพิษที่เกิดจากราที่เกิดจากสาเหตุจากการบริหารการเก็บรักษาที่ล้มเหลวของรัฐเช่นกัน

 

เพื่อนๆสมาชิกก็ระวังลูกมั่วแบบนี้ไว้ด้วยนะครับ วันนี้วันเดียวผมก็เจอหลายรายแล้ว 




#776446 ยิงพม่า...

Posted by isa on 9 July 2013 - 22:07

 

 

ประเทศ "พม่า" มันประกอบขึ้นมาจากหลายเผ่าพันธุ์

 

ซึ่งเดิมจริงๆ แล้ว ชนชาติ "พม่า" ไม่ใช่นักรบโดยกำเนิด

 

"บุเรงนอง" เอง ก็ไม่ใช่ ชนชาติพม่า แต่เป็น "ชาติพันธุ์มอญ"

 

ดังนั้นแล้ว ชาติพันธุ์นักรบจริงๆ คือ "ชาติพันธุ์มอญ" นะครับ

 

และ ทุกวันนี้ ใครที่คิดว่า "ชาติพันธุ์มอญ" สูญสิ้นชาติไปแล้ว

 

เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนะครับ เพราะ "ชาติพันธุ์มอญ" ก็ยังคงมีอยู่

 

และพวกเค้าเหล่านั้น "ภูมิใจในความเป็นชาติพันธุ์มอญ" ไม่ใช่พม่านะครับ

 

เพียงแต่ การดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ มันเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยเท่านั้นเองครับ

 

การทำตัวให้กลมกลืน และ การใช้ชีวิตร่วมกันนั้นสามารถทำได้อยู่แล้วครับ

 

โดยที่ลึกๆ ในใจ พวกเค้าเหล่านั้นคือ "ชาติพันธุ์มอญ" เฉกเช่น "รัฐฉาน" ก็เช่นกันครับ

 

( จากประสบการณ์จริง ที่ได้ไปสัมผัสและคลุกคลี กับชาติพันธุ์นักรบครับ )... ^_^ ^_^

 

 

 

ป.ล. ชนชาติที่ไม่มีชื่ออยู่ในแผนที่โลก(สมัยใหม่) ยังรู้สึกภูมิใจ ในชาติพันธุ์ของพวกเค้า

 

แต่..คนไทย แท้ๆ บางจำพวก พยายามจะขายชาติขายแผ่นดินของตน ให้ชนชาติอื่น...น่าเศร้านะครับ !!! -_- -_-

 

ท่าที่ผมทราบกษัตริย์พม่าองค์สำคัญๆอย่าง อนอรธา ตะเบงชเวตี้ อลองพญา มังระ ปดุง ล้วนเป็นชาตินักรบพม่าของแท้ครับ

 

ไม่ทราบว่าคุณทราบได้อย่างไรว่าบุเรงนองเป็นมอญครับ?? ผมไม่เคยทราบมาก่อน

 

ผมไม่แน่ใจว่าบุเรงนองจะเป็นมอญนะครับ น่าจะเป็นพวกตองอู มากกว่า หากจำไม่ผิด ตะเบงชะเวงตี้ รบชนะมอญนะครับ มอญตอนนั้นน่าจะเป็นพวก หงสา

 

 

กษัตริย์พม่าเก่งๆจะเป็นพม่านะครับ แต่ชนพื้นเมืองส่วนใหญ่ในพม่าโดยเฉพาะพม่าตอนล่างจะเป็นมอญ มีศูนย์กลางปกครองอยู่ที่หงสาวดี

กษัตริย์พม่าองค์ไหนที่เก่งมากๆจะรวมประเทศให้ได้ก็จะต้องยกมาตีหงสาวดีให้ได้ จากนั้นก็จะย้ายศูนย์กลางปกครองมาที่หงสาวดี

อย่างพระเจ้าตะเบงชเวตี้ ก็มาจากตองอู แต่มาตีหงสาวดีได้ หรือบุเรงนอง ตอนที่ตะเบงชเวตีสิ้น ก็ต้องเผ่นไปตั้งหลักที่อื่น

แล้วพอขยายอำนาจได้ก็ต้องยกมาตีหงสาวดีเหมือนกัน

 

หงสาวดีน่าจะเป็นเมืองใหญ่และอยู่ตรงจุดศูนย์กลางประเทศทำให้ควบคุมอำนาจได้ง่าย และด้วยความที่มีพวกมอญหนาแน่น

พม่าก็จะได้กำลังพลมอญมาร่วมด้วย เวลาทีกษัตริย์พม่ายกทัพมาตีไทย เราก็จะอ้างถึงว่าเป็นทัพพม่า-รามัญ (มอญ) และกษัตริย์ที่ยกมาก็จะเป็นพระเจ้าหงสาวดี

แทบจะทุกครั้ง เลยอาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นกษัตริย์มอญได้ 

 

แต่จริงๆแล้วเวลาที่พม่ายกมาตีไทย ในทัพก็มีหลายสัญชาติละครับ แบบเดียวกับในเรื่องสุริโยไทน่ะแหละ ตามจดหมายเหตุของฝรั่ง

ตอนที่เสียกรุงครั้งที่ 2 แนวแรกของทัพพม่าที่ปีนกำแพงขึ้นมาเป็นพวกเงี้ยวหรือไทยใหญ่เสียด้วยซ้ำ ดีไม่ดีจะมีพวกคนไทยในเมืองที่ยอมอ่อนน้อม

หรือตกเป็นเชลยร่วมทัพมาด้วยก็ได้




#775644 ยิงพม่า...

Posted by isa on 9 July 2013 - 11:02

ขอเกริ่นเผื่อไว้ก่อนคร่าวๆนะครับ ค่อยให้ท่านอื่นที่มีข้อมูลละเอียดกว่าผมมาเล่าก็แล้วกัน

 

...ก่อนหน้านี้การเมืองระหว่างประเทศของไทยจะใช้วิธีสร้างรัฐกันชนไว้เป็นแนวหน้ากับเพื่อนบ้าน ซึ่งพูดตรงๆว่าตอนนั้นก็ไว้ใจไม่ได้

เพราะฟากขวาก็เป็นคอมมิวนิสต์สายเวียดนาม-รัสเซีย ฟากซ้ายมือก็เป็นสังคมนิยมเผด็จการทหารและเป็นศัตรูเก่ามาตั้งแต่ครั้งเก่าก่อน

 

รัฐกันชนระหว่างไทยกับพม่าก็คือกะเหรี่ยง ไทยใหญ่ จีนฮ่อ ว้า ฯลฯ ที่ถูกเผด็จการพม่าหักหลังเมื่อครั้งสนธิสัญญาปางโหลงถูกทำลายไปพร้อมๆกับ

ผู้นำที่ถูกฆ่าหมู่ไปในช่วงนั้น ทำให้เกิดกบฎชนกลุ่มน้อยขึ้นทั่วแผ่นดินพม่า และสู้รบกันมาตลอดโดยอาศัยชายแดนไทยเป็นผนังพิงหลัง

 

ในช่วงปี 40s พม่าเริ่มรุกใหญ่ ทำลายชนกลุ่มน้อยไปหลายกลุ่ม อย่างกลุ่มกระเหรี่ยงก็เกิดความแตกแยกภายในระหว่างกระเหรี่ยงพุทธกับคริสต์

ลงท้ายกระเหรี่ยงพุทธไปสวามิภักดิ์พม่า กลับมารบกระเหรี่ยงคริสต์ที่แตกฉานเข้าไทย จนเกิดเรื่องเกิดราวหลายอย่างเกี่ยวกับปัญหาชายแดน

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลุ่มกระเหรี่ยงเด็กลิ้นดำที่ร่วมกับนักศึกษาพม่ามาจี้โรงพยาบาลไทยจนถูกจับตาย ฯลฯ

 

นโยบายปราบชนกลุ่มน้อยของพม่าอีกอย่างก็คือการยุให้รบกันเอง โดยผูกพันธมิตรกับพวกว้าแดง ที่เป็นชนเผ่าที่เผ่าอื่นๆเกรงมากที่สุด

เพราะเป็นอดีตพวกล่าหัวมนุษย์ แล้วก็ย้ายพวกว้าเข้ามาแทนที่กลุ่มชนกลุ่มน้อยที่ชายแดนเดิม และเพื่อเป็นต้นทุนสงคราม พวกว้าพวกนี้

ก็ตั้งโรงงานยาบ้า ปั๊มผ่านชายแดนไทยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน และในระหว่างการปราบปรามชนกลุ่มน้อย ก็มีการรุกล้ำชายแดนไทยอยู่หลายๆครั้ง

ทั้งพวกว้า ทั้งทหารพม่า มีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยครัง

 

และท่านสุรยุทธ์ซึ่งยุคนั้นทหารยังเป็นทหารกล้าจริงๆกันอยู่ ก็เลยจัดการข้ามชายแดนไปจัดการถล่มโรงงานยาบ้าซะเละ

กลายเป็นเรื่องร้อนฉ่าในยุคนั้น แต่เนื่องจากนายกเราเป็น "ชายคนนั้น" ที่เห็นประโยชน์ส่วนตัวสำคัญกว่าผลประโยชน์ชาติ

เขาจึงไม่แฮปปี้

 

...อันนี้คือข้อมูลคร่าวๆเท่าที่ผมรู้และจำได้ ต้องรบกวนเพื่อนๆพี่ๆที่รู้ละเอียดกว่า ช่วยแถลงไขต่อหน่อยครับ

 

ขอบคุณล่วงหน้า... :)




#774876 จริงๆ ป๋าชัยฯ ไม่ต้องออกไปจากโลกไซเบอร์ ก็ได้ไม่ใช่หรือ ?

Posted by isa on 8 July 2013 - 13:19

คาดว่าคงมีพวกสมุนคอยเข้าไปป่วนด่าป๋าแก ล่อให้ป๋าแกตอบโต้แล้ว ถ้าเกิดตอบแล้วเข้าทางมัน

ก็จะเอาไปเป็นประเด็นฟ้องร้องน่ะครับ หรือไม่ก็อาจจะแอบเข้าไปดูว่าป๋าแกพูดประเด็นอะไร

ที่เอาไปเล่นงานได้บ้าง

 

คนที่เล่นพันทิปมาก่อนแล้วเจอกับพวกแก๊งราชดำเนินเมื่อก่อนหลายคนก็เสียล็อคอินไปแบบนี้

เข้าไปแกล้งยั่วให้ตอบโต้แรงๆ แล้วก็ฟ้องแอดมินสีเดียวกันยึดล็อกอิน เพียงแต่กรณีนี้ก็ให้พรรคพวกกันเอง

ดำเนินคดีทางกฏหมาย ซึ่งเป็นเกมที่พวกนี้ถนัดอยู่แล้ว อย่างน้อยถึงเป็นประเด็นที่ไม่เข้าท่า

แต่ก็ทำให้ป๋าแกเสียสมาธิในการทำการทำงาน รบกวนชีวิตประจำวันที่ต้องวิ่งขึ้นโรงขึ้นศาล

 

ป๋าแกก็เลยตัดความเสี่ยงด้วยการเลิกเล่นโซเชียลมีเดียไปชั่วคราว...ก็อาจจะเป็นแนวนี้นะ  :huh: