* ผมวงเล็บภาษาฝรั่งล้อเลียนสมสาดไปงั้นแหละ
- Alanza 4.91 likes this
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 13:05
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 12:23
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 09:37
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 09:33
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 01:17
มาแปะข้อมูลของคุณ bonny ที่บอร์ดเก่าให้ครับ
http://oldforum.seri...e;topic=20876.0
แต่ถ้าใครมีข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับเท้าความหลังให้คนที่ไม่รู้ได้ฟัง จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องต่อมา..
คือเรื่องที่เจ้าหัวโตชอบแอบอ้างวีรกรรม 6 ตค.19 ไปสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ผมว่าควรยุติได้แล้ว ละอายแก่ใจบ้างเถอะครับ
เจ้าหัวโตนี่แหละที่นำพาให้คนไปใตายในมหาวิทยาลัยและกลางแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก
เป็นเด็กอายุไม่ถึงยี่สิบดี แต่ริอ่านเป็นผู้นำม็อบ เอาชีวิตคนจำนวนมากเป็นหลักประกันความสำเร็จของอุดมการณ์ตนเอง ไม่ทราบว่า สงสารพ่อแม่ ญาติพี่น้องผู้ตายหรือเปล่า??????
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 00:15
ระบบกฎหมายคอมมอนลอว์ (อังกฤษ: Common law) เป็นกฎหมายซึ่งพัฒนาขึ้นโดยผู้พิพากษาผ่านทางการตัดสินคดีความของศาล และศาลชำนัญพิเศษอื่น ๆ มากกว่าผ่านทางพระราชบัญญัติของฝ่ายนิติบัญญัติ หรือการดำเนินการของฝ่ายบริหาร
ซีวิลลอว์ (อังกฤษ: civil law) เป็นระบบกฎหมายซึ่งได้รับอิทธิพลจากกฎหมายโรมัน ลักษณะพื้นฐานของซีวิลลอว์คือ เป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นระบบประมวล และมิได้ตัดสินตามแนวคำพิพากษาของศาล ระบบกฎหมายดังกล่าวจึงได้ยึดถือฝ่ายนิติบัญญัติเป็นบ่อเกิดหลักของกฎหมาย และระบบศาลมักจะใช้วิธีพิจารณาโดยระบบไต่สวน และศาลจะไม่ถูกผูกพันตามคำพิพากษาในคดีก่อนๆ
“"ผู้ใดก็ตามที่ถูกควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวน จะต้องได้รับการแจ้งโดยชัดแจ้งว่าตนเองมีสิทธิที่จะหารือกับทนายความ และอาจให้ ทนายความอยู่ด้วยกับตนเองขณะที่มีการสอบสวนเพื่อคุ้มครองสิทธิที่กล่าวไว้โดยละเอียด ในส่วนของการเตือนว่าจำเลยมีสิทธิที่จะอยู่นิ่งเฉย และสิ่งใดที่มีการกล่าวออกมา อาจสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานยันเขาได้ คำเตือนนี้ถือเป็นเรื่องเด็ดขาดก่อนมีการสอบสวน เพื่อให้บุคคลที่ถูกสอบสวนทราบถึงสิทธิของตนเองอย่างเต็มที่ เจ้าพนักงานไม่เพียงแต่ต้องแจ้งให้จำเลยทราบถึงสิทธิที่จะหารือกับทนายความเท่านั้น และในกรณีที่ปรากฏว่าเขาเป็นบุคคลยากไร้ ก็จะต้องมีการแต่งตั้งทนายความเพื่อแก้ต่างให้เขาด้วย”
Posted by ดราม่า on 2 August 2012 - 00:00
Posted by ดราม่า on 1 August 2012 - 15:13
ใครรู้จัก ดร.คณิต ณ นคร ช่วยไปบอกหน่อยว่า
ที่ปรีดี ไม่กลับประเทศ ไม่เกี่ยวกับเรื่อง "เสียสละ เพื่อความสงบของบ้านเมือง" อะไรหรอกครับ
วันก่อน ผมเพิ่งเขียนไปหยกๆว่า ยังมีข้อมูลสำคัญบางเรื่องเกี่ยวกับปรีดี ที่เสียดายว่า ยังพูดไม่ได้
วันเดียวกับที่ผมเขียนไป ประชาชาติธุรกิจ ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ คณิต ณ นคร ที่พูดตอนหนึ่งว่า
............
ถาม : เคยพูดไว้ว่าคุณทักษิณคือชนวนหลักที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในสังคม .....
คณิต : คือมนุษย์เรา ผมคิดว่าการเสียสละเรื่องใหญ่ ถ้าเราคิดถึงคนที่เกี่ยวข้องการเมืองในอดีต ทุกคนต้องนึกถึงท่านปรีดี พนมยงค์ ท่านเสียสละ อย่างนั้นทำได้ไหมล่ะ ท่านตายเมืองนอก ท่านกลับเข้ามาก็ไม่ต้องติดคุกนะ เพราะเรื่องต่าง ๆ เคลียร์หมดแล้ว แต่ท่านไม่ยอมเข้า เพราะถ้าเข้ามาอาจทำให้บ้านเมืองไม่สงบก็ได้ จนกระทั่งตาย ทำอย่างนี้ได้ไหม
..............
ความจริง "มุข" แบบนี้ ที่ยกปรีดีมาด่าทักษิณ มีคนพูดมาก่อน ถ้าจำไม่ผิด ประเวศ ก็เคย
ผมเองไม่เคยคิดจะเปรียบเทียบกรณีปรีดีกับทักษิณ ไม่ใช่เพราะผมเห็นว่า ใครดี ใครเลว (ปรีดี ดี ทักษิณ เลว หรือ กลับกัน) แต่เพราะมันมีรายละเอียดและปริบทที่ต่างกันเยอะ เปรียบเทียบกันไม่ได้
แต่เฉพาะกรณีปรีดี ไม่กลับบ้าน ผมอยากให้ใครช่วยไปบอก ดร.คณิต ว่า
(1) โดยความเป็นจริง 20 ปีแรก หลังกรณีสวรรคต 2489-2509 ปรีดี ไม่สามารถกลับเมืองไทยได้ เพราะมีความเสี่ยงเรื่องโดนจับ โดนเล่นงานทางกฎหมายจริงๆ (คดียังไม่หมดอายุความ) ตอนที่มีการพิพากษาประหารชีวิต ชิต บุศย์ เฉลียว คำพิพากษาของศาล ก็ตัดสินในลักษณะที่ว่า 3 คนนั้น ผิด ร่วมฆ่า ร.8 ตามการวงแผนของปรีดี (ทนายจำเลย ได้ประท้วงประเด็นนี้ด้วยว่า ไม่ถูกต้องที่ ดำเนินคดีและตัดสินในลักษณะกล่าวหาปรีดี ทั้งๆที่เจ้าตัว ไม่อยู่ ไม่สามารถมาปกป้องตัวเองได้)
อันที่จริง ในช่วงทศวรรษ 2490 ถ้าปรีดีกลับเข้ามา ไม่เพียงแต่เสี่ยงโดนเล่นงานทางกฎหมายเท่านั้น มีโอกาสจะถูกยิงทิ้งสูงมาก ดูจากการที่ หลังจากปรีดี กลับเข้ามาและล้มเหลวในการพยายามยึดอำนาจคืนด้วยอาวุธ ในกรณี "วังหลวง" ต้องหนีกลับออกไปอีก ลูกน้องปรีดีหลายคน ถูกจับไปยิงทิ้ง (เตียง, 4 อดีต รมต. ฯลฯ) ถ้าปรีดีเอง ไม่หนีออกนอกประเทศอีก มีหวังถูกยิงทิ้งแน่นอน
(2) ต่อให้ "มองข้าม" กรณี "วังหลวง" 2492 (ซึ่งความจริง เฉพาะกรณีนี้ ก็สะท้อนว่าที่ คณิต พูดแบบนั้น ไม่ถูกแล้ว) - ในช่วงปี 2500 ปรีดี ได้พยายามกลับเข้ามาจริงๆ อย่างสำคัญมากๆด้วย ผมเคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้วว่า ตอนนั้น ปรีดีได้วางแผนร่วมมือกับ จอมพล ป จะกลับมารื้อฟื้นคดีสวรรคตขึ้นใหม่ และนี่เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ในที่สุด อเมริกา สฤษดิ์ และ พวกเครือข่ายเจ้า ร่วมมือกันทำรัฐประหารล้มจอมพล ป ลงไป (ดูบทความผมทีนี่http://prachatai.com...l/2010/10/31599 )
(3) ช่วงทศวรรษ 2500 ที่ปรีดีอยู่ในจีน จนถึงเดินทางไปพักในฝรั่งเศส ในปี 2513 นั้น ความจริง ปรีดี ได้ทำอะไรบางอย่าง ที่ถ้ามีการพูดเปิดเผยกันออกมาอย่างเต็มที่แล้ว ไม่เพียง คณิต จะ "หน้าแตก" เทานั้น บรรดาคนรักเจ้า ที่ชอบอ้างปรีดี จะ "หนาว"
แต่นี่เป็นช่วงที่ผมบอกว่า มีข้อมูลบางอย่าง ทียังไม่สามารถพูดคุยกันอย่างเต็มที่ได้
ผมเองพอมีข้อมูลช่วงนี้อยุ่ แต่ทียังไม่พูด เพราะมันมีผลกระทบไปถึงครอบครัวปรีดีด้วย (ไมนับว่า ข้อมุลพวกนี้ ในทางกฎหมาย ยังมีข้อจำกัด ที่จะพูดเต็มที่)
(4) ถ้าจะบอกว่า มีอยุ่ช่วงเดียว ที่ปรีดี "อาจจะ" มีประเด็น "กลับได้ แต่ไม่กลับ" อย่างที่ คณิต ว่า ก็คือ ช่วงหลังจากปรีดี เดินทางไปอยู่ฝรังเศสแล้ว เพราะอย่างน้อย ช่วงนั้น คดีหมดอายุความแล้ว
แต่จริงๆ ตลอด 13 ปีทีปรีดีอยู่ในฝรั่งเศส (2513-2526) ข้อกล่าวหาที่ว่า เขามีส่วนในกรณีสวรรคต ก็ยังแพร่หลายอยู่ เพิ่งจะมา "จาง" ลงก่อนเขาตายเพียงปีเดียว ดังนั้น ถ้าปรีดี กลับมาในช่วงนี้ ก็ยังมีความเสี่ยง จะโดนเล่นงาน ถึงไมใช่ในทางกฎหมาย ก็ในทางอื่น
หลัง 14 ตุลา 2516 มีช่วงหนึง มีข่าวลือว่า ปรีดี อาจจะกลับมาเมืองไทย ปรากฏว่า ช่วงนั้น (ประมาณมิถุนายน 2517) มีหนังสือเกียวกับกรณีสวรรคต ออกมาหลายเล่ม โดยเฉพาะคือ หนังสือของพวกโปรเจ้า ชื่อ "กรณีสวรรคต 9 มิถุนายน 2489" ที่เขียนโดย สรรใจ แสงวิเชียร และ วิมลพรรณ ปีตธวัชชัย ซึงใส่ความปรีดีว่า มีส่วนเกียวข้องกับกรณีสวรรคต (ไม่กล้ากล่าวหาตรงๆ แต่พูดเป็นนัยๆ)
ผมเคยเล่าเรื่องนี้ไปแล้วว่า มีการพูดๆกันในตอนนั้นว่า ที่พวกโปรเจ้า ออกหนังสือกรณีสวรรคตออกมา ก็เพราะกลัวข่าวลือที่ว่า ปรีดี อาจจะกลับเข้ามานี่แหละ (ดูบทความผม ที่นี่ โดยเฉพาะ 2 ย่อหน้าแรกhttp://somsakwork.bl.../blog-post.html )
พูดง่ายๆ แค่มีข่าวลือว่า ปรีดี อาจจะกลับเข้ามา พวกนิยมเจ้า ยังเดือดเนื้อร้อนใจเป็นการใหญ่ พยายาม "ดักคอ" ปรีดี ไม่ให้กลับ
ในสถานการณ์แบบนี้ ปรีดี จะกลับมาได้ยังไง?
กว่าที่ข้อกล่าวหาของพวกนิยมเจ้า ที่ว่า ปรีดี มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีสวรรคต จะ "จาง" ลงไป (ต้องนับว่า เป็นคุณูปการของคนอย่างคุณสุพจน์ ด่านตระกูล และตอนท้ายๆ ของ Sulak Sivaraksa ด้วย) ตอนนั้น ก็สายมากแล้ว คือ เพียงประมาณปีเดียว ก่อนปรีดีถึงแก่กรรม)
ศรุปแล้ว ดร.คณิต หรือใครก็ตาม ควรหยุดเล่น "มุข" ปรีดี ไม่กลับประเทศ เพราะ "เสียสละ เพื่อความสงบของบ้านเมือง" ได้แล้วครับ
กล่าวโดยรวมแล้ว พวกนิยมเจ้า พวกใกล้ชิดราชสำนักไทยนี่แหละ ที่ทำให้ปรีดีกลับไม่ได้
(เอามาจากเฟสบุ๊ค สมศักดิ์ เจียม)
Posted by ดราม่า on 1 August 2012 - 11:39
Posted by ดราม่า on 31 July 2012 - 23:51
คมคายดีครับคุณ ตะนิ่นตาญี
แต่เชื่อมั้ยครับ ถ้าเรามองดีๆ คนพวกนี้ไม่ได้มีตรรกะอะไรหรอกครับ มันมั่วซะมากกว่า
Posted by ดราม่า on 31 July 2012 - 19:42
Posted by ดราม่า on 30 July 2012 - 23:56
Posted by ดราม่า on 30 July 2012 - 23:19
Community Forum Software by IP.Board 3.4.6
Licensed to: serithai.net