Jump to content


asawinee

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2554
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2557 20:33
*****

#140954 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:54

นึ่งเสร็จแล้วววว
ขนมหน้าตาเป็นอย่างนี้นี่เอง
Posted Image

ส่วนนี่ กระทงใบตองหมด เลยใส่ชามซะเลย อิ อิ

Posted Image

สิริรวมใช้เวลาทำขนมตาล 2 วันเต็ม
วันแรกยีลูกตาล ปล่อยให้น้ำหยดข้ามวัน
วันที่สอง ตอนเช้า ผสมแป้งกับเนื้อลูกตาล กะทิละลายน้ำตาลปึก กว่าจะได้นึ่งก็บ่ายแก่ๆ

รสชาติก็โอเคนะสำหรับการทำครั้งแรก
สีสันออกส้มเหลืองเข้มมาก เพราะใส่เนื้อตาลเยอะ แถมน้ำตาลที่ใช้ยังเป็นน้ำตาลปึก ไม่ใช่น้ำตาลทรายอีก เลยทำให้สัสันจัดจ้านมากๆ
ตอนนึ่งกลิ่นขนมตาลฟุ้งกระจายไปสามบ้านแปดบ้าน ตอนกินกลิ่นตาลสุกก็แรงสมใจ


#140874 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 21:04

ขอบอกว่าประสบการณ์การทำขนมตาลในครั้งแรก ทำให้ได้เรียนรู้ถึงหลายสิ่งหลายอย่าง
ขนมตาลนุ่มๆหอมๆที่เอาใส่ปากเคี้ยวอย่างง่ายดายนั้น มีกรรมวิธีขั้นตอนการทำที่แสนจะยุ่งยากซับซ้อน กินเวลานานมากกกกกกก

ใครที่ทำขนมตาลแท้ๆได้อร่อย ต้องขอบอกว่าช่างเป็นสุดยอดกุ๊กแดนสุวรรณภูมิเลยทีเดียว
(ที่บอกว่าขนมตาลแท้ๆนั้น เพราะปัจจุบันมีเนื้อลูกตาลสุกขายใส่ขวด บางคนเอาเนื้อลูกตาลจากขวดมาใช้นิดเดียว แต่กระหน่ำผงฟูลงไปในแป้งให้ขึ้นฟู ใส่สีเหลืองลงไป เนื้อขนมจะฟูจริงแต่กลิ่นและรสชาติจะเจือจาง)

สุดยอดกุ๊กแดนสุวรรณภูมิ ในการทำขนมตาล
ต้องมีพละกำลังมาก
ลำแขนจะต้องแข็งแรง เรียกว่าแรงต้องดีไม่มีตก เพื่อจะได้ยีตาลจากเส้นใยได้หมด เส้นใยนี้แข็งมากและยึดเกาะกับเนื้อตาลอย่างเหนียวแน่น จึงต้องออกแรงมากๆๆๆๆๆขูดเนื้อตาลผ่านตะแกรง

ต้องมีความอดทนรอ
เนื่องจากหลังจากแยกเนื้อตาลออกมาแล้วต้องเกรอะ เอาน้ำออกให้หมด ดังรูปที่ห้อยโตงเตงต่องแต่งนั่นแหละ
กรรมวิธีนี้อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลกล้วนๆ ใช้เวลาข้ามวันข้ามคืน เพื่อให้ได้เนื้อตาลที่แห้งจริงๆ

ต้องมีศิลปะในการผสมแป้งกับเนื้อตาล ไม่ให้เป็นเม็ด ต้องนวดจนแป้งเนียนไปกับเนื้อตาล นวดไปเติมกะทิละลายน้ำตาลปึกไปทีละน้อย ใส่ทีเดียวโครมครามไม่ได้

Posted Image

นี่คือส่วนผสมของ เนื้อตาล แป้งข้าวเจ้า กะทิซึ่งละลายน้ำตาลปึก ผสมเข้ากันดีแล้ว โปรดสังเกตไม่ได้ใส่ผงฟู เพราะในเนื้อตาลธรรมชาติจะมียีสต์อยู่ ทำให้ขนมฟูได้เอง

จากนั้นก็ต้องเอาไปผึ่งแดด ให้ขนมขึ้นฟู สังเกตจากการที่มีฟองอากาศปุดๆอยู่เต็มไปหมด
วันที่ทำขนม บังเอิญมืดครึ้มไม่มีแดด ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาโคมไฟส่องให้เกิดความร้อน
ทำแบบตำรวจเอาไฟส่องหน้าคนร้ายให้รับสารภาพยังไงยังงั้นเลย
ถึงตรงนี้ ก็ได้แต่ รอ ร้อ รอ เสียเวลาไปอีกหลายชั่วโมงเลยทีเดียว


ระหว่างรอขนมขึ้นฟู สุดยอดกุ๊ก ยังต้องเตรียมกระทงใบตองไว้รองรับขนม
ซึ่งสำหรับเราใช้ไม้กลัด ค่อยๆบรรจงเย็บกระทง งานนี้ไม่ใช้ลวดเย็บกระดาษ เนื่องจากกลัวสารพิษ

แล้วยังต้องขูดมะพร้าวทึนทึกไว้โรยหน้าขนมอีกด้วย

แต่ในที่สุดก็ได้้เห็นฟองอากาศปุดๆจนเต็มอ่างจนได้
Posted Image

ตักขนมใส่กระทง แล้วลงมือนึ่งกันเลย

ลองดูว่า ขนมที่ออกมาหน้าตาจะเป็นอย่่างไร


#140783 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:07

เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า....
แม่เราได้ไปทำธุระที่ ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ในวันหนึ่งก่อนที่น้องน้ำจะมาเยือน
ระหว่างทางที่เดินจากหอสมุดไปยังโรงพยาบาล สายตาก็ไปป๊ะกันแหมกับลูกตาลสีน้ำตาลดำมีขั้วสีเขียวตกอยู่บนทางเท้า ซึ่งปลูกต้นตาลเรียงรายไปตลอดทาง
คุณนายจึงไม่รอช้า เก็บใส่ถุงผ้ากลับบ้านมาเสียสองหน่วย
แต่กระนั้นเพื่อความชัวร์ จึงได้ถามเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยว่า เก็บเอาไปได้ไหม
เจ้าหน้าที่หญิงผู้นั้นก็แสนดี เห็นๆว่า ลูกตาลได้สถิตย์ในถุงอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงเอื้อนเอ่ยด้วยมธุรสวาจาว่า ลูกตาลสุกที่หล่นจากต้น มีมากมาย เชิญคุณป้าเอาไปได้ตามสบาย

เมื่อกลับถึงบ้าน ลูกสาวอย่างเราจึงถามแม่ตามบทสนทนาดังนี้
เรา...แม่เอามาทำไม หนักมิใช่น้อยเลยนะนั่น
แม่...เอามาทำขนมตาลน่ะสิ
เรา...แม่ทำเป็นเหรอ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นแม่ทำเลยนะ
แม่...ไม่เคยทำหรอก แต่คงไม่ยาก ใช้แป้ง น้ำตาล กะทิใส่เนื้อลูกตาลลงไป นึ่งให้สุกเป็นใช้ได้
เรา...โห!! แม่ ง่ายอย่างนั้นเลยเหรอ???? แล้วสูตรล่ะ ต้องใส่อะไรเท่าไหร่
แม่...จะไปรู้เหรอ
เรา...อ้าว!
แม่...จะยากอะไรยะ อินเทอร์เน็ตมีไว้ทำอะไร
เรา...เอ๋อไปเลย

เรากับน้องสาวจึงต้องค้นคว้าหาวิธีการนำเนื้อตาลออกมาจากลูกให้ได้ก่อน
จนได้เว็ปที่สอนการยีลูกตาลอย่างละเอียด
ซึ่งต้องขอบคุณ เว็ป ครัวบ้านพิม มา ณ ที่นี้ด้วย
http://www.pim.in.th...palm-fruit.html

นี่คือเมล็ดตาลที่ผ่านการยีจนเหลือแต่เส้นใย
Posted Image

นี่คือเนื้อตาลที่ผ่านการยีและเกรอะ เอาน้ำออกจนหมดแล้ว พร้อมจะนำไปทำขนม
Posted Image


#140401 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 15:05

โห!!!!! สุดยอดพ่อครัวกะทะเหล็ก!!!

คุณ GermanManiac ตอบได้ในทันที

ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ......

ข้าน้อยขอคารวะ!! :o :o


#140112 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:53

ในบอร์ด สรท นี้ มีผู้เชี่ยวชาญการทำอาหารอยู่หลายคน

อาทิ คุณดราม่า คุณตะนิ่นตาญี คุณGermanmaniac

มีนักชิม อย่างสาวน้อยมะจัง คุณ Pinkpanda คุณZombie ภูธร

มีสาวสวยที่คุณแม่ทำขนมไทยเก่งมากกกก... อย่างคุณ Ploychanpen

คงต้องมีใครสักคนที่ตอบได้ละว่า
ไอ้ที่ห้อยต่องแต่งข้างบนน่ะ
มันคือขั้นตอนการทำอาหารอะไร
:) ;)


#138833 เหอๆๆ...ตู่บอก "กัดป๋า" เป็นหน้าที่...

โดย asawinee on 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:38

ประคองกลุ่ม นปช เป็นหน้าที่
โจมตีป๋าเปรม เป็นหน้าที่
แขวะ ปชป เป็นหน้าที่
ปูดข่าว ปฏิวัติ ก็เป็นหน้าที่อีกเหมือนกัลลลลล :)
  • -3- likes this


#135928 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:37

แกงต่อยอด


ถ้าคุณอยากกินแกงเผ็ดสักอย่าง แล้วไปซื้อที่ร้าน คุณพบว่าในหม้อแกงนั้น มีแกงอยู่ก้นหม้อ ส่วนใหญ่เป็นน้ำกะทิ มีเนื้อเหลืออยู่มากพอที่จะขายคุณได้และเหลือเศษนิดหน่อย คุณจะตัดสินใจอย่างไร

ก. ไม่ซื้อ ของเหลือๆก้นหม้อ ไม่น่ากิน อาจจะใกล้บูดเสียแล้วก็ได้
ข. ซื้อ ภาวนาให้แม่ค้าตักควานเอาแต่เนื้อๆแถมมาให้หมด โดยคิดราคาเท่ากับปกติ
ค. ซื้อ เอ่ยปากบอกแม่ค้าให้ตักเอาแต่เนื้อๆมาให้หมด แล้วแถมน้ำแกงมาให้เยอะๆ จะใส่น้ำแกงมาในถุงต่างหาก แล้วคิดเงินเพิ่ม 5 บาท 10 บาท ก็ได้
คำตอบจะเป็นอะไร ข้อไหนก็ไม่มีผิดหรือถูก แต่ขอให้ลองอ่านเรื่องต่อไปนี้ดู

แม่เราไปตลาด ตั้งใจจะซื้อแกงจากเจ้าประจำ ร้านนี้ทำแกงได้อร่อย รสดี สะอาด ราคาสมเหตุสมผล แต่ทว่าวันนี้บังเอิญแกงเขียวหวานปลาดุกที่แม่ค้าปรุงมาขายนั้น เหลือแต่น้ำแกงกะทิ มะเขือเปาะผ่าสี่ พริกชี้ฟ้าทั้งแดงและเขียวหั่นเฉียง ใบโหระพา กระชายซอยเป็นเส้นยาว แค่นั้น ส่วนเนื้อปลาขายหมดแล้ว แม่ค้ามองตาแม่ก็รู้ใจ ตักส่วนประกอบของแกงที่เหลือให้แม่จนหมด รวมทั้งน้ำแกงกะทิสีเขียวมันย่องเข้มข้นอีกถุงโตๆแยกมาต่างหาก

ทั้งหมดนี่ ฟรี!!!

อันที่จริง ถึงไม่ยกให้แม่ฟรีๆ แม่ค้าก็ต้องทิ้งอยู่แล้ว เพราะเขาจะทำแกงใหม่ๆสดๆทุกเช้า ไม่เคยเอาของเหลือค้างข้ามวันมาขายลูกค้าเลย

เมื่อได้แกงมาถุงโต แม่เราจึงไปซื้อปลาดุกบิ๊กอุยมา 1 ตัวราคา 31 บาท พ่อค้าปลาจัดแจงทำปลาให้เรียบร้อย แม่เราจึงนำมาต่อยอดกับน้ำกะทิแกงที่ได้มาฟรีๆ

เอาเฉพาะส่วนน้ำกะทิแกงมาตั้งไฟให้เดือดใส่ปลาดุกลงไปต้มให้สุก ห้ามคนเด็ดขาด พอปลาสุกค่อยใส่เครื่องเคราที่เหลือ พวกมะเขือ พริกชี้ฟ้า กระชาย ใบโหระพาซึ่งได้มาจากแม่ค้าลงไปในหม้อ ถ้านำไปต้มรวมกันตั้งแต่แรก มะเขือจะเละและดำไม่น่ากิน พริกชี้ฟ้าก็เหมือนกัน
ลองชิมดูรสชาติตามชอบ
เสร็จแล้วก็ได้แกงเขียวหวานปลาดุกดังภาพ

Posted Image

การทำแกงหนึ่งหม้อครั้งนี้ ประหยัดค่ากะทิไป 30 บาท (ครึ่งกิโล) ค่าพริกแกง 15 บาท มะเขือ 5 บาท เห็นๆ
ต้นทุนเครื่องปรุงจึงอยู่ที่ค่าปลาดุก 31 บาท เท่านั้น
แล้วยังไม่เสียเวลาในการโขลกพริกแกง ผัดน้ำพริกแกงกับกะทิ ให้เหนื่อย
นอกจากจะน่ากินแล้ว ยังประหยัดเงิน ประหยัดเวลาในการทำแกงสุดๆ

ใครที่ไปซื้อแกงจากแม่ค้าแล้วอยากนำเทคนิคนี้ไปใช้ ต้องคอยเล็งให้ดีว่าร้านข้าวแกงร้านที่ว่า มักจะขายใกล้หมดเมื่อไหร่ และควรซื้อแกงจากแม่ค้าไปด้วยหนึ่งถุง หรืออาจจะซื้อกับข้าวอย่างอื่นไปด้วยก็ได้เพื่อไม่ให้น่าเกลียด
แต่ในกรณีแม่ของเรา ซึ่งเป็นลูกค้าร้านข้าวแกงนี้มาสามสิบปี จนกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว เลยไม่แปลกที่จะได้แกงก้นหม้อมาฟรีๆ

กับร้านขายอาหารมังสวิรัติที่แม่เราไม่ได้สนิทกันอย่างร้านข้าวแกงข้างต้น ก็ไม่รีรอที่ทำแบบเดียวกัน กล่าวคือ ถ้าไปซื้อแล้วบังเอิญเจอแกงก้นหม้อ แม่ก็จะซื้อที่เหลือมาจนหมดหม้อ แล้วมาต่อยอด เติมโน่นเติมนี่จนครบ ได้แกงหม้อโต กินได้หลายมื้อ

น้ำกะทิแกงนี้ ถ้ายังไม่อยากทำกินในทันที นำไปใส่ตู้เย็นช่องแข็งไว้ก่อนก็ได้ อยากกินเมื่อไหร่ค่อยเอาออกมาละลาย
ลองปรับดูว่าเราจะใส่อะไรลงไปในแกง เนื้อสัตว์ใส่มากน้อยตามใจ ข้อควรระวังคือถ้าจะใส่เนื้อปลา หรือลูกชิ้นปลา หอยแมลงภู่ ต้องใส่กระชายเพื่อดับกลิ่นคาวด้วย
ผัก อาจเป็นมะเขือเปาะ มะเขือพวง มะเขือยาว ฟักทอง เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า ฟัก ก็ได้


#135387 ทหารจะปฏิวัติ!!!

โดย asawinee on 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 20:37

เกรงว่า จะอยู่ไม่ถึงตอนแก่ :D


#133140 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 11:31

แกงเหลืองปลาย่างใบมะขาม >>> อันนี้สูตรปักษ์ใต้ของท่านแม่ เปรี้ยวจี้ด ทานกับไข่เจียวหอมๆ
เอาไปกินเวลาเข้าสวนกับพ่อ กินแล้วรู้สึกมีแรงทำงาน
ต้นทุนก็ถูกใบมะขามของเพื่อนบ้าน เครื่องแกงส้ม 5 บาท
มะนาวต้นหลังบ้าน ปลาย่าง 20 กว่าบาท(ตัวสีชมพู แม่บอกว่าคือปลาตาหวาน)



เมนูเผือก >>> แถวใต้เรียกหัวบอน : )
เมนู 1 แกงเหลืองก้านเผือก >>> อันนี้ต้องใช้ประสบการณ์ เพราะข้าพเจ้าเคยลองทำแล้ว ตอนกินคันคอมาก เปลี่ยนไปใช้บอนกระดาษก็ได้อร่อยดี
เมนู 2 เกายุก >>> เมนูนี้ไม่ราคาถูกท่าไหร่ แต่รับประกันความอร่อยขั้นเทพ
http://www.bloggang....group=1&gblog=5

เมนู 3 แกงเลียงเผือก >>> ไปเจอมาพอดีเลยเอามาแปะซะhttp://rueanthai2.le...9/<br /><br />เมนู 4 ขนมหวาน&ของกินเล่น >>> เผือกแกงบวด บัวลอยใส่เผือก เผือกทอด(ไทยฟราย 555) ฯลฯ


ขอบคุณที่แวะมาชมและแชร์ค่ะ
แกงเหลืองปลาย่างใบมะขาม ทำเสร็จแล้วต้องตักไปแจกเพื่อนบ้านเจ้าของใบมะขามด้วยแน่ๆใช่ไหมคะ
ปลาตาหวาน หน้าตาเป็นไง ไม่เคยเห็นเลย
ตาหวานประมาณการ์ตูนนี้ได้ป่าว



Posted Image


#133093 ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

โดย asawinee on 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 10:55

Posted Image


กดล้านไลค์ให้เรยยยยย

ฮากระจายปากซอยยันท้ายซอย :D :D :D


#130354 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:20

ส่วนขนมหวานนี่ไม่เกี่ยวกับเทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย
เพียงแต่ว่า พ่อเราไปซื้อฟักทองลูกบักเอ้ก หนักสุดๆ มาหนึ่งลูก ราคาแค่ 13 บาท
เลยบงการให้แม่ทำฟักทองสังขยา
ดูเหมือนฟักทองราคาถูก แต่พอลงมือทำจริงๆ พ่อถึงได้ทราบว่า ขนมชนิดนี้ไม่ได้ถูกอย่างที่คิด
ฟักทอง 13 บาท
มะพร้าว 30 บาท
ไข่เป็ด 5 ฟอง 20 บาท
น้ำตาลปึก 20 บาท
ใบเตย เด็ดเอาที่กระถางหน้าบ้าน ฟรี
รวมเบ็ดเสร็จ 83 บาท
ดูเหมือนต้นทุนจะไม่แพง แต่ขอโทษที ใช้เวลานึ่ง 3 ชั่วโมงเศษ!!!
กว่าจะสุกได้อย่างนี้

Posted Image

Posted Image


#130336 เทคนิคทำอาหารประหยัดและอร่อย ในยุคข้าวยากหมากแพง

โดย asawinee on 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 12:12

ขออนุญาตประชันแกงจืดตำลึงหมูสับกับคุณตะนิ่นตาญีค่ะ
Posted Image

Posted Image


#129221 พล.อ.เปรม ตอบรับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นปธ."รักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย"

โดย asawinee on 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:57

ข่าวที่ จขกท มาโพสต์คือเรื่อง การจัดงานขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม ในวันที่ 10 กพ นี้

อยากจัดก็ไม่ว่ากัน ถ้าจะขอบคุณบรรดาจิตอาสา มูลนิธิ โดยเฉพาะทหารที่ทุ่มเทช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
แต่ถามจริงเหอะ ไอ้ศูนย์ปั่นป่วนทั่วพิภพ กับ สส รัฐบาลไม่อายบ้างเรอที่มีแต่ข่าวเหม็นโฉ่ ล้มเหลวในการแก้ปัญหา ทุจริตซ้ำเติมชาวบ้าน
แล้วยังมีหน้ามาจัดงานถ่ายทอดสดทางทีวี ประกาศความสำเร็จในการแก้ปัญหาน้ำ
โดยการลากป๋าเปรมมาแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเข้ากับใครก็ได้ ไม่มีปัญหา สร้างภาพกลบเกลื่อนชัดๆ

ตอนนี้ ขณะนี้ยังมีบางพื่้้นที่ๆน้ำยังท่วมขังอยู่ ยังแห้งไม่สนิท
หลายพื้นที่ทั้งกทม กับ ต่างจังหวัด เงินเยียวยายังไม่ได้รับ
โรงงานในนิคมต่างปิดตัวลงบ้าง เดินเครื่องจักรยังไมได้บ้าง ประกาศย้ายฐานการผลิตบ้าง
นางยกปูไม่อายหรือไง ที่ปัญหายังแก้ไขไม่ลุล่วง มีหน้ามาตีปี๊บอวดความสำเร็จ

ที่น่าแค้นใจที่สุดคือ เมื่อวันเฉลิม 5 ธค ที่ผ่านมา
รัฐบาลน่าสะอิดสะเอียนนี้ กลับตัดลดการแสดงแสงสีเสียงที่กำแพงพระบรมมหาราชวังลง โดยอ้างว่า น้ำท่วม ประชาชนยังทุกข์โศก ขอตัดงบไปช่วยชาวบ้าน จึงงดจัดงาน
รัฐบาลไม่ตระหนักเลยว่า ได้เหยียบย่ำน้ำใจคนไทยที่ต้องการถวายพระเกียรติแด่ในหลวงเนื่องในวโรกาสสำคัญ

แต่คราวนี้กลับมีงบมาจัดงานเอิกเกริกใหญ่โต ตีฆ้องร้องป่าวได้อย่างหน้าไม่อาย ทั้งๆที่ยังมีชาวบ้านที่ยังคงเดือดร้อนอยู่ไม่น้อย


#127384 พล.อ.เปรม ตอบรับ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นปธ."รักเมืองไทยเดินหน้าประเทศไทย"

โดย asawinee on 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 19:25

มีรูปนางยกนกแก้วคู่กับ ป๋าเปรมมากๆก็ดี
ใครบางคนที่อินกับไพร่อำมาตย์มากๆจะได้อกแตกตาย :D


#125336 เนชั่นแชลแนล เขาบอกว่าซัมซุงย้ายไปเวียดนาม โตชิบ้าไปอินเดีย

โดย asawinee on 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 - 09:28

ไม่รู้จะโยงเรื่องกันได้รึป่าว
น้ำท่วม โรงงานย้ายหนี คนตกงาน

ช่วงนี้ข่าวคนปล้นแบงค์ กับข่าว คนขี่มอไซค์ถูกถีบชิงรถ ถึงได้เยอะจัด