สำหรับความเห็นของผม เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความเสื่อมและความเพี้ยนของสังคมปัจจุบันครับ
ทำไมถึงต้องทำแท้ง ก็เพราะมีท้อง ทำไมถึงมีท้อง ก็เพราะมีเพศสัมพันธ์ และที่ต้องทำแท้งเพราะมีเพศสัมพันธ์โดยที่ยังไม่พร้อมจะรับผิดชอบชีวิตคนทั้งชีวิต
ก็ต้องไปตั้งคำถามใหม่ว่า "เรื่อง Sex กลายเป็นความบันเทิงของคนทั่วไปตั้งแต่เมื่อไหร่?"
ผมไม่คิดว่าแต่เดิมที Sex จะถูกใช้เพื่อความบันเทิงสำหรับคนทั่วไปนะ เพราะ Sex เป็นเรื่องที่สัมพันธ์โดยตรงกับการสืบเผ่าพันธ์ ซึ่งเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ และเกี่ยวพันกับภาระหน้าที่ต่างๆมากมายของเจ้าตัวและของครอบครัวในการเลี้ยงดูทายาทคนใหม่ที่อาจจะเกิดมา ตลอดจนญาติกลุ่มใหม่ๆที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยผ่านการแต่งงาน และในยุคไม่กี่สิบปีก่อน คนเรายังไม่ค่อยรู้จักการคุมกำเนิด เรียกว่าเสียบเข้าไปเมื่อไหร่ โอกาสท้อง 50/50 ดังนั้นแม้ Sex จะเป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ แต่ผมไม่คิดว่าการ Sexual Intercourse จะเป็นความบันเทิงสำหรับคนทั่วไป เว้นแต่คนเจ้าชู้ไร้ความรับผิดชอบ คนไม่มีความคิด และคนที่ฐานะมั่งคั่งพอที่จะ Support เมียหรือทายาทได้ทีละหลายๆคน
และเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการนี้จะไม่ถูกละเมิด สังคมถึงต้องสร้างค่านิยม ขนบประเพณีหลายๆอย่างมาช่วยปกป้อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพรหมจรรย์ เพื่อให้แน่ใจว่าทายาทที่กำเนิดมา และตระกูลนั้นต้องเลี้ยงดูรับผิดชอบ จะเป็นทายาทแท้จริง ไม่ใช่กาฝากนอกตระกูลที่จะสร้างความวุ่นวายสับสนในอนาคตทั้งต่อวงศ์ตระกูล ทั้งต่อตัวเด็ก
การที่สังคมสมัยก่อนไม่ค่อยมีการทำแท้ง เพราะเขาไม่ฝ่าประเพณีกันไงครับ ถ้ามีการฝ่ากันก็คือรักกันจริงแต่พ่อแม่ไม่ยอมรับ ถึงต้องพากันหนี แล้วค่อยอุ้มหลานไปกราบขอขมาพ่อตาแม่ยายทีหลัง อีกอย่าง คนสมัยก่อนเขารู้จักบาปบุญคุณโทษ เขาไม่ทำแท้งกันหรอกครับ ถ้าจะมีทำ ก็อยู่เฉพาะในหมู่ผู้หญิงขายตัวจำนวนน้อยในสังคมเท่านั้น ไม่ใช่ในสังคมปกติ
เป็นความไร้ความรับผิดชอบของสื่อปัจจุบันหรือเปล่า ที่สร้างภาพให้ Sex กลายเป็นความบันเทิงที่ใครก็ได้สามารถเข้าถึงได้ แม้จะเป็นเด็กวัยรุ่นที่ยังรับผิดชอบตัวเองก็ยังไม่ได้ โดยตัดภาพเรื่องของภาระสังคมที่อาจจะตามมาไปโดยสิ้นเชิง
อย่างหนังเรื่อง Hormone ที่เป็นที่ถกเถียงกัน ผมก็ไม่เห็นด้วยกับผู้กำกับนะ แน่นอนว่าเราปฏิเสธไม่ได้ว่ามี Sex ในเด็กวัยเรียนจริง แต่ข้อเท็จจริงก็คือ มีนักเรียนมัธยมใจแตกเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อโรงเรียนเท่านั้น ที่มีเพศสัมพันธ์กันในวัยเรียน และปกติทางโรงเรียนหรือครอบครัวก็ควรสามารถที่จะจัดการกับมันแบบ Case by Case ได้ แต่พอพวกสื่อยกมันขึ้นมาอยู่หน้าฉาก ราวกับมันเป็นเรื่องปกติที่ใครๆก็ทำกัน มันก็จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของสังคม ซึ่งจะเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กที่เคยอยู่พ้นเส้นมาตรฐานให้ต่ำลงไป ผลก็คือโรงเรียนและครอบครัวต้องรับมือกับปัญหาเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนเพิ่มมากกว่าเดิม และแน่นอนว่าเมื่อมาตรฐานกลางมันต่ำลง พฤติกรรม Bottom line ที่มันเคยเลวร้ายอยู่แล้ว มันก็จะยิ่งตกต่ำเลวร้ายลงกว่าเดิม นั่นแหละคือสิ่งที่เหล่าครูเขากลัวกัน และเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าสังคมไทยคือสังคมเลียนแบบกันแบบไม่ค่อยมีความคิดเท่าไหร่หรอก
ดังนั้นการสนับสนุนให้ทำแท้งกันโดยเสรี ก็เท่ากับว่าเราสนับสนุนให้เด็กมี Sex กันโดยไร้ความรับผิดชอบ ทั้งเด็กหญิงและเด็กชาย ซึ่งการมี Sex กันโดยอายุยังน้อย รับผิดชอบตัวเองไม่ได้ แถมไม่ป้องกัน แค่นี้มันก็สะท้อนความไม่รับผิดชอบพออยู่แล้ว และการทำแท้ง มันก็คือการ "ฆ่าคน" ดีๆนี่เอง ดังนั้นคนที่ทำแท้งได้โดยไม่รู้สึกอะไร โดยเฉพาะฝั่งผู้หญิง (เพราะเหตุการณ์มันเกิดขึ้นกับตัวคุณเอง) ผมก็ไม่ชัวร์กับมาตรฐานคุณธรรมในจิตใจเท่าไหร่หรอกนะ ลองคิดดูแล้วกันว่าอนาคตที่เต็มไปด้วยผู้ใหญ่ที่ไม่เคยรับผิดชอบต่อชีวิตคนอื่น จะเป็นอย่างไร
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเจ็บปวดก็คือ การโยนกลองความผิดพวกนี้ให้ผู้ชาย ผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิงก็มีอยู่มากมาย แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัว คนที่ตัดสินใจมี Sex กับผู้ชายที่ไม่รับผิดชอบก็คือตัวผู้หญิงเองไม่ใช่หรือ แถมมีข้อมูลสนับสนุนด้วยซ้ำว่า ผู้หญิงจะไม่ค่อยเลือกผู้ชายที่สงวนท่าที แต่จะเปิดใจให้ผู้ชายที่เจ้าชู้มากกว่า เพราะท่าทีชัดเจนกว่า และแน่นอนว่าเรื่องคุยเรื่องเข้าหาผู้หญิงก็จัดเจนกว่าด้วย ดังนั้นถ้าจะป้องกัน คนในอดีตเขาทำถูกแล้วที่ให้ไปป้องกันที่ผู้หญิง เพราะเขารู้ว่าผู้ชายดีๆ มันคิดเยอะอยู่แล้วก่อนจะมีอะไรกับผู้หญิงสักคน แต่ผู้ชายเจ้าชู้ มันมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว เวลาเขาสอน ผู้ชายกับผู้หญิงสมัยก่อนเขาถึงสอนต่างกัน เวลาสอนผู้หญิง เขาจะสอนให้รับผิดชอบ ดูแลตัวเอง แต่สอนผู้ชาย เขาจะสอนให้รับผิดชอบคนอื่น (เว้นในครอบครัวคนจีนบางบ้านที่มองลูกชายเป็นเทพฯนะ)
ไม่รู้นะ เวลาที่เห็นครอบครัวที่มีลูกสาว เลี้ยงดูลูกแบบทำใจว่า ก็เลี้ยงเท่าที่จะทำได้ อะไรจะเกิดก็ต้องให้เกิด แล้วค่อยมาปะรอยร้าวกัน แล้วก็รู้สึกหดหู่ว่าสังคมเราทุกวันนี้มันมาถึงจุดนี้ได้ไง
- เสือยิ้มยาก, ฺำBery, chackrapbong and 1 other like this