Jump to content


ดราม่า

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 10 มกราคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2555 00:40
****-

#371724 ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

โดย ดราม่า on 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 22:32

ถ้าเป็นไปได้ผมอยากขอความรู้ จากคนที่กำลังคุ้ยเรื่อง 6 ตุลา(ผมอนุมานเอาว่า คุยไปถึงเสงียมก็น่าจะรู้ลึกๆเรื่องอื่นๆ)

1. จริงหรือไม่ที่คอมมิวนิสต์วางแผนนองเลือด เพราะต้องการชิงมวลชน

2. ทำไมแกนนำ 6 ตุลาถึงไม่มีใครเสียชีวิต เขาวางแผนหนีกันล่วงหน้าจริงหรือไม่


#371425 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 18:29

เนื้อหามาในแนวทางเดียวกับหงอกเจียมเลย ใครมีคำแนะนำมั้ยครับ


ฝรั่งมันไม่ได้รู้อะไรดีไปกว่าเราหรอก(ถ้าเคยอ่านฟ้าเดียวกัน และอ่านงานสมศักดิ์ เจียมฯ คงรู้มากกว่ามันแล้วแหละ)

และอย่าได้แปลกใจถ้าผมจะบอกว่ามันเครือข่ายเดียกับ เจียม ใจ จักร (ผมว่าจักรภพมันทำงานเงียบๆไม่เป็นข่าวแต่ได้ผลในทางลึกมากๆ คล้ายๆกับโลกล้อมประเทศ)


#370743 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 01:16

เงินส่วนพระองค์ของพระราชวงศ์ท่านก็พากันสละมาไถ่บ้านเมืองคราว ร.ศ.112 ทำไมตรงนี้สมศักดิ์ละเว้นไม่พูดถึง?

แล้วผมไม่เชื่อว่าซื้อเยอะขนาดนั้นด้วย!

ความ เป็นมาของเงินถุงแดง มีเรื่องเล่าว่า สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ทรงรับสั่งให้เก็บเงินไว้ในถุงแดง มีเจ้านายคนหนึ่งถามว่า จะเก็บเงินส่วนนี้ไว้ทำอะไร ทรงมีพระราชดำรัสเล่นๆ ว่า “จะเก็บเอาไว้ไถ่บ้านไถ่เมือง” ไม่คาดฝันว่า ในที่สุดก็ได้นำมาไถ่บ้านไถ่เมืองจริงๆ

เมื่อโปรดเกล้าฯให้เอาออกมานับ ปรากฏว่าได้ถึง 3 หมื่นชั่ง หรือประมาณ 2,400,000 ฟรังก์เท่านั้น ส่วนที่ยังขาดอยู่ จำเป็นต้องหามาเพิ่มเติม ถ้าหามาไม่ได้ทันเวลาที่กำหนด บ้านเมืองสยามยามนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า หมาป่าเจ้าเล่ห์จะตะครุบอะไรสวาปามเข้าไปอีก

เมื่อประชุมกันแล้ว ทางออกก็คือ รวบรวมเอาจากพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายใน กลางสถานการณ์คับขัน บ้านเมืองตกอยู่ในมรสุมอันบ้าคลั่ง ทุกคนต่างช่วยผ่อนคลายได้ดี ในที่สุดเงิน 3 ล้านฟรังก์ก็ได้ครบจำนวน

เงินนี้ “ต้องใช้รถม้าบรรทุกกันออกมาจากพระบรมราชวังเป็นขบวนยาวเหยียด ผ่านฝูงชนที่มามุงดูกันที่ประตูวังแน่นขนัด ต่างพากันส่งเสียงร้องไห้กันระงม เซ็งแซ่ ล้อรถม้าบดเป็นทางยาวไปบนหินปูนบนถนนในวังเป็นรอยล้อรถที่ขนเงินจำนวนมาก มหาศาลไปครั้งนั้น ซึ่งหนักมากเพราะเป็นเงินแท้ๆ หลายร้อยถุง”

รอยล้อรถม้าที่บดหินแตกด้วยความหนักของเงิน ไหนเลยจะเท่าความปวดร้าวของใจชาวสยามยามเมื่อ พ.ศ.2436 นั้น แม้เราจะสูญเสียอย่างหนักหน่วง แต่ฝรั่งเศสกลับหาได้เอมอิ่มกับน้ำตาของสยามไม่ ในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ยังตัดพ้อขุนนางสยามด้วยว่า นำเงินใส่กระสอบป่านคุณภาพไม่ดีเอาไปให้ ทำให้ฝรั่งเศสต้องลำบากในการขนย้าย

ดังปรากฏว่าข้อในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส ฉบับวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ.1893 ว่า...

“เรือลูแตงของเราได้ขนย้ายเงินอันเป็นสินไหม ค่าปรับในการของเราที่ปากน้ำเป็นเหรียญเงินเม็กซิโกจำนวน 801,282 เหรียญ โดยมีน้ำหนักเหรียญละ 27 กรัม รวมทั้งสิ้น 23 ตัน แล้วในที่สุดเงินก็ถูกขนออกมาจากบางกอกโดยเรือเพียงลำเดียว...

“เมื่อมาถึงนั้น เรือเพียบหนักจนกราบเรือปริ่มน้ำหมด ทุกห้องในเรือใช้บรรทุกกระสอบใส่เงินกองเป็นภูเขาเลากา เสนาบดีคลังของสยามนี้น่าถูกตำหนิที่สุด ได้ใช้กระสอบป่านคุณภาพเลวใส่เหรียญจำนวนมากนี้ทำให้กระสอบขาดชำรุดใน ระหว่างเดินทางมา คนของเรานำขึ้นมาจากเรือไม่ได้ ต้องนำถังตวงนับร้อยใบลงเรือไปขนขึ้นมา”

http://thaiforgetit....011/06/112.html


ก่อน พ.ย.2445 เรายังใช้มาตราฐานเงินโดยใช้เหรียญเงินดอลลาร์เม็กซิโก หลัง2445 เราเปลี่ยนเป็นมาตราฐานทองคำโดยอิงเหรียญทองปอนด์สเตอร์ลิงค์

เพิ่มเติม คิดเงินที่ฝรั่งเศษปล้นไปเป็นค่าเงินพ.ศ.2555

23 ตัน = 811,301.125 ออนซ์ (881ดอลล่าห์ต่อออนซ์ตามมูลค่าพ.ศ.2555) คิดเป็นเงินประมาณ714,756,181us

คิดเป็นเงินบาทตามมูลค่าเงินปัจจุบัน 22,479,081,892.45บาท


เงินค้าขายถือเป็นเงินส่วนพระองค์ที่เป็นมรดก เงินจากจากพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการฝ่ายใน ....

ผมว่าถ้าสมศักดิ์ ยังมาจ่องจับผิดกับแค่พระองค์ท่านซื้อเพชรซื้อเครื่องประดับมาฝากฝ่ายใน

ไอ้สมศักดิ์คือลูกจีนเนรคุณแผ่นดิน โครตเตี่ยโครตอาม่ามันโล้สำเภามาสบายเมืองไทย ไม่ใช้ให้มันมาลำเลิกกับ เสด็จพ่อร.5 (นี่ผมด่าในฐานะลูกจีนด้วยกันนะครับ)


#370699 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:52

ขอนอกเรื่องนิดนึง...ฝรั่งที่โพสข่าว ข้างต้นเขามาเดือดร้อนอะไรกับการชูรูปในหลวงของคนไทยก็ไม่รู้

ถึงกับมาโพสในเฟสบุ๊คผมซะยาวเหยียด ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดด้วย -*-

http://www.facebook....f_t=share_reply


#370350 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 19:23

จัดทำงบประมาณแผ่นดิน ขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2439 โดยแยกพระราชทรัพย์ของพระองค์ออกจากรายได้ของแผ่นดิน ตั้ง พระคลังข้างที่ ขึ้นสำหรับจัดการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สำหรับรายได้ภาษีอากรของแผ่นดิน ให้พระคลังมหาสมบัติเป็นผู้ควบคุมดูแล

สมัยร.5 จะมีงบสำหรับพระคลังข้างที่ปีละ 6 ล้านบาท

เราน่าจะเทียบค่าเงินเป็นทองคำจะตรงที่สุด เพราะสมัย ร. 5 เงินบาทผูกติดกับทองคำ

กระทรวงพระคลังมหาสมบัติได้ออกประกาศกำหนด "ค่าทองคำ" ของเงิน 1 บาทให้มีค่าเท่ากับ ทองคำบริสุทธิ์หนัก 55.8 เซนติกรัม
และด้วยการเทียบกับค่าทองคำของเงินปอนด์สเตอร์ลิงค์ ก็กำหนดให้เงินสยาม 13 บาท มีค่าเท่ากับเงินอังกฤษ 1 ปอนด์สเตอร์ลิงค์
http://www.gotomanag...ws.aspx?id=9459


145,137.88 ออนซ์ = 411,458,969 เซนติกรัม เทียบเป็นเงินบาทสมัยนั้นคือ 7,373,816บาท ตามค่าเงินสมัย ร.5


ผมลองเทียบเงินดอล์ล่า3ล้าน ซื้อทองได้เท่าไหร่ในสมัยร.5 แล้วตีกลับมาเป็นเงินบาทในร.5 (เพราะ ร.5 ผูกเงินบาทกับทองคำ)


#369915 ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

โดย ดราม่า on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 14:27

ผมว่ากระทู้น่าติดตาม คืออยากทราบว่าจะหาอ่านประเด่นพวกนี้แบบ จริงๆจังได้ที่ไหนบ้างครับ

คือผมเรียนแต่พวกคำนวณ พวกอย่างประวัติศาสตร์อะไรพวกนี้ก็รู้แค่ผิวๆ เลยอยากได้หนังสือ หรือพี่คิดว่ามีอะไรน่าสนใจในเรื่องพวกนี้บ้างครับ


http://www.reurnthai.com/ ถ้าประวัติศาสตร์แนะนำไปที่เว็บนี้ครับ ว.วินิฉัยกุล ท่านเป็นเจ้าเรือนอยู่


#369870 ข้อเท็จจริงเรื่องสมศักดิ์เจียม เป็นเด็กซื้อโอเลี้ยง.....

โดย ดราม่า on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:48

เรื่องถ่วงเวลาให้เพื่อนหนี คนพูดคือชวลิต วินิจจะกุล

ข้อกล่าวหาที่ว่า คนใน มธ.ยิงออกไป ลองคิดดูว่า มธ.มีกำแพงกำบัง มีที่ตั้งกำบังแน่นหนา หอฯใหญ่อยู่ระดับสูงกว่าสนามหลวง ที่พวกอันธพาลและ ตร.อยู่ มีแต่ต้นมะขามเท่านั้นที่กำลังกระสุนได้ ถ้าน.ศ.มีอาวุธเอ็ม 16 หรือระเบิดจริง คงทำให้ ตร.ตายนับสิบ แต่ความจริงคือ พวกเราตายเป็นร้อย ในขณะที่ ตร.ตายแค่ 2 ซึ่งไม่ทราบถูกอะไรตาย

ความจริงคือ พวกเราไม่มีอาวุธ เพื่อนที่หน้าหอฯใหญ่คงเฝ้าอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครถอยหนี เขาตอบโต้อะไรไม่ได้เลย เพียงแค่ทำให้ ตร.รู้ว่าตรงนั้นมีคนอยู่จะได้ไม่กล้าบุกเข้ามา เพื่อถ่วงเวลาให้แก่เพื่อนๆ ข้างในที่กำลังหาทางออก ทุกคนคงจะคิดรู้อนาคตว่าจะต้องเสียสละชีวิตแน่นอน และเขาก็ถูกยิงทีละคนๆ จริงๆ
http://www.thaioctob...opic=812.0;wap2


แต่สรุปคือหงอกเจียมฯที่เป็นแกนนำโดนจับคนเดียว ในขณะที่แกนนำคนอื่นโดนรวมพร้อมๆกัน แสดงว่า....เอาตัวรอดคนเดียว :lol:


#369864 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 6 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:43

คุณ ว.วินิฉัยกุล ตอบสมศักดิ์ กรณีความมั่วของมันที่บอกว่า จอมพล.ป.จะจับมือกับปรีดีเพื่อรื้อคดีสวรรคตผู้ตอบคือครูบาอาจารย์ตัวจริงทั้งนั้น( คุณเทาชมพูด คือ ว.วินิฉัยกุล )

paganini
ไม่นานมานี้ผมได้อ่านงานของ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งพยายามชี้ชวน โน้มน้าว และในที่สุดก็สรุปว่า สาเหตุสำคัญที่ จอมพลสฤษดิ์ทำรัฐประหารจอมพล ป ก็คือ การที่จอมพล ป มีความพยายามจะรื้อฟื้นคดีลอบปลงพระชนม์ ร 8 และสมศักดิ์บอกว่า จอมพล ป ถึงกับพยายามติดต่อให้นายปรีดีกลับมาเพื่อรื้อฟื้นคดีด้วย ที่จริงแกเขียนชี้นำลึกกว่านี้อีก แต่ด้วยความเป็นนักเขียนชั้นเซียน แกเลยสื่อสารให้ผู้อ่านรู้ได้ว่าแกคิดอะไร แต่จะไปเอาผิดกล่าวหาอะไรแกไม่ได้เลย

ผมอยากเรียนถามความเห็นของ อาจารย์นวรัตน์ อาจารย์เทาชมพู และเพื่อนๆนักเรียนในห้องเรียนประวัติศาตร์เรือนไทยแห่งนี้ด้วย
ว่าถ้าประเมินจากสิ่งที่เกิดขึ้ิน สภาวะแวดล้อมในยุคนั้น รวมไปถึงเรื่องราวที่เกินความรู้นักเรียนอย่างเราแล้ว ข้อสันนิษฐานของ สมศักดิ์ เจียมฯ เป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ



เทาชมพู

กลับขึ้นเรือนไทย

ขอเท้าความว่า ครั้งแรกที่ดิฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับท่านปรีดีนั้น นานมากแล้วสมัยเรียนจบใหม่ๆ หนังสือเล่มและข่าวหนังสือพิมพ์ทั้งในและนอกประเทศรื้อฟื้นเรื่องในอดีตของไทยขึ้นมามากมาย ชื่อของท่านถูกหยิบยกขึ้นมาเชิดชูเหนือกว่าใครๆ ในฐานะผู้นำในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ชื่อของพระยาพหลฯ ถูกเอ่ยไว้นิดหน่อยไม่มากนัก ชื่อของพระยาทรงสุรเดช พระยาฤทธิ์อัคเนย์ พระประศาสน์ฯ อยู่ไหนไม่รู้ ไม่ได้ยินเลยสักชื่อเดียว นโยบายเศรษฐกิจของท่านถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก ว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของสังคมไทย
แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่แพร่หลายเท่าอีกเรื่องหนึ่ง คือกระแสที่แพร่สะพัดว่า ท่านปรีดีต้องลี้ภัยออกจากประเทศไทยเพราะถูกใส่ร้ายป้ายสีกรณีสวรรคต ทำให้ผู้บริสุทธิ์ที่มีคุณค่ายิ่งต่อประเทศชาติกลับไปบ้านเกิดเมืองนอนไม่ได้ ท่านเองก็รู้อยู่เต็มอกว่าใครใส่ร้ายท่าน แต่ท่านก็ไม่พูด มีแต่คนอื่นๆพูดแทน เป็นเดือดเป็นแค้นแทนว่าท่านกลับไม่ได้เพราะถูกใส่ร้ายนี่แหละ จากนั้นก็ประณามทั้งทางตรงทางอ้อม ถึงตัวการแท้จริงที่ยังลอยนวล
แต่...สังเกตอยู่อย่างว่า ผู้เป็นเดือดเป็นแค้นแทนท่าน ไม่เคยเอ่ยชื่อจอมพลป.เลย เหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

ตอนนั้นดิฉันก็ได้แต่สงสัยไปตามประสา ว่าคนที่เชิดชูท่านก็รุ่นๆดิฉันนี่แหละ หรือไม่ก็อ่อนกว่าหลายปี เขาเกิดไม่ทันเห็นท่านปรีดีแน่ๆ เพราะท่านลี้ภัยการเมืองไปตั้งแต่พ.ศ. 2492 แล้วไม่เคยกลับมาอีก ก็แปลว่าหลังจากนั้นท่านไม่มีกิจกรรมใดๆในประเทศไทย ผลงานอะไรต่างๆในไทยก็ย่อมไม่มีโอกาสทำเช่นกัน
แล้วทำไมคนบางคนที่รุ่นดิฉันหรืออายุน้อยกว่า จึงพากันรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมยกย่องเชิดชูผลงานก่อนพวกเราเกิดกันนักหนา แม้งานของท่านจะทิ้งช่วงห่างจากสมัยพวกเราเรียนจบทำงานกันแล้วเกือบ 30 ปี ก็ไม่เห็นจะมีช่องว่างอะไรในความรู้สึกของพวกเขา งานเหล่านั้นเคยได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงในทางปฏิบัติ ก็ไม่มีใครประเมินในด้านนี้ออกมาให้ได้อ่านกันชัดๆ
แต่คนอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทยมาตลอดตั้งแต่ก่อนพวกเราเกิด ทำงานในประเทศไทยมาตลอดตั้งแต่พวกเราเล็กจนโตเป็นผู้ใหญ๋ มีผลงานใหญ่น้อยที่ควรจะหยิบยกมากล่าวกันได้ พวกนี้กลับไม่เคยเอ่ยถึงเลย หรือเอ่ยก็ไม่เคยเอ่ยในทางดี


เมื่อสงสัยขึ้นมาแล้ว ดิฉันก็หาคำตอบ ด้วยการไปหาครูบาอาจารย์ทางด้านประวัติศาสตร์แล้วขอให้ท่านแนะนำหนังสือและเอกสารต่างๆให้ เพื่อจะหาคำตอบให้หายสงสัย ในที่สุดก็ได้ข้อเท็จจริงมาว่า
๑ กรณีสวรรคตเกิดเมื่อพ.ศ. 2489 เป็นเวลาถึง 3 ปี ก่อนหน้าท่านปรีดีจะออกจากประเทศไทยอย่างถาวร ในพ.ศ. 2492 ไม่ใช่เหตุการณ์ต่อเนื่องกัน ว่าเมื่อเกิดกรณีสวรรคตแล้ว จากนั้นไม่กี่เดือนหรือไม่กี่วันท่านปรีดีก็จำต้องออกจากประเทศไทยไป เพราะถูกใส่ร้ายป้ายสี ดังที่มีเสียงกล่าวกันทั้งวาจาและลายลักษณ์อักษร ในอีก 30 ปีต่อมา ให้คนรุ่นหลังคือรุ่นดิฉันเข้าใจทำนองนั้น
๒ สาเหตุที่ท่านปรีดีออกไป มีหลักฐานชัดเจนว่าเกิดจากกบฏวังหลวง ที่ท่านและผู้ร่วมก่อการได้ยึดพระบรมมหาราชวังเป็นกองบัญชาการ ใช้อาวุธต่อสู้กับรัฐบาลของจอมพลป. แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ตำรวจทางรัฐบาลตามล่าตัวข้อหากบฏซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิต เป็นใครใครก็ต้องหนี จึงไม่แปลก และไม่จำเป็นต้องมีเบื้องหลังซับซ้อน มันมีเบื้องหน้าที่เห็นอยู่โต้งๆแล้วว่าทำไมท่านจึงต้องหนีออกจากประเทศไป
๓ หัวหน้าฝ่ายรัฐบาลที่เป็นปรปักษ์โดยหน้าที่ ในกบฏวังหลวง คือจอมพลป. พิบูลสงคราม คนที่สั่งจับกุม สั่งให้ส่งขึ้นศาล คือนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ผู้อื่น เพราะในพ.ศ. 2492 ไม่มีกลุ่มอำนาจอื่นใดนอกจากนายกรัฐมนตรี หลักฐานทางฝ่ายรัฐบาลมีชัดเจนเพราะกบฏวังหลวงเป็นกบฏที่ลงมือยึดสถานที่และใช้อาวุธ ไม่ใช่กบฏประเภททางการสืบทราบได้แต่ไม่เคยลงมืออย่างกบฎนักโทษประหาร 18 คน

เอา 3 ข้อแค่นี้ก่อนนะคะ คุณ paganini คงตอบแทนดิฉันได้ว่าข้อสันนิษฐานที่คุณถาม ดิฉันเห็นว่าเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้




NAVARAT.C
ผมขอสารภาพว่าผมไม่ได้ติดตามอ่านข้อเขียนของสมศักด์เจียมแบบขาประจำ แต่พอจะรู้ว่าแกออกแนวอะไร

คนอายุเท่าๆกับผม เมื่อพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรแล้ว ตั้งแต่เด็ก เรื่องที่เคยได้ฟังฝ่ายตรงกันข้ามโจมตีพระองค์หนักๆก็เป็นเรื่องเดียวกับเรื่องที่สมศักดิ์เจียมและพวกร่วมอุดมการณ์กำลังกระทำอยู่นี่แหละ แต่พระองค์มิเคยทรงโต้ตอบ หากทรงสร้างพระบารมีด้วยการกระทำพระราชกรณียกิจต่างๆเพื่อประชาชน จนเป็นที่ยอมรับของคนไทยทั้งชาติ และทรงผ่านพ้นสถานการณ์อันมิพึงปรารถนามาได้ตลอด ใครที่มาเป็นรัฐบาลก็ย่อมตระหนัก การกระทำใดๆที่เสมือนให้ท้ายพวกที่โจมตีพระองค์ คือการสร้างความแตกแยกของคนในชาติ และรัฐบาลเองนั่นแหละจะอยู่ไม่ได้ ดังนั้นก็จริงของเขาส่วนหนึ่งที่ว่า เมื่อทหารการเมืองจะปฏิวัติ ก็มักจะอ้างว่ากระทำเพื่อปกป้องพระราชบัลลังก์เสมอ ใช่สิ เพราะถ้าไม่อ้างเช่นนั้นก็เท่ากับประกาศตนเป็นศัตรูของประชาชนเท่านั้นเอง

ส่วนเหตุผลที่จอมพลสฤษดิ์ปฏิวัติจอมพลป. ผมเชื่อว่าเป็นเพราะประชาชนไม่เอาจอมพลป.เพราะเกลียดเผ่า เหมือนที่ไม่เอาจอมพลถนอมเพราะเกลียดณรงค์ ครั้งนั้นประชาชนเชื่อเสียแล้วว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นการเลือกตั้งที่สกปรก เมื่อพลังบริสุทธิ์จำนวนมหาศาลทนไม่ไหวถึงกับออกมาเดินขบวนขับไล่รัฐบาล ยังไงๆก็ต้องจบที่การปฏิวัติรัฐประหาร ถ้าจังหวะนั้นสฤษดิ์ไม่ทำ เผ่าก็คงจะทำ

ส่วนคำถามสุดท้ายที่ถามมา
ผมไม่ให้ค่าต่อคนอย่างสมศักด์เจียมครับ ต่างคนต่างอยู่ที่ชอบๆก็แล้วกัน


http://www.reurnthai...cseen#msg109704


*กระทู้นี้ชำแหละสมศักดิ์เจียมฯครับ


#366880 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 4 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 00:24

การใช้วาจาดุด่า พูดจาส่อเสียด เป็นต้นเหตุสำคัญของความรุนแรง

สมศักดิ์ เจียมฯ ต้องการให้ใช้วาจาอย่างนั้นต่อสถาบันอันเป็นที่รักของคนไทยทั้งชาติ ย่อมนำมาซึ่งความรุนแรงแน่นอน

ถ้าใครไม่สนับสนุนความรุนแรง ก็ย่อมไม่สนับสนุนสมศักดิ์ เจียมฯ

เว้นแต่ผู้นั้นไม่เคยโกรธด้วยคำพูดผู้อื่นเลย -_-

วิเคราะห์สมศักดิ์ ด้วยจริต6แล้ว ผมว่าสมศักดิ์อยู่ในพวกวิตกจริต (ใครอยากทราบจริตตัวเองและวิธีแก้ไขเข้าไปอ่านได้ครับ หนังสือ"จริต6ศาสตร์แห่งการอ่านใจคน" หนังสือดีมากๆ อ่านแล้วเข้าใจตนเข้าใจโลก)

วิตกจริต
ลักษณะพื้นฐานคือ พูดไม่หยุด ประเภทน้ำไหลไฟดับ ชอบแสดงความคิดเห็น มีคำถามเยอะแยะไปหมด เพราะได้ยินเสียงพูดตลอดเวลา สมองเต็มไปด้วยความคิด ฟุ้งซาน สับสนวุ่นวาย มีหลายความคิดซ้อนกันอยู่ แต่มักสรุปประเด็นสำคัญหรือจัดระบบไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คนทั่วไปมักมองว่า คนที่วิตกจริตมีปัญญาสูงเพราะเป็นคนที่สามารถคิดได้เร็ว พูดได้มาก ประเด็นเต็มไปหมด ฟังเผินๆ แล้วน่าประทับใจถ้าไม่คิดอะไรมาก

วิตกไม่สามารถหยุดความคิดของตัวเองได้ และไม่สามารถเลือกว่าจะคิดอะไรได้ การคิดมักจะย้ำคิดในทางลบ มองโลกในแง่ร้าย มักคิดว่าโลกชั่วร้าย คนอื่นจะพยายามเอารัดเอาเปรียบตัวเอง ไม่สามารถเชื่อใจใครได้ มักคิดในทางลบ เช่น การคิดอิจฉา คิดเรื่องต่างๆ ในแง่ไม่ดี และความคิดดังกล่าวจะผุดขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เป็นการย้ำคิดในทางลบ คนที่เป็นจริตอื่นๆ อาจไม่เข้าใจว่าคิดไปทำไม แต่ผู้เป็นวิตกจริตไม่อาจปิดความคิด เหมือนอยู่ในน้ำทะเลโดนคลื่นกระชากไปเรื่อย

หน้าตาปกติจะบึ้ง ยิ้มไม่ออก ไม่มีความรู้สึก แต่มีอารมณ์รุนแรง คำพูดจะรุนแรง เพราะอยู่ในความคิด เช่นเวลาวิจารณ์คนมักใช้คำพูดรุนแรงทำให้คนชอกช้ำเกิดกรรมเวร คนทั่วไปมักไม่ค่อยชอบหน้า และมักถูกทำร้ายทางกายวาจาและใจ เป็นการย้ำการมองว่าโลกชั่วร้ายมากยิ่งขึ้น และจะเป็นคนร้อนรุม แต่ในอีกด้านหนึ่งการพูดมาก คิดมาก ใช้พลังงานทำให้ดูเหนื่อยโทรม

คนที่เป็นวิตกจริตจะมีปากกับใจไม่ตรงกัน เวลาพูดนัยน์ตาจะกรอกไปกรอกมา พูดอย่างคิดอย่าง และยังไม่ค่อยชอบรักษาสัญญา เพราะมีความคิดแยะผุดขึ้นมาตลอด คิดกลับไปกลับมา ประกอบกับมีอัตตาสูง มักกลัวเสียเปรียบ ถ้าเปลี่ยนสิ่งที่ได้สัญญาไว้ ก็เปลี่ยนตลอดเวลา มักซ่อนสิ่งตัวเองต้องการเวลาติดต่อกับคนอื่น แม้ในระยะสั้น จะสร้างความประทับใจให้กับคนที่พบเห็นได้ก็ตาม แต่ในระยะยาว พฤติกรรมการไม่รักษาคำพูด ทำให้ไม่ค่อยเป็นคนมีศักดิ์ศรี คนไม่เชื่อถือ

เป็นคนที่แยกโลกแห่งความจริงและโลกที่ตัวเองคิดขึ้นมาไม่ค่อยได้ หลายครั้งหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ตัวเองคิดไปเองโดยไม่มองข้อเท็จจริง

เป็นคนขยันขันแข่งหนักเอาเบาสู้ แต่ผลที่ออกมาน้อยหรือไม่ค่อยได้ประโยชน์เพราะคิดมากฟุ้งซ่านอยู่ตลอด ทำให้ไม่สามารถรักษาความสนใจในเรื่องหนึ่งเรื่องใดไว้ได้นาน และไม่สามารถรักษาสมาธิไว้ได้

เป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ มีอัตตาสูง หลงกับความคิด คิดว่าตัวเองเก่งกาจ โดยเฉพาะถ้าเจอกับคนที่เป็นโมหะจริตที่นิ่งๆ สงบ คิดน้อย เศร้าสร้อย อยู่กับอารมณ์ พูดไม่ทันแล้ว คนที่เป็นโมหะจริตจะรู้สึกสะบักสบอม

อยากรู้อยากเห็น ไม่รู้จักเลือกว่าควรจะรู้สิ่งใดสนใจสิ่งใด จึงมักจะสอดรู้สอดเห็นในสิ่งไม่มีประโยชน์ ใช้เวลาไม่ค่อยมีประโยชน์
ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ชอบสัญญาแต่ไม่อาจรักษา เพราะมีความคิดเต็มไปหมด

ทำงานรวดเร็วแต่ค่อนข้างหยาบ อาจปวดหัวไมเกรน

การแต่งกาย จะจับโน่นประสมนี้ ให้ออกมาดูเด่นฉูดฉาด แต่ไม่สวยงาม เพราะไม่มีความรู้สึก มีแต่ความคิด

http://www.drbooncha...ew&id=44




#366542 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 20:46

ไปพบในเฟสของพี่Punda Sirigulเขียนได้ดีมากๆผมอ่านแล้วชอบ

สมศักดิ์ อิอิ ตกลงก็ไม่เห็นจะตอบที่ผมถามได้นี่ครับต่อให้ไปยกป้ายสักหมื่นแผ่น เอาหนังสือ "พระราชกรณียกิจ" อีกหมื่นเล่มมา ก็ไม่ตอบคำถามนี่ครับ

ตอบ ไอ้ที่เขายกป้าย เขาตอบคำถามที่ว่ารู้ได้ยังไงว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนัก พอเขาตอบก็ปลิ้นไปคำถามใหม่ ปกติดีอยู่หรือเปล่า

สมศักดิ์ เพราะข้อมูลและมุมมอง ในป้าย ในหนังสือ เป็นข้อมูลด้านเดียวทีใช้การบังคับยัดเยียด ไม่อนุญาตให้เสนอ ด้านอื่น ไม่อนุญาตให้ประเมิน ตรวจสอบ วิพากษ์วิจาณณ์นี่ครับ

ตอบ ใครไม่อนุญาต ตอบมา อยากทำก็ไปทำสิ มีให้เลือกตั้ง4,000กว่าโครงการ "ทำ" อย่ามัวแต่ถามชาวบ้าน ,โครงการหลวง แก้มลิงหรือ อยากรู้อะไรก็ไปหาเอาสิ เอาแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ เอามาประมวล มาวิเคราะห์เอง อยากรู้ไม่ใช่เรอะ ทำให้ดูหน่อย คนที่เขาไม่ได้อยากรู้ ทำไมต้องหาข้อมูลมาใส่พานให้

..............................................................



สมศักดิ์ ประเด็นนี ไม่เห็นพวกคุณตอบได้สักคนปล. อย่างที่ผมเขียนไปแล้วว่า ยิ่งคุณด่าผมเท่าไร ยิ่งคอนเฟิร์มสิ่งทีผมเขียนไง

ตอบ มันไม่ได้เป็นตรรกะอะไรเลย คนที่เขาด่า เพราะพฤติกรรมต่างหาก กระแนะกระแหน เสียดสี ถากถาง ตีวัวกระทบคราด เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคนที่เป็น"ผู้ใหญ่"เขาไม่ลดตัวลงมาตอบโต้แน่นอน

คุณคิดว่าสิ่งที่ทำ เช่น เอายาสีฟันขัดขี้บุหรี่ของคุณมาถ่ายรูป มาโพสต์ มันเป็นการกระทำของครูบาอาจารย์ เป็นการกระทำของลูกผู้ชายแล้วหรือ

สิทธิ เสรีภาพที่จะทำน่ะมี แต่ทำแล้วสะท้อนจิตใจผู้ทำว่าสูงต่ำดำชั่วแค่ไหนอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้ถามใจตัวเอง ไม่ต้องมาถามชาวบ้านอีก ส่องกระจกแล้วถามตัวเอง กูมีเจตนาอย่างไรแน่ กูกล้าหรือขี้ขลาดกันแน่ ควรจะภูมิใจมั้ยกับสิ่งที่ทำ คนเขาด่าเพราะเรื่องพวกนี้ ด่าท่าทีที่แสดงออก ไม่ใช่เนื้อหาที่ถามแล้วเขาไม่มีปัญญาตอบ

.................................

สมศักดิ์ คุณจะประเมินใคร ประเมินอะไร ต้องให้คนมีเสรีที่จะเสนอด้านต่างๆ คุณด่าผม บางคนชมผม ก็ว่าๆกันมา แล้วให้แต่ละคนตัดสินเอง

ตอบ ก็มีนี่ เสรีที่จะเสนอ แต่ไม่เห็นว่าจะเสนออะไรซักอย่างนอกจากตั้งคำถาม และพูดจากระทบกระเทียบ แม้แต่จะพูดตรงๆยังไม่กล้า แล้วคุณคิดว่าจะวิเคราะห์วิจารณ์อะไรได้

....................................

สมศักดิ์ พิลึกมากที่ คนรักเจ้า กลับไม่กล้าใช้บรรทัดฐานธรรมาดๆแบบนี้ ในกรณีเจ้า
กลัวอะไรหรือครับ? กลัวว่า ทีตัวเองพูดๆนี่ พิสูจน์ไม่ได้? เลยต้องยังใช้วิธีบังคับแบบนี้?

ตอบ คนรักเจ้าไม่ใช่ไม่กล้า แต่เขาไม่คิดจะทำ เพราะเขาไม่สงสัย เขาก็มีความเชื่อของเขา มีความเข้าใจของเขา มีชุดข้อมูลของเขา มันไปหนักกระบาลใครนักหนา

ไม่มีใครเขาบังคับให้รักพระเจ้าอยู่หัว

ไม่อยากรักก็ไม่ทำให้แผ่นดินนี้สูงขึ้น

ความรักของคุณและสาวกไม่เกี่ยวข้องกับความเจริญใดๆของชาติไทย

แต่ที่เขาไม่พอใจคือ คำพูดไม่จริง คำพูดกระทบกระเทียบ ไปจนถึงคำด่า คำพูดแบบคนขี้ขลาดที่ปราศจากเหตุและผล และคำพูดที่อมขี้ฟันคนอื่นมาพูด

ยืนยันว่าไม่มีใครเขาบังคับคุณและสาวก แต่เขาก็มีสิทธิ์จะเกลียดคนใช้วาทกรรมเสียดสีคนที่เขารัก

เมื่อทำกรรมเช่นที่ว่าไว้ ก็ต้องรับผลจากกรรม คือการทำ นั่นคือ เป็นที่รังเกียจของสังคมส่วนหนึ่ง ก็เท่านั้น

...................................

บทสรุปคือ กล้าๆหน่อย ลงมือทำ อย่ามัวแต่ถามชาวบ้าน

ม.112 บัญญัติไว้ว่า "ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี"

ถ้าจะวิเคราะห์วิจารณ์แบบหลักวิชาการถึงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยความสุจริตจริงใจ มีข้อมูลครบถ้วน และเป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ใครกล้าจับเข้าคุก หรือ ถ้าจะต้องติดคุกจริงๆเพราะทำให้ผู้บังคับใช้กฏหมายเหม็นขี้หน้า อันนี้ก็ต้องยอมรับกรรมคือผลของการกระทำ แต่ก็สมศักดิ์ศรีสมชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้แล้ว ว่าแต่กล้ามั้ยล่ะ

..................................

จะยกตัวอย่างให้ทั้งที่ไม่ใช่ผู้ชาย โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ไม่ประสบความสำเร็จ หรือเคยประสบความสำเร็จแล้วแต่ต่อมามีปัญหาก็มี เช่น สหกรณ์การเกษตรที่หุบกะพง เป็นเพราะคนรุ่นเก่าที่เป็นคนยากจน เขาฐานะดีขึ้น ส่งลูกหลานเรียนสูงเลยไม่อยากกลับมาทำเกษตร การสานต่อก็เลยไม่สำเร็จเท่าที่ควร คนมากขึ้นมีปัญหาเรื่องน้ำ เป็นต้น ในขณะที่สหกรณ์โคนมหนองโพประสบความสำเร็จ เพราะมีการสานต่อที่ดี

......................................


เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พระเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราโชบายให้ความสำคัญเรื่องเวนคืนที่ดิน เพราะเขาเสียสละเพื่อส่วนรวมก็ควรให้เขาให้เหมาะสม ไปขอดูงบประมาณ ค่าเวรคืนสูงกว่าค่าก่อสร้างเท่าไหร่

ชาวบ้านที่ได้เงินบางส่วนก็รู้จักใช้ กันเงินเก็บไว้ซื้อที่ดินทำกินใหม่ ประสบความสำเร็จก็มี ที่ใช้เงินไม่เป็นซื้อบ้านซื้อรถหมด ต้องอาศัยจับปลาในเขื่อนหากินก็มี บางคนได้ที่ดินไม่ดี สู้ที่เดิมไม่ได้ มีปัญหาทำกินก็มี

ระวังนะ ข้อมูลพวกนี้เอาไปใช้ วิเคราะห์ให้ดี อย่าสาดโคลนใส่ใครแบบไม่มีเหตุผลเหมือนที่ทำๆอยู่ก็แล้วกัน เอาปัญหาที่เกิดขึ้นไปเปรียบเทียบกับประโยชน์จากเขื่อนป่าสัก ไปดูว่ามีปัญหาที่ไหน โครงการหรือการปฏิบัติ หรือปัจจัยส่วนบุคคล หรือรวมๆกั

ทีนี้ตัวเขื่อน ไปหาข้อมูลไม่ยาก สถิติเรื่องน้ำต่างๆ น้ำฝน น้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นข้อมูลเปิดอยู่แล้ว ประเด็นอยู่ที่ว่า ความครบถ้วนของข้อมูลต้องเป็นระบบ เพราะไม่ใช่แต่ตัวเขื่อน มันมีโครงข่ายต่อเชื่อมกันอีก มีปฏิบัติการวิเคราะห์น้ำในแต่ละช่วงเพื่อการบริหารจัดการกับลุ่มน้ำอื่น รวมถึงเครือข่ายคลองต่างๆที่ทำหน้าที่แก้มลิงในกทม. ซึ่งแล้วเสร็๋จบ้างยังไม่เสร็จบ้าง

ข้อมูลพวกนี้ถ้ากทม. และรัฐบาลเอามาใช้ไม่เป็น อันนี้ก็ช่วยไม่ได้ รวมถึงการขยายตัวของการทำเกษตรและชุมชนเมือง ต้องศึกษาให้ครบถ้วนด้วย ให้สมกับปากดีมานาน

แถมให้ว่าโครงการนี้รับสั่งว่าเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบก้าวหน้า หมายความว่าอย่างไร หาคำตอบเองมั่ง บอกเผื่อไปถึงพวกกบในกะลาที่เอาคำว่า พอเพียง มากระแนะกระแหนอย่างโง่ๆด้วย

......................

เอาล่ะเรื่องบริหารจัดการน้ำอาจยากไป เอาง่ายๆเรื่องถนนในกทม.ก็ได้ ไม่ต้องไปไกล มีให้ตรวจสอบตั้งเยอะ ถนนสมเด็จพระราชชนนี ถนนไม่รู้กี่สายที่สนามหลวง แถวศิริราช ไปตรวจสอบดูสิว่ามันได้ผลหรือไม่ได้ผล อย่างถนนหยดน้ำ มันประหยัดงบราชการจากที่กทม.เคยออกแบบไว้เท่าไหร่ หรือไม่ อย่างไร ไปคุยกับคนทำงานที่เขารับสนองพระราชดำริ เอาให้ตรงคนทำงานจริงๆ เจาะไชให้มันลึกไปเลย ซักให้ขาวหมดจด เขายินดีตอบ ไปถามคนใช้รถใช้ถนนดูว่าเขาพอใจไม่พอใจ ไปขอดูงบก่อสร้างกทม.ก็ต้องให้ มันมีกฏหมายอยู่ ไปถามสถิติเกี่ยวกับการจราจรกับกทม.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเปรียบเทียบซักหลายๆปี

..............................

มีเรื่องที่พระเจ้าอยู่หัวทรงวิจารณ์จุดอ่อนของโครงการของพระองค์เองก็มี พิมพ์เป็นหนังสือแจกด้วยซ้ำ อย่างเช่น ถนนห้วยมงคล หรือแม้แต่ระหว่างการแก้ปัญหาดินพรุที่ภาคใต้

ไอ้การที่สื่อทุกชนิด เขียนแต่เรื่องดีๆ เขียนไม่ครบ ทั้งที่เวลาทำงานพระเจ้าอยู่หัวก็ให้คนทำงานจดที่ล้มเหลวเป็นบันทึกไว้ ไม่ใช่บันทึกแต่ความสำเร็จ เพื่อคนรุ่นหลังเขาจะได้ไม่ผิดซ้ำ สื่อมันไม่เสนอ ไม่หาข้อมูลมันผิดที่ใคร

แล้วไอ้สื่อนอกที่รับจ้างเขียนผิดๆถูกๆ ทำไมไม่ไปตั้งคำถามกับมันบ้าง

เวลาวันสำคัญธุรกิจเอกชน ราชการ หาเรื่องใช้เงิน แล้่วไม่สนใจคุณภาพของงาน ไม่เวอร์ก็ห่วย มันผิดที่ใคร

จะเอาอะไรนักหนากับพระเจ้าแผ่นดิน ทำงานก็ว่า ไม่ทำก็คงไม่แคล้วอีก

...........................

อันนี้ฝากรวมถึงสาวก

เรื่องเงิน เรื่องสวรรคต รู้สึกจะสนุกปากกันเหลือเกิน มั่นใจรึว่าข้อมูลครบแน่นอนตามที่สรุปในใจน่้ะ

ถ้าผิด นรกจองตัวไว้แล้ว

ไอ้นิตยสารฟอร์บที่มันเขียนน่ะ เคยไปถามมันมั้ย มันเหมารวมทรัพย์สินอะไรบ้าง มันเอาข้อมูลมายังไง ทำไมคนไทยอย่างคุณถึงหาข้อมูลไม่ได้ แยกแยะกันเป็นมั้ย

อีกเรื่อง อ.ปรีดี ไม่กลับประเทศไม่เกี่ยวกับใครเลยนอกจากตัวท่านเอง

"ท่านไม่กลับ เพราะไม่อยากให้ยุ่งเหมือนที่มีตัวอย่าง (หมายถึงจอมพลถนอมที่กลับมาตอน๖ตุลา)

มีทั้งคนชอบไม่ชอบ ท่านก็เสียสละ"

คนที่เล่าคือท่านผู้หญิงพูนสุข พนมยงค์ ได้ฟังจากปากก่อนท่านผู้หญิงจะเสียชีวิตหลายปี แต่ถ้ายังสมัครใจเชื่อจากหลักฐานชั้นรองคือขี้ปากคนนอกที่ไม่ใช่ภรรยาของท่านเอง อันนี้ก็จนใจ พวกตาฝ้าแต่คิดว่าตาสว่าง

ตกลงว่าต่อไปนี้จะไม่ตอบอะไรคุณแล้ว แต่จะรอผลงาน ในสิ่งที่เที่ยวถามชาวบ้าน หวังว่าจะได้เนื้อได้หนังได้ปัญญาขึ้นมาบ้าง

ด้วยความรำคาญอย่้างสูง

คนธรรมดาไม่ได้เป็นอาจารย์ที่ไหน



https://www.facebook...402084279851945

อ่านแล้วคลิกเข้าไปดูในเฟสพี่เขาได้ครับ สมศักดิ์ เจียมฯเข้ามาโพสด้วย แต่คาดว่าคงเมายาสีฟัน ตอบห่าอะไรไม่รู้เรื่อง :lol:







(รูปนี้หลายท่านคงเห็นแล้ว)
https://www.facebook...&type=1


#365870 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 12:14

อดทน และ "พวกเรา" ควร ทำต่อไป ครับ

เรื่องหลายเรื่องในบ้านเมือง ต้องใช้ความอดกลั้นและอดทนสูง จริงๆ หากเรามีเป้าหมายประสงค์ให้คนในชาติตื่นจากการมอมเมา

ศัตรูของผม(ไม่ทราบว่าจะขอเรียกว่าพวกเราจากทุกท่านได้หรือไม่น่ะครับ) คือกลุ่มบุคคลที่ทำร้ายประชาชนชาวไทยด้วยการมอมเมาให้แตกแยกกันเอง แตกสามัคคี เพราะ นั่นคือ อันตรายยิ่ง ดั่งที่ ในหลวงของเราทรงตรัสให้พวกเราสามัคคี ใครก็ตามที่เป็นต้นตอของการทำให้ไทยเราต้องแตกสามัคคี ผมถือว่ากลุ่มนั้นคือศัตรูผม


น้าชดยื่นอยู่บนหลักการพระราชดำรัสพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้นพวกเราอยู่ข้างเดียวกันครับ


#365337 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 23:05

จากความเห็นที่#159 ผมขอแก้เป็น สมศักดิ์ เจียมฯเป็นคนขี้ขลาดเพราะไม่กล้าดีเบตเรื่อง6ตุลากับคุณบวร



Posted Image

http://www.facebook....oworn.yasintorn


#364797 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 16:09

เห็นด้วยกับคำนี้"มันไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรเลย มีแต่ความเกลียดชังมีแต่อคติ" และสังคมทุกวันนี้ กำลังเป็นแบบนั้น ทั้งสองฝ่าย

คุณไปบอกให้สมศักดิ์ เจียมฯหยุดพฤติกรรมสิครับ ถ้าเขาหยุดพวกผมก็หยุด :)

ที่ทำในกระทู้นี้คือ โต้แย้งอย่างมีเหตุ-ผลครับ ไม่ใช้ชักชวนคนไปตีหัวมัน

แล้วที่ผมเริ่มด่ามันหนักๆ เพราะมันมารุกราน และละเมิดสิทธิ์คนอื่นก่อน เพจWe Love The King of Thailand ไปทำอะไรให้ใครหรอ สมศักดิ์ถึงพาพวกไปรุมถล่ม ป่วนเพจเขา? ลองเข้าไปดูเองแล้วกัhttps://www.facebook...9&type=1&ref=nf


ถ้ามันจะอยู่แต่ในเฟสบุ๊คหน้าของมันและพวกมันเอง คงไม่มีใครไปยุ่งอะไรกับมันหรอกครับ แต่พฤติกรรมทุกวันนี้ของเจียมฯคือ มันพาพวกไปถล่มเพจคนอื่น

เออ แล้วอย่าเอาเรื่องการเมืองมาปนเพราะงานนี้การเมืองไม่เกี่ยว ถ้าจะเกี่ยวคือไอ้หงอกหลอกใช้สาวกแม้วเท่านั้น


(ขอเพิ่ม)ผมจะไม่โต้เถียงกับคุณประเด็นนี้แล้ว ถ้าอยากต่อก็ไปตั้งกระทู้ใหม่ครับ กระทู้นี้หัวข้อชัดเจนว่า สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ


#364658 น้องที่ถ่ายรูปกับทักษิณในวันเกิดคนนี้ใครครับ?

โดย ดราม่า on 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:42

ควันหลงวันนี้ไปอ่านข่าวมา http://astv.mobi/Azm47Fs เกี่ยวกับน้องคนนี้ ไหนๆก็ไม่ปิดหน้าปิดชื่อกันแล้วคงไม่ต้องเซ็นเซอร์นะ :lol:

กดชอบเพจโอ๊ควันที่ 17 ก.ย ..บอกได้รางวันที่ 16 ก.ย. (20-4) คิดเอาเองแล้วกันครับ แค่นำเสนอมุมมองขำๆ (ผมมิอาจวิจารณ์นะ แค่สงสัย?)

http://www.facebook.com/pangnamfa
Posted Image




โอ๊คพึ่งประกาศวันที่ 1 ก.ค. อ่านกติกาดูสิฮ่าอีก
http://www.facebook....&type=1

แล้วน้องเขาได้ตามกติกาข้อไหน วานพี่โอ๊คตอบเสื้อแดงด้วย :lol:

ก็ในเมื่อวันที่น้องเขาได้รางวันไปเที่ยว น้องปานน้ำฟ้ายังไม่ได้เป็นแฟนเพจพี่โอ๊คเลยนี่ครับ :lol: :lol: :lol:

Posted Image



เอามารวมกันไว้ ไม่รู้จะเบี่ยงประเด็นกันทำไม

ผมแค่ถามว่าถึงเพจพี่โอ๊คว่า น้องปานฟ้า ได้ไปเที่ยวตามกติกาข้อไหนของเพจพี่โอ๊คครับ นี่ผมเป็นห่วงแทนแฟนๆเสื้อแดงว่าจะโดนหลอกนะ :rolleyes:


อย่าไปว่าน้องปานน้ำฟ้าเลยครับ น้องเขาแค่ไปทำงาน ที่ต้องสงสัยคือ เพจพี่โอ๊คเอากฎข้อไหนเลือกผู้โชคเลือดมากกว่า

และเฟสบุ๊คความเห็นนี้เป็นของน้องเขาจริงๆนะครับ จะได้จบประเด็นซะที ขออภัยที่โพสครั้งแรกไม่ได้ดูให้ดี


ป.ล. ล่าสุดเข้าไปดูน้องปานเขาเลิกกดถูกใจเพจพี่โอ๊คแล้วนะ :lol:


#364640 สมศักดิ์เจียม ลูกจีนเนรคุณ

โดย ดราม่า on 2 สิงหาคม พ.ศ. 2555 - 13:27

แต่สำหรับในไทย นับแต่เรามีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 เรื่อยมา ก็น่าจะราวๆปี 2500 นี่แหละครับ เป็นการที่"ประชาชน" โดยมี นิสิตจุฬาฯนี่แหละ เป็นหัวหอกให้ สมัยนั้นยังไม่มีศูนย์นิสิตฯ จะมีก็แต่ นิสิต นักศึกษาที่พอจะมีความรู้ ความเข้าใจการเมือง ออกมาพูดและทำความเข้าใจให้กับประชาชน และก็มีประชาชนส่วนหนึ่งที่พอจะมีการศึกษา เข้าร่วมประท้วง


อยากทราบความเห็นของบุคคลร่วมสมัย 6 ตุลา ว่าการประท้วงตอนนั้นมีขึ้นเพื่อแค่อยากไล่ถนอมออกนอกประเทศเท่านั้นหรือครับ

ถ้าใช้ แล้วทำไมต้องถึงขนาดนองเลือด มันมีเบื้องลึกอะไร? แล้วหัวโต มันไปเป็นแกนนำได้ยังไงทั้งที่เป็นแค่เด็กปี 1