Jump to content


Siren

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 6 มิถุนายน 2555
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2557 08:28
*****

#419433 เธอฉลาดไม่ใช่เล่นน๊า ที่ชี้ว่า "น้ำท่วมเพราะฝนตกลงมาฉับพลัน" น่ะ...

โดย Siren on 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:54

ดูจากรายละเอียดข่าวมติชน ตามลิงค์

ถ้าไม่ใช่นักข่าวมติชนเขียนข่าวได้ห่วย

นายกฯก็คงเส้น คงวา พูดจาไม่เป็นภาษามนุษย์เหมือนเดิม

อ้อ! สงสัยอีกอย่าง มีฝนที่ไหนไม่ตกเฉียบพลันบ้าง ยังไม่เคยเห็นฝนส่งสัญญาณเตือน ก่อนจะตกเลยในชีวิตนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้สถานการณ์ยังไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงใช่หรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถ้าเราแยกระหว่างปริมาณน้ำฝนที่ตกฉับพลัน ถ้าเป็นระบบการระบายน้ำต่างๆ ที่เราได้มีการเตรียมไว้ รวมถึงระบบการป้องกัน ก็ยังอยู่ในสภาพที่ยังดีอยู่ แต่เหตุที่เกิดทุกวันนี้เป็นเรื่องของปริมาณน้ำฝนตกลงมาฉับพลัน ก็อาจจะมีปัญหาในบางพื้นที่บ้าง ซึ่งปัญหาในพื้นที่เราคงต้องไปแก้ในรายละเอียดของพื้นที่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาแม่ยม

เมื่อถามว่า ในช่วงนี้จะต้องเฝ้าระวังเหตุการณ์น้ำท่วมไปนานแค่ไหน
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อีกประมาณ 30 วัน

เมื่อถามว่า ภายใน 30 วัน จะสามารถบอกได้ว่าจะพ้นเขตอันตรายของน้ำท่วม
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า จากที่ประมาณการของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ก็ดูว่าปริมาณน้ำฝนยังอยู่ในสถานการณ์อีกประมาณ 1 เดือน

เมื่อถามว่า คลองทวีวัฒนาเกิดปัญหาน้ำท่วมทางฝั่งธนบุรีมีรายงานปัญหาประตูระบายน้ำเข้ามาแล้วหรือไม่
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ก็รายงาน แต่หน่วยงานเข้าไปตรวจสอบก่อน ซึ่งรายงานจะมีเข้ามาอยู่แล้ว แต่เราต้องเอาข้อมูลทั้งหมดมาตรวจสอบด้วย เพราะบางทีปัญหาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ปัญหาอาจจะเกิดจากส่วนอื่น



#418967 คำรณวิทย์" ปลุกม็อบตำรวจ บุก " ปชป." 18 ก.ย.นี้ 11 โมง

โดย Siren on 18 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:59

คุณคำรณวิทย์ คุณจะเคารพใครเป็นการส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องผิด

แต่เรื่องอันเป็นพื้นฐานที่คนทำงานทุกคนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ หรือเอกชน ต้องตระหนัก คือ การปฏิบัติหน้าที่ต้องแบ่งแยกให้ชัดเจนระหว่างเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว

การแสดงออกของคุณ ทำให้ประชาชนตระหนักว่า บรรทัดฐานของตำรวจไทยยุคนี้ คือ การปฏิบัติหน้าที่ให้ถึงที่สุดกับคนที่ไม่ใช่วงศาคณาญาติ และพวกพ้อง แต่หากเป็นพวกพ้อง วงศาคณาญาติ หรือผู้ที่ตนเคารพรัก แม้จะถูกตัดสินว่ามีความผิด เป็นผู้ต้องคดี - ตำรวจอย่างคุณก็จะไม่ปฏิบัติหน้าที่ "เพราะกูรักของกูซะอย่าง พวกมรึงจะทำไม?"

หากทักษิณ ไม่ได้เป็นผู้ต้องคดีที่หลบหนีการลงโทษ - คุณจะเอารูปของเขามากราบไหว้บูชา ก็ไม่มีใครจะไปว่ากล่าว หรือตำหนิคุณได้

แต่ทักษิณเป็นนักโทษหลบหนีคดี และคุณเป็นตำรวจ - การแสดงออกของคุณโดยการถ่ายรูปให้นักโทษติดยศให้ตำรวจ แล้วนำมาประดับไว้ในห้องทำงาน มันเป็นการสมควรแล้วหรือ? คุณรู้อยู่แก่ใจ - เมื่อถูกตำหนิ ท้วงติง แทนที่จะสำนึก กลับกล่าววาจากลอกกลิ้ง โอหัง และใช้เวลาราชการ ใช้นายตำรวจซึ่งเป็นคนของราชการ ไปกดดันคนที่ออกมาท้วงติง แก้ต่างให้ตัวเอง - ช่างน่าอนาถใจนัก

ขอให้ตำรวจไทยทุกคนจงมีความละอายต่อองค์พระบิดาแห่งตำรวจไทย พระองค์นี้บ้าง!!!

Posted Image


#415338 ระบบป้องกันน้ำกทม ดัมมี่!! ป้องกันน้ำท่วมทุ่งไม่ได้ ชาวปทุม นนท์ ด่าย...

โดย Siren on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:13

อยากรู้ว่า กทม เพิ่งย้ายมาตั้งอยู่ตรงนี้หรืออย่างไร
ทำไมก่อนหน้านั้นไม่มีปัญหา
เพราะเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านบริหารจัดการน้ำอย่างกรมชลประทาน กฟผ เป็นผู้ดูแล และประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆรวมทั้งกทม โดยรัฐบาลติดตามกำกับดูแลภาพรวม และทำให้ทุกฝ่ายประสานงานกันได้อย่างราบรื่น
ในขณะที่รัฐบาลชุดนี้มีนายกฯไร้สมอง ยังไม่พอ แทนที่จะหาคนรู้มาดูแลกลับไปเอาคนเลี้ยงปลามาบริหารน้ำ แถมคนเลี้ยงปลายังเป็นพวกโง่แล้วอวดฉลาด รวบอำนาจสั่งการโดยไม่ฟังเสียงคนรู้

ที่สำคัญ เขาระบายน้ำทุ่งออกทางตะวันออกเป็นหลัก และผ่านไปทางตะวันตกบ้างตามความเหมาะสม ตามระบบที่เขาวางกันไว้และใช้ตลอดมา
แต่นี่กลับจะมาพึ่งระบบระบายน้ำฝนของ กทม

ทำไมน่ะหรือ ต้องไปถามบรรหาร ศิลปอาชา กับ ประชา ประสพดี


#414758 ขอคารวะหัวใจของ "ผู้ที่รู้ว่าแพ้ แต่ก็ยังสู้บนวิถีทางของประชาธิปไตย"...

โดย Siren on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 12:12

"การทำความดีนั้น ยากและเห็นผลช้าแต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจ และเพียรพยายามให้สุดกำลังในการสร้างเสริมและสะสมความดี"

พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันที่ 14 สิงหาคม 2525


#414623 ใครเป็นเหมือนผมบ้าง... >>> "ยกมือขึ้น"

โดย Siren on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 10:04

Posted Image


#414528 คุยกับพี่น้องเสรีไทย-น้ำท่วมปีที่แล้ว ประสบการณ์อะไรที่"หลอน"คุณมากที...

โดย Siren on 14 กันยายน พ.ศ. 2555 - 08:51

หลอนน...มากกกก....

Posted Image


#414118 ประตูน้ำบางโฉมศรี...................ภาพปัจจุบัน

โดย Siren on 13 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:28

ไม่เข้าใจกับคนไทยเลยจริง ๆ รัฐบาลเลว Ra-yam อย่างนี้ ทำประเทศชาติ...หาย ขนาดนี้
ไม่มีใครเขาเอาไว้แล้ว

และที่สำคัญ ข้าราชการ และสื่อมวลชน จริยธรรมของพวกคุณมันหายไปไหนหมด ทนเห็นบ้านเมืองของเราเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร
พวกคุณเห็นมาหมดแล้ว บ้านเมืองถูกเผาลุกเป็นไฟ สื่อมวลชนหลายคนต้องหนีตาย หวิดเอาตัวไม่รอด เพื่อนร่วมอาชีพของพวกคุณหลายคนบาดเจ็บ ล้มตาย
น้ำท่วมเสียหายเป็นแสนล้าน คนเสียชีวิตหลายร้อยคน บ้านของพวกคุณหลายคนที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็จมอยู่ใต้บาดาลจนนำ้ตาตกใน พวกคุณเจอมากับตัว แต่พวกคุณกลับนิ่งเฉย และร่วมกันเป็นเครื่องมือให้รัฐบาลชุดนี้ดำรงค์คงอยู่ ปล้น ฆ่า และทำลายชาติของพวกเรา ชาติที่ลูกหลานของพวกคุณจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป แทนที่จะร่วมมือกันขัดขวาง เปิดโปง

จิตใจของพวกคุณมันทำด้วยอะไร


#413081 คนกทม.ร้องทุกข์ "เราไม่ได้ขวางน้ำไม่ให้น้ำไหลลงทะเล" คูคลองในกทม.ไม่ใ...

โดย Siren on 12 กันยายน พ.ศ. 2555 - 20:39

ใช้การเมืองมาบริหารจัดการน้ำก็ ....หาย เช่นนี้แล


#411220 น้ำไม่ได้ท่วม แค่น้ำหลาก, ของไม่แพง ประชาชนคิดไปเอง และ.....

โดย Siren on 11 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:27

พวกนี้ช่างจินตนาการกันจริง ๆ
คิดไปเองทั้งนั้น

น้ำไม่ได้ท่วม
ของไม่ได้แพง
ไม่มีการทุจริต คอร์รัปชั่น
ชายชุดดำก็ไม่มี
นายกไม่เคยพูดผิด
โยกย้ายข้าราชการก็เป็นไปตามฤดูกาล ตามความเหมาะสม
โผทหารก็ไม่มีใครไปแทรกแซง
อัยการไม่ได้เกียร์ว่าง
ตำรวจไม่ใช่ขี้ข้าทักษิณ
ธาริตก็ไม่ได้เปลี่ยนสี
ฯลฯ
  • ssa likes this


#411211 ต้องยอมรับว่าข้อมูลเขาแน่นจริงๆ

โดย Siren on 11 กันยายน พ.ศ. 2555 - 16:21

รู้แค่นี้ ทำเป็นคุย

จะบอกให้ บางกอกโพสต์ วอชิงตันโพสต์ ไทยโพสต์ โพสต์ทูเดย์ เดลี่โพสต์ นิวยอร์คโพสต์ ฯลฯ อยู่ในเครือเดียวกันหมดเลย

เครือนี้ใหญ่มากนะ มีอยู่ทั่วโลกเลยล่ะ! :D


#410833 ความเดือดร้อนรอไม่ได้ ในหลวงพระราชทานสิ่งของส่งไปสุโขทัยแล้ว

โดย Siren on 11 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:09

ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ
สิ่งของพระราชทานจะไปถึงมือของประชาชนก่อนหน่วยงานของรัฐเสมอ

ทรงพระเจริญ!


#410817 ประกาศด่วน!!! ตามหาคนหาย(หัว)

โดย Siren on 11 กันยายน พ.ศ. 2555 - 11:04


ใครเชื่อปอดก็บ้าแล้ว

นครสวรรค์โดนไปแล้ว

กรุงเทพฯ เตรียมตัว รัฐบาลไม่ยอมผันน้ำไปทางตะวันออกอีกแล้ว!!!


"ปลอดประสพ" ขอโทษประชาชน สถานการณ์น้ำท่วม สุโขทัย เป็นเหตุสุดวิสัย 1-2 วัน น้ำลด

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความเชื่อมั่นว่า น้ำจะไม่ท่วมหนักเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนในปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วร้อยละ 20 อีกทั้งได้รับรายงานจาก กรมชลประทาน ว่า ไม่มีน้ำเอ่อล้นในแม่น้ำสายหลัก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย ต้องขอโทษประชาชน เพราะเป็นเหตุสุดวิสัย คาดว่าอีก 1-2 วัน น้ำจะลดลง จะมีการปิดประตูระบายน้ำเพื่อให้น้ำลด และจะซ่อมแซมรูรั่วใต้พนังกั้นน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมอีก ยืนยันว่า มวลน้ำจาก จังหวัดสุโขทัย จะไม่ส่งผลกระทบต่อ จังหวัดนครสวรรค์ ศักยภาพของแม่น้ำเจ้าพระยา ยังสามารถรองรับน้ำได้ในขณะนี้ ไม่จำเป็นต้องผันน้ำไปทางตะวันออก และตะวันตก ตามที่กรุงเทพมหานครเสนอ

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้มีการสำรวจเขื่อนเก่าที่อาจมีรอยรั่ว เหมือนเช่น เขื่อนสุโขทัย และให้เจ้าหน้าที่ตรวจจุดเสี่ยงก่อนน้ำท่วม เช่น แม่น้ำสแกกรัง โดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ตรวจสอบในพื้นที่



#409301 แบบนี้แหละ ที่เราต้องการ

โดย Siren on 9 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:38

ใครบอกของแพงคะ ขอเถียงขาดใจ

ยางพาราก็ถูก
ปาล์มก็ถูก
อ้อยก็ถูก
มะพร้าวก็ถูก

นมวัวยิ่งถูกใหญ่ เกษตรกรเอามาล้างถนนเล่นยังจิ๊บ จิ๊บ


#408471 <<<ถึงคุณตะนิ่น ตาญี ได้เวลานายตำรวจนายทหารทวนคำสาบานรึยัง>...

โดย Siren on 8 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:51

ขอบพระคุณคุณตะนิ่นตาญีมากค่ะที่ได้กรุณามาให้ความรู้
เพิ่งจะทราบเรื่องนี้ก็วันนี้แหละค่ะ เลยลองไปหาข้อมูลอ่านเพิ่มเติมมา ขออนุญาตนำมาแปะไว้เพื่อเป็นความรู้สำหรับคนที่สนใจ
และเตือนใจตำรวจท่านใดที่ได้แวะมาอ่าน

ธงประจำกอง หรือธงชัย หรือธงชัยเฉลิมพล(ตำรวจ)


ธงที่แต่ละหน่วยนำมาใช้นำหน้าขบวนสวนสนาม และสาบานตนในวันดังกล่าว คือ “ธงชัย” หรือ “ธงชัยเฉลิมพล” ซึ่งเป็นตัวแทนของพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นประวัติศาสตร์ของตำรวจไทย ที่ “ธงชัย” ทั้งหมดของ ตร. มารวมกันเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2550 “ธงชัย” หรือ “ธงชัยเฉลิมพล” หรือ “ธงประจำกอง” ของตำรวจ

ตามที่ได้มีการแก้ไข พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 นั้น ธงของหน่วยตำรวจ มีเพียง ธงพิทักษ์สันติราษฎร์ เท่านั้น ที่เป็นธงที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ซึ่งตำรวจส่วนมากก็คงไม่เคยเห็นเพราะอาจจะยังไม่ได้จัดสร้าง หรือจัดสร้างแล้วแต่ไม่ค่อยได้ออกงานก็ไม่ทราบ) แต่นอกจากธงพิทักษ์สันติราษฎร์แล้ว ตำรวจยังมี "ธงชัย" เป็นธงประจำหน่วย ซึ่งไม่ได้ระบุไว้ใน พ.ร.บ.ธง ดังกล่าว ทั้งๆที่ได้รับพระราชทานมาตั้งแต่ พ.ศ.2495 ซึ่งธงนี้จะเรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ก็คงไม่ผิด เพราะได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านบนบรรจุเส้นพระเกศา(เส้นผม) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นผู้ตรึงตอกหมุดด้วยพระองค์เอง ทำพิธีในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ธงชัยของตำรวจนี้มีขนาดของธง รูปร่าง ลักษณะ เหมือนกันกับธงชัยเฉลิมพลของทหารทุกประการ แต่เดิมตอนที่ได้รับมาครั้งแรก เรียกว่า "ธงประจำกอง" ซึ่งขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยังไม่ได้มีสถานะของหน่วยเป็นกองทัพ มีสถานะเป็นเพียง "กองทหารบก" "กองทหารเรือ" "กองทหารอากาศ" และขณะนั้น ก็มี "กองตำรวจ" ด้วย ธงชัยเฉลิมพล ในขณะนั้นจึงเรียกว่า "ธงประจำกองทหารบก" "ธงประจำกองทหารเรือ" "ธงประจำกองทหารอากาศ" และ "ธงประจำกองตำรวจ" ซึ่งมีศักดิ์เท่ากันทุกประการ ต่อมาเมื่อได้มีการตรา พ.ร.บ.ธง พ.ศ.2522 เปลี่ยนให้เรียกชื่อธงประจำกองของของทหารทั้ง 3 เหล่า ให้เรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ทั้งหมด โดยไม่ได้กล่าวถึงธงประจำกอง ของตำรวจ เข้าใจว่าขณะนั้นคงมีข้อผิดพลาด โดยผู้เกี่ยวข้องกับการร่างกฎหมาย คงหลงลืมนึกไปว่า ตำรวจก็มีธงประจำกองที่เทียบเท่ากับธงชัยเฉลิมพลของหน่วยทหารทุกประการ เช่นกัน ทำให้ธงประจำกองของตำรวจ ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.2495 ไม่ได้เรียกชื่อว่า ธงชัยเฉลิมพล ตาม พ.ร.บ.ธงฯ ที่ตราออกมา ทั้งๆที่ธงประจำกอง ของตำรวจนั้นมีขั้นตอนการทำธง การได้รับพระราชทาน มีศักดิ์ และมีรูปร่างลักษณะเหมือนกันทุกประการกับธงชัยเฉลิมพล แตกต่างกันเพียงรูปตราภายในผืนธง ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละหน่วยทหาร-หน่วยตำรวจ นั้นๆที่ได้รับ

โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้เคยมีหนังสือหารือ การเรียกชื่อธงประจำกองของตำรวจไปยังสำนักพระราชวัง เนื่องจากธงประจำกองของตำรวจนั้นมีศักดิ์เท่ากับธงชัยเฉลิมพล ทุกประการ ต่อมาทางสำนักพระราชวังได้มีหนังสือตอบมาว่า ให้เรียกชื่อธงประจำกองของตำรวจที่ได้รับพระราชทานมานั้น ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งที่ได้พระราชทานธง โดยให้เรียกว่า "ธงชัย" ทั้งนี้ ในระเบียบการ ตร.ไม่เกี่ยวกับคดี ยังคงใช้คำว่า "ธงประจำกอง" อยู่โดยยังไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด

เพราะฉะนั้น คำว่า "ธงชัย" ของตำรวจ ก็คือ ธงประจำกอง ตามระเบียบการ ตร. ไม่เกี่ยวกับคดี นั่นเอง และเป็นธงที่มีศักดิ์เท่ากันทุกประการกับ "ธงชัยเฉลิมพล" ซึ่งจะเรียกว่า "ธงชัยเฉลิมพล" ก็คงไม่น่าจะผิดไปจากความเป็นจริง แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏในกฎหมายก็ตาม

ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาด เข้าใจว่าปัจจุบัน “ธงชัย” ของตำรวจน่าจะมีทั้งหมด 13 ธง มีชื่อหน่วยตามที่ระบุไว้ใต้ตามแผ่นดินในธง ดังนี้ คือ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ , โรงเรียนพลตำรวจนครบาล , โรงเรียนพลตำรวจภูธร ภาค 1- 9 (รวม 9 ผืน) , กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน , และผืนสุดท้ายคือ "กองกำกับการ 3 กองบังคับการกองตรวจ" (ซึ่งหน่วยนี้ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
นับเป็นประวัติศาสตร์ของตำรวจไทย ที่ธงชัยเฉลิมพลของตำรวจ ทั้ง 13 ผืน ได้ถูกอัญเชิญมาเคียงรวมกันให้(ตัวแทน)เหล่าข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ ได้สาบานตน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2550 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน

ขอให้ตำรวจ ได้ภาคภูมิใจ ว่า ตำรวจ ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานธงชัยเฉลิมพล ไม่แตกต่างกับทหาร และขอให้ปฏิบัติตนให้เป็นตำรวจที่ดี รักในเกียรติและศักดิ์ศรี ดูแลรับใช้ประชาชน ให้สมดั่งความไว้พระราชหฤทัยของพระองค์ท่าน นะครับ

หมายเหตุ - ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธงชัย หรือ ธงประจำกอง ของตำรวจ
http://www.cadetpca....งชัยเฉลิมพล.pdf
http://www.pca.ac.th...cument_a6_1.pdf
ที่มา http://งานปกครอง.sia...icle=A000000007


#408420 ประเทศไทยวันนี้...ถึงขั้นหม่อมอุ๋ยต้องอ้อนวอนพระสยามเทวาธิราชแล้ว

โดย Siren on 8 กันยายน พ.ศ. 2555 - 19:23

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประกาศปราบปรามคอร์รัปชั่น เป็นนโยบายหนึ่ง
แต่ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาลมีแต่ข่าวโกงกินตลอดๆ กินกันแบบไม่บันยะบันยัง กินกันแบบไม่อายฟ้าดิน
กินกันตั้งแต่หัวยันหาง
ไม่รู้ว่าท้องยุ้งพุงกระสอบกันมาจากไหน ระวังจะท้องแตกตายแบบชูชกนะ

 ปลุกต้านคอรัปชั่นจี้ภาคธุรกิจเลิกจ่ายสินบน จับนักการเมืองติดคุกยึดทรัพย์ยังไม่พอ ต้องปลูกฝังค่านิยมให้สังคมใหม่ "ชายอุ๋ย" ชำแหละโครงการข้าวจำนำชาติขาดทุนแน่ๆ ปีละแสนล้าน เพราะโกงถึง 70% กินแบบบุฟเฟต์ นักการเมืองเขตไหนหากินเขตนั้น แต่ไม่มีใบเสร็จเพราะเล่นกันนอกระบบ วอนพระสยามเทวาธิราชดลบันดาลใจคนโกงละอายแก่บาป อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์แฉจำนำข้าวเป็นวัตถุประสงค์ดึงข้าวอยู่ในมือรัฐบาลไว้ต่อรอง ถือเป็นการยึดอำนาจทางการเมืองอย่างร้ายแรง โดยใช้นโยบายมาครอบงำ
    วันที่ 6 กันยายน ซึ่งตรงกับวันต่อต้านคอรัปชั่นแห่งชาติ มีการจัดงาน "วันต่อต้านคอรัปชั่น : รวมพลังเปลี่ยนประเทศไทย” โดยเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น (ภตค.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ บรรยายพิเศษเรื่อง “รวมพลังงานผลักดันการต่อต้านคอรัปชั่น ให้เป็นวาระแห่งชาติ” ตอนหนึ่งว่า  ไทยยังขาดความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังของผู้นำประเทศ และภาคประชาชนไม่เข้มแข็งพอ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ยังไม่สามารถปิดกั้นการไต่เต้าของนักการเมืองที่โตมาจากระบบสินบน เพราะทำให้การแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นทำไม่ได้เต็มที่  เนื่องจากเป็นการปะหน้าก็เจอจมูก ทำให้ไม่กล้าฆ่าห่านทองคำ
     "ขณะนี้คนไทยเริ่มเห็นเรื่องการคอรัปชั่นเป็นเรื่องปกติและเริ่มกระจายไปทั่ว ดังที่ผลการสำรวจออกมาพบว่า ส่วนใหญ่ 46% ยอมรับได้หากเกิดการคอรัปชั่นแล้วตัวเองจะได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งผู้ที่ตอบนี้ส่วนใหญ่ 70% เป็นเด็กรุ่นใหม่ ซึ่งหากปล่อยไว้แบบนี้ จะกลืนกินความดีและจริยธรรมในสังคมไป"
    เขาบอกว่า ภาคธุรกิจถือเป็นข้อต่อสำคัญในการต่อต้านคอรัปชั่น เพราะถ้าภาคธุรกิจไม่ยอมจ่ายเงินสินบน การคอรัปชั่นก็ไม่เกิด
    นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่น (ภตค.) หวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการต่างๆ ที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหารการทุจริตคอรัปชั่นอย่างจริงจังกว่านี้ ซึ่งในระยะกลางและระยาว ภาคีเครือข่ายฯ จะระดมสมองนักกฎหมาย สื่อมวลชน เพื่อผลักดันเสนอกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งต้องปลูกฝังค่านิยมให้เด็กรุ่นใหม่ด้วยว่าการโกงเป็นสิ่งไม่ดี เพราะต่อไปจะไม่ยอมให้พวกโกงกินบ้านเมืองพ้นผิดเพียงแค่ถูกจองจำหรือยึดทรัพย์เท่านั้น
    ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.การคลัง กล่าวในการเสวนาเรื่อง ”การจำนำพืชผลการเกษตร” ว่า โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ดำเนินการอยู่นั้น สร้างความเสียหายในกับระบบสินค้าข้าวของไทยเป็นอย่างมาก เบื้องต้นทำให้ไทยสูญเสียตลาด สูญเสียแชมป์ในการส่งออก ทำให้พันธุ์ข้าวไทยถูกทำลายจากระบบการปลูกข้าวที่เปลี่ยนแปลงไป และสุดท้ายทำให้ประเทศชาติขาดทุนมหาศาลจากการรับจำนำ และมีการขายข้าวออกมาในราคาที่ต่ำกว่าทุน โดยขาดทุน 9,000 บาทต่อตัน หากรับจำนำประมาณ 9-10 ล้านตัน การขาดทุนเบื้องต้น 80,000 ล้านบาท รวมทั้งหมด (ค่าดำเนินการ) ขาดทุน 120,000 ล้านบาท ถ้าดำเนินนโยบายรับจำนำสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง ขาดทุนปีละ 100,000 ล้านบาท ผนวกกับนโยบายอื่นของรัฐจะส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะต่อ GDP ประมาณ 50-60% ของ GDP                 
    เขาบอกว่า การคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำนั้น ถือว่ามีการหาประโยชน์ตั้งแต่ขาเข้าจนถึงขาออกจากโครงการเลย หรือตั้งแต่ข้าวเริ่มเข้าโครงการจนถึงการระบายข้าวออกจากโครงการ โดยในอดีตการทุจริตในโครงการรับจำนำจะเป็นในรูปแบบของการปลอมใบประทวนหรือใบรับรองเกษตรกร แต่มาปัจจุบันพบว่าไม่มีการทุจริตโดยการปลอมใบประทวนแล้วหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกตรวจสอบจับกุม ซึ่งถือว่าออกมาจับช้าไปถึง 8-9 เดือนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานานตั้งแต่รัฐบาลนี้เริ่มโครงการ      
     "ล่าสุดเป็นการทุจริตแบบดื้อ โดยการตกลงระหว่างโรงสีจ่ายเงินซื้อข้าวให้กับชาวนาก่อน 1.2 หมื่นบาทต่อตัน แล้วนำใบประทวนและข้าวไปสวมสิทธิ์ขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส. 1.5 หมื่นบาทต่อตัน ได้กำไร 3,000 บาทต่อตัน เรื่องนี้ทำกินกันทั้งประเทศ แถมปล่อยให้มีการทำแบบบุฟเฟต์ ตั้งใจทำกันอย่างจริงจัง นักการเมืองเขตไหนก็คุมเขตนั้นหากิน เรื่องอย่างนี้ใบเสร็จไม่มี เพราะเขาเล่นกันนอกระบบ"           
     ส่วนการประมูลข้าวนั้น ทำทีไรจะมีแค่บริษัทผู้ส่งออกบางรายเท่านั้นที่ได้รับการประมูล เคยถูกยุบไปแล้วก็เปลี่ยนชื่อเข้ามาประมูลอีก ครั้งก่อนก็ให้ อคส.เป็นคนคัดเลือกขายข้าวให้บลูล็อกของอินโดนีเซีย ซึ่งตกลงขายข้าวที่ 559 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่กลับกลายว่าต้องให้บริษัทดังกล่าวมาซื้อข้าวต่อจากรัฐแล้วไปขายเอง กลายเป็นว่าแทนที่จะขายข้าวได้ในราคาดังกล่าว กลับต้องตัดราคาขายถูกๆ เพื่อเอื้อบริษัทส่งออก ซึ่งหากรัฐขายเองจะได้ประมาณ 1.6 หมื่นบาท/ตัน แต่เมื่อเอื้อก็ต้องขายให้เอกชนในราคา 1.2-1.4 หมื่นบาท/ตัน ทำให้ขาดทุน ซึ่งตรงนี้ใบเสร็จไม่มี แต่เป็นที่รู้กัน ซึ่งรัฐจะขายข้าวแบบนี้เพื่อเอื้อให้กับเอกชนบางรายเป็นประจำ
    “ทำไมรัฐบาลจะไม่เดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อในฤดูกาลหน้าล่ะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าขาดทุนแน่ แต่ก็จะดำเนินการต่อ เก็บข้าวไว้ก็ไม่ได้ เพราะสต็อกเต็ม ก็ต้องขายขาดทุน มีความเสียหายขนาดนี้แล้วทำไมจะต้องหน้าด้านทำต่อ ประเด็นคือ ยังแบ่งกันกินไม่พอใช่หรือไม่ ตอนนี้การคอรัปชั่นปาเข้าไป 60-70% แล้ว ตรงนี้ก็ขอพระสยามเทวาธิราชดลบันดาลให้คนที่โกงมีหิริโอตตัปปะ คือละอายแก่บาปบ้าง” ม.ร.ว.ปรีดิยากร กล่าว          
     นายการุณ กิตติสถาพร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำมีมานานแล้ว แต่ปัจจุบันที่มีความกังวลมากก็เพราะหลักการในการจัดการโครงการต่างจากอดีตมาก เพราะในอดีตจะตั้งราคารับซื้อข้าวต่ำกว่าหรือเท่ากับราคาตลาด เพื่อดันราคาข้าวในช่วงที่ตลาดข้าวยังไม่มีความต้องการ และจะทำระยะสั้นๆ 2-3 เดือน เมื่อราคากลับสู่ภาวะปกติก็จะหยุด แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นการดึงราคาให้สูงขึ้น เปลี่ยนวัตถุประสงค์ กลายเป็นการรับซื้อข้าวทุกเมล็ดเข้ามาอยู่ในมือรัฐบาล แถมดึงข้าวไว้จนภาคเอกชนผู้ส่งออกข้าวในประเทศไม่มีข้าวส่งออก และไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาด ถือว่าโครงการนี้เป็นการครอบงำเพื่อที่จะใช้ในการต่อรองด้านอื่นๆ มีการเมืองแฝงอยู่มากกว่าด้านเศรษฐกิจ         
    “ตอนนี้รับจำนำข้าวเปลี่ยนวัตถุประสงค์ดึงข้าวทุกเมล็ดมาอยู่ในมือ เพื่อจะได้มีการต่อรองด้านการเมือง เช่น ถ้าไม่เข้าร่วมก็จะไม่ได้ข้าวจากโรงสี หรือถ้าไม่เข้าร่วมก็จะไม่มีข้าวเพื่อไปส่งออก ถือเป็นการยึดอำนาจทางการเมืองอย่างร้ายแรง โดยใช้นโยบายมาครอบงำ” นายการุณกล่าว           
     นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ถือเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐเปิดเผยผลข้อมูลการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาล ส่วนหนึ่งก็เป็นการตอกย้ำว่า รัฐบาลไทยไม่สามารถขายข้าวในราคาสูงเพื่อดันตลาดได้ แต่ต้องขายข้าวในราคาตลาดที่ต่ำกว่าต้นทุนในการรับจำนำด้วยซ้ำ แถมการที่รัฐบาลโฆษณามาตลอดว่ามีการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) มาตลอด ความจริงก็ยังไม่สามารถส่งมอบข้าวได้เลยสักเมล็ด ซึ่งการขายข้าวในราคาตลาดเช่นนี้ ถือว่าขาดทุนเมื่อเทียบกับราคาจำนำที่ 1.5 หมื่นบาท/ตัน บวกกับค่าบริหารจัดการอีก 2,000 บาท/ตัน           
     นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องรับว่า หลังจากนี้จะต้องขายข้าวในราคาตลาด หรือต่ำกว่าราคาตลาดในการระบายข้าวล็อตต่อไป ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า ที่ผ่านมาผู้ส่งออกถูกกล่าวหาเป็นจำเลยว่าแข่งขันขายข้าวตัดราคากันจนทำให้ราคาข้าวไทยต่ำนั้นไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งที่รัฐทำ โดยการกอดสต็อกข้าวไว้จนทำให้มูลค่าส่งออกข้าวหายไปเดือนละประมาณ 6,000 ล้านบาท ก็ไม่ทำให้ราคาข้าวในตลาดสูงขึ้นเลย ชี้ว่าการดำเนินงานของรัฐในโครงการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ
    นายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาไทย กล่าวว่า การทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐมีอยู่ทุกกระบวนการ ตั้งแต่ชาวนาไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ส่งข้อมูลให้รัฐตลอด แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ พอมาช่วงหลังที่ข่าวหนาหูมากขึ้น ถึงจะออกมาแก้ ก็ยังไม่จริงจังนัก เพราะรูปแบบการทุจริตก็เปลี่ยนไปในรูปแบบที่แปลกและหลากหลายขึ้น ซึ่งก็ช้าเกินไปแล้ว
    วันเดียวกันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า ในส่วนของฝ่ายค้าน เดินหน้าในการที่จะรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้ว เรามีเวลาที่จะสามารถยื่นญัตติ แล้วก็อภิปรายได้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน
    นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองนายกรัฐมนตรี ที่ ป.ป.ช. ออกมาทวงถามว่าหลังจากที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลความผิดว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ทำให้เกิดความเสียหาย และได้ส่งเรื่องไปยังต้นสังกัด กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ออกจากตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ว่าสังคมก็ต้องช่วยกัน ถ้าเราเริ่มมีความรู้สึกว่ามันชินชาไปแล้ว บางทีสนใจแต่ว่าประเด็นในเชิงการเมืองมากกว่าตัวสาระ หรือว่าเรามองเรื่องพวกสำคัญกว่า หรือเรามองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ใกล้ตัวเรา เราก็ปล่อยมันไป ถ้าสังคมชินกับความคิดค่านิยมแบบนี้ เป็นเรื่องลำบาก
    ด้านนายยงยุทธเผยว่า ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการอะไรขึ้นมาตรวจสอบ เพราะทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย ส่วนกรณีที่ป.ป.ช.แนะแนวทางให้ตั้งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยสอบสวนเรื่องนี้นั้น เห็นว่าหากจะพูดเรื่องนี้ต้องใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็จะทำอะไรตามกฎหมาย ทั้งนี้ การยืนยันความบริสุทธิ์และความโปร่งใสในการตรวจสอบนั้น ก็ต้องให้ศาลหรือองค์กรอื่นเป็นผู้ยืนยัน เพราะเราจะไม่พูดให้ประโยชน์หรือโทษตัวเอง อย่างไรก็ตาม ไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ได้อ่อนไหวอะไร.

http://www.thaipost....ws/070912/62067