kalo

ไหนๆก็มากันเยอะแล้วอย่าเพิ่งรีบกลับนะครับ ยิ่งอยู่เยอะๆและนานๆยิ่งดีครับ

หรืออยากจะจัดขบวนเดินเที่ยวรอบกรุงเทพพวกผมก็ยินดีครับ จะยึดหรือจะเผา

อะไรก้อตามใจครับ ผมชอบเห็นรัฐบาลแก้ปัญหาครับ

จากเท่าที่ฟัง หลายท่านจาก 69 สว.พูดถึงเรื่องผลประโยชน์ที่ประเทศชาติจะได้รับจากการโหวตคว่ำ พรบ.นิรโทษ ภายในวันนี้ และย้ำถึงเหตุการรุนแรงและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอีก2วันข้างหน้า 

ทำให้ผมเริ่มสงสัยว่าทำไมย้ำกันจัง เรื่อง 40สว.กวนติง ไปนั่งอยู่อีกตึกไม่ลงชื่อประชุม ผมเข้าใจนะว่าคนที่มารอก็คงเซ็ง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีใบสั่งก็เถอะ แต่ทำไมต้องย้ำเรื่องการสูญเสีย

จะเกิดอะไรรุนแรงขึ้นหรือครับ ทำไมท่าน สว.รู้กันล่วงหน้า ทั้งๆที่ รบ. ประกาศจะไม่ใช้กำลัง ทำไมถึงคิดว่าจะมีการสูญเสีย

มีท่านหนึ่งเข้าใจว่าผู้มาชุมนุมมากันด้วยใจเพราะเดือดร้อนจริงๆ ใจรักชาติ ยอมต่อ พรบ.นิรโทษไม่ได้ แต่ทำไมไม่สนับสนุนให้ประชาชนออกไปแสดงพลัง แสดงจุดยืน กลับว่าการชุมนุมเป็นเรื่องอันตราย บางคนเปรียบผู้ชุมนุมเหมือนไฟ ตอนนี้จุดติด จะให้ไหม้เลยหรือไร? แล้วเปรียบว่าตัวเองเป็นตัวแทนประชาชนมีหน้าที่ดับไฟ..... ทำไม สว.ท่านนั้นถึงไม่คิดเปรียบว่า รบ.และ พรบ.นี้คือไฟ ท่านมีหน้าที่ต้องดับมัน กลับไปเปรียบเทียบผู้ชุมนุมทั้งนั้น

ตามหัวกระทู้ครับ ผมว่า 69 สว.ที่มาในวันนี้ หลายท่านพูดออกมา ผมฟังแล้วรู้สึกว่า สภาวุฒิมันคือความอัปยศ มีแต่คนออกมาบอกไม่เห็นด้วยกับ พรบ.นี้ จะคว่ำทิ้ง แต่ไม่มีหน้าไหนพูดถึงความเลวของ รบ.ที่ปิดปากฝ่ายค้าน ปิดหูปิดตาประชาชนโดยการเร่ง บังคับปิดอภิปราย และโหวต พรบ.นิรโทษภายในวันเดียวเลย ไม่มีใครต่อว่าเนื้อหามาตรตราอัปปรีย์ต่างๆใน พรบ.นิรโทษแม้แต่คนเดียว ท่าน สว. ทั้งหลายที่จะเร่งรีบทำการคว่ำ ท่านบอกได้แต่ท่านจะคว่ำแต่ไม่มีใครบอกเหตุผลว่าทำไมท่านจะคว่ำแม้แต่คนเดียว มีแต่การด่าทอ สว.กลุ่มที่ไม่เข้าประชุม และทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ท่านโหวตคว่ำไป พรบ.นิรโทษก็ยังไม่ได้หายไปไหน แค่แขวนรอการนำกลับมาพิจารณาใหม่เท่านั้นเอง ท่านจะรีบไปทำไม 2วันนี้จะเกิดความรุนแรงอะไรขึ้น ท่านพยายามข่มขู่ผู้ชุมนุมหรือ หรือต้องการผลักความรับผิดชอบให้ สว.ที่อยู่อีกตึก

บ้างบอกไม่เห็นชอบกับ พรบ.นิรโทษมาตั้งแต่วันจันทร์ อยากจะออกมาประกาศก็ไม่กล้ากลัวเสียงไม่พอไม่น่าเชื่อถือ อ้างนู่นอ้างนี่ สว.หญิงผู้นี้รอจนมาถึงวันนี้ ครบอาทิตย์เพิ่งมีโอกาสมาพูด จริงหรือ? มีเจตนาจริง รู้เรื่องวันศุกร์ เป็นผมวันเสาร์โทรไปแล้ว ไม่งั้นก็บอกก่อนเลยว่าค้านหัวชนฝาตั้งแต่มันประกาศสุดซอยแล้ว ไม่ต้องรอให้มันทะลุซอยจนเกิดมีมวลชนมามากมายขนาดนี้แล้วค่อยมาพูดจาเอาหน้าเอาความดีเข้าตัว แล้วเตะความชั่วให้คนอื่น

วุฒิสภาควรปิดไปนานแล้วเพราะเลยเวลามามาก แต่ดันปล่อยให้ใช้เวทีนี้เป็นเวทีการเมืองอีกเวทีหนึ่ง เพราะผมคนหนึ่งล่ะที่ฟัง 87.5ทุกครั้งที่มีการประชุมสภาทุกชนิด หากไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดี ชาวบ้านหลายคนอาจคิดว่า สว.ที่อยู่ตึกข้างๆมันเลวจริงๆ อยู่ใกล้ๆแต่ไม่เข้าประชุม เลือกมาจากคนไม่กี่คนเองด้วย - แต่หากได้ฟังและคิดตามอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว มันก็แค่ปาหี่จัดเวทีด่าฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง รูปแบบเหมือนกันหมด เกือบทุกคนที่พูดแถมให้ร้ายคนที่ตอบโต้ท่านไม่ได้อีก รองฯเค้าห้ามไปก็คงห้ามๆไปเป็นพิธี............ ดังนั้น 69ตัวที่นั่งอยู่ หรือ สว.นอกสภา ไม่รู้อันไหนคือตัวสร้างความอัปยศให้สภากันแน่ พี่ๆน้องๆ ใน สรท. นี่คือความคิดเห็นของผม ไม่รู้ว่าแต่ละท่านคิดเหมือน คล้าย หรือแตกต่างกันอย่างไร 

ลูกร้องแล้วไว้ว่างๆมาต่อนะครับ

2 ปีที่ผ่านมาจีนนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจาก 3-6 แสนตันต่อปี เพิ่มเป็น 2 ล้านตันต่อปี

ฟังแล้วน่าเป็นโอกาสสำหรับข้าวไทย

พอมาดูลิสต์รายชื่อประเทศที่ส่งข้าวไปขายจีน ปรากฎว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่จีนนำเข้าข้าวมากขึ้น

เวียดนามกวาดเรียบ แถมไม่ได้กวาดธรรมดานะครับ มาเอาแชร์เดิมของข้าวไทยไปด้วย

เวียดนามจากเดิมส่งข้าวไปขายจีนได้ไม่ถึงหมื่นตัน สองปีที่ผ่านมาล่อไปปีละล้านกว่าตัน

ไทยแลนด์ จากเดิมส่งข้าวไปจีนราวๆ 3 แสนตันต่อปี สองปีที่ผ่านมาลดฮวบฮาบเหลือแค่แสนตัน

พี่น้องเสื้อแดงจะเพ้อเจ้อต่อไปก็ตามสบายนะครับ..

Source : GTIS

ถ้าอาจารย์ศศิน และคุณสมิทธิ์เป็นอะไรไป ผมว่าลงขันเถอะ เก็บไอ้ตระกูลชินหมาเกิดล้างผลาญทำลายชาติมันทีละตัวเลย 

ขออนุญาตเล่าเรื่องบุพการีผมอีกครั้ง

ต้องขอบคุณแม่ผมมากๆ ที่ทำให้ผมเข้าใจกลไกทางความคิด ว่าทำไม "คนถึงบูชาทักษิณ" และทำไมนโยบายหลอกแดรกขายฝันว่า "จะทำให้รวย รวย รวย" ของทักษิณ คนไทยถึงรับได้มากกว่า "อุ้มชูตนเองได้" ของพ่อหลวงเรา

ถ้าไม่มีแม่เป็นกระจกสะท้อน ผมจะไม่รู้เลยครับ

เวลาที่แม่ผมโทรมาขอเงินไปทำนู่นนี่  ผมคุยกับแม่เรื่อง "ความพอเพียง" แม่ผมจะตอบงอนๆว่า "ถ้าเอาแต่พอ ก็ไม่รวยสิ" (น่าน ดูแม่ผมจิ)

พอแม่ผมอยากได้รถรุ่นที่ดีกว่ารถที่ผมซื้อให้ แม่ก็เอารถผมไปเทิร์นแล้วกู้นอกระบบเพิ่มเพื่อได้รถแบบที่แม่ต้องการ สรุปคือแม่ส่งหนี้ไม่ไหว ความเลยแตก ผมถามว่า "ทำไมต้องใช้รถแพง ที่ให้ไปมันไม่พอเหรอ " แม่ผมตอบว่า "อยากได้แต่ไม่มีเงินก็ต้องยอมกู้หนี้สิ" (ลูกชายมีอึ้ง...)

แม่อยากได้บ้าน  มีที่ดินของยายอยู่แล้ว ปลูกแต่พอเพียง อยู่ได้ ใช้เงินไม่กี่หมื่น ผมเลยให้เงินแม่ไปปลูกบ้านตามนั้น  ปรากฏว่าแม่ใช้เกินไปเป็นแสน ก็กู้นอกระบบซ้ำอีก  พอถามว่าทำไมต้องกู้ เก็บออมเงินค่อยๆต่อบ้าน ค่อยๆเติมไปไม่ได้เหรอ  แม่บอกว่า "กู้นอกระบบมันง่ายและเร็วดี"

ทั้งหลายทั้งปวงคือ ผมสร้างบ้านและซื้อรถให้แม่แล้ว แม่ทำร้านชำ มีรายได้  แต่สมบัติที่มีแม่เอาไปค้ำ กู้นอกระบบบ้าง กู้ออมสินบ้าง กู้โครงการของทักษิณบ้าง แต่พอมีปัญหา ผมก็ต้องช่วยปลดหนี้ทุกที  พอผมถามว่า "แม่ยืนหยัดด้วยตัวเองไม่ได้แบบนี้ จะทำยังไง"  แม่ตอบง่ายอีกเหมือนกัน "ก็มีลูกอยู่ทั้งคนไง ลูกต้องช่วยแม่สิ"

ด้วยกระบวนการความคิดแบบนี้ แม่ผมคงเป็นเสื้อเหลืองไม่ได้  และต้องไม่ชอบปชป.  แต่บูชาทักษิณ และเป็นเสื้อแดงเรื่อๆ

process of thinking ของพวกนี้คืออะไร?

สังเกตคำตอบนะครับ แล้วจะเข้าใจกระบวนทัศน์ทางความคิดของสาวกทักษิณ

รวย

กู้

ง่าย

เร็ว

ช่วย

= อยาก"รวย" แต่ไม่ขวนขวาย  อยากได้อะไรทั้งๆที่ไม่มีเงิน ไม่เป็นไร "กู้"มันเลย  เพราะมัน"ง่าย"ดี แถมไม่ต้องอดทนรอ "เร็ว"ทันใจ  แต่พอขัดสนขึ้นมา ส่งหนี้ไม่ได้ แทนที่จะแก้ปัญหาเอง กลับคาดหวังให้คนอื่น"ช่วย"

ตราบใดที่คนไทยคิดแบบนี้ สอนแบบพ่อหลวงพวกเขาจะไม่เอา เพราะมันยาก กินเวลานาน ต้องช่วยตัวเอง อยู่ได้ด้วย เงินตัวเอง และ พออยู่พอกิน

เห็นไหมครับว่ามันค้านสิ้นเชิงกับกระบวนทัศน์ของพวกเขา

แล้วเขาจะเลือกนักการเมืองที่สอนให้เขาทำมาหากินเอง พึ่งตัวเอง รู้จักพอ ไปทำไมครับ?

ดังนั้น เพราะมีแม่ ที่มาสอนให้ผมเข้าใจ ผมถึงเชื่อว่าการล้างระบอบทักษิณ แค่โค่นทักษิณอย่างเดียวไม่พอครับ

ต้องล้างระบบความคิดแบบ "หวังรวย ชอบได้มาง่ายๆ ฟุ้งเฟ้อ และพึ่งพา" ของคนไทยด้วยครับ

ไม่งั้นทักษิณตายไป เจอผีบุญคนใหม่มาล่อหลอกแบบเดิม ก็วนลูปไม่รู้จบครับ

ไม่อยากให้มันตายแต่อยากให้มันรู้สึกอยากตาย

เรื่องแปลกประเทศไทยในรอบ 2 ปี ยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน

1/ เป็น สส อยู่ แต่ลาออกเพื่อมาสมัคร สส (ดอนเมือง) สุดท้ายสอบตก

2/ เป็น สส (เชียงใหม่)อยู่ดีๆ ขอลาออกมาเป็นคนขับรถ

3/ เป็นรัฐบาลที่ผลงานเยอะจนไม่สามารถแถลงผลงานได้

4/ มีนายกรัฐมนตรีรู้ข่าวสารบ้านเมืองหลังนักข่าว และประชาชน

5/ ละครต่อต้านคอรัปชั่น เรทติ้งดี  ถูกถอดด้วยข้อหาทำลายความมั่นคงชาติ

6/ โฆษณาต่อต้านคอรับชั่น ห้ามออกอากาศ

7/ ไฟดับพร้อมกัน 14 จังหวัดภาคใต้

8/ ใช้เงินไปเพื่อลดราคาไข่- ไข่แพง ,ใช้เงินไปอุ้มเพื่อเพิ่มราคายาง ยางตกต่ำ

9/แก้ปัญหาชาวนา โดยไล่ชาวนาไปเป็นชาวไร่ ให้ปลูกอ้อย ปลูกมันแทน

10/ ฝ่ายค้านตรวจสอบจับทุจริตข้าวได้ กลายเป็นฝ่ายผิดทำให้ราคาจำนำเหลือ 12000

11/ ส่งออกข้าวอันดับหนึ่ง แต่ต้องซื้อข้าวเขมรกิน

12/ ชุมนุมโดยสงบ โดนไล่ทุบตี รองนายกขู่ระวังโดนระเบิด

13/ เป็นม๊อบฝ่ายรัฐบาลชุมนุมไล่ทุบใครก็ได้ ไม่ผิด

14/ นสพ ใหญ่ ยุค ปชต คนชุมนุมสามร้อยลงข่าวใหญ่ คนมาชุมนุมหลักหมื่น มองแทบไม่เห็น

15/ หน้าที่หลัก รมว กลาโหม จับผู้นำฝ่ายค้านหนีทหาร

16/ รมต กลาโหมแก้ปัญหาไฟใต้ โดยบอกสื่ออย่าเสนอข่าว

17/ ยุบ รร ขนาดเล็กหมื่นกว่าแห่ง นักเรียนหกแสนคน แล้วไปซื้อรถตู้ 12 ที่นั่งหนึ่งพันคันบอกจะเอามารับ ส่ง (1 เที่ยวได้ 12000 คน คงส่งกัน 24 ชม.)

18/ โจรกระจอก ปล้นฆ่า ขอแค่เช๊ค 5 ล้าน ส่วนพระเครื่อง ทอง สร้อยแหวน ฯ มูลค่ายี่สิบกว่าล้าน เอาไปโยนทิ้ง

19/ ตำรวจคู่คดีกับคนตาย เป็นคนสอบสวนคดีคนตาย

20/ ตำรวจเคยต้องคดีอุ้มฆ่าจับโจรอุ้มฆ่าได้เป็นคนแรก

21/ กู้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติ 2.2 ล้านล้านเพื่อมาทำรถความเร็วสูง กลัวผักเน่า

22/ ใช้เงินสามหมื่นล้านไปอุดราคาน้ำมัน น้ำมันแพงสุด แก๊สขึ้นราคาพรวดๆ

23/ประกาศกระชากค่าครองชีพ ผลปรากฎสายขาด ลูกโป่งลอย แพงทั้งแผ่นดิน

24/ ดีเอสไอ สมองกลับด้านเหมือนเพิ่งเกิดมาแค่สองขวบ

25/ โรลสรอยซ์รองนายก นำเข้าทั้งคันราคารวมแค่ 9 ล้านเสียภาษีถูกต้องทุกอย่างถูกกว่าเบนซ์และถูกกว่าประเทศผู้ผลิต

26/ รมต อยากเป็นเทพฯ ลงทุนถอดเสื้อสวมโขนเล่นละคร มีแต่คนด่า

27/ แก้ปัญหาร้านโชวห่วย โดยให้เปลี่ยนชื่อเป็นโชวสวยแทน ขายดีแน่

28/ แก้จน โดยซื้อหวยเลขทะเบียนรถนายก ถูกแปดงวดแล้ว (อำมาตย์แดงประกาศที่โบนันซ่าก่อน 1 วัน รุ่งขึ้นออกตรงๆไม่มีโต๊ด)

29/ เป็นนายกยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน แต่ไปพูดด่า ปชต บ้านตัวเองใน ตปท.

30/ คนด่าเจ้ากลายเป็นคนรักเจ้าขึ้นมาทันที ส่วนคนรักเจ้าโดนด่าว่าล้มเจ้าเพราะใส่หน้ากากขาว

31/ ยุบโรงเรียนเด็ก แล้วเปิดโรงเรียนผู้ใหญ่ นปช ไปทั่วประเทศแทน

32/ หมิ่นนายก จับได้ทันที หมิ่นเจ้า รอชาติหน้าค่อยจับ

33/ ประเทศไทย บริหารด้วยรีโมทคอนโทรลจากดูไบ ทันสมัยที่สุดในโลก

34/ กูเกิ้ล เจอคู่แข่งชื่อ กูเหลิม

35/ คนเขียนการ์ตูนโดยนายกฟ้อง ข้อหาหมิ่นในเฟซบุ๊คส่วนตัว

36/ เสาไฟฟ้าก็มีสิทธิ์สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ  เกือบชนะแน่ะ

37/ ไฟไหม้โรงสีบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์

38/ ระบบปฏิบัติการใหม่ ISO คิดค้นโดย รมต ICT ประเทศไทย

ฯลฯ 

ต่อเติมกันเอาเองละกันครับ   จะได้เป็นฉบับสมบูรณ์

ผมพูดว่า จะแสดงความรับผิดชอบ

ไม่ได้บอกว่า จะลาออก สักหน่อย

พวกคุณ เข้าใจผิดไปเอง ครับ

ผมไม่เห็นด้วยครับ เปลี่ยนเส้นทางเถอะ

ถ้าเกิดอุบัติเหตุ แล้วอาคารเสียหาย

มันคุ้มกันหรือไม่

ที่สำคัญ ผมว่าบ้านเรา บ้านเรีอนมาไม่สวยเหมือน

เมืองอื่นที่เขาแข่งกัน มันเลยเอาเส้นที่มีโบราณสถาน

มาจัดแทนเสีย ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะสถานที่นั้นๆ

ขายตัวเองได้อยู่แล้ว

คลิปเด็ดๆจากละครช่องสาม(อีกแล้ว)

สาเหตุที่ไฟภาคใต้ดับ
๑.อำมาตย์กักกระแสไฟฟ้าไว้ไม่ยอมปล่อย แกล้งยิ่งลักษ์
๒.รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย
๓.เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร
๔.สส.พรรคประชาธิปัตย์ทุจริตโกงกินสายไฟ
๕.สุเทพกักตุนกระแสไฟฟ้าไว้ ขายราคาแพงๆ
๖.โรงพยาบาลศิริราชใช้ไฟเกินขนาด

คอยดูนะ แล้วก็จะมีเสื้อแดงเชื่อเป็นตุเป็นตะ เล่าแชร์ต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุด

ต่อมาเฉลิมก็จะมาแถลงเอาผลงาน ว่านโยบายดับไฟใต้ของรัฐบาลประสบความสำเร็จแล้ว

สุกำพลก็จะมาแถลงต่อ ไฟดับไม่มีปัญหาอะไรเลย รออีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว พอพระอาทิตย์ขึ้นปัญหาก็จะหมดไปเอง

ปลอดประสพ ก็จะตั้งงบประมาณขอซื้อเครื่องปั่นไฟ กลัวว่าเวลาแสดง พระเจ้าเม็งรายรอบหน้าเกิดไฟฟ้าดับขึ้นมา การแสดงจะติดขัด

พร้อมพงษ์ก็จะตื่นแต่เช้าไปยื่นซองให้การไฟฟ้านครหลวง ขอให้ผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงแสดงการรับผิดชอบโดยการลาออก

สายหน่อยสุรนันท์ก็เรียกพร้อมพงษ์ไปตบกระบาลว่ายื่นผิดที่

ตบท้านด้วยท่านนายกปู บอกว่าการที่ไฟฟ้าดับ เป็นสิทธิของการไฟฟ้า ตามระบอบประชาธิปไตย

ทำให้ผมประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาศึกษาคนเลย แค่บอกว่าเป็นควายแดง ผมก็ตัดสินได้เลยว่า ต้องเลว เห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัว 

คนขวา  = ล้ม

คนซ้าย = โหน

จบนะครับ เข้าใจนะ 

ยังครับ.......ยังไม่จบ........

คนขวา  = ล้ม

คนซ้าย = โหน

คนกลาง = เ หี้ยยยยยย

แต่สรุปว่า = เ หี้ยยยยย ทั้งหมดเลยดีฝ่าครับ......

ผมลอง ดูวิธีนี้ แล้วยกตัวอย่าง ไม่รู้จะใช่ หรือเปล่า

ถ้า บริษัท ฟู มีเดีย จำกัด

มีพนักงาน ที่เป็น ครีเอทีฟ ชื่อ ผึ้งน้อย ปกติ จ้าง เป็นรายเดือน บวก โบนัส ก็ตก ปีละ 1.5 ล้าน

แต่ ผึ้งน้อย หัวเส ไปตั้ง บริษัท ชื่อ little bee ครีเอทีฟ

แล้วให้ ฟู มีเดีย จ้าง little bee ที่ปีละ 1.5 ล้าน

แต่แทนที่จะ เสียภาษีจาก 1.5 ล้าน (แบบเดิม ภงด 91)

หักค่าใช้จ่าย 40% ไม่เกิน 60,000 หักลดหย่อน รวมกัน อะ มากสุด ผึ้งน้อย มี ลดหย่อน 1.5 แสน ละกัน

ผึ้งน้อย เสียภาษีจาก 1.5 ล้าน หัก 6 หมื่น หัก 1.5 แสน เท่ากับฐานภาษีที่ 1,290,000 บาท

ได้ยกเว้น 1.5 แสนแรก เท่ากับ ฐานสุทธิ ที่ 1,140,000 บาท

350,000 แรก เสีย 10% ที่ 35,000 บาท

500,000 ต่อมา เสีย 20% ที่ 100,000 บาท

290,000 ที่เหลือ เสีย 30% ที่ 87,000 บาท

เท่ากับ ถ้าเป็นแบบเดิม ผึ้งน้อย เสียภาษีที่ 222,000 บาท

ในขณะที่ถ้า ผึ้งน้อย เปิดบริษัท แล้วจ่ายเงินเดือน ให้ตัวเอง ที่ 20,000 บาท

ผึ้งน้อย เสียตาม ภงด.91 ที่ยอด 240,000 บาท

ส่วน ที่เหลือ 1,260,000 บาท นั้น เสียตาม ภงด 50

ซึ่ง ถ้าผึ้งน้อย คิดเงินเดือน ให้น้องชาย และ คนใช้

ในอัตรา ที่ไม่เสียภาษีตาม ภงด91 ก็จะนำเงินเดือน ของน้องชาย และ คนใช้

รวมถึง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์ ทั้งหลาย รวมถึง ค่าน้ำมันรถ มาเป็น ค่าใช้จ่าย

เพื่อหัก จาก 1,260,000 บาท ที่เหลือ ก็ย่อมได้

แล้ว สุดท้าย หักเหลือ รายได้สุทธิ เท่าไหร่ ค่อย มาคุณ ที่ 23%

ซึ่งปกติ แล้ว รายได้สุทธิ มักเหลือ ไม่เกิน 10% ของ รายได้ที่รับเข้ามา

(จากประสบการณ์ ทำบัญชี มานาน พอรู้ว่า มีการหาค่าใช้จ่าย มาเพิ่มได้)

ในที่นี้ คือ 1,260,000 x 10% = 126,000 บาท

แล้วคูณ 23% เท่ากับ 28,980 บาท

แล้วไปรวมกับภาษีที่เสียจาก ภงด91 ของ 240,000 บาท

ซึ่งแทบไม่เสียภาษีอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีลดหย่อนด้วย อาจไม่ต้องเสียเลย

สรุป จากเสีย 222,000 เหลือ ไม่เกิน 30,000 บาท ใครบ้าง

จะไม่อยากจดทะเบียน บริษัท

บริษัท ฟู มีเดีย เอง ก็ไม่เสียหาย เพราะ ถ้าเป็นการจ้าง แบบนี้ ก็หัก ภงด.53

แล้วใช้เป็น คชจ. ได้เหมือนกัน

ส่วน little bee เอง ก็สามารถ นำภาษีที่ถูกหัก มา หักออกจาก ภาษีที่ต้องเสียได้ตามปกติ

มีแต่ได้ ไม่มีเสีย นะครับ