kalo

ตอนนี้ ผมทำอะไร play safe สุดๆ อะไรที่ขายได้พอมีกำไร ขายไปเลย อย่าไปเกี่ยงเรื่องต้องกำไรเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ พอเลี้ยงพนักงานอยู่ได้ก็ทำแล้ว ระบบประชานิยม ชมกันตัวตายขนาดนี้ ถ้าไม่มี sense ตอนปี 40 ก็เตรียมโดดตึกตายได้เลยครับ มันมาถึงจริง เรื่องมันใกล้เคียงกับปี 40 มากๆ 

 

ไม่อยากให้ ปชป. เข้ามาวนลูปแบบนี้เลย ปชป.ทำอะไรก็โดนด่าจากขี้ข้าทักษิณ จากควายแดง หรือแม้แต่อีแอบบางจำพวก ปชป.ทำอะไรไปพวกมันก็ไม่เห็นความดีของปชป.อยู่แล้วเพราะพวกมันบูชาแต่เงิน ปชป.ควรที่จะรอไปอีกสัก 3-4 ปีจนมีเลือกตั้งอีกครั้ง รอให้พวกเสื้อแดง และอีแอบพวกนี้หมดศรัทธาในการบริหารงานของพรรคเพื่อไทยเสียก่อน ปชป.ควรจะทราบไว้บ้างว่าคนจำพวกนี้ไม่เคยเลือกปชป.เพราะการมอมเมาของทักษิณ แม้ว่าปชป.จะเข้ามาช่วยกอบกู้เศรษฐกิจหรือช่วยให้พวกนี้อยู่ดีกินดีสักกี่ครั้ง แต่ด้วยภาพมายาและการมอมเมาด้วยประชานิยมจะไม่วันหายไปจากใจของพวกเขา ทำให้ทุกๆ ครั้งที่ทักษิณเดินเกมด้วยประชานิยมที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนส่วนนี้ก็จะพร้อมใจลงคะแนนให้อีกครั้ง เพราะงั้นทางที่ดีที่สุดก็คือให้พวกเขาได้เห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารแล้วประเทศชาติย่ำแย่ ให้พวกเขาได้เห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำให้อยู่ดีกินดีขึ้น เชื่อเถอะครับว่าต่อให้พรรคเพื่อไทยพยายามจะปิดหูปิดตาประชาชนขนาดไหนแต่ประชาชนไม่ได้เดือดร้อนเพราะคิดไปเองแน่นอน ไม่ได้มีชีวิตที่ตกต่ำลงเพราะคิดไปเอง คนส่วนนี้เมื่อภัยมาถึงตัวก็จะสำนึกได้เองว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่ได้ดีอย่างที่พวกเขาเคยคิด ผมเดินทางไปทั่วก็เห็นแต่เสื้อแดงที่ก่นด่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย และคิดว่าคงจะเริ่มทนไม่ได้จริงๆ แล้วเพราะเรื่องน้ำมัน วันหน้าเมื่อทนไม่ไหวและรู้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยนั้นบริหารงานได้เลวร้ายและความจริงที่พรรคเพื่อไทยพยายามปิดหูปิดตาเหล่าเสื้อแดงได้กระจ่างออกมาเมื่อนั้นกระแสทั้งหมดจะพุ่งไปที่พรรคปชป.และพรรคปชป.อาจจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น เพราะงั้นตอนนี้สิ่งเดียวที่พรรคปชป.ควรทำที่สุดคืออย่าไปเล่นตามแผนของฝ่ายตรงข้ามที่พยายามจะป้ายสี เงียบไว้จะดีที่สุดครับ และค่อยๆ ทำความจริงให้กระจ่าง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน เมื่อตอนปชป.ออกมาเล่นเรื่องของแพงนั่นสถานการณ์ยังไม่สุกงอมทำให้ฝั่งรัฐบาลยังพอจะเป่าหูประชาชนได้แต่ตอนนี้ต่อให้รัฐบาลพูดยังไงประชาชนก็สัมผัสได้ด้วยตัวเองแล้วว่าของแพงจริง รายได้ลดจริง ตกงานจริงๆ ฝากไว้ด้วยนะครับว่า ทำดีต้องทำ ถูกที่ ถูกเวลา มันถึงจะมีคนเห็น

 

ถูกต้องนะคร๊าบบบบ

 

นั่นคือเหตุผลที่ว่า ทำไม ปชป. ถึงได้รอเวลาอยู่ไงครับ

 

ต้องรอให้ควายแดงตายหมดเสียก่อน แล้วค่อยเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวไปทีเดียวเลย

 

10 ปีล้างแค้นยังไม่สายครับ

 

ผมมองใน 2 แง่มุม

 

1.ทำถูกแล้วที่เตือนก่อนเหตุร้ายเกิด ถ้าเขาปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น ประเทศก็ดีขึ้น แต่คะแนนเสียงก็ยังอยู่กับเขา

 

2.ไม่ดีตามที่คุณบอก คืออย่าไปเตือนปล่อยให้ประเทศฉิกหายไปเลย คะแนนเสียงจะได้มาทางปชป. 

 

เราจะเอาแบบไหนดีละครับ

 

ในความคิดผมนะ ปชป. เองก็คงเหนื่อยหน่ายกับประเทศนี้แล้วเหมือนกัน

 

เหนื่อยหน่ายกับความยากลำบากในการบริหารประเทศท่ามกลางความโง่งมของเสียงส่วนใหญ่ ที่เห็นแก่ตัว มากกว่าส่วนรวม

 

เหนื่อยหน่ายกับการพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ แบบน้ำซึมบ่อทราย แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับประชานิยมผลาญชาติ

 

เหนื่อยหน่ายกับการต่อสู้ ทั้งๆที่อยากปลุกระดมประชาชนให้มาฉะกัน ให้มันรู้เรื่องไปเลย ก็ทำไม่ได้ (ไม่เช่นนั้นคงแห่ไปขึ้นเวที เสธ อ้าย กันแล้ว)

 

อยากให้ทหารออกมาปฏิวัติ อยากให้กองกำลังมาล้างผลาญพรรคตรงข้ามแบบที่มันทำกับตัวเอง ก็ทำไม่ได้

 

เพราะ ปชป. ภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ ตอนนี้ มองไกลไปถึงการสร้างรากฐานแห่งความยั่งยืนแล้วครับ

 

ทุกท่านจะเห็นว่า ปชป. พยายามเดินหน้า พบปะประชาชน เพื่อถ่ายทอดความจริง และแนวทางของพรรคอยู่ตลอดเวลา

 

ซึ่งเป็นความจริงที่โต้แย้งไม่ได้เสียด้วย

 

ปชป. กำลังสร้างฐานการเมืองรุ่นใหม่ รับสมัครสมาชิกอายุน้อยผู้มีอุดมการณ์มาร่วมงาน

 

ปชป. จะไม่โต้ตอบเกินความจำเป็น จะไม่ฟ้องคดีความอะไรๆ เกินเหตุ

 

ปชป. จะยึดเอากฏหมายเป็นที่ตั้ง และจะไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกฏหมาย

 

ดูเหมือนว่า ตอนนี้ ปชป. จะถอยหลังลงคลอง แต่ผมเห็นว่า มันไม่ใช่ เขากำลังแพ้เพื่อชนะต่างหาก

 

ตอนนี้ ปชป. นั้น ไม่มีจุดอ่อนเรื่องใดๆให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีได้เลย ถ้าไม่ขุดเอาเรื่องส่วนตัวมาเล่น ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามนั้น แผลเต็มตัว

 

ที่กล่าวมานั้น ผมไม่ได้เข้าข้าง ปชป. นะ แต่ผมกำลังเลือกพรรคการเมือง พรรคไหนก็ได้ที่พอจะฝากผีฝากไข้

 

ก็พอจะคิดได้ว่า ตั้งแต่ อภิสิทธิ์ เป็นผู้นำ พรรค ปชป. ในยามที่ตกต่ำสุดๆ ก็ยังพาพรรคไปตลอดรอดฝั่ง

 

แถมยังพัฒนาพรรคก้าวหน้าไปได้เรื่อย ในขณะที่พรรคอื่นๆ มีแต่พวกกเฬวกราก คอรับชั่นไปวันๆ

 

เพียงแต่ต้องรอครับ ปชป. ก็รอ กองทัพ ก็รอ พวกเราก็คงต้องรอ

 

รอให้มันถึงจุดต่ำสุดจนสำนึกได้ด้วยตัวเองเท่านั้น พวกควายจะตายกันหมด ส่วนพวกเราจะรอดได้ด้วยความพอเพียง

 

ถึงตอนนั้น ปชป. ก็คงเข้ามาปัดกวาดประเทศ สร้างความเจริญแบบยั่งยืนเสียที ถ้ามาร์คยังเป็นหัวหน้าอยู่นะ

ที่บอกว่า "ถ้ารัฐบาลบริหารไม่ดี คราวหน้าก็ไม่ต้องเลือกมาอีก" ผมขอบอกเลยว่าใช้ไม่ได้กับประเทศไทยแน่นอนหากประชาชนยังเป็นอย่างทุกวันนี้

แบบไหนหรือครับ ก็เป็นแบบที่ชอบสิ่งฉาบฉวยมากกว่าสิ่งยั่งยืน ชอบฟังมากกว่าคิด ชอบความบันเทิงมากกว่าเรื่องสาระ เห็นนักการเมืองสกปรกโสโครก แต่ถ้าได้ประโยชน์จากพวกมันก็ไม่เป็นไร สิ่งเหล่านี้พวกนักการเมืองเลวมันรู้ดีครับ และเป็นสิ่งที่จะเอามาล่อหรอกให้ประชาชนไปใช้ประชาธิปไตย 4 วินาทีตอนเลือกตั้งนี่แหละ

คุณภาพข้าว ประเทศไทยส่งออกข้าวคุณภาพดีน่ะไม่ได้แปลว่าเพราะเป็นข้าวหอมมะลิ หรือข้าวแป้งอ่อน แต่เขาหมายถึงว่า เป็นข้าวที่เกี่ยวในปีนั้นขายในปีนั้น ข้าวคุณภาพต่ำก็หมายถึงข้าวที่ค้างปี เหตุที่ค้างปีก็เพราะมันเป็นข้าวจากคลังสำรอง
ค้าขายสำคัญที่กำไรมิใช่เหรอ แต่ก่อนจะพูดถึงกำไรก็ต้องขายให้ได้ซะก่อนสิจริงไหม ได้ข่าวว่า อินโด เขาไม่ซื้อข้าวไทยเเล้ว สงสัยเหลือประเทศเดียวที่รับซื้อข้าวไทย นั้น คือ ประเทศไทย

อันดับ 1 เราไม่ได้เป็นนับแต่อินเดียกลับมาส่งออก <<< รู้ขนาดนี้แล้วก็น่าจะเข้าใจได้สักทีนะครับว่าลำพังประเทศไทยประเทศเดียวไม่มีทางจะดึงราคาข้าวในตลาดโลกให้สูงขึ้นตามใจชอบได้น่ะ สุดท้ายก็กลับไปที่เรื่อง Demand&Supply กลไกการตลาด(อีกแล้ว) ยังไงก็ฝืนไม่ได้หรอกครับ

ถ้าเราขยันปลูกแต่ข้าวที่ให้ผลผลิตเร็วด้วยหวังอานิสสงค์จากโครงการรับจำนำ มันจะตรงกับความต้องการของตลาดไหม? ถ้าเราเอาแต่จำนำข้าวแต่ไม่มีปัญญาระบายข้าวออก ก็แปลว่าเราจะ
มีข้าวคุณภาพต่ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆใช่ไหม? ถ้าเราเจอคู่แข่งขายตัดราคา เราก็เลยอั้พราคาซะเลย นี่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ฉลาดไหม?สมองไม่ได้อยู่ที่ตูดคงคิดกันได้นะคับ คุณๆๆ พวกที่สนับสนุนรัฐบาลให้ทำลายประเทศตัวเอง นะ


ศักยภาพการผลิตมันก็เป็นอำนาจการแข่งขัน และทำให้เกิดความสามารถการต่อรอง และที่ไทยดึงราคาตลาดโลกไม่ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะศักยภาพของคู่แข่งมิใช่หรือ <<< คุณก็รู้นี่นา แล้วคุณยังจะเชื่อน้ำยาโครงการจำนำข้าวที่อ้างว่าจะดึงราคาตลาดโลกให้สูงขึ้นได้ยังไงล่ะ



ย้ำชัดๆอีกกี่ทีก็ได้

1. ประเทศที่ซื้อข้าวก็ไม่ได้มีแค่จีน และประเทศที่ขายข้าวก็ไม่ได้มีแค่ไทยกับเวียดนาม เพราะงั้นอย่าหมกมุ่นกับ 2 ประเทศนี้มากนัก

2. ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวในโลกที่ปลูกข้าว และประชากรบนโลกนี้ก็ไม่จำเป็นต้องง้อข้าวจากไทย เพราะงั้น ประเทศไทยไม่มีสิทธิที่จะดึงราคาข้าวในตลาดโลกให้ขึ้นตามใจชอบ นอกซะจากราคาของข้าวไทยเอง

3. ข้าวไม่ใช่หุ้น ยิ่งเก็บยิ่งมีต้นทุนเพิ่ม ยิ่งเก็บยิ่งเสื่อมคุณภาพ เสื่อมราคา เพราะงั้นที่บอกว่าตราบเท่าที่ไม่ขายก็ไม่ขาดทุนจึงเป็นเรื่องไม่จริง

4. คนค้าขายต้องมุ่งที่กำไรจากการขาย ไม่ใช่ราคาขายที่ตัวเองตั้งเอาเองตามใจชอบ เพราะเมื่อลูกค้าไม่ซื้อมันก็จบ

5. ข้าวสายพันธุ์ไทยถูกใจประชากรในหลายๆประเทศก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะผูกปิ่นโตซื้อข้าวไทยกินจนชั่วฟ้าดินสลาย เพราะงั้นผมถึงได้บอกว่าเมื่อเสียตลาดไปแล้วเราเอาคืนยาก

6. ไม่มีการค้าขายในโลกนี้ที่ไหนที่ใช้วิธีเพิ่มต้นทุน เพื่อเพิ่มราคาขาย เพราะงั้นการบีบให้มีการซื้อขายข้าวเปลือกในราคาสูง เพื่อหวังจะให้ราคาขายข้าวสูงขึ้น มีแต่จะทำให้พ่อค้าหนีไปซื้อข้าวจากเพื่อนบ้านที่ต้นทุนถูกกว่ามาขายต่อ และมีแต่ทำให้รัฐบาลขาดทุน(ภาษีคุณ ภาษีผมนั่นล่ะ)

เรื่องของชาวนานี่ก็ถูกยกมาอ้างเป็นประจำละครับ จนผมเบื่อแล้ว และอยากชี้ประเด็นให้เห็นช่องโหว่ดังนี้

- เรื่องคนกรุงกดขี่ชาวนาอีสาน อันนี้อ้างมาเป็นสามสิบสี่สิบปี ตั้งแต่รุ่น 6 ตุลาโน่นแน่ะ แต่ในยุคนั้นน่ะ อีสานยังแล้งหยั่งกับอะไรดี แถมคนอีสานยังกินข้าวเหนียว จะเอาปัญญาที่ไหนมาปลูกข้าวเจ้าเลี้ยงคนกรุง
แค่ข้าวที่ปลูกแถวอยุธยา สุพรรณ แค่นี้ก็เหลือกินเหลือใช้แล้วครับ แล้วชาวนาภาคกลางก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มอดหยากหรอกนะ อย่างปรีดีนี่ก็ลูกชาวนา แค่บ้านนอก หรือไม่มีเงิน ไม่ได้หมายความว่าอดหยาก
ที่คนอีสานอดหยาก มันเป็นเพราะภูมิอากาศกับภูมิประเทศ ไม่รู้ว่ามามั่วอ้างบุญอ้างคุณได้ไง

- คำโกหกที่ว่าถ้าคนเมืองยอมกินข้่าวแพงขึ้นอีกหน่อย ชาวนาจะมั่งมีขึ้น นั่นก็แหลอีก 2 ปีก่อน ราคาข้าวขึ้นเป็นเท่าตัว ชาวเมืองอ้วกไปตามๆกัน ผลลัทธ์คือปุ๋ยขึ้นราคาเท่าตัว
โรงสีกับบริษัทปุ๋ยรวย ชาวนาจนเท่าเก่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

- แล้วนี่ก็เรื่องจำนำข้าว เอ้อ ข้าวที่เค้าส่งขายเมืองนอกมันข้าวหอมมะลิไม่ใช่รึ พวกพนักงานบริษัทอย่างพวกผมน่ะ ส่วนใหญ่ก็กินข้าวโรงอาหารบริษัททั้งนั้นแหละ ถามหน่อยว่าแม่ค้าร้านข้าวแกงบริษัทร้านไหน
เค้าจะเอาข้าวหอมมะลิมาราดแกงขายลูกค้า ขายจานละ 30-40 บาทบ้าง ...กลายเป็นว่าข้าวพวกคุณ พวกผมก็ไม่ได้กินสักหน่อย พวกคุณเอาข้าวไปค้าไปขายผมก็ไม่ได้มีกำไรด้วย แต่ดันรีดภาษีพวกผมไปอุ้มราคาข้าว
ที่พวกผมไม่ได้มีเอี่ยวด้วยสักหน่อย

- คนที่พล่ามเรื่องชาวนาน่ะ มันก็แค่พวกหัวเอียงซ้ายตกยุคเท่านั้นแหละ จริงๆแล้วความก้าวหน้าของการเกษตรนั้น ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมีชาวนาจำนวนมากก็สามารถผลิตอาหารเลี้ยงพลเมืองได้เพียงพอ
ทำให้สามารถแบ่งคนในสังคมไปทำหน้าที่อื่นๆได้ สังคมไทยทุกวันนี้เดินตามก้นญี่ปุ่น เมื่อ 20 ปีก่อน ญี่ปุ่นเจริญถึงขั้นที่ไม่มีใครอยากเป็นชาวนาอีกต่อไป รัฐบาลต้องให้เงินสนับสนุนเพื่อให้ยังมีคนเป็นชาวนา
อยู่ในสังคม ส่วนหนึ่งก็คือข้าวญี่ปุ่นมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่ถูกปากคนญี่ปุ่น และอีกส่วนก็คือไม่อยากฝากชีวิตไว้กับการนำเข้าจนเกินไป

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต่างกันระหว่างไทยกับญ๊่ปุ่นก็คือ คนญี่ปุ่นนั้นมีความหลากหลายทางเชื้อชาติต่ำ ทำให้คุณภาพของคนใกล้เคียงกัน การจะดึงคนส่วนใหญ่มาเป็นคนชั้นกลางไม่ใช่เรื่องยาก
แต่คนไทยนั้นมีความหลากหลายทางเชื้อชาติสูง แต่ละเชื้อชาติก็มีนิสัย มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันออกไป นี่เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาคนเพื่อกระจายงาน และกระจายรายได้ให้ใกล้เคียงกัน
หลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายสังคมไทยจากสังคมเกษตรกรรมมาเป็นกึ่งอุตสาหกรรม ปัจจุบัีน คนที่ยังตกค้างอยู่ในภาคเกษตรมีอยู่ 2 พวก คือ พวกที่กะเอาดีด้านเกษตรจริงๆ
พวกแรก อาจจะอยู่ได้ด้วยการพัฒนาการทำงาน ความรู้ และเทคนิคเพื่อเพิ่มผลผลิต ผลกำไร หรือไม่ก็หันไปใช้วิธีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงเพื่อลดต้นทุน
กับพวกที่ทำเกษตรเพราะไม่มีทางไป เพราะขาดวินัย ขาดความรู้ ขาดคุณสมบัติที่จะดึงเข้ามาสู่ภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจได้ และคนพวกหลังนี้นี่แหละครับที่เป็นทั้งปัญหาและภาระของสังคม
เพราะมีคุณสมบัติครบทั้ง "ทำไม่เป็น" และ "เข็นไม่ไป"

แล้วเราจะทำยังไงดี...โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพวกนักวิชาการที่ถือหางคนพวกนี้แบบไม่ลืมหูลืมตา...

ถ้าถามอีปู จะได้คำตอบ---- "คงต้องขอความร่วมมือบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งสามคน ค่ะ" แล้วฉีกยิ้ม ถ่ายรูปต่อ

ถ้าถามไอ้โต้ง จะได้คำตอบว่า ---- "ต้องให้แท็กซี่โกหก ว่าค่ารถคือ 240 เท่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา จ่ายเท่าเดิมทุกคน และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ" การโกหกเป็นสิ่งที่ทำได้ครับ

ถ้าถามเป็ดเหลิม จะได้คำตอบว่า --- " คนถามมันง่าว!!! ไม่ใช่ถามว่าต้องเสียค่าโดยสารคนละเท่าไหร่ แต่ต้องถามว่า ค่าตอบแทนที่แท็กซี่ได้รับรวมจากทั้งสามคนเท่าไหร่" อย่ามั่ว ขอโทษ ผมเป็นหมา(dog)ทางกฎหมาย หุหุ...

ถ้าถามควายแดง จะได้คำตอบว่า --- " ต้องดูว่าในสามคนนั้นมีชาวนา มีพ่อค้า ประชาชนหรือไม่ ถ้ามีชาวนา ก็ไม่ต้องเสียซักบาท ให้พ่อค้าจ่ายและประชาชนจ่ายแทน เอาเปรียบชาวนามานานแล้ว จ่ายแท็กซี่เสร็จแล้ว อย่าลืมเอาเงินให้ชาวนาเป็นพ็อกเก็ตมันนี่ ด้วยน๊า...

ถ้าถามอ้ายเต้น จะได้คำตอบว่า --- "ทั้งสามคนไม่ต้องจ่าย พอถึงที่แล้วให้เผาแท็กซี่ เลยพี่น้อง"

ถ้าถามอ้ายตู่ จะได้คำตอบว่า --- " ทหารจะปฏิวัติอยู่แล้ว ยังจะมาสนใจเรื่องไร้สาระกันอยู่อีก" เวร...

ถ้าถามหมาเหวงกับอีธิดา จะได้คำตอบว่า --- " ในฐานะที่ผมอาวุโส มีอายุมากแล้ว ขอเตือนว่าให้นำไปสู่การพิจารณาของศาลโลกครับ/ค่ะ"

เอาแค่นี้ก่อน...

ท่ามกลางกระทู้ที่ตั้งมาถกเถียงกันทางการเมือง
ก็ยังมีกระทู้เกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวเนี่ยแหละ
ที่ทำชุ่มชื่นหัวใจ~

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ใช่เลยครับ และผมคิดว่า คนไทยทุกคนที่รักในหลวงก็รู้สึกเช่นนี้เหมือนกัน

จากกระทู้นี้ทำให้ผมเข้าใจอีกอย่างหนึ่งว่า ในหลวงทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง
ทำให้ผมนึกถึงตอนที่ไปเที่ยวเหนือเมื่อปลายปีที่แล้ว และผมเคยเล่าให้สมาชิกฟังไปแล้วเมื่อต้นๆปี
ก็ขอนำมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง เพราะบางท่านอาจยังไม่ได้อ่าน

เมื่อปลายปีก่อน ผมได้ไปเที่ยวเหนือหลายจังหวัด และได้ไปที่เชียงใหม่
น้องชายเพื่อนเป็นนักวิชาการเกษตรอยู่ที่นั่น ได้พาไปเที่ยวดอยแม่จอนหลวง
ซึ่งขึ้นไปทางดอยอินทนนท์ แต่แยกขวาก่อนถึงยอดดอยเล็กน้อย

ระยะทางจากทางแยกไปถึงดอยแม่จอนหลวงน่าจะประมาณ 10 กิโล แต่ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชม.
ตั้งแต่แยกเข้าไปก็เป็นทางลาดยางเล็กๆแคบๆ ถนนเก่าๆเป็นหลุมเป็นบ่อ
หลังจากนั้นก็เป็นถนนลูกรัง ทางคดเคี้ยว สูงชัน เป็นหุบเหวตลอดทาง รถสวนกันยังแทบไม่ได้
ยิ่งใกล้ถึงทางยิ่งสูงชันมาก พอไปถึงที่หมายถึงรู้ว่าที่นี่เป็นโครงการวิจัยเกษตรเมืองหนาวของในหลวง
มีรูปในหลวงในขณะที่เสด็จมาที่นี่เมื่อปี 27 ติดอยู่

พวกผมไปกัน 4 คัน รถ 4x4 ทุกคันกว่าจะไปถึงที่หมายยังเหนื่อย
แล้วพระองค์มาที่นี่เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว แถมพระองค์ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เองด้วย
คงไม่ต้องพูดถึงว่าลำบากแค่ไหน และหลังจากพระองค์เสด็จกลับ
ก็รับสั่งให้สมเด็จพระเทพฯเสด็จมาติดตามโครงการอีกหลายครั้ง

พระองค์เสด็จไปทุกที่ๆเพื่อพสกนิกรของพระองค์

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ขณะที่ในหลวงทรงงาน เพื่อหาที่สร้างฝายทดน้ำ โดยมี อ.ปราโมทย์ ช่วยถือแผนที่ให้พระองค์
ปรากฎว่ามีตัวคุ่นได้กัดที่มือของอาจารย์ แต่อาจารย์ก็ได้เก็บอาการเสมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าพระพักตร์แต่อาจารย์คิดว่าพระองค์คงไม่ทรงสังเกตเห็น อาจารย์ก็ได้แต่เอามือถูเพื่อคลายความเจ็บปวดแบบเนียนๆ

ก่อนจะเสด็จฯ กลับ ในหลวงทรงเสด็จฯ พระราชดำเนินไปที่รถยนต์พระที่นั่ง (การเสด็จฯ ครั้งนั้น ทรงขับรถยนต์ด้วยพระองค์เอง) เหมือนทรงค้นหาอะไรบางอย่าง
สักพักพระองค์ก็เสด็จฯ พระราชดำเนินกลับไปหาอาจารย์ โดยถือหลอดยามาด้วย

"นายช่าง ยื่นมือมาสิ จะทายาให้"

อาจารย์ได้แต่ยืนตะลึง ใจมิกล้าอาจเอื้อมยื่นมือไปให้พระองค์
และไม่คิดว่าจะทรงสังเกตเห็นและมีพระเมตตาใส่พระทัยถึงขนาดนี้... พระองค์ทรงทายาให้อาจารย์ พร้อมตรัสว่า

"ตัวคุ่นมันกัด ถ้าแพ้จะบวม ไม่เป็นไร ทายานี้แล้วเดี๋ยวก็ค่อยยังชั่ว"

จากหนังสือ : การทรงงานของพ่อในความทรงจำ
โดย : ปราโมยท์ ไม้กลัด

http://www.facebook....&type=1

http://www.b2s.co.th...php?proid=21078

คุณ TFEX กำลังทำหน้าที่นักการเมืองที่ดี คือตรวจสอบรัฐบาล
ตอนนี้ กำลังเน้นเรื่องทุจจริตจำนำข้าวอยู่

ผมคิดว่า ในฐานะเพื่อนร่วมเว็บ แม้จะไม่เห็นด้วยกับรสนิยมทางการเมือง
แต่การตรวจสอบนักการเมือง ใครทำก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น

ผมขอตั้งกระทู้นี้ เพื่อเป็นคลังข้อมูลเรื่องการทุจริตจำนำข้าว
ท่านใดสนใจ ก็พับแขนเสื้อ โดดลงมาเลยครับ


http://thaipublica.o...pledge-of-rice/

โอ๊ยย!!!!!!! ถ้าผมเป็นมาร์คนะ ยัดเงินสัสดี ***ตั้งแต่ตอนอายุครบ 21 ไปแล้ว
จะมาทำเรื่องให้ยุ่งยากทำเชี่ยอะไร เด็กสมัยนี้มันยัดกันเท่าไหร่ พวกปลวก พวกควาย
กรุณาอย่าแกล้งโง่ ไอ้พวกที่มาด่าๆ เขาเนี่ย บางคนก็เรียน รด. เพื่อไม่ต้องการเป็นทหาร
บางคนก็ยัดเงินสัสดี บางคนเสี่ยงจับใบดำใบแดง แต่พอได้ใบแดงกลับไม่ต้องไป
แค่จ่ายค่าอะไรซักอย่างก็นอนอยู่บ้านสบายๆ แล้ว

ไม่รู้ว่าเรื่องนี้สำคัญเชี่ยไรนักหนาวะ เล่นกันอยู่นั่นหละ ข้าวไทยส่งออกน้อย
หรือมรึงจะรอให้มอดขึ้นก่อน แต่ที่น่ากลัวมันจะหายไปโกดังแบบลำไยในยุคเชี่ยแม้ว
แล้วเรื่องก็เงียบไปตามสายลม ทีงี้ไม่เสือกเดือดร้อน ทีเรื่องนี้เดือดร้อนจะเป็นจะตาย
ถ้าเขาหนีจริงๆ ก็คงไม่ไปทำเรื่องให้ยุ่งยากหรอก ฟายเอ้ย

ปล. เบื่อจริงๆ กับข่าวนี้ไปเว็บไหนก็เจอ เห็นแล้วน่ารำคาญน่ะครับ
มันเรื่องไร้สาระมากๆ เพราะคดีนี้ก็เคยสอบสวนและจบไปแล้วยังเอามาเล่นอีก

มีแล้วห้าคัน จมน้ำไปสอง

ตอนนี้กำลังจะซื้อคนให้หลานผ่านโครงการรถคันแรก

ทำไมต้องอายที่ใช้สิทธิ์

กรูจ่ายภาษีเลี้ยงควาย เลี้ยงสำนักงานตะกวดแห่งชาติมาแล้วตั้งเท่าไหร่ ไอ้ค่าทำศพควายนั่นด้วย

จะบอกให้ว่าเมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจเก็บใบเสร็จบริจาคไว้ลดภาษี

เดี๋ยวนี้เก็บแม่งทุกบาท ทั้งRMF LTF ประกันชีวิต จัดเต็ม

เป้าหมายคือให้เหลือภาษีไปเลี้ยงควายให้น้อยที่สุด

ไม่ใช่กรูคนเดียว เพื่อนกรูทุกคนก็ทำ

เอ็งก็รอดูยอดการเก็บภาษีเงินได้บุคคลของไอ้โต้งปีนี้

มีไรป่ะ

ไม่เข้าใจทั่วโลกรณรงค์ให้ขี่จักรยาน แต่บ้านเรายุให้ซื้อรถ ล่อด้วยส่วนลดแต่เอาคืนด้วยค่าน้ำมัน.............

.

ที่อยู่ในนี้ก็คงไม่ได้พูดมั้งครับ

พอไม่เข้าข้างตัวเองด่าศาล พอเข้าข้างก็ชมสาร