เด็กอมมือ

 

 

 

 

 

เอ้าคุณสน จะไม่ลงทุนหน่อยเหรอครับ

ปีที่แล้ว รัฐเก็บภาษี ต่ำกว่าเป้าครับ (รายละเอียดมันเยอะนะครับ)

เอาง่ายๆ ถ้าคุณคิดว่า นโยบาย 300 บาท ทำให้ประชาชน มีรายได้เพิ่ม และใช้จ่ายเยอะกว่าเดิม

หากใช้จ่ายเยอะกว่าเดิม เศรษฐกิจ ก็ต้องขยายตัวตาม และหากมีการขยายตัว การเก็บภาษีก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย

 

หากการเก็บภาษีลดลง ก็เกิดจากปัจจัยหลักๆเช่น ประชาชนจับจ่ายน้อยลง (vat) ปัจจัยการผลิตลดลง เป็นต้น

แล้วอย่างนี้ จะเรียกว่า นโยบายประสพความสำเร็จได้อย่างไร หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ รัฐจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายครับ?

 

สุดท้าย ก็ต้อง "กู้" ใช่ไหมหล่ะ

รายละเอียดตรงเก็บภาษีมันน่าจะเยอะ....อย่างที่คุณพูดจริงจริงครับ......

แต่ถ้าเอาภาษีทั้งประเทศ...มาวัดกับแค่300......

คุณว่ามันเป็นธรรมเหรอ.....300.....ใช้คำนวณภาษีทั้งประเทศ..??????????

คุณสนครับ คุณทราบรึเปล่าว่า ขนาดมีปัจจัยช่วยด้านอื่น กรมสัมภากร ยังเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า

ขนาดได้มีการเพิ่มภาษี ในหลายๆชนิด เช่น ภาษีสรรพสามิตร (เหล้า) ก็ยังคงเก็บต่ำกว่าเป้า

ที่ผมยกตัวอย่างไม่ลงลึกบอกตรงๆครับ ว่าขี้เกียจหาข้อมุล(อย่าโกรธกันเลยนะครับ)

เอางี้ละกัน.....มาย้อนอดีตกันหน่อย.......

ก่อนจะขึ้น....300....ฝั้งแมงสาป...พากัน....

บอกว่า......จะทำเศรษฐกิจเจ๊งแน่ใช่ไหมครับ.....

ตอบใช่หรือไม่ใช่พอ.....จะได้ไปต่อกัน...ไม่พายเรือวนอ่างอย่างนี้.......

ใช่ครับ

 

แล้วคุณก็จะถามผมว่า ตอนนี้เจ๊งไหมหล่ะ หรือ เจ๊งตอนไหน ไม่เห็นจะเจ๊งเลย กลัวไปเองทั้งนั้น

 

ผมก็จะตอบคุณสนว่า ครับ มันคงจะไม่เจ๊ง ตอนนี้ แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณหลายๆอย่างแล้ว เช่น ตัวเลขการเก็บภาษี

ตัวเลขของผู้ประกอบการปิดและเปิดกิจการ และอื่นๆ ครับ

แปลว่ามันไม่จริง...จากที่สลิ่มแมงสาปเคยบอกเอาไว้ว่า.....ขึ้นเมื่อไหร่เจ๊งแน่.....

เป็นเหมือนกับการหลอกลวง...ผู้คน....ว่า300ปุ๊บ....เจ๊งปั๊บ.....

เหตุนี้....ทำให้คำพูดสลิ่มไม่น่าเชื่อถือ......เหมือนกับโจมตีให้เขาเสียหายเรื่อยเปื่อยมากกว่า....

จริงจริงสลิ่มควร.....ระบุไทมไลน์ไปเลย......ว่าเหตุการณ์...ณเวลานั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่....

พูดอย่างนี้เหมือนตีกิน....รอเวลา....ให้มันเกิด.....แล้วก็ทำให้....

พวกตัวเองที่หัวอ่อน..........ขวัญผวาด้วย...........

 

ตัวเลขภาษี....ผมคงไม่ไหวจะคุย...ยากเกิน....

ตัวเลขผู้ประกอบการ.....ผมสนใจนะ....มาลองคุยกันดีไหม........

คุณมีข้อมูลอยู่เท่าไหร่ครับ.....เอามาดูหน่อย.......

คำว่า เจ๊งปั๊บนี่ ในนิยามที่ว่า " 300 บาท ปุ๊บ ปิดกิจการ และ ตกงาน ปั๊ป "

ค่าแรง 300 ปุ๊ป ค่าครองชีพ ขึ้นพรวดปั๊ป อย่างนี้ถือว่า เจ๊ง ถือว่า กระทบ รึเปล่าครับ

อันที่จริง ในส่วนตัว ผมว่าเกิดความเสียหายแน่นอน ถ้าคุณสนจะเล่นคำเจ๊งทันทีขนาดนั้น ผมก็คงยอม

ส่วนข้อมูล คุณสน หาในอากู๋ได้เยอะแยะครับ ขยันหาซะบ้าง ผมเองก็มีการมีงานต้องทำ วันหยุดว่างๆก็เลย

ถือโอกาสมาคุยกับเพื่อนๆ อย่าขี้เกียจครับ อย่าให้เค้ามาหาว่า อ่านหนังสือไม่เคยเกิน 3 บรรทัด ออกแรงหน่อย

 

 

 

 

 

ตายตายตาย.....ถ้าให้รัฐบาลที่เขาทำนโยบาย......

เป็นคนมาหาว่า.....ประชาชนคนไหนของเขาที่ได้ค่าแรงขึ้นจริง.....

ไม่ต้องหามาให้คุณดูทุกคนเลยเหรอ.......

คุณเป็นคนค้าน.....คุณต้องหาคนที่ไม่ได้มาสิครับ..........

เหมือนกับว่า......คุณเิดินทางไปเชียงใหม่....แทนที่คุณจะโชว์หลักฐาน....

แต่ดันให้ผมหาหลักฐานว่า.....คุณไม่ได้ไป.....

คุณสนครับ ตรรกะ ที่คุณอ้าง มันคนละ เรื่องกันเลย

ที่ผมให้คุณยกตัวอย่าง เพราะ นโยบาย 300 ทั่วประเทศนี้ ทำให้ ตัวเลขอัตราเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์ไม่เท่ากัน

หากเทียบกรุงเทพ กับจังหวัด เลย อัตราเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ต่างกันมาก ที่ผมให้คุณหา เราจะได้คุยในเรื่องเดียวกัน

หากผมไปอ้าง ค่าครองชีพกรุงเทพ แต่คุณไปอ้าง รายได้จังหวัดเลย เรา 2 คนจะคุยกันรู้เรื่องไหมครับ?

หุหุ....ถ้าผมพูดถึงเงินก้อนเท่าตัว.....

ก็ต้องหมายถึงพื้นที่ที่....ค่าแรงต่ำกว่าเท่าตัวสิ....

คุณไปเอากทม....มันค่าแรงเกินเท่าตัวไปแล้ว........

หรือคุณจะเสนอ....ที่ไหนจังหวัดไหนว่ามาเลยครับ........

ผมอ่านความเห็นของหลายๆคนในนี้ ก็เป็นขอเสียของนโยบายที่จับต้องได้ทั้งนั้นครับ

 

ส่วนที่ผมถามก็เพื่อให้คุณยอมรับว่า พื้นที่เขตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่รายได้ ก็เกิน 300 อยู่แล้ว

แต่นโยบายนี้ ทำให้ค่าครองชีพแพงขึ้น ซึ่งมันไม่มีประโยชน์เลย

หากคุณไปเทียบบอกว่า นโยบายนี้ ทำให้ ค่าแรงในต่างจังหวัดสูงขึ้นมาก เรื่่องนี้ผมไม่เถียงครับ

แต่ผมถามคุณสนว่า มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่ออัตราจ้างงานและตัวเลขการบริโภคในต่างจังหวัดนั้นต่ำ

คุณสามารถหาได้อยู่แล้วในตัวเลขการเรียกเก็บภาษีในแต่ละพื้นที่ อีกอย่าง การที่เรามีระบบค่าแรงแตกต่าง

กันไปในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการผลิต เพราะคุณสนย่อมทราบดีว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่แล้ว

หากเป็นไปได้ก็อยากตั้งโรงงานผลิตใกล้กับตลาด หรือ พื้นที่ๆมีปัจจัยเกื้อหนุนต่อต้นทุนมากที่สุด

 

ดังนั้น นโยบายนี้ นอกจากจะทำลายระบบกลไกค่าแรงแล้ว ยังจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมให้รับความเสียหายแน่นอน

วันไหนครับ.....ตอนก่อนจะปรับ300.....

ผมฟังแมงสาปพูด......จนผมเองยังกลัวเลยครับ.....

บอกว่า300เมื่อไหร่.....เจ๊งแน่.....

นี่จะผ่านครึ่งปีแล้ว........คำว่าเจ๊งมันเกิด...ขึ้นหรือยัง....เศรษฐกิจประเทศเจ๊งหรือยังครับ.....

บอกคนให้กลัวผี........แต่ช่วยจับผีมาให้ดูก่อนได้ไหมครับ.........

เอาง่ายๆนะครับ ทุกวันนี้ รัฐเก็บภาษี ได้ทะลุเป้า ตรงเป้า หรือ ต่ำกว่าเป้า ครับ?

ไม่รู้ครับ......

เอ้าคุณสน จะไม่ลงทุนหน่อยเหรอครับ

ปีที่แล้ว รัฐเก็บภาษี ต่ำกว่าเป้าครับ (รายละเอียดมันเยอะนะครับ)

เอาง่ายๆ ถ้าคุณคิดว่า นโยบาย 300 บาท ทำให้ประชาชน มีรายได้เพิ่ม และใช้จ่ายเยอะกว่าเดิม

หากใช้จ่ายเยอะกว่าเดิม เศรษฐกิจ ก็ต้องขยายตัวตาม และหากมีการขยายตัว การเก็บภาษีก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วย

หากการเก็บภาษีลดลง ก็เกิดจากปัจจัยหลักๆเช่น ประชาชนจับจ่ายน้อยลง (vat) ปัจจัยการผลิตลดลง เป็นต้น

แล้วอย่างนี้ จะเรียกว่า นโยบายประสพความสำเร็จได้อย่างไร หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ รัฐจะเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายครับ?

สุดท้าย ก็ต้อง "กู้" ใช่ไหมหล่ะ

นโยบาย ค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ เป็นหนึ่งนโยบายที่ทำให้ "ค่าครองชีพสูงขึ้น" ครับ

และนอกจากค่าครองชีพสูงขึ้น ยังทำให้ "ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น" ด้วย

จึงทำให้ "ความสามารถในการแข่งขันลดลง" ครับ

แปลว่า..........ทำให้ใครเสียประโยชน์ครับ......

ค่าครองชีพแพงขึ้น ใครเสียประโยชน์ ครับ?

ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ใครเสียประโยชน์ ครับ?

ความสามารถในการแข่งขันลดลง ใครเสียประโยชน์ ครับ?

คุณสนครับ ทุกนโยบาย มีข้อดีและเสีย ที่สำคัญเราควรชั่งน้ำหนักว่า สิ่งที่ทำลงไปมันได้คุ้มเสียรึเปล่า

คุณสนอาจจะบอกว่า มีคนงานบางกลุ่มได้เงินขึ้น นั่นคือปลายเหตุมากๆ แต่อย่าลืมว่าในขณะที่ได้เงินมากขึ้น

แต่กลับซื้อสินค้าได้ปริมาณน้อยลง (เงินเฟ้อ)

เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่าน ซึ่งจริงๆ มีผลกระทบไปถึงท้องถิ่น รายละเอียดค่อนข้างเยอะครับ

เอาไว้เราพูดคุยกันทีละประเด็นดีกว่า แต่ที่แน่ๆต่อไปคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องนี้ ค่อนข้างหนักมากครับ

นโยบาย ค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ เป็นหนึ่งนโยบายที่ทำให้ "ค่าครองชีพสูงขึ้น" ครับ

และนอกจากค่าครองชีพสูงขึ้น ยังทำให้ "ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น" ด้วย

จึงทำให้ "ความสามารถในการแข่งขันลดลง" ครับ

อาการร้อนๆแบบนี้ โรคพิษสุนัขบ้ากำลังจะระบาด

ใครก็ได้กครับ ช่วยจับไปฉีดยาที

ส่งได้อยู่แล้วครับ แต่มันขึ้นอยู่กับความคุ้มค่า และความต้องการของผู้บริโภค

แต่อย่าลืมปัจจัยแปรผันนะครับ ระหว่างความเร็วหรือความพึงพอใจมักจะแปรผันกับราคาที่ต้องจ่ายเสมอ

เออ ที่ไอ้แม้วมันคืนเงิน imf นี่มันเอาเงินตัวเองมาคืนรึเปล่า ถ้าไม่ใช่จะมาคุยทำไมครับ

เพราะเงินที่มาคืน ก็คือเงินงบประมาณของประเทศที่ส่วนหนึ่งซึ่งเกิดจากการเสียภาษีของพวกเราทั้งนั้น

ถึงมันไม่รีบคืนให้เสียค่าปรับ รัฐบาลไหนๆก็ตั้งงบประมาณชำระทุกปีอยู่แล้ว

ตั้งแต่ผมศึกษาไอ้แม้วมา นอกจากเรื่อง "เลว" แล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่มันเก่งคือเรื่อง "หน้าด้าน" ครับ

 

เจอกระทู้และหลายความคิดเห็นของ"สิงห์สนามหลวง"ใน สรท ผมเลยสอดรู้สอดเห็น ว่าไอ้สมญานามข้างบนนี่มันมาได้ไง? หรือเป็นเพราะ"สิงห์สนามหลวง":

 

ข้อมูลแน่น?

แม่นประเด็น? 

มีเหตุมีผล? 

ตอบได้ตรงคำถาม?  ฯลฯ

   

ก็ต้องดูที่ระดับภูมิปัญญาของผู้ที่สนทนา ด้วยสิครับ

ผมเคยมีโอกาสได้ไปสัมผัสชาวบ้านโดยตรงที่ จังหวัดใกล้ๆจังหวัดอุบล (ไม่ขอเอ่ยนาม)

อิทธิพลท้องถิ่นหนักมาก โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่นับคะแนนที่หน่วย เพราะสามารถคุมเสียงได้

และจะทราบทันทีว่าเสียงที่หาย หายไปจากบ้านไหน ครอบครับไหน

ชาวบ้านส่วนใหญ่ การศึกษาไม่มี มีอาชีพทำนาทำไร่แล้วรับจ้างทั่วไป ไม่มีเสียงไม่มีแรงไปงัดกับ

บุคคลเหล่านี้ ผมก็ได้แต่รับทราบปัญหา แล้วกลับมาถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่า "เป็นเราจะกล้าไหม"

การนับคะแนนที่หน่วยก็มีปัญหา นับรวมที่เขต ก็เจอปัญหา การเปลี่ยนยกกล่อง ตราบใดที่คนยังเลวทราม

การพัฒนาประเทศเพื่อคนส่วนใหญ่ ก็คงเป็นไปได้ยากครับ

สิ่งที่ ปชป เจาะภาคอีสานและเหนือไม่ได้ ไม่ใช่เพราะนโยบายครับ

ในความเห็นของผม ระบบ หัวคะแนน และอิทธพล ท้องถิ่น ทำให้เสียงในอีสานไม่ค่อยแตก

สังเกตุได้จากคุณภาพ สส เพื่อไทย ในภาคอิสานครับ ปชป ทำใจได้เหรอที่จะรับคนพวกนั้นเป็น สส

อีกอย่างสังเกตุจากการเลือกตั้งทั้วประเทศทั้งที่ผ่านมา สส ปชป มักจะได้จากพื้นที่ ประชาชนมีรายได้ดี

เพราะชาวบ้านไม่ต้องพึ่งพาระบบอุปถัมภ์จากนายทุน

ผมว่าบ้านเรายังพัฒนาอีกยาก หากตราบใดยังมีระบบหัวคะแนนและอิทธพลท้องที่ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

เพราะคนที่แสวงหาผลประโยชน์จากประเทศ จะมาเสียสละทำเพื่อประเทศได้อย่างไรครับ!!!

ผมชอบบทความที่เจ้าของกระทู้นำมาโพสจริงๆครับ "การโกงการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่ แพ้"

ไม่ขอพูดอะไรมากครับ แต่ขอใช้วาทะกรรม ของใครบางกลุ่มที่เคยโพสไว้ที่สะพานลอยนะครับ

"คนกรุงเทพเลือกแล้ว ไพร่ อย่าเจือก"  

ค่าแรง 300 บาท เป็นนโยบาย ที่ทำลายระบบเศรษฐกิจไทยอย่างชัดเจนครับ

หลายๆคนคงคิดว่า ค่าแรง 300 ก็คงจะมีผลกระทบจากผู้ประกอบการแค่ค่าแรง อะไรจะทำให้เดือดร้อนกันขนาดนั้น

แต่ความเป็นจริง มันไม่ใช่แค่ค่าแรง แต่มันแทรกซึม ไปทุกๆอณูระบบเศรษฐกิจ เพราะแรงงานถือเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐาน

ของขบวนการผลิต

ผู้ประกอบการบางรายบ่นให้ฟังว่า มันไม่ใช่แค่ขึ้นค่าแรง แต่วัตถุดิบในการผลิตก็ขึ้นด้วย

ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ข้าวกระเพราไก่ การขึ้นค่าแรง 300 ทำให้ ฟาร์ม ไก่ ฟาร์มไข่ ต้องขึ้นราคา ร้านค้าข้าวต้องขึ้นราคา

ค่าขนส่งก่อนมาถึงร้านอาหาร ต้องขึ้นราคา และอีกหลายอย่างก็ขึ้นราคา กว่าจะมาผัดเป็นกระเพราะไก้ไข่ดาว ค่าเด็กเสริฟ

ก็ขึ้น จึงเป็นต้นเหตุทำให้ ราคาขายของข้าวกระเพราไก่แพงขึ้น

และที่สำคัญที่สุดจะเป็นปัญหาของผู้แก้ปัญหาต่อไป เพราะค่าแรงขึ้นแล้ว ปรับลดไม่ได้ การที่ให้ทั่วประเทศ 300 บาท จะทำให้

จังหวัดเล็กๆไม่ หรือห่างไกล ไม่มีแรงจูงใจสำหรับผู้ประกอบการในการตั้งฐานการผลิต ทำให้เกิดการว่างงาน ไม่มีเงินหมุนในระบบ

อันเป็นเหตุที่จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย รวมไปถึงปัญหาสังคมด้วย

นี่คือหนึ่งใน นโยบาย มักง่าย "ดีแต่พูด" โดยผู้ออกนโยบาย ไม่คิดถึงผลกระทบที่จะตามมา ขอแค่ได้คำโฆษณา ฟังดูแล้วเท่ห์

สุดท้ายแล้ว ปล่อยให้ประชาชน รับกรรมที่ตัวเองเลือกไป อย่างนี้แล้ว คุณยังคิดว่า นชหนีคดีที่อยู่ดูไบ เป็นคนเก่ง หรือแค่ "นักสร้างภาพ" ครับ

นอกประเด็นนะครับ

งานนี้วงในเค้าให้สังเกตุ การขยายสัญญาในแต่ละครั้งครับ อิอิ

ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมตอนทำม๊อบ ส้วมมันถึงมากกว่าผู้ชุมนุม

หนึ่งในน้ำใจคนกรุงเทพ

คุณป้าผมอายุประมาณ 67 ปี การศึกษาปริญาตรีครุศาสคร์ จุฬาฯ

เล่าให้ฟังว่า เมื่อวานนี้เพื่อนคุณป้าสมัยมหาวิทยาลัย สองสามีภรรยา

ภรรยาเป็นอดีตคณบดีแห่งหนึ่ง ส่วนสามีตอนนี้เป็นกึ่งอัมพฤกษ์เดินไม่ได้

แต่ด้วยความกลัวว่าคุณชายจะแพ้ ภรรยาเลยเข็นรถพาสามีไปเลือกตั้ง

ทั้งๆที่ฝนตกหนัก แต่ไม่สนใจในความยากลำบาก เพราะแค่ต้องการให้คุณชายได้อีก 1 เสียง

ผมขอฝากพรรค ปชป ด้วยครับว่า ทุกๆคะแนนเสียง เป็นเสียงที่ประชาชนชาวกรุงเทพฝากให้ ปชป ดูแล

หากจะทำอะไรโปรดคิดถึงทุกๆคะแนนสะอาดที่ท่านได้

อย่าทำให้คนกรุงเทพ "ผิดหวัง"