cabala

ขำ กับจินตนาการไอ้แป๊ะมากมาย คือว่า..

 

ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก สงสัยไอ้แป๊ะกะลูกมันประชุมหารือกันสองคน โอดว่า สาวกหดหายปล่อยไปอย่างนี้จะเหลือแค่หมาสองตัว เห่าไปก็แสบคอหาใครได้ยินไม่ ทำไงดี

ปรึกษากันประสาหมาๆก็ได้ข้อสรุปจนมีชุดความคิดหนึ่งที่ยัดใส่สมองสาวกสายโง่ไม่รุ้สี่รู้แปด(อะไรๆก็ลุงสนธิผู้หยังรู้ จิตอนาถผู้เรืองแสง) ความว่า

 

จะต้านทักษิณ ต้องทำทุกทางเพื่อทำลาย ปชป.ไปจากแผ่นดินให้จงได้เป็นอั้นดับแรก (เห็นหลักฐานได้จากมันและสาวกมุ่งโจมตีปชป.ฝ่ายเดียวในปัจจุบัน) เป้าหมายเพื่อเพิ่มฐานมวลชนที่หรอมแหรม เพิ่มอย่างไร มาดูที่มันหลอกสาวกกัน

 

เมื่อตี ปชป.สิ้นสลายตามจินตนาการแล้ว มวลชนที่แตกระส่ำจาก ปชป. ซึ่งมีเกิน 10 ล้าน ก็จะมาร่วมกับพันธมิตรสายโง่เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ร่วมต้านทักษินต่อไป

 

จากมวลชน สมมุติ แป๊ะมี สองแสน(มากไปป่าวเนี่ย) ก็จะกลายเป็น สิบกว่าล้าน+สองแสน เห็นมะ มวลชนมาพรึบ โอกาสเป็นหนึ่งในแผ่นดินก็ไม่ยากแล้ว

 

อันนี้คือเรื่องจริง ที่สาวกดักดานมันรับชุดความคิดนี้มาแล้วตั้งเป้ามาเล่น ปชป. อย่างที่เห็น โดยละเลยความเร่งด่วนที่คนเลวกำลังทำร้ายประเทศ 

 

โชคยังดีที่ พันธมิตรสายดักดาน มีน้อยกว่า พันธมิตรที่คิดเองเป็น หลายเท่า เมื่อมีเหตุประเทศจะถูกกินรวบเขาก็ไม่เอาด้วย นโยบายหลอกพันธมิตรผู้บริสุทธิ์ของไอ้แป็ะ จึงเป็นได้แค่ฝันกลางวัน

 

สมมุติบังเอิญเป็นย่างที่แป๊ะมันฝัน พันธมิตรสายดักดานที่รัก ท่านไม่คิดหรือว่า เมื่อถึงเวลานั้น แป๊ะจะมีเหตุผลร้อยแปดที่จะไปต่อรองยุติศึกโดยขอมีเอี่ยวรวยรากเลือดด้วยคน ก็กำพืดมันเป็นคนแบบนั้น

 

โหวตโน > ถล่มปชป.ก่อนกรือช่วงเลือก ผู้ว่า กทม.    เป้าหมายใเพื่อห้ ปชป.ล้ม มากกว่าล้มทักษิน เห็นกันอยู่

 

พันธมิตรสายดักดาน พบเห็นได้ที่ไหน ก็...มีประปราย ตามถ้ำ ตามหลืบ หากท่านบังเอิญพบเห็น จะได้ยินเสียงเรียกขาน "ลุงสนธิ" "ลุงจำลอง" นั่นหละ แม่นแล้ว ไม่ผิดตัว 5 5 5 5 5 5

 

ปล.ผมไม่ได้ยินจากปากไอ้แป๊ะหรอก แต่ได้ยินจากสาวกแป๊ะสายดักดานเขาพูดกัน เลยมาเล่าต่อ

 

ปล 2 ชื่อ"คนกวาดขยะ"ปัจจุบันไม่มีสถานะเป็นผู้ดูแลเน้ออออ จึงขอลงมาเล่นด้วยในบางครั้ง  

ถามว่า คะแนน ปชป ลดลงหรือไม่..และ ทำไม คะแนนเพื่อไทย จึงสูงขึ้น..

ก่อนจะตอบคำถามนี้..อยากให้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลสักนิดค่ะ

 

สถิติผลการเลือกตั้งผู้ว่า กทม.  2551, 2552 และ 2556 

 

- ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง....

ปี 2551.....4,087,329 

ปี 2552.....4,150,103  เพิ่มขึ้น  1.54% 

ปี 2556.....4,244,465  เพิ่มขึ้น  2.28 %  

 

- ผู้มาใช้สิทธิ....

ปี 2551.....2,214,320  คิดเป็น  54.18%

ปี 2552.....2,120.721  คิดเป็น  51.10%

ปี 2556.....2,715,640  คิดเป็น  63.98%

 

- บัตรดี...

ปี 2551.....2,157,599  คิดเป็น  97.44%

ปี 2552.....2,058,219  คิดเป็น  97.05%

ปี 2556.....2,630,890  คิดเป็น  96.88%

 

- บัตรเสีย...

ปี 2551....19,376  คิดเป็น  0.87%

ปี 2552....16,107  คิดเป็น  0.76%

ปี 2556....37,300  คิดเป็น  1.37%

 

- ไม่ลงคะแนน...

ปี 2551.....37,345  คิดเป็น  1.69% 

ปี 2552.....46,395  คิดเป็น  2.19%

ปี 2556.....47,448  คิดเป็น  1.75%

 

- ผลการเลือกตั้ง...พรรคเพื่อไท

ปี 2551.....543,488  คิดเป็น  25.19%  (คุณประภัสร์ ในนามพลังประชาชน)

ปี 2552.....611,669  คิดเป็น  29.72%  (คุณยุรนันท์  ในนามเพื่อไท)

ปี 2552.....334,846  คิดเป็น  16.27%  (หม่อมปลื้ม  ในนามอิสระ)

ด้วยภาพลักษณ์ในขณะนั้น ถ้าจะบอกว่าหม่อมปลื้มมีความคิดไปในแนวเดียว

กับพรรคเพื่อไทก็คงไม่ผิด ดังนั้นคะแนนที่แยกออกเป็น 2 ส่วน มีความเป็นไปได้

ว่าน่าจะมาจากฐานคะแนนเสียงเดียวกัน แต่กลุ่มอายุและกลุ่มอาชีพต่างกัน

ถ้าจะรวมคะแนนผู้สมัครทั้ง 2 ท่าน เข้าด้วยกัน  ผลที่ได้..

ปี 2552......946,515  คิดเป็น  45.99% 

ปี 2556.....1,077,899  คิดเป็น  40.97%  (พล.ต.อ.พงศพัศ ในนามเพื่อไท)

 

- ผลการเลือกตั้ง...พรรคประชาธิปัตย์

ปี 2551.....  991,018  คิดเป็น  45.93%  (คุณอภิรักษ์)

ปี 2552.....  934,602  คิดเป็น  45.41%  (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์)

ปี 2556.....1,256,349  คิดเป็น  47.76% (ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์) 

 

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า..

 

ปี 2552  คะแนนโดยรวมของเพื่อไท (คุณยุรนันท์+หม่อมปลื้ม  45.99) สูงกว่าของ

ประชาธิปัตย์ (ม.ร.ว.สุขุมพันธ์   45.41)  ซึ่งจะทำให้เพื่อไท จะมีชัยได้ครองตำแหน่ง

ผู้ว่า กทม..แต่เพราะมีผู้สมัคร 2 ท่านทำให้คะแนนโดนแบ่งเป็น 2 ส่วน..เป็นผลให้

พ่ายแพ้ต่อประชาธิปัตย์..อย่างหมดรูป..

 

ในปี 2556  จากผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ

...เพื่อไท ได้คะแนนคิดเป็น  40.97%  ลดลงจากปี 2552 ประมาณ  5.02% 

...ประชาธิปัตย์ ได้คะแนนคิดเป็น 47.76%  เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ประมาณ  2.35%

 

จะเห็นได้ว่า...เพื่อไท คะแนนนิยมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ ประชาธิปัตย์

เพิ่มขึ้นเล็กน้อย...ผลต่างที่หายไปประมาณ  2.67% ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนบัตรดี

บัตรเสีย...ที่ลดลงและเพิ่มขึ้นจากปี 2552 (บัตรดี ลดลง บัตรเสียเพิ่มขึ้น)

 

เพื่อไท...คงต้องกลับไปวิเคราะห์ว่า..ปัจจัยอะไรที่ทำให้ฐานเสียงลดลงไปอย่าง

เห็นได้ชัด..ส่วนหนึ่งจะมาจากภาพลักษณ์ที่แยกกันไม่ออกระหว่าง พรรคกับ นปช

หรือ การบริหารราชการแผ่นดินของพรรคเอง

 

ประเด็นที่น่าคิดอีกหนึ่งประเด็นคือ...ไม่ประสงค์ลงคะแนน หรือ โนโหวต ซึ่งลดลง

จากปี 2552   จะสามารถวิเคราะห์ได้หรือไม่ว่า..คนกรุงเทพฯ ที่ครั้งหนึ่งเคยศรัทธา

ต่อกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม ได้ตกตะกอนความคิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..อย่างชัดเจน

 

ดังนั้น..คำถามที่ว่า..ทำไม เพื่อไทได้คะแนนมากขึ้น..หรือ ประชาธิปัตย์ ได้คะแนน

ลดลงหรือไม่...ก็คงจะพอหาคำได้ว่า...

 

เพื่อไท...ได้คะแนนมากขึ้น จริงหรือ...

ประชาธิปัตย์...ได้คะแนนลดลง จริงหรือ...

คนกรุงเทพฯ...ลืมง่าย และ เลือกเพราะความกลัว...จริง ๆ หรือ...

 

 

 

 

 

"คนที่จะยิงได้ มีแต่คนที่เตรียมใจจะถูกยิงกลับแล้วเท่านั้น"

ผมขออนุญาตยืมประโยคนี้มาจากการที่เห็นเพื่อนสมาชิกคนใดคนหนึ่งในเสรีไทยเคยใช้ ซึ่งผมเองก็ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถจำได้ว่าเพื่อนสมาชิกคนนั้นเป็นใคร หากแต่เพียงรู้สึกว่าได้เห็นประโยคนี้อยู่บ่อยๆจนรู้สึกว่าคุ้นตาและชอบใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องของแม่กะมนเกดซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากเขียนมานาน แต่ก็ไม่ได้เขียนซักที ซึ่งการที่ผมอยากเขียนเรื่องแม่กะมนเกดนั้นมันเกิดมาจากประโยคประโยคนึงที่เห็นผ่านตาจากสื่อ จาการโพสต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่บ่อยๆ ประโยคนี้ครับ

"บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน"

เพียงประโยคนี้ประโยคเดียวเท่านั้นครับที่ผมรู้สึกว่ามันถูกจริตกับอคติในจิตใจของผมอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้นข้อความต่อจากนี้ไป ผมได้เขียนขึ้นมาจากอคติในหัวใจของผมล้วนๆ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีมนุษยธรรมในหัวใจและนักสิทธิมนุษยชนที่จะอ่านข้อความต่อไปนี้

ผมขอเถอะครับ "เราอย่าไปให้คุณค่ากับกะมนเกดคนนี้นักเลยครับ" จะว่าจะด่าอะไรผมก็ได้ครับหากคุณอ่านประโยคที่ผมได้เขียนเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว เพราะผมบอกไว้แล้วว่าถ้าผมได้ตัดสินใจจะเขียน ผมก็พร้อมแล้วครับที่จะรับผลจากการเขียนของผมตามประโยคที่ผมได้ยืมมาจากเพื่อนสมาชิกที่นำมาอ้างไว้ข้างต้น

การสูญเสีย โดยปกติแล้วสำหรับผมเป็นเรื่องใหญ่ครับ ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก อย่าว่าต้องให้ถึงชีวิตเลยครับ แค่เพียงสูญเสียอวัยวะก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำให้คนอย่างผมได้รู้สึกสลดใจครับ แต่ความรู้สึกนี้เดียวกันนี้ที่เคยมีให้กับกะมนเกดมันเลือนหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้ครับ มันคงหายไปเพราะการกระทำของแม่กะมนเกดครับ

ความตายของกะมนเกดถูกนำมาเพิ่มมูลค่าอย่างมากมายโดยมารดาของเธอครับ เพิ่มจนไม่ธรรมดา เพิ่มจนน่าเกลียด เพื่อให้กะมนเกดดูมีค่ามากมาย เพื่อให้คนต้องเสียดายเมื่อสูญเสียเธอไป เพื่อเรียกร้องเงินค่าชดเชยให้สมน้ำสมเนื้อกับคนที่แสนจะมีค่าอย่างกะมนเกด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุดจากการเสียชีวิตของลูกสาวเธอครับ ทั้งๆที่จริงๆแล้วกะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดา ที่ไม่น่าจะมีคุณค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้ดูเหมือนจะเป็นหากเธอยังคงมีชีวิตอยู่ครับ

ผมไม่ได้รู้จักกะมนเกดเป็นการส่วนตัว แต่ขออนุญาตวิเคราะห์กะมนเกดจากบทความที่เคยได้อ่านมาด้วยอคติส่วนตัวครับครับ

"เกด เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากร้ายใจดี" "เกดมีเอกลักษณ์ของตัวเองคือเสียงหัวเราะที่ดังลั่นทุ่ง" "เกดจบชั้นมัธยม เรียนพาณิชย์ได้ไม่เท่าไรก็ต้องลาออกมาเรียน กศน" สามประโยคนี้ทำให้ผมสามารถวิเคราะห์ด้วยอคติได้ว่า กะมนเกด ไม่ใช่พยาบาลที่เรียบร้อยอ่อนหวานอย่างที่พยาบาลส่วนใหญ่เค้าเป็นกันอย่างที่เราๆท่านๆเคยเห็นหรอกครับ ผมว่าออกจะเป็นคนเกเรเสียด้วยซ้ำ กรุณาอย่าทำให้ภาพพจน์เธอดูเป็นนางฟ้าเลยครับ

มาถึงประโยคที่ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนที่สุด และทำให้รู้สึกอคติกับกระบวนการสร้างภาพให้กะมนเกดอย่างรุนแรงก็คือประโยคนี้ครับ "บางครั้งมีนักเรียนแพทย์ผ่าเส้นเอ็นอะไรไม่เป็นก็มาให้เกดสอน" ผมอยากทราบจริงๆครับว่า นศพ คนใดที่ต้องให้กะมนเกดสอนผ่าเส้นเอ็น เพราะผมเชื่อลึกๆว่าในปีแรกๆของการเรียนแพทย์นั้น นศพ ทุกคนต้องผ่านการเรียนกายวิภาคศาสตร์มาแล้วไม่ว่าทั้งภาคทฤษฎีหรือภาคปฏิบัติ แล้วเหตุใด นศพ คนนั้นจึงต้องให้กะมนเกดผู้ซึ่งเป็นเพียงผู้ช่วยพยาบาลและผมเองก็เชื่ออยู่ลึกๆว่าเธอไม่เคยผ่านการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์มาอย่างแน่นอนมาสอนการผ่าเส้นเอ็นด้วยเล่า หากผมเป็นอาจารย์ของ นศพ ท่านนั้นจะขอเขกกระโหลกซักสองสามที และจะขออนุญาตตัดคะแนน anatomy ที่คุณเรียนผ่านมาแล้วด้วยในช่วงปีแรกๆครับ เรื่องเหล่านี้คนที่เรียนแพทย์หรือเรียนวิทยาศาสตร์น่าจะรู้ดีที่สุดครับ ไม่ใช้ผู้ช่วยพยาบาลอย่างกะมนเกดซึ่งไม่เคยร่ำเรียนวิชาทางสายแพทย์มาก่อนอย่างแน่นอน นี่เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กะมนเกดที่ผมรับไม่ได้อย่างมากครับ

ประโยคต่อมาคือประโยคที่ว่า "เกดมีฝันว่าต้องการไปสอบเป็ผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบก โดยประกาศเจตนาแน่วแน่ว่า ถ้าสอบติดจะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้" ท่านจะเห็นว่ามันน่าชื่นชมใช้มั๊ยครับ แต่ผมก็ไม่เชื่อลมที่ออกจากปากแม่กะมนเกดหรอกครับ เกดตายไปแล้วจะพูดอะไรก็ได้ครับ จะพูดให้ดูดีกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าก็ได้ครับ "ถ้าเกดยังไม่ตายจะ ..." "เกดมีฝันว่า ..." "เกดตั้งใจจะ ..." จะพูดอะไรก็พูดได้ครับ สำหรับผมมันก็แค่การสร้างราคา สร้างมูลค่าให้การตายของกะมนเกด เพื่อให้การตายของลูกทำเงินให้แม่ให้ได้มากที่สุดครับ คุณเชื่อเหรอครับว่าหากเธอยังไม่ตาย แม่ของเธอจะยอมให้เธอลงไปสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขนาดไปอยู่แค่ในม็อบกบฏสีแดงแม่เธอยังไม่อยากให้ไปเลยครับ วิเคราะห์จากประโยคนี้ครับ "หลังจากเกดไปร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อคอบปฐมพยาบาลกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงอย่างเต็มตัว เกดก็ไม่ค่อยรับโทรศัพท์ที่บ้านเพราะกลัวโดนตามตัวกลับ" ที่สามจังหวัดชายแดนมันโหดร้ายกว่าในม๊อบกบฏสีแดงหลายล้านเท่าครับ เห็นรึเปล่าครับว่ามันก็แค่การพูดเพื่อเพิ่มมูลค่าเท่านั้นเอง กะมนเกดยังไม่เคยแม้แต่จะเรียนผู้ช่วยพยาบาลด้วยซ้ำ และก็ยังไม่รู้เลยว่าจะสอบได้เป็นผู้ช่วยพยาบาลในกองทัพบกหรือเปล่า แต่ก็เอามาพูดสร้างมูลค่าซะใหญ่โต น่าสะอิดสะเอียนจริงๆครับ

อีกประโยคก็คือประโยคที่แม่เธอพูดเอาดีใส่ตัวที่ว่า "ดิฉันสอนลูกๆทั้งสามคนเสมอว่าครอบครัวเรามันจน มีทางเลือกน้อย หากเรียนจบแล้วมีงานทำก็ควรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่า ช่วยเหลือได้ให้ช่วยเหลือ" แต่สิ่งที่ผมได้บริโภคจากสื่อนั้นกลับพบแต่เพียงความเห็นแก่ได้ของเธอ คิดแต่เพียงจะเรียกร้องค่าชดเชยให้ได้มากที่สุด หาได้เคยเห็นถึงความสำนึกในการเสียสละตามคำสอนของเธอไม่ ในใจลึกๆก็อยากถามเธอว่า บัดนี้เธอมั่งมีแล้วจากเงินเจ็ดล้านกว่าๆ เธอได้นำเงินเหล่านั้นช่วยเหลือใครบ้างหรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็ให้เป็นบุญกุศลแก่วิญญาณลูกของเธอก็ยังดีครับ ถ้ายังไม่เคยนำเงินเหล่านั้นไปช่วยเหลือใคร ประโยคนี้ก็แค่อีกประโยคที่สวยหรูใช้ในการเพิ่มมูลค่าการตายของลูกเธอครับ

กะมนเกดก็เป็นเพียงแค่คนเสื้อแดงคนหนึ่งครับ เหมือนคนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะก่อกบฏ โดยที่ยังไม่ทราบเลยด้วยซ้ำว่าเป็นฝีมือใคร บางทีอาจจะเป็นฝีมือพวกเดียวกันเองก็ได้ครับ ซึ่งก็มีอีกหลายๆคนที่เราท่านๆจำชื่อคนเหล่านั้นไม่ได้ครับ เรามาร่วมกันทำชื่อ กะมนเกด ให้เลือนหายไป และไร้ซึ่งมูลค่าใดๆเช่นเดียวกับคนเสื้อแดงหลายๆคนที่เราจำชื่อไม่ได้กันเถอะครับ อย่าอุปโลกน์ให้เธอเป็นนางฟ้าเป็นพยาบาลผู้มาจิตใจเมตตาอารีเลยครับ เพราะผมเชื่ออยู่ลึกๆว่าคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองก็ต้องเป็นคนเสื้อเหลืองที่มีแนวคิดมีอุดมการณ์เดียวกัน ในหน่วยพยาบาลในการชุมนุมของ เสธ อ้าย ก็ต้องเป็นคนของ เสธ อ้าย แล้วมันจะยกเว้นคนที่อยู่ในหน่วยพยาบาลของกบฏสีแดงไปได้อย่างไรเล่าครับ กะมนเกดก็แค่คนเสื้อแดงคนหนึ่ง กรุณาอย่าได้ให้ราคาเธอมากกว่านั้นเลยครับ เธอไม่ได้มีค่าอะไรมากมายขนาดที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ ถ้าเธอเป็นนางฟ้าจริง ก่อนนั้นเธอน่าจะมีประวัติเป็นอาสาสมัครพยาบาลในหน่วยพยาบาลของเสื้อเหลืองมาก่อนครับ เพราะนางฟ้าผู้มีจิตใจเมตตาอารีต้องไม่มีสีใดๆครับ

จากทั้งหมดที่ผมเขียนมา ผมไม่ให้ราคากะมนเกด มากเท่ากับที่แม่เธอพยายามทำให้เป็นครับ สำหรับผม เธอก็แค่คนเสื้อแดงทั่วๆไปที่โชคร้ายต้องมาเสียชีวิตขณะร่วมกันก่อการกบฏครับ

ผมขอขอบคุณหากเพื่อนสมาชิกได้อ่านข้อความของผมจนจบ และหากใครจะว่าอะไรผมเนื่องมาจากว่ารู้สึกขัดหูขัดตาในความคิดความอ่านของผม ก็ยินดีน้อมรับฟังความคิดเห็น หรือแม้แต่จะเป็นคำด่าว่าครับ เพราะผมคิดของผมอย่างนี้จริงๆว่ามันก็แค่การสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อเรียกร้องเงินชดเชยให้ได้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ของแม่กะมนเกดครับ สำหรับผม แม่กะมนเกดก็เป็นเพียง พยาธิ ครับ ชื่อนี้ผมไม้ได้โมเมเอามาลอยๆครับ เธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ผมผวนเอามาจากชื่อกับนามสกุลของเธอครับ พะยาด มาจาก พะยาด ... เฮา ซึ่งผวนมาจาก พะเยา ... ครับ ที่น่าแปลกก็คือ พฤติกรรมบางอย่างเธอคล้ายพยาธิเสียด้วยสิครับ 555

สะเทือนจนไม่กล้าออกมา

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะคะ ...ดิฉันขอมองในแง่ร้ายกลับการโพสตืแบบนี้มากกว่า
คนที่มาโพสต์ว่าดารามีอภิสิทธิ์อย่างโน้นอย่างนี้ กล่าวหาว่ามาแทรกพวกเค้าที่มาจับจองตั้งแต่กลางคืน
ดิฉันว่าดราม่าเกินเหตุค่ะ....จุดมุ่งหมายของการโพสต์คือการจิกกัด โยงว่า คนบางกลุ่มเป็นอภิสิทธิ์ชน เป็นอำมาตย์
ท่ามกลางคนเฝ้าแห่แหน ชมพระบารมี เหมือนพวกแดงแอบเนียนสร้างเรื่องแต่งเรื่องให้มันดูแย่ ...

ถ้าคนที่มาด้วยหัวใจที่ภักดีต่อสถาบันเหมือนๆกันจริง ในทางตรงกันข้าม ดิฉันว่าควรกลับยินดีและต้อนรับคนที่มีหัวใจเดียวกันแน่ๆ
คงไม่มีใครมาจับผิด หยุ๋มหยิ๋ม แบบนี้กันหรอกค่ะ

ต้องรีบไปบอกเพื่อน ถอย ไฮบริค ป้ายแดง ว่า

"อย่าลืม ทวงถาม ปลั๊กเสียบ จากบริษัทขายรถด้วย"

ฝากไปถึงพวกที่มีแนวความคิดสุดโต่ง ล้มเจ้า หมิ่นสถาบัน ทุกท่าน ทุกกลุ่ม ไม่ชอบ ไม่รัก ไม่เป็นไร แต่อย่าเที่ยวเอาสิ่งที่ชาวไทยทั่วแผ่นดินแสดงความรัก ความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เสียหายก็แล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรทำปิดทีวี นอนซะ จะได้ไม่คิดมาก

คนอุดร ฯ ส่งเสียงหน่อย

นายขวัญชัย สาราคำ หรือ ขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยวันนี้ (4 ธ.ค.)ว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะไม่สวมใส่เสื้อสีเหลือง ในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 ตามนโยบายที่รัฐบาลรณรงค์ โดยย้ำว่า การสวมใส่เสื้อสีเหลือง เป็นเรื่องที่ทำใจไม่ได้

ผมอยู่อุดรฯ..ตอนเช้าใส่ชุดขาวร่วมพิธีทำบุญตักบาตรที่ ที่ว่าการอำเภอ กลับถึงบ้านเปลี่ยนใส่เสื้อเหลืองทันที นั่งเฝ้าหน้าจอทีวีด้วยความปลื้มปีติร่วมชมพระบารมีร่วมกับพี่น้องทั่วประเทศ คืนนี้จะใส่สีเหลืองร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร

ส่วนบักขวัญชัยกับสมุนก็ปล่อยมันไป...........ทางใครทางมัน

ตอนนี้ผมอยู่เชียงราย รอบินกลับบ้าน ในตัวเมืองเชียงราย มีประชาชน ใส่เสื้อเหลือง จำนวนมาก รวมทั้ง ผมด้วย แทบทุกบ้าน เปิด ทีวี ดู โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ชื่นชมพระบารมี ของในหลวง ท่านคิดว่า นช.แม้ว และ แกนนำแดง จะดูทีวีอยู่ไหมครับ?

ไม่เอาครับ อย่าเอ่ยถึงเสนียด....ในวันมหามงคล.วันนี้....

มันเป็นผลพวงของการปฎิวัติปี 2534 ที่มี พล.อ สุนทร คงสมพงษ์เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ส่งผลให้

รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ต่อๆมา ไม่เป็นประชาธิปไตย

สมควรอย่างยิ่งที่จะนำ รัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้

ต้องยอมรับว่า ทำการบ้านมาสุดยอดตามหาโจรปล้นเงินภาษีจากห้องเช่าเล็กๆไปถึงฮ่องกง
ต้องดูให้จบนะครับ

แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือมากในโลกไซเบอร์ตอนนี้คือ FB ของลูกชายอดีตนายกครับ
มท.1 กับ รมต.กะลาห่ม ยังออกมารับเลยว่าเรื่องการลอบสังหารอดีตนายกเป็นเรื่องจริง

วันนี้แค่บุกไปด่า ภาษาพ่อขุนเต็มไปหมด พรุ่งนี้ เดวโดนอีก อาจารย์อุบาท รับใช้อำมาต




.....พรุ่งนี้...ใครสะดวกที่ไหน ไปให้กำลังใจ"ชาวนา"กลุ่มนี้กันครับ ตามใจ..

ใกล้ที่ไหน ไปที่นั่น ที่แรก 8 โมงเช้า รวมตัวกันที่ ตลาดไท แล้วเดินทางไป

หน้าสภา หลังจากนั้น ก็ยกขบวนไปที่"นิด้า" ใครว่างตอนไหน ใกล้ที่ใด

สนใจเชิญ...ครับ


ปล.พรุ่งนี้เช้า มี"หม่ี่ผัดซีอิ๊วร้อนๆ" ไว้คอยต้อนรับชาวนาที่หน้าตลาดไทครับ..

ใครว่างจะไปช่วยแจก หมี่ผัดซีอิ๊ว ก็เชิญครับ เจอกันที่ตลาดไท 7 โมงครับ

ถ้าเป็นกรูจะถาม เสื้อแดง กับชาวนา ตรงนั้นเลยว่า ข้าวจำนำ มาแล้ว สิบกว่าล้าน ตัน ขายออกไปแค่ สามแสนกว่า ตันที่เหลือจะทำยังไง นี่ก็เปิดฤดูกาล ใหม่แล้ว *คุณ*ช่วยตอบกรูหน่อยดิ ไอหมู กากๆๆ

'cabala'ใช้ภาษาไทยสุภาพ *คุณ*หมูอวกาศ.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่าร

ไหนๆ "หมูอวกาศ" ยังหน้ามึนไม่ไปดูป้ายหาเสียงของทั้งสองฝ่าย

แถมหนีไปตั้งกระทู้ "แถเทียบเคียงแบบไร้สาระ"

ถ้า "คอการเมือง" จริงๆคงจะเก็ตกับกระทู้ผม และ การวิเคราะห์ถึงสนามใหญ่

ได้ไม่ยาก แต่ "อนุบาลทางการเมือง" อย่างหมูอวกาศ กับแถข้างๆคูจนสีข้างถลอก

ว่าคนเสื้อแดงไปโน่นไปนี่บ้าง มันเป็นสนามเล็กบ้าง

เสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตย นอนหลับทับสิทธิ์วันเลือกตั้งนี่นะ

อย่าไปพูดให้ใครฟังเชียว อายแทบเอาหน้ามุดดินเลยทีเดียว

ป้ายหาเสียงทั้งสองฝ่ายมีภาพของ "ตัวจริง" ประกบอยู่ หมายความว่า

"ตัวจริง" ส่งเข้าประกวด แถมมุขนี้พร้อมใจใช้กันทั้งสองฝ่าย

เป็นการ "โยนหินถามทาง" หยั่งเสียงคนดอนเมืองไปในตัว

ขอบอกว่านี่แค่ศึกเริ่มต้น ของจริงจะเริ่มในไม่ช้า!!!!!!!!!!