Jump to content


Baboonga

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 23 มกราคม 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2555 00:03
-----

#257461 อจ.ปรีดีอยากบอกเด็กธรรมศาสตร์ทุกคนว่า...เสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่สิ่งที่น้องทำม...

โดย Baboonga on 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 00:38

สมมติว่ามีคนทำรูปปั้นอากงที่เสียชีวิตไปแล้ว หรือ รูปปั้น ทักษิณ ที่เป็นที่เคารพรักของคนเสื้อแดง และคนที่เลือกพรรคเพื่อไทย

ต่อมา มีหญิงคนหนึ่งมาทำท่าเดียวกันกับน้องที่เอาขาก่ายรูปปั้นคุณปรีดี

ขอถามเพื่อนสมาชิกว่า ท่านคิดเห็นอย่างไรครับ หญิงคนนั้น กระทำสิ่งไม่สมควรหรือไม่ อย่างไร?


ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ เพราะการกระทำสิ่่งใดๆ ที่ไปก้าวล่วงความรู้สึกผู้อื่น ย่อมไม่สมควรกระทำ แม้จะในที่ลับ หรือที่แจ้ง


#257407 ทำไม ปชป. จึงอยากให้สินค้ามีราคาแพง? ทำไมคนเชียร์ ปชป. จึงช่วยทำให้สินค้ามีรา...

โดย Baboonga on 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 23:13

ขอตอบ แต่ในฐานะ คนที่ไม่ได้เชียร์ ปชป. และไม่เคยเชียร์พรรคไหน แต่เกลียดเสื้อแดง

ของมันแพงจริง เราต้องยอมรับ เพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่เอาแต่พูดว่าของไม่แพงๆๆๆๆ ทั้งๆ ที่สถานการณ์จริงๆ มันเป็นอย่างไร คนส่วนใหญ่เค้าก็รับรู้ได้ เค้าต้องการสะท้อนความจริงเพื่อให้รัฐบาลได้แก้ปัญหา ไม่ใช่หมักหมมปัญหา แล้วเอาแต่พูดว่าของไม่แพง


#255559 ถามคุณล่าวิญญาณ

โดย Baboonga on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 20:30

Posted Image



คุณว่าทักษิณมีดีตรงไหน ผมอยากให้คุณแสดงผลงานของทักษิณมี่ผ่านมา ที่เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าพ้ฒนาประเทศชาติให้ดีขึ้น คงไม่ยากเกินไปนะครับ 555+


ทักษิณมีดีที่มีผลงาน เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา เป็นรูปธรรมสามารถจับต้องได้

ประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้รับประโยชน์

เพราะว่า "ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน"

คำนี้คงเหมาะที่จะกล่าว ทักษิณ คุณคือ มืออาชีพจริงๆ.... ;)


ผมให้คะแนนจากภาพแค่สองเรื่อง

สนามบิน กับ 30 บาท

นอกนั้นเขียนมาทำไมเยอะแยะอ่ะครับ ดูละไม่เกี่ยวเลย ไม่เห็นเป็นรูปธรรม


#255166 อจ.ปรีดีอยากบอกเด็กธรรมศาสตร์ทุกคนว่า...เสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่สิ่งที่น้องทำม...

โดย Baboonga on 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:13

ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำของภาพนี้ครับ แม้ผมจะไม่ได้ชื่นชอบปรีดีก็ตาม (แถมเกลียดด้วยซ้ำ) แต่ผมก็เคารพคนที่ชื่นชอบ และเทิดทูนท่านเหนือสิ่งใด

แม้เสรีภาพจะมีมากขนาดไหน ก็ต้องมาพร้อมกับความรู้สึกถูกกาลเทศะ ตามหลักธรรมสัปปุริสธรรม

http://th.wikipedia....%B8%A3%E0%B8%A1

ปล. ถ้าโลกนี้จะยึดกฎหมายอย่างเดียวเป็นที่ตั้ง มันคงวุ่นวายน่าดู หากคนขาดจิตสำนึก ที่ถูกที่ควร


#253702 ขอหลักฐานที่สามารถยืนยันทางกฎหมายได้ว่า "เลขอีมี่โทรศัพท์มือถือ" ไม่ส...

โดย Baboonga on 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:04

http://panithan-pani...og-post_25.html

อ่านหรือยังครับ ?

ไม่มีใครบอกว่า "เลขอีมี่ปลอมแปลงไม่ได้" แต่เลขอีมี่ไม่มีทางซ้ำกันได้ครับ

เข้าใจระบบ IMEI ซะก่อน หนังสือหนังหา ความรู้ในอินเตอร์เนทมีเยอะแยะ

http://en.wikipedia....ipment_Identity

อ่านออกป่ะ ภาษาอังกฤษ ?

แล้วระบบพิจารณาคดีเค้าไม่ได้ใช้แค่ IMEI มาพิจารณาอย่างเดียว เค้าใช้ทั้ง Log จากผู้ให้บริการ cell site ที่ใช้งาน

ซึ่งหากมีการปลอมแปลงจริง log ที่เกิดขึ้นจะรู้ว่า IMEI นี้ปลอมแปลงจริงหรือไม่ แต่ทางทนายก็ไม่พยายามที่จะค้นหาว่ามีการปลอมแปลง IMEI จริงๆ... ดราม่าเหลือหลาย

ถ้าจะเอาเขามาควิด ก็หัดลับเขาให้แหลมก่อน


#252487 ด่วน ตอนนี้พี่น้องชาวตำบลสาคู ภุเก็ต กำลังปิดล้อมเวทีไม่ให่พวกเสื้อแดงมาตั้งเ...

โดย Baboonga on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:50

Posted Image
ส่งกำลังใจ ไห้พี่น้องเราที่ภูเก็ต
กับภารกิจต้านควาย หยุดเขื้อโรค*** สู้โว้ยยย
ไม่เหมาะกับผู้นิยมเหลี่ยม
โดย: น้องหยาด กะลังเอาอยู่

ที่ภูเก็ต เขาประจันหน้ากัน มาเป็น ๑๐ ชั่วโมงแล้ว ทีวี ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑
ขอโทษเถอะ... ทำ***ไรอยู่ ? ปิดหู ปิดตา งั้นสิ ???


Tukta Pearce


Lynn Evelyne หมู่บ้านเสื้อแดง" คนดีๆเขาไม่เอาด้วยหรอก มันเสนียด***แผ่นดินไทย
Ladda Wong กลัวควายตาสว่าง
แถวนี้ไม่มีหญ้า ไห้ควายแดงแดก ส่งกำลังใจ ไห้พี่น้องเราหน่อย
Amporn Ood มันต้องปิดไม่งั้นอดได้ค่าขนม
Nida Chompoo มีช่อง ทีนิวส์ค่ะทีเสนอข่าวเป็นระยะ



เห็นภาพแล้วทำให้ผมหนังเรื่อง Resident Evil หรือหนังแนวซอมบี้เลย

เชื้อโรคมันกำลังจะลามไปทั่วประเทศ


#252481 ประเด็นเรื่อง ม.112 กับอากงและนิติราษฎร์(แก้)

โดย Baboonga on 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 17:45

เชื่อง่ายไปนะครับ TFEX เค้าพูดว่า 112 เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งทางการเมือง ผมไปถามหาตัวอย่างไม่มีคนให้ตัวอย่างได้สักที

อีกอย่าง คุณแก้กฎหมายเพื่อลดโทษ ผมถามหน่อยเหอะว่า ถ้าลดโทษลงมาแล้วจะไม่แกล้งกันเหรอครับ ?

ถ้าจะบอกว่าให้ฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ฟ้องได้เท่านั้น อันนี้ผมเห็นด้วย แต่จะมาบอกว่าลดโทษ ผมว่ามันทุเรศครับ เอาฉากอื่นมาบังหน้า เหมารวมแพ็คเกจ เหมือนกับพวกค่ายมือถือที่หาวิธีโกงกินเงินคนใช้ทุกรูปแบบ

สมมติว่าโทษลดลงมาเหลือ 1 ปี ผมถามจริงๆ เหอะ ถ้าคนมันจะแกล้งกันยังไง มันก็หาเรื่องได้อยู่แล้ว มันไม่เกี่ยวกับจำนวนโทษที่ได้รับเลย


#248699 เอามาฝากครับ "คำพิพากษา คดีอากง"

โดย Baboonga on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 18:24

http://panithan-pani...og-post_25.html


อีมี่ ดราม่า อากง




ผมคงเป็นคนใจร้ายแน่ๆ ถ้าจะบอกว่า ดราม่าไม่ใช่วิธีการสู้คดี และไม่รู้สึกว่าจำเลยในคดี “SMS 20 ปีน่าสงสารเห็นใจเท่าที่มีความพยายามปั้นแต่งกัน
ที่จริง แรกที่ผมได้อ่านผ่านๆ คำพิพากษาจำคุกจำเลย 20 ปี ในคดีส่ง SMS หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเขาเรียกกันเป็นการทั่วไปว่า “คดีอากง SMS” (แต่ผมไม่สะดวกใจจะเรียกตามนั้น ด้วยเหตุผลอะไรไว้ค่อยว่ากันตอนท้าย) ความรู้สึกของผมก็คงไม่ต่างจากคนอีกมาก ที่เห็นว่าเป็นการลงโทษที่หนักหนาสาหัสอยู่สักหน่อย แม้จะรู้ว่า 20 ปีเป็นผลรวมของฐานความผิดรวม 4 ครั้ง ก็ตาม

Posted Image


แต่เมื่ออ่านรายละเอียดช้าๆ ผมก็เริ่มสะดุดกับเรื่องของ IMEI (International Mobile Equipment Identity) ซึ่งเป็นเลขรหัสประจำเครื่องโทรศัพท์มือถือของจำเลย ตามบันทึกสรุปคำพิพากษาและบันทึกการสืบพยานของฝ่ายทนายจำเลย (ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลฝั่งเดียวที่ผมหาได้เกี่ยวกับคดีนี้ เพื่อนทนายบอกว่าคำพิพากษาในคดีที่ยังไม่ถึงที่สุดจะยังไม่มีการพิมพ์เผยแพร่ ส่วนการขอคัดคำพิพากษาในคดีจะทำได้เฉพาะคู่ความ) อ้างว่า ศาลวิเคราะห์ว่า หมายเลขอีมี่ 14 หลักแรกเท่านั้นที่มีความสำคัญ...” แต่ทนายจำเลยได้นำมาเป็นประเด็นแย้งหลังคำพิพากษาว่า เลขหลักสุดท้าย (หลักที่ 15) ของเลข IMEI ในเครื่องโทรศัพท์ของจำเลย ไม่ตรงกับเลข IMEI ในรายงานการใช้บริการโทรศัพท์ (log) ที่ได้จากผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั้ง 2 ราย (ในที่นี้คือ DTAC และ True)
ประเด็นนี้ถูกนำไปขยายความ (และหลงเชื่อ) กันอย่างกว้างขวาง ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องยากในการค้นหาความจริงว่า เลขหลักสุดท้าย (หลักที่ 15) เป็น check digit หรือเลขทดสอบความถูกต้องของเลข 14 ตัวแรก ถ้าเลขตัวสุดท้ายถูกต้องตามหลักการคำนวณอัลกอริทึมแบบลุน (Luhn algorithm) ก็จะระบุรายละเอียดยี่ห้อ-รุ่น-เลขลำดับของโทรศัพท์ได้ แต่ถ้าเลขหลักสุดท้ายผิด ก็จะไม่พบข้อมูลของโทรศัพท์ตามเลขอีมี่ที่ผิดนั้น
ถ้ายังงงๆ อยู่ ลองนึกเลขรหัส ISBN ที่อยู่หลังปกหนังสือนะครับ เป็นเลขชุดคล้ายๆ กับเลขIMEI ของโทรศัพท์ ต่างกันเพียง 13 หลักกับ 15 หลัก โดยที่หลักสุดท้ายเป็น check digit เหมือนกัน ถ้าเราป้อนเลข ISBN 12 ตัวแรกของหนังสือเล่มหนึ่ง สมมติว่าเป็น ISBN 978974991617 ในระบบค้นหาของกูเกิ้ล ผลที่ได้ก็คือ การค้นหาของคุณ - ISBN 978974991617- ไม่ตรงกับเอกสารใดๆ” จากนั้นถ้าลองป้อนเลขชุดเดิมและเพิ่มเลขหลักสุดท้ายแบบสุ่มไปเรื่อย (สมมติว่าไม่รู้เลขหลักสุดท้าย) การลองตั้งแต่เลข 0 ถึงเลข 8 จะได้ผลลัพธ์เหมือนข้างต้น จนเมื่อป้อนเลข 9 เป็นหลักสุดท้าย ก็จะได้รายละเอียดเบื้องต้นว่าเป็นหนังสือแปลเรื่อง แผนลวงสะท้านโลก ซึ่งแปลจาก Deception Point ของ แดน บราวน์โดย อรดี สุวรรณโกมล ไม่มีเล่มอื่นซ้ำแน่นอน
ในทำนองเดียวกัน เลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของเรา แม้ว่าจะไม่มีแหล่งให้ตรวจสอบได้ว่าเลขประจำตัวนั้นๆ เป็นของใคร (ซึ่งก็ไม่สมควรจะมีหรอก) แต่ก็มีโปรแกรม/เว็บไซต์ที่ใช้ตรวจสอบเบื้องต้นได้ว่ามีเลขประจำตัวชุดนั้นๆ อยู่จริงหรือไม่ ทดลองกรอกเลขประจำตัวของเราลงไป ระบบจะยืนยันการมีอยู่ของเลขชุดดังกล่าว แต่ถ้าลองเปลี่ยนเลขหลักสุดท้าย ระบบก็จะแจ้งว่าเป็นเลขรหัสที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งช่วยยืนยันว่าจะไม่มีใครที่มีเลข 12 หลักแรกตรงกับเราทั้ง 12 หลักแน่ๆ
หลักการของเลข ISBN และเลขประจำตัวประชาชน ก็เหมือนกับเลข IMEI คือ เลขหลักสุดท้ายไม่มีความสำคัญในแง่ที่ว่า จะมีเพียงเลขเดียว (จาก 0-9) เท่านั้นที่ถูกต้อง-ในฐานะ check digit และจะไม่มีเลขชุดแรก (12 หลักของเลข ISBN และเลขประจำตัวประชาชน, 14 หลักของเลข IMEI) ซ้ำกันเด็ดขาด
ผมจึงขอสรุปไว้ตรงนี้ก่อนว่า “จะไม่มีโทรศัพท์มือถือสองเครื่องใดในโลกที่มีเลข IMEI ตรงกัน”(No two mobile handsets in the world should have the same IMEI number) ตรงนี้สำคัญนะครับ และเขาก็มีหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่กำหนดเลข IMEI ให้กับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ (เหมือนกับเลข ISBNของเราที่ต้องขอจาก กลุ่มงานคัดเลือกและประเมินคุณภาพทรัพยากรห้องสมุด สำนักหอสมุดแห่งชาติ) ไม่ใช่ว่าผู้ผลิตยี่ห้อไหนจะกำหนดเอาเองอย่างไรก็ได้
และยิ่งไม่ใช่เรื่องที่มาอ้างกันมั่วๆ แบบ “ผู้รู้” ใน มติชนออนไลน์ ว่า หมายเลข IMEI นั้น ไม่ใช่Unique Number มีมือถือหลายเครื่องที่มี IMEI ซ้ำกันได้ โดยมีทั้งการที่ซ้ำกันมาตั้งแต่โรงงานผู้ผลิต และซ้ำกันเพราะมาแก้ไข IMEI เองในภายหลัง ซึ่งถ้าไม่รู้-แต่มั่วๆกันไป ก็พออภัย แต่ในเมื่ออ้างว่าเป็น “ผู้รู้” ก็ต้องถือว่าตั้งใจบิดเบือน
คือ ถ้าจะพูดเรื่องปลอม IMEI ก็ต้องบอกว่าทำได้ เครื่องที่ใช้เลข IMEI ปลอม ก็ต้องบอกว่ามี แต่นั่นคือข้อยกเว้น และถ้าเป็นช่วงก่อนปี 2545 การพูดอย่างนั้นจะพอมีน้ำหนัก เพราะเป็นยุคที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังล็อครหัส IMEI ให้เครื่องที่ซื้อจากผู้ให้บริการ (ซึ่งขายในราคาแพงหลุดโลก) เท่านั้นที่นำมาใช้งานในระบบได้ แต่เมื่อเลิกล็อคและให้ผู้ผลิตโทรศัพท์ขายได้เองโดยเสรี กระทั่งราคาตัวเครื่องโทรศัพท์ลดลงมามากมาย ไม่เพียงแต่จะไม่มีใครสนใจเรื่องปลอม IMEI อีกต่อไป คนที่เพิ่งมาใช้โทรศัพท์มือถือในระยะหลังจำนวนมาก ไม่เคยได้ยินเรื่องเลข IMEI ด้วยซ้ำ

ก้าวข้ามประเด็นเรื่อง 14 หลัก/15 หลัก และอีมี่ปลอมมาได้ ก็มีคำถามต่อมาว่า ทำไมเลขหลักสุดท้ายในรายงาน (log) ของผู้ให้บริการ (DTAC กับ True) ไม่ตรงกับเลขหลักสุดท้ายที่ตัวเครื่องของกลางของจำเลย
ตามบันทึกสังเกตการณ์การสืบพยานของฝ่ายทนายจำเลยเอง สรุปคำให้การของเจ้าหน้าที่สืบสวนว่า การตรวจสอบหมายเลขในเครือข่าย DTAC ที่ใช้ส่ง SMS หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ไปยังโทรศัพท์ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุการส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้เป็นพยานโจทก์และผู้กล่าวโทษในคดีนี้) พบว่าเป็นหมายเลข xxx-xxx-3615 แบบเติมเงิน ที่ใช้งานกับเครื่องโทรศัพท์ที่มีหมายเลข IMEI 358906000230110 เมื่อนำเลข IMEI ข้ามไปตรวจสอบกับ True พบว่าเลข IMEI ดังกล่าวใช้ร่วมกับซิมของโทรศัพท์หมายเลข xxx-xxx-4627
ทนายจำเลยอ้างว่า เลข IMEI ของจำเลยเป็นเลข 358906000230116 แต่ log ของDTAC ระบุเป็น 358906000230110 ประเด็นนี้สามารถอธิบายโดยหลักการได้ง่ายๆ ว่าเป็นแนวปฏิบัติของระบบ (ซึ่งเป็นมาตรฐานเดิมที่ใช้กันทั่วโลก ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ check digit ที่ถูกต้องตามจริง แต่ประเทศไทยยังไม่มีข้อกำหนดให้ผู้ให้บริการต้องจัดทำ log มาตรฐานใหม่) ที่แปลงเลขหลักสุดท้ายเป็น 0 ทั้งหมด จริงเท็จประการใด ผู้เกี่ยวข้องในคดี-โดยเฉพาะทนายจำเลย-สามารถใช้สิทธิ์ตรวจสอบได้ว่า log ของDTAC แสดงเลข IMEI หลักสุดท้ายของเครื่องอื่นๆ แตกต่างไปจากเลข 0 หรือไม่
ในกรณี log ของ True ที่ฝ่ายทนายจำเลยอ้างว่า มีทั้งลงท้ายด้วย 0 และ 2 ก็น่าจะตรวจสอบได้แบบเดียวกัน เพื่อหาคำตอบว่าระบบรายงานของ True เป็นอย่างไรให้สิ้นสงสัย มากกว่าการอธิบายลับหลังคำพิพากษา
นอกจากนั้น การที่ log ของผู้ให้บริการทั้ง DTAC และ True ได้แสดงข้อมูลทั้ง IMEI (เลขรหัสระบุตัวเครื่อง), IMSI (International Mobile Subscriber Identity-เลขรหัสของซิม), เซลล์ไซต์ที่ใช้เชื่อมต่อโทรศัพท์กับเน็ตเวิร์ค และเวลาที่เชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์ค จึงแสดงรอยต่อของการใช้งานให้เห็นในลักษณะที่มีการใช้งานสลับกัน คือ หลังจากปิดการเชื่อมต่อกับโครงข่ายของ True (ใช้งานโทรศัพท์) แล้วจึงปรากฏการเชื่อมต่อกับโครงข่าย DTAC (ใช้ส่ง SMS) หลังจากนั้นจึงมีการเชื่อมต่อกับโครงข่าย Trueอีกครั้ง ทั้งหมดนี้ระบุตำแหน่งการใช้งานในเซลล์ไซต์เดียวกัน คือย่านที่อยู่ของจำเลย โดยไม่มีการใช้งานทับเวลากันแต่อย่างใด
โดยสรุปก็คือ ถ้าจำเลยไม่ได้ส่ง SMS จากโทรศัพท์ตัวเอง ที่บ้านของตัวเอง มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญมากที่มีคนปลอมเลข IMEI ของจำเลย (หรือแม้แต่ซ้ำกันโดยบังเอิญ มาตั้งแต่โรงงานผลิต-ขำขำนะครับ) แล้วมาส่ง SMS หมิ่นฯ ในพื้นที่เซลไซต์เดียวกัน โดยสอดแทรกเข้ามาในเวลาที่สอดคล้องกันอย่างน่าอัศจรรย์
แต่ก็เอาละ ข้อมูลเชิงประจักษ์แบบนี้ ยังไม่ได้ทำให้ผมยังปักใจว่าจำเลยส่ง SMS เอง ทั้งยังมีหลายคนพูดถึงหลักยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย รวมไปถึงการยกตัวอย่างว่า เจ้าของรถคันที่ขับไปชนคนตายโดยที่จับผู้ขับขี่ไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องติดคุกเพียงเพราะเป็นเจ้าของรถ แต่ก็นั่นแหละ คงง่ายเกินไปที่เจ้าของรถจะบอกแต่เพียงว่าตัวเองไม่ใช่คนขับ ใครเอาไปขับก็ไม่รู้ อย่างน้อยเจ้าของรถก็ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า ณ เวลาที่เกิดเหตุ ตัวเองอยู่ที่ไหน มีใครที่เอารถไปใช้โดยไม่ต้องบอกกล่าวได้บ้าง หรือถ้ารถหาย ก็ต้องมีการแจ้งความ ฯลฯ
ในกรณีนี้ การที่จำเลยบอกแต่ว่าส่ง SMS ไม่เป็น บอกว่าเคยส่งเครื่องไปซ่อม แต่ซ่อมที่ร้านไหนก็จำไม่ได้ นอกจากไม่ได้ช่วยอะไรแล้ว การให้หลานวัย 11 ปีขึ้นให้การในฐานะพยาน บอกว่า“จำเลยมักทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้านบ่อยครั้งขณะไปส่งตนและน้องๆ ที่โรงเรียน” ก็มัดจำเลยแน่นเข้าไปอีก ว่าโอกาสที่โทรศัพท์เครื่องนี้จะไปตกในมือคนอื่นเพื่อใช้เปลี่ยนซิมส่ง SMS หรือปลอม IMEI ยิ่งน้อยลง
หรือจะให้ศาลเข้าใจตามที่จำเลยให้การว่า “ทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ที่บ้านบ้าง พกติดตัวบ้าง บางครั้งเมื่ออยู่ที่บ้านก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ติดตัว ซึ่งที่บ้านมีคนเข้าออกอยู่จำนวนหนึ่ง” จึงเป็นโอกาสให้ผู้อื่นเข้าไปในบ้านของจำเลยเพื่อใช้โทรศัพท์ส่ง SMS ได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก???

ถึงที่สุดแล้ว ผมกลับมีคำถามในใจว่า แทนที่จะดราม่ากันใหญ่โต ทนายจำเลยได้สู้คดีให้ลูกความของตัวเองดีพอหรือยัง
ถ้าดูจากคำแถลงปิดคดีของทนายจำเลย ใน 3 ประเด็น คือ 1. การใช้หมายเลขเครื่อง (อีมี่) ในการเชื่อมโยงว่าจำเลยกระทำความผิด เป็นการเชื่อมโยงที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะเลขอีมี่สามารถปลอมแปลงได้ และสามารถซ้ำกันได้
2. การสืบสวนสอบสวนของเจ้าพนักงานมุ่งไปที่ตัวจำเลยโดยตรง โดยไม่ได้เชื่อมโยงกับหมายเลขอีมี่ และคำเบิกความของพยานโจทก์ขัดแย้งกับพยานเอกสารฝ่ายโจทก์
3. โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานหรือพยานเอกสารใดที่จะชี้ได้ว่า จำเลยเป็นผู้กดพิมพ์ข้อความ และส่งข้อความดังกล่าว
จะเห็นได้ว่า เป็นแนวทางที่มุ่งปฏิเสธความน่าเชื่อถือของหลักฐานและฝ่ายโจทก์ โดยที่ฝ่ายจำเลยเองกลับไม่มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักมากเท่ามาต่อสู้/หักล้าง ผมอาจไม่ได้เรียนมาทางกฎหมาย แต่เท่าที่คิดและตรวจสอบกับเพื่อนที่มีความรู้ทางเทคนิคการโทรคมนาคมบ้าง ทางกฎหมายบ้าง ถึงช่องทางความเป็นไปได้ต่างๆ ก็พบว่า อย่างน้อยที่สุด การขอข้อมูลจาก True มาพิสูจน์ว่า เครื่องของจำเลยที่ใช้ซิมของ True ไม่เคยใช้ส่ง SMS เลย ก็น่าจะมีน้ำหนักดีกว่าการกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอย
แย่กว่านั้นคือความไม่อยู่กับร่องกับรอยของทีมทนาย ทนายจำเลยคนหนึ่งให้การเป็นพยานจำเลยด้วยท่าทีที่เหมือนกับเข้าใจเลขรหัส IMEI ดีพอสมควร ซึ่งขัดกับการสู้คดีแบบไม่ยอมรับรู้ไม่ยอมเข้าใจเรื่องเลขหลักสุดท้าย ทนายจำเลยอีกคนหนึ่งไป “หลุด” ในรายการคมชัดลึกหลายประเด็น เพราะมุ่งแต่จะดราม่าจนละเลยสิ่งที่เรียกว่า “ความจริง” เช่น นาทีหนึ่งบอกว่าจำเลยส่ง SMS ไม่เป็น โทรศัพท์ที่ใช้ก็เป็นรุ่นเก่า มีแป้นพิมพ์ภาษาไทยหรือเปล่าก็ไม่รู้ (ถึงตอนนี้คนดูจำนวนมากตั้งคำถามแล้วละ ว่าเรื่องแค่นี้ไม่รู้จะไปสู้คดีอย่างไร) แต่อีกไม่กี่นาทีต่อมากลับบอกว่า โทรศัพท์ของจำเลยพิมพ์ยาก จะพิมพ์ตัว ง ทีต้องกดแป้มเดิมถึงสามครั้ง (คนดูก็จะรู้สึกว่า อ้าว แล้วอย่างนี้จะเชื่อถืออะไรกันได้อีกไหม)
หรือเขาไม่ได้ต้องการชนะคดีกันจริงๆ

จำเลย – ที่เขาเรียกกันว่า “อากง” – อายุ 62 ในปีนี้ ก่อนจะมาเป็น “อากง” คดีนี้เคยเรียกกันว่า “คดีลุงSMS” มาก่อน แต่คง “ไม่โดน”
เข้าใจได้ว่าคำ “อากง” เป็นคำเรียกในมุมของหลานอายุ 11 (ที่ขึ้นให้การเป็นพยานด้วย) และน้องๆ ที่เด็กกว่านั้นอีก และในยุคที่คนวัย 60 เวลาตกเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์ มักจะถูกแทนด้วยคำว่า “ไอ้เฒ่า” ผมจึงไม่ติดใจกับคำเรียกอากงเท่าไรนัก ที่ติดใจก็คงเป็นเรื่องที่ทำเสมือนว่าคนวัย 60 ต้นๆ เป็นวัยที่หมดแล้วซึ่งสมรรถนะ จำอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรไม่ค่อยเป็น
ผมมีพี่ชายคนโตอายุเท่าๆ นี้ ซึ่งยังทำทุกอย่างได้เหมือนเมื่อสิบปีก่อน ผมมีแม่ซึ่งอายุ 83 แล้ว แต่ยังขับรถตะลอนๆ ออกไปช้อปปิ้งเองได้ทุกเวลาที่อยากออกจากบ้าน ตัวอย่างที่ยกมานี้อาจจะมีความจำเพาะสักหน่อย แต่ผมก็ยังไม่พบว่าคนวัย 60 ต้นๆ จะมีปัญหาความจำถึงขนาดจำร้านที่เอาโทรศัพท์ไปซ่อมและไปรับคืนเมื่อไม่กี่เดือนก่อนไม่ได้ และผมไม่คิดว่าถ้าการส่ง SMS สำหรับคนวัยนี้เป็นเรื่องยากเกินหัด โดยเฉพาะคนที่เคยมีอาชีพเป็นพนักงานขับรถมาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงตอนนี้ อากงจะทำหรือไม่ทำอะไร ทำได้หรือไม่ได้ ทำจริงหรือไม่จริง หรือกระทั่งว่าอากงจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว เพราะทุกอย่างถูกขับเคลื่อนไปสู่อีกเป้าหมายหนึ่ง – ซึ่งไม่ทำให้ผมแปลกใจเท่าไหร่ – คือการรณรงค์แก้ไข/ยกเลิกมาตรา 112 (อีกครั้ง)
ผมเคยสงสัยว่า มันจะมีความเป็นไปได้แค่ไหนกันที่จะวางพล็อตให้คนสูงอายุที่ดูน่าสงสารเห็นใจ ตกเป็น “เหยื่อ” ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ด้วยความยินยอมพร้อมใจของเจ้าตัว อาจจะเพื่อปกป้องลูกหลานใกล้ชิด หรือเพื่อผลตอบแทนบางประการ แต่เมื่อคิดมาถึงขั้นที่ว่า ถ้าจะเคลื่อนไหวแบบหวังผล ก็ต้องใช้เวลาที่เหลือในชีวิตของคนๆ นั้นเป็นเดิมพัน ผมก็ไม่อยากคิดต่อ
รอดูเขาแสดงกันไปเลยดีกว่า

#

6 ธันวาคม 2554



(ตีพิมพ์ในนิตยสาร สีสัน ปีที่ 23 ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2554)




#248565 ต่อสัญญาบีทีเอส โยงญาติมาร์ค ส่งดีเอสไอสอบ

โดย Baboonga on 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 16:22

เอาเลยเฮนไต เอามาร์คเข้าคุกให้ได้!!!


#247241 กุ้งราคาถูก..

โดย Baboonga on 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:54


คุณ Tigermao ต้องเข้าใจนะครับ ในเรื่องของ ห่วงโซ่เศรษฐกิจ
คือ บ้านเมือง เราเนี่ย มันมีสิ่งที่เรียกว่า พ่อค้าคนกลางอยู่ คงไม่มีใครไปซื้อกุ้งหน้าฟาร์มทีละ หลายๆตัน เพื่อมาประกอบกินในครัวเรือนกระมัง
ซึ่งปัญหาที่มีมาตลอดคือ สินค้า จากผู้ผลิต อย่าง ชาวนา ชาวไร่ มักจะราคาตกต่ำ แล้วจะมาราคาแพง ตอนปลายทาง กรรมก็ตกอยู่กับผู้บริโภค อย่างเราๆไงครับ
หน้าที่ของ ภาครัฐ ผมแยกเป็นข้อๆ เพื่อให้เข้าใจง่ายและเป็นขั้นตอนนะครับ คือ 1.ทำอย่างไร ให้ ข้อต่อ สองจุดดังกล่าวมันสมดุลย์กัน ช่วยสนับสนุนคุณภาพสินค้า ของ เกษตรกรให้มีคุณภาพ ขายได้ราคา และไม่ให้โดนพ่อค้าคนกลาง กดราคาจนเกินไปนัก และ 2.ทำอย่างไรให้ สินค้าที่พ่อค้านำมาขายทำกำไรนั้น ไม่แพงจนเกินไป ดังคำพูดที่ว่า ค้ากำไรเกินควร
ครับ ดังนี้แล้ว ภาครัฐจะต้อง ไม่นิ่งนอนใจ หรือ แกล้งหลับหู หลับตา คิดเอาเองว่า ของไม่แพงๆ ต้องดูทั้งกระบวนการครับ จากข่าวนี้ ยิ่งตอกย้ำเลยว่า ทั้งๆที่ สินค้าหน้าฟาร์มราคาต่ำ ทำไมผู้บริโภคอย่างเราๆ ต้องซื้อของแพง เป็นเพราะ พ่อค้าคนกลางซึ่ง กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายในมีหน้าที่รับผิดชอบ ถ้าอ้างว่า เป็นเพราะ ต้นทุนในการขนส่งก็ต้องประเมินอีกว่า ที่ราคาเชื่้อเพลิงที่สูงนั้น เป็นเพราะ การบริหารนโยบาย หรือ ราคาตามตลาดโลก (อย่าลืมนะครับ ตอนนี้ ราคาน้ำมันตลาดโลก กำลังตกต่ำจาก ความไม่มั่นใจระบบ เศรษฐกิจ ยุโรป ราคาตลาดสิงคโปร์อยู่ที่ 80-90 ดอลล์ ต่อ บาเรล ซึ่ง น้อยกว่าปีก่อนๆซึ่งเคยพุ่งเกิน 120 ดอลล์ต่อบาเรล มาแล้ว)


ผมเข้าใจครับ.. ผมรู้ว่าบางอย่างก็แพงขึ้นจริง.. แต่ผมติดใจ.. ว่าท่านสายล่อฟ้าทั้งหลายก็เล่นเกินงาม.. พวกเล่นไปหามะนาวบ้าง ไข่บ้าง ถั่วฝักยาวบ้าง หรือขาวแกงจานละ 50 บ้าง
มาแถลงข่าว.. ถ้าผมมีร้านข้าวแกงแล้วขายอยู่จานละ 25-30 จังหวะนี้ถ้าไม่ขึ้นราคาตามกระแสก็โง่เติมทีแล้ว..


อันนี้ผมว่าไม่จริงนะ ถ้าคุณทำธุรกิจอยู่น่าจะเข้าใจว่า ถ้าคนอื่นขายแพง แล้วต้นทุนมันไม่แพงจริง คุณจะยอมขายราคาต่ำกว่าชาวบ้านครับ เพื่อเรียกลูกค้าเพิ่ม แล้วท้ายที่สุด ร้านอื่นๆ จะลดราคาลงมาถ้าต้นทุนมันไม่แพงจริงๆ
  • Gop likes this


#245580 ของแพงแล้วไง คิดว่าประชาชนจะหันไปเลือก อภิสิทธิ์กับสุเทพ มาแก้ปัญหาของแพง เหร...

โดย Baboonga on 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 15:28

มาอีกละพวก

ต่อคิวซื้อของ... แต่จริงๆ กรูไม่ได้ไปหรอก กรูฟังๆ เค้ามา
ของแพงบางอย่าง บางอย่างก้ถูก ก็เลือกๆ กินเอาสิฟระ... แต่จริงๆ กรูไม่เคยจ่ายตลาดหรอก
ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกตลาด... เออ แล้วจะอุ้มน้ำมันทำไมหละ

เห็นคนด่าหน่อยไม่ได้ ต้องมาแถ มาดริฟท์ให้ตลอด... กลัวไม่โดนหาว่าเป็นควายโดนสะกดจิตเหรอครับ ?


#241801 จุ จุ จุ!!! ผมไปอัดกับเสื้อแดงมาครับ...

โดย Baboonga on 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 - 01:00


ไอตอม ที่เข้ามาป้วนเปี้ยน ก็พลอยโดนน็อกไปด้วย "สุดท้ายหายจ่อย ..หึหึ"

ข้ามีงานมีการทำนะโว้ย ...
เรื่องข้าวนะรึ จขกท ข้าทำข้าไถมากับมือกับตีน ข้าวไม่ได้ซื้อกิน (ข้าเป็นคนไถ ส่วนปักดำข้าจ้างคนวะ ..หึหึ)
สมัยมาร์กข้าเคยตั้งกระทู้ ญาติห่างๆทางเมียขายข้าวนาปรัง 8 ตันได้ ห้าหมื่นกว่าบาท ตกตันละหกพันกว่าบาท ปัจจุบันมันตันละหมื่นกว่าบาท รัฐจะเอาเงินไปอุ้มเท่าไไหร่มันจะเสียหายเ่าไหร่ ปชช จะเป็นผู้ตัดสิน ..ทำนาทำอาหารเลี้ยงโลกแต่กลับมายากจนมันเจ็บใจแทนชาวนาวะ..
สงสัย จขกท อยากให้ราคาข้าวมันต่ำๆเทาสมัยมาร์ก่ละมั้ง ให้ชาวนาจนตลอดไป


ตอมเอ้ย สมองคิดเรื่องเศรษฐศาสตร์ได้แค่นี้ สมควรแล้วจะชาบูนางยกนกแก้ว และเพื่อไทยต่อไป ชาบูๆๆๆๆ

ฝากถึงเจ้าของกระทู้ ผมไม่มานั่งคิดหรอกว่าคุณจะไปเจอจริงหรือไม่ หรือจะแต่งขึ้นมา

แต่หลักเหตุผลที่ท่านใส่ลงไปในเนื้อความมันถูกต้อง

การดำเนินเรื่องก็สนุกสนาน

ขอชื่นชมครับ


#233846 มีปัญหาไรมากมายกับการ Vote No ครับ

โดย Baboonga on 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 21:03

เฮ้ย มีคนคิดแบบผมเลย

หรือว่านี่คือ... "ร่างอวตารของ TFEX" :rolleyes:


#232685 ไขปริศนา! 'น้องเดียร์'ลูกสาว'เสธ.แดง' ไร้ที่ซุกนอน พบอยู่...

โดย Baboonga on 27 เมษายน พ.ศ. 2555 - 03:20

ผมว่าตอบแบบนี้ สำนักข่าวอิศรา เล่นไม่เลิกแน่

แต่ผมชอบวิธีการทำงานสำนักข่าวนี้นะครับ ถึงลูกถึงคน ถึงพริกถึงขิงมาก


#224533 คำทำนายของหลวงตามหาบัว

โดย Baboonga on 21 เมษายน พ.ศ. 2555 - 17:27

ผมขอประเด็นเรื่องนี้อีกนิดเดียว เท่านั้น
(และรอผู้อื่นแสดงความเห็น เพื่อ จะไปหาข้อสรุปตามหัว กระทู้ ที่ว่า คำทำนายของหลวงตามหาบัว)

เป็นไปได้หรือไม่ ที่ท่านจะไป เชียงใหม่ โดยไม่รู้ว่า เชียงใหม่ อยู่ส่วนใหนของประเทศ(ไม่ฟังธรรม)
ท่านจะขับรถ ไปทางใหน (ปฎิบัติธรรม)
หากท่านบอกว่า ขับไปเรื่อยๆ เดี๋ยว ก็ถึงเชียงใหม่

แต่ถ้าท่านรู้ ว่า เชียงใหม่ อยู่ส่วนใหน ของประเทศ (ฟังธรรม)
ท่านก็ขับ ไปทางทิศที่ท่านรู้ (ปฎิบัติธรรม)
ท่านควรจะถึงเชียงใหม่ ได้อย่าง แน่นอน และปลอดภัย


หากเปรียบกับการขับรถ

เราไม่จำเป็นต้องรู้เส้นทางทั้งหมดไปยังเชียงใหม่ แต่เพียงรู้บ้าง มีคนแนะนำบ้าง ถามคนข้างทางบ้าง เราก็ถึงเชียงใหม่ได้

ฉันใดก็ฉันนั้น การบรรลุธรรมไม่ใช่จำเป็นต้องรู้ทุกสิ่ง แต่รู้เฉพาะที่เราติด ที่เราตันก็เพียงพอ ไม่เช่นนั้น ชฎิลสามพี่น้องจะบรรลุพระอรหันต์ด้วยพระธรรมไม่กี่บท พระอัญญาโกณฑัญญะ จะบรรลุได้เพียงธรรมจักรเท่านั้นหรือ

แต่อีกนัยนึงที่อยากให้คิดว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า แผนที่เชียงใหม่นั้นเป็นของจริง ไม่ได้เจออุปาทาน ตัณหาเข้าครอบงำ ?