Jump to content


คนกรุงธน

เป็นสมาชิกตั้งแต่ 9 มกราคม 2552
ออฟไลน์ เข้าใช้งานครั้งล่าสุด: 16 กรกฎาคม 2557 04:35
-----

#307775 หมอเวร และ ดอนยอ กล้าไม่ครับ?

โดย คนกรุงธน on 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:52

เมื่อไหร่จะเลิกหน้าด้านนับศพทหารเป็นพวกตัวเองสะทีฟะ

ชาวบ้านสีลมด้วยครับ...แม่มมันมั่วตลอด...
ช่วงที่ใช้ เขตกระสุนจริงน่ะ คนที่ตายน่ะอยู่รอบวงนอกทั้งนั้น
ไม่มีควายแดงที่อยู่แยก รปส.หน้าเวที ตายซักตัวนะ


#304790 ใครมีหลักฐานเรื่องใครเผา Central world ไหมครับ มีข้อมูลส่วนหนึ่งแล้วแต่อยากได...

โดย คนกรุงธน on 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:30

เอาไปอ่านซะ จากปากสื่อมวลชนหลายสาขา
จุลสารราชดำเนิน2553พิเศษ-โศกนาฎกรรมพฤษภา53

http://www.tja.or.th...&id=556:2553-53

บางส่วนจากบันทึกของนักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์
http://www.oknation....0/11/18/entry-1
เหยี่ยวข่าวสำนักข่าวไทย ยันมีไอ้โม่งในสวนลุมฯ ยิงกราดใส่ทหาร
ส่วนกรณีปัญหากองกำลังติดอาวุธ ที่ก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนออกมายอมรับว่ามีอยู่จริง ขณะที่อีกส่วนพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยปฏิเสธว่าในกลุ่มคนเสื้อแดงไม่มีการติดอาวุธ ก็ได้มีการพูดถึงในบทความเรื่อง “ใครยิงใคร” ซึ่งเขียนโดย นายนิมิต สุขประเสริฐ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย
นายนิมิต กล่าวถึงการทำข่าวในวันแรกที่ทหารประกาศเข้ากระชับพื้นที่การชุมนุมว่า ตนได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบเหตุการณ์บริเวณแยกถนนวิทยุ ระหว่างการกระชับพื้นที่ซึ่งเขาอยู่แนวหลังทหาร เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“กลุ่มชายฉกรรจ์ได้แอบลักลอบเข้าไปในสวนลุมฯ และขับรถมอเตอร์ไซค์ 2-3 คัน เข้ามาใกล้แนวทหาร ซึ่งไม่ทันระวังตัว เนื่องจากมีแนวต้นไม้ริมรั้วขึ้นสูง มีการกราดยิงด้วยปืนอาก้าใส่ทหาร โดยไม่ได้สนใจว่าจะโดนใครบ้าง ทำให้ผมกับสื่ออีกหลายชีวิตที่อยู่กับแนวทหารต้องหมอบราบกับพื้นโดยอัตโนมัติ” นายนิมิตระบุ
ทหารตกเป็นเป้าถูกโจมตีเจ็บอื้อ
ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวไทยกล่าวต่อว่า ต่อมาทีมข่าวได้ถอนกำลังจากฝั่งสวนลุมพีนีไปอยู่แนวปะทะของทหารกับผู้ชุมนุมที่ชุมชนบ่อนไก่ กำลังทหารได้ผลักดันผู้ชุมนุมจนควบคุมสถานการณ์ได้ แต่แล้วในยามค่ำคืนซึ่งค่อนข้างมืดเพราะไม่มีไฟฟ้าใช้ ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อระเบิด M79 ถูกยิงใส่บังเกอร์ทหาร ทำให้มีจ่าทหารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย โดยบาดแผลเห็นเนื้อและกระดูกขาวอย่าชัดเจน แต่เขายังคงเอาสก็อตเทปแปะไว้พร้อมบอกกับตนว่า ไม่เป็นอะไรจะไปยิงต่อ
“ผมสังเกตการณ์อยู่ตลอดเพราะไปไหนไม่ได้ และต้องรายงานข่าวตลอดทั้งวัน เห็นผู้ชุมนุมเข้าใจว่าเป็นวัยรุ่นบิดมอเตอร์ไซค์ ยกล้อ ตะโกนเชียร์กันเสียงดัง และวิ่งมาใกล้แนวรั้ว ซึ่งมองว่าต้องการยั่วยุทหารที่ปักหลักรักษาการณ์จุดดังกล่าวมากขึ้น กลุ่มควันที่พวยพุ่งอย่างรุนแรงจากการเผายางรถยนต์ยังคละคลุ้งผู้ชุมนุมหลาย คนที่มีอาวุธและระเบิดเพลิงในมือโดยพยายามบุกเข้ามาในตอนกลางคืน ซึ่งตรงนั้นถือว่ามืดมาก ก็จะถูกสอยโดยพลแม่นปืนของทหารอยู่ตลอด จุดนั้นมือยิงถูกนำเสนอเป็นภาพข่าวใน นสพ.ไทยรัฐด้วย” ในบทความระบุ
อีกตอนหนึ่ง นายนิมิตกล่าวว่า ระหว่างเดินทางกลับทราบว่าพลทหารซุ่มยิงซึ่งประจำตรงจุดที่ตนเพิ่งถอนทีม ถูกยิงหัว แต่เขาใส่หมวกเหล็ก ทำให้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ นิมิตกล่าวถึงในช่วงวันสุดท้ายก่อนจะมีการยุติและสลายการชุมนุมว่า ตนกลับไปอยู่ในจุดชุมชนบ่อนไก่อีก วันนั้นพลซุ่มยิงของทหาร ที่แอบขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 15 ของอาคารที่กำลังก่อสร้าง ถูกซุ่มยิงไม่ทราบทิศทาง ซึ่งไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้
“ทหารคนนั้นได้รับบาดเจ็บที่ท้อง ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน ด้วยสภาพทุลักทุเล เพราะลำเลียงทางบันไดจากชั้น 15 ลงมา เนื่องจากไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ก่อนจะนำขึ้นรถพยาบาลซึ่งถูกนำมาจอดข้างถนน ทหารปฏิบัติการลำเลียงผู้ป่วย คล้ายกับที่ใช้ในยุทธการ หรือในสนามรบตามที่ได้รับการฝึกมา คือ วางแนวยิงของทหาร 10 กว่านาย วิ่งระดมยิงด้วยปืนชนิดต่างๆ ออกไปอย่างต่อเนื่อง จนรถพยาบาลวิ่งออกไปได้ คาดว่าป้องกันไม่ให้ถูกซุ่มโจมตี ระหว่างเอาคนเจ็บมาขึ้นรถพยาบาล”
นายนิมิตกล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์นี้ มีนักการเมืองนำภาพทหารนุ่งกางเกงขาสั้นสะพายเอ็ม 16 ไปเผยแพร่ทางสื่อ เพราะภาพชายชุดลำลองที่สะพายปืนซึ่งฝ่ายค้านหยิบยกมาอภิปรายในสภา และรัฐบาลชี้แจงว่าเป็นทหารส่งข้าวก็เกิดจากจุดนี้นี่เอง อย่างไรก็ตามเขาได้ให้ความเห็นว่าแม้ทหารจะผ่านการฝึกรบมาอย่างโชกโชน แต่ด้วยสถานการณ์ที่ต้องปะทะกับคนไทยด้วยกัน ทำให้ได้รับแรงกดดันและเครียด เนื่องจากต้องยิงปืนใส่พี่น้องคนไทยด้วยกัน ทั้งๆ ที่ไม่อยากยิง

Posted Image


โปรดิวเซอร์ทีวีไทย เผย “แดง” ปูพรมประทัดยักษ์ก่อนยิง M79
นอกจากนี้ในหัวเรื่อง “สไนเปอร์จากฝั่งแดง” กองบรรณาธิการจุลสารราชดำเนินได้สัมภาษณ์นายปรีชาพล อินทรโชติ โปรดิวเซอร์ข่าว สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ซึ่งกล่าวถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่ชุมชนบ่อนไก่ ที่ปักหลักอยู่หลังแนวทหารที่ชุมชนบ่อนไก่นานกว่า 5 วัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่นอนหลับมีระเบิด M79 มาตรงแนวทหารอยู่ 3 ลูก และช่วงกลางคืนมีเสียงตูมตามต่อเนื่องทั้งคืน ซึ่งระเบิด M79 ตนได้ยินเสียงทุกวัน แต่ละวันเกิดขึ้นตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน หรือหลังเที่ยงคืนจนถึงเช้าอีกวัน บางวันอาจมีถึง 5-6 ลูก แต่รวมทั้งหมดแล้วเป็นสิบลูก โดยจะมีประทัดยักษ์ขึ้นมาก่อน และก็จะตามมาด้วย M79 ลูกหนึ่ง
นายปรีชาพลระบุว่า ทหารบอกว่ามีสไนเปอร์อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย บนตึกลุมพินีทาวเวอร์ บางวันทหารก็เห็นกระจกเปิด บางวันก็กระจกปิด และก็เห็นลักษณะคล้ายๆ คน ทหารจึงสงสัยว่าจะมีสไนเปอร์ของฝั่งตรงข้ามอยู่ด้วย และตอนกลางคืนทหารมีการแจ้งเตือนตลอดเวลาว่ามีกลุ่มคนเข้ามาใช้อาวุธหนักกับทหาร ซึ่งในช่วงกลางวันมีคนใช้ปืนสั้นยิงเข้ามา และก็มีคนใช้ปืนยาว ลักษณะคล้ายๆ ปืนไทยประดิษฐ์ ยิ่งเข้ามาจากฝั่งตรงข้าม ซึ่งตนเห็นกับตา โดยตอนที่ยิงบุคคลเหล่านั้นแต่งกายด้วยชุดสีดำ ใส่หมวกพรางหน้า
“ดูลักษณะของฝั่งตรงข้ามแล้ว เขาดำเนินยุทธวิธีคล้ายกับทหารเหมือนกัน ไม่ว่าการวางแผน การเข้าตี ดูแล้วน่าจะต้องมีคนที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินยุทธวิธีในฝั่งตรงข้ามด้วย เช่น ช่วงกลางคืน เขาก็จะมีชุดหมอบคลานเข้ามา คล้ายว่าจะยิง M79 เพราะถ้ายิง M79 ระยะยิงจากแนวของกลุ่มผู้ชุมนุม มันจะตกไม่ถึงแนวทหารเพราะมันยังมีรั้วลวดหนาม ฉะนั้นวิธีง่ายที่สุด คือ เขาต้องพยายามเข้ามาให้ใกล้แนวทหารให้มากที่สุด ฉะนั้น ผมเชื่อว่าถ้าเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมเองคงไม่กล้าที่จะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงขนาดนี้” นายปรีชาพลระบุ
นายปรีชาพลยังกล่าวว่า ตนเชื่อว่ามีสไนเปอร์จากฝั่งตรงข้ามของทหาร เพราะว่าลักษณะของชุดที่เข้าไปอยู่โดยปกติแล้ว สไนเปอร์จะวางตัวอยู่ในที่สูง และสไนเปอร์เขาจะวางในที่ที่มองเห็นลำบาก ตนจึงเชื่อว่าฝั่งตรงข้ามก็มีการวางตัวในที่สูง โดยคนที่สูงในระดับเดียวกัน มันจะมองเห็นกัน แต่ถ้าเป็นชุดที่อยู่ข้างล่างมองสไนเปอร์ไม่เห็นแน่นอน นอกจากนี้เท่าที่ดูลักษณะของการกระทำ แสดงว่าฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุมก็มีการดำเนินกลยุทธ์ทางทหาร ทางยุทธวิธี ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าจะต้องมีบุคคลหรือกลุ่มคนที่ผ่านการเรียน ฝึกการใช้อาวุธ หรือเรียนเรื่องการดำเนินกลยุทธ์ทางการทหารเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะดูลักษณะการวางกำลัง การถอยร่น ตั้งรับ หรือการก่อกวน ดำเนินกลยุทธ์ทางด้านจิตวิทยา เขาก็เป็นไปตามหลักตามตำราของทหาร ตนเชื่อว่าไม่ใช่เป็นแค่กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาต่อต้านรัฐบาล แต่มีกลุ่มคนที่มีความสามารถในทางทหารเข้ามาในกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ยันแดงเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เพราะแค้นแกนนำเลิกชุมนุม
อีกด้านหนึ่ง ในช่วงที่แกนนำ นปช.ประกาศยุติการชุมนุมบนเวทีแยกราชประสงค์ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จลาจลใจกลางกรุงเทพฯ กองบรรณาธิการจุลสารราชดำเนินได้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยนายอภิชัย แก้วกล้า ช่างภาพของสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี (ช่อง 9) กล่าวว่า ขณะที่แกนนำประกาศให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับ ผู้ชุมนุมบางส่วนที่ไม่พอใจเริ่มมีปฏิกิริยาด้วยการขว้างก้อนหินใส่กระจกห้างสรรพสินค้า และจุดไฟระเบิดขวดที่ทำขึ้นเอง
“หลังแกนนำลงเวทีได้เดินไปมอบตัวที่ สตช.ก็ได้เข้าไปอยู่ภายในโรงพยาบาลตำรวจ ได้ถ่ายภาพซูมมาฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นห้างเซ็นทรัลเวิลด์ฝั่งเซนเห็นชายกลุ่มหนึ่งแต่งตัวคล้ายการ์ด นปช. ขี่รถมอเตอร์ไซต์มาจอดด้านหน้า ถอดหมวกแก๊ป และนำหมวกไหมพรมมาใส่ปกปิดใบหน้า ก่อนเดินมุ่งหน้าเข้าไปใช้ทั้งหิน ระเบิดขวด ทุบทำลายกระจกห้างและเข้าไปภายในห้าง ระหว่างนั้นยังคงมีเสียงดังคล้ายระเบิดและปืนเป็นระยะ” นายอภิชัยกล่าว
ด้าน น.ส.ดาวี ไชยคีรี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ในเวลานั้นเช่นกันว่า หลังแกนนำเริ่มประกาศทิ้งเวที แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมรับเพราะอารมณ์ร่วมที่ตกค้างหลังชุมนุมมานาน ภาพและเสียงสุดท้ายบนเวทีที่ยังติดตาอยู่ คือ เสียงคล้ายระเบิดหลายตูม ดังมาจากทิศทางที่ไม่สามารถระบุได้ แกนนำต่างหน้าถอดสี เป็นตัวเร่งให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ปิดเวทีเร็วขึ้น ก่อนที่จะเดินไปมอบตัวที่ สตช. โดยมีการ์ด นปช.และผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งติดตามไปด้วย
“ภาพการวิ่งเตลิดอย่างไร้ทิศทางและความชุลมุนเริ่มขึ้น เราตัดสินใจร่วมชะตากรรมวิ่งไปพร้อมกับผู้ชุมนุมเพื่อหาที่ตั้งสังเกตการณ์ เบียดเสียดไปกับผู้ชุมนุม พยายามเข้าไปในรั้วของโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งอยู่ใกล้เวทีที่สุด ตอนนั้นเห็นผู้ชุมนุมเริ่มขว้างปาสิ่งของและระเบิดขวดเข้าไปในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ด้วยอารมณ์โกธรแค้น ไฟเริ่มลุกไหม้ ช่วงแรกยังโหมไม่มากนัก แต่มีการเติมเชื้อเพิ่มเติมเข้าไปทำให้ไฟลุกโชนมากขึ้น รถดับเพลิงไม่สามารถเข้ามาได้ ไม่มีใครคิดช่วยยับยั้ง” น.ส.ดาวีระบุ
คมชัดลึกเผย 6 ศพวัดปทุมฯ 2 รายถูกยิงมาจากข้างนอก
ส่วนกรณีผู้เสียชีวิต 6 รายในวัดปทุมวนาราม ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดให้เป็นพื้นที่อภัยทาน และในช่วงสลายการชุมนุมก็มีผู้ชุมนุมหลบเข้าไปในวัดจำนวนมาก ก็มีการบันทึกในบทความเรื่อง “ภาพที่เห็นกับตาในวัดปทุม” เขียนโดย น.ส.พรรณี อมรวิพุธพนิช ผู้สื่อข่าว นสพ.คมชัดลึก ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สื่อข่าวที่อยู่ในวัดปทุมวนาราม ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุกระสุนชุดแรกถูกยิงเข้ามาบริเวณหน้าวัดเมื่อเย็นวันที่ 19 พ.ค. ถึงเที่ยงของอีกวันหนึ่ง
น.ส.พรรณียืนยันว่า ที่กล่าวกันว่าผู้ที่อยู่ภายในวัดปทุมวนารามถูกยิงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะตนเห็นมีผู้ถูกยิง 2 รายที่ถูกยิงนอกวัด แต่ศพถูกนำมาเก็บไว้ที่วัดปทุมวนาราม เมื่อกลุ่มเสื้อแดงต่างจังหวัดพยายามเข้ามาซักถามว่าด้านหน้าประตูวัดเป็นอย่างไรบ้าง ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่าพวกทหารยิงใส่ผู้ชุมนุมในวัด บ้างก็ว่าพวกพันธมิตรฯ แฝงมาฆ่าผู้ชุมนุม แม้จะอธิบายว่าไม่ใช่ในวัดแต่อยู่ใกล้ประตูวัด และไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง แต่ผู้ชุมนุมไม่สนใจฟัง ยังเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิด
นอกจากนี้ เมื่อมีผู้ชุมนุมบอกต่อว่า มีผู้ชุมนุมเสื้อแดงถูกยิงในวัดอีก 4 ศพ เมื่อพยายามสอบถามข้อเท็จจริงก็ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นกับตา มีแต่ฟังเขาเล่ามา เมื่อหาทางเดินย้อนกลับไปหน้าประตูวัดอีกครั้ง การ์ดเสื้อแดงที่เป็นผู้ชาย 4-5 คน ไม่ให้ผ่านออกไป โดยขู่ว่าเป็นเขตอันตรายมาก มีคนถูกยิงตายในวัดแล้วหลายศพ ประมาณ 2 ทุ่ม ศพผู้เสียชีวิตทั้งหกรายนำมานอนเรียงกัน ผู้คนยืนมุงดูพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา มีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยรายหนึ่งยืนยันถึงสิ่งที่เขาเห็นกับตาว่า มีทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสยิงลงมา แต่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อตามคำพูดนั้น
น.ส.พรรณีตั้งข้อสังเกตว่า ความเชื่อของผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการเสียชีวิตของผู้ชุมนุม 6 ราย พบว่ามีอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่เชื่อว่าคนยิงที่ใส่ชุดทหารเป็นทหารจริง, กลุ่มที่เชื่อว่าคนยิงเป็นทหารปลอมแฝงตัวมาหวังฆ่าประชาชนให้เกิดจลาจล, กลุ่มที่เชื่อว่าคนยิงเป็นกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ไม่ใช่ทั้งเสื้อแดงและทหาร, กลุ่มที่เชื่อว่าคนยิงเป็นกลุ่มการ์ดพันธมิตรสวมใส่ชุดทหารมายิงที่วัด เพื่อแก้แค้นเสื้อแดง และกลุ่มที่เชื่อว่าคนยิงเป็นทหารรับจ้างต่างด้าว หรือทหารเพื่อนบ้านที่ถูกนักการเมืองอีสานคนหนึ่งจ้างมาฆ่าเสื้อแดงด้วยความสะใจ เมื่อฟังดูแล้วกลุ่มที่เชื่อว่าเป็นทหารจริงจะน้อยที่สุด เพราะโดยส่วนลึกแล้วคนไทยยังเชื่อว่า ทหารจะไม่ยิงชาวบ้านโดยไม่มีเหตุผล
ในอีกตอนหนึ่ง น.ส.พรรณีกล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงดึก ขณะหาที่นั่งพักด้านหลังวัด ฝั่งที่มองเห็นลานจอดรถสยามพารากอนซึ่งเป็นมุมที่มีลมโกรกและแสงสว่างเพียงพอ มีชาย 2 คนท่าทางเหมือนการ์ดเสื้อแดงเดินมายืนดูริมรั้วพร้อมกล้องส่องทางไกล สักพักมีชาย 3 คนเดินมาแล้วบอกชายกลุ่มแรกว่า ต้องย้ายคนออกจากที่นี่แล้ว เพราะมีสายส่งข้อมูลว่าทหารจะเข้ามาวางเพลิงและยิงเสื้อแดงทิ้งทั้งหมด แต่ 2 คนแรกไม่ยอม บอกว่าถ้าเอาคนเป็นพันออกไปตอนนี้ ยิ่งอันตราย เพราะข้างนอกมืดมาก คำตอบนี้ทำให้อีกกลุ่มไม่พอใจและบอกว่าจะไปหาหัวหน้า
เมื่อโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนนักข่าวหลายคนฟัง พบว่าแต่ละคนวิเคราะห์แตกต่างกันไป เช่น คนพวกนั้นอาจไม่ใช่เสื้อแดงแต่เป็นทหารแฝงตัวมา เพื่อพาคนเสื้อแดงออกไปพ้นจากคิลลิงโซน (Killing Zone) หรืออาจเป็นการ์ดเสื้อแดงจริง แต่ทะเลาะกันเพราะเกิดความเครียด หรืออาจรู้ว่าตนเป็นนักข่าวก็เลยสร้างละครตบตา เพื่อให้กระจายข่าวออกไปว่าจะมีการวางเพลิงเผาวัด
อย่างไรก็ตาม บทความของ น.ส.พรรณีกล่าวทิ้งท้ายว่า “18.00-06.00 น. เวลา 12 ชั่วโมงในวัดปทุมฯ ค่ำคืนนั้น ทำให้ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าจากนี้ไปคำสั่งสอนใน “คัมภีร์นักข่าว” ที่เน้นย้ำว่า อย่ารายงานข่าวถ้าไม่ได้ “ เห็นกับตา” หรือ “ ได้ยินกับหู” คงจะไม่มีความหมายอีกต่อไป เพราะวันนี้คนไทยส่วนใหญ่สร้างความเชื่อของตัวเองขึ้นมาแล้ว ความจริงที่เห็นกับตาหรือได้ยินกับหู จะถูกดัดแปลงให้ตรงกับความเชื่อและความคิดเห็นส่วนตัวทันที ต่อไปนี้ข้อความที่อ้างว่า “ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้” คงไม่มีความหมาย และไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป !?!”



#301036 แดงเพื่อไทย ชุมนุมมีนบุรี คน 500 คน

โดย คนกรุงธน on 16 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:58

ไอ้คางคกพูดวกไปเวียนมาน้ำเน่ามากๆ ไม่กล้าพูดเรื่องข้อเท็จจริงของ พรบ.ปรองดอง

ถ้าเป็นแบบนี้ เข้าทาง ปชป.แน่นอน
เวทีรอบต่อไปของ ปชป.น่าจะเก็บข้อมูลวันนี้ของไอ้คางคกและพวก แกะทุกประเด็น และจับโกหกไปตีแผ่ให้ล่อนจ้อนได้เลย
ฝากทีมงาน ปชป.ด้วยนะครับ


#299693 เดินหน้า เวที “ผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิดคนโกง” รูปแบบเป็นสานเสวนา ประเดิม...

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:30


อภิสิทธิ์ : ให้ประชาชนโบกมือให้ ส.ส.วิชาญ มีนชัยนันท์ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าวันนี้จะไม่มีคนมาฟังการปราศรัยพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับแซวเวทีพรรคเพื่อไทยที่จะ จัดพรุ่งนี้ว่า วันพรุ่งนี้เป็นวันพักผ่อน ยกเว้นเมฆกับฝน และยืนยันว่าเวทีผ่าความจริง เป็นเวทีของประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย




ไม่ได้ต้องการไล่รัฐบาล ถ้าจะไล่รัฐบาลจะไล่ให้ไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน



#299563 นายกปูข์โชว์โง่อีกแล้ว!!! สั่งชะลอน้ำเขื่อนภูมิพลที่ไหลลงสู่แม่น้...

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:00

ขอสามคำ อิ-ปะ-ลวก

Posted Image


#299461 จับตา - อดีตสหายภาคอีสานฟื้น “กองทัพปลดแอกฯ” ปกป้องชาติ ยื่นคำขาด “จาตุรนต์-ธ...

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:23

Posted Image
ผมว่างานนี้ ไอ้พวกแก๊งค์ไอ้แม้วเสื้อแดง เริ่มโดนทิ้งให้โดดเดี่ยวอยู่กลุ่มเดียว และกลุ่มมันก็จะเล็กลงเรื่อยๆ
หนาวไปถึงขั้วหัวใจไอ้แม้วและแกนนำ นปช.


#299444 เดินหน้า เวที “ผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิดคนโกง” รูปแบบเป็นสานเสวนา ประเดิม...

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 17:12


แต่คนกลางกลับแทบไม่เคยแสดงการกระทำอะไรที่บอกว่าเป็นการต่อต้านการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน จากพวกพรรคเพื่อควายหรือพวกเสื้อแดงเลย

ตัดออกแล้ว ค่อยเหลือ สาระหน่อย...

หลังจากเลือกตัง้แล้ว...

ท่านเห็นว่า พรรค พท ทำอะไรที่ผิด กฏหมาย และ ผมควรต่อต้านครับ..
ท่านเห็นว่า เสื้อแเดง ทำอะไรที่ผิดกฏหมาย และ ผมควรต่อต้านครับ..

อ่านดีๆนะครับ ... ถ้าท่านคิดว่า เค้าทำสิ่งผิดกฏหมาย... หมายถึง
ท่านคิดเอาเองว่าผิดกฏหมาย หรือ
เค้่าทำผิดกฏหมายไปแล้ว โดยศาลตัดสิน หรือ
สงสัยว่าทำผิดกฏหมาย... หรือ อะไร...

ถ้ามั่นใจว่าผิดกฏหมายจริงๆ... พรรคที่เป็นตัวแทนของท่านที่ ท่านชื่นชอบ ทำอะไรไปหรือ ยัง... ในกรณีที่ว่า...

ถ้าผมไม่เห็นด้วยกับท่านว่ามันผิด ผมต้อง ต่อต้านไหม...
ผมสามารถไม่เห็นด้วยกับท่านได้ไหม...
แล้วคนที่ไม่เห็นด้วยกับท่านแสดงว่า เป็น กลางไข่แม้วอย่างนั้นหรือ...

ม้าก เห็น 1+1 = 2 เหมือน เสื้อแดง และ แม้ว... แสดงว่าเป็นพวกเดียวกัน!!!

ส่วนก่อนเลือกตั้ง... พรรคไหนเป็นรัฐบาลครับ... ถ้าพบอะไรผิดกฏหมาย ทำไมไม่จัดการละครับ... จะให้ประชาชนแบบผมต่อต้านอะไรครับ...

โธ่เอ๊ย อย่ามาแถข้างๆคูๆ แล้วก็ไอ้แก๊งค์พวกนี้มันโดนยุบมากี่ครั้งแล้ว
โธ่เอ๊ย อย่ามาแถข้างๆคูๆ แล้วก็ไอ้แก๊งค์พวกนี้มันโดนคดีกันอยู่กี่คดี
ทั้งศาลตัดสินว่าผิด ปปช.ชี้มูลว่าผิด ผู้ตรวจการชี้ว่าไม่เหมาะ พวกเมิงน่ะมันด้านสุดด้าน
อัยการสั่งไม่ฟ้อง พวกเมิงก็ว่าอัยการดี
อัยการสั่งฟ้อง แม่มันก็บอกอำมาตย์สั่ง
ศาลตัดสินยกฟ้อง มันก็ว่าศาลยุติธรรม
ศาลตัดสินว่าผิด มันว่าศาลอำมาตย์ สองมาตรฐาน

ยังมีหน้ามาแถ ไอ้หน้าด้าน


#298631 นักเลงท้องถิ่นกร่างบุกร้านอาหารฯ "แถวนี้เป็นถิ่นกู ใครให้มาเปิดร้าน"...

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:17

http://www.pattanaki...25904&Ntype=136
มีปืนแล้วยิงคนตาย แบบไม่มีความผิดเลย ก็คือยิงเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง
หรือผู้อื่น ให้พ้นจากภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้น
เป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด ตามความในประมวล
กฎหมายอาญามาตรา ๖๘

จึงขออนุญาตท่านลงข้อความทางกฎหมาย
เพื่ออธิบายรายละเอียดของการป้องกันตัวให้สมาชิกได้ทราบเป็นความรู้ครับ
เพราะเป็นสิ่งสำคัญกับคนมีปืน ที่จะต้องรู้ และนำเอาไปใช้ปฏิบัติให้ถูกต้อง

หลักเกณฑ์ของการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ( มี ๔ ข้อ ) คือ
๑ . มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย
เช่น มีคนมาปล้น มาจะฆ่า จะทำร้าย เป็นต้น
ระวัง หากเขามีสิทธิทำร้ายเราได้ เช่นพ่อมีสิทธิว่ากล่าว / ตีลูก เมื่อเราทำผิดบิดามารดา
ลงโทษเรา /ตีเรา ไม่ถือเป็นภยันตรายตามข้อ ๑ นี้ เราตอบโต้แล้วอ้างป้องกันไม่ได้
มีฎีกา ที่ ๔๒๙/๒๕๐๕ ว่าพระตีลูกศิษย์ ลูกศิษย์ตอบโต้ ฆ่าพระ ไม่เป็นป้องกัน

กรณีเห็นเมียกำลังนอนกอดกับชายชู้ ถือเป็นภยันตรายที่มาละเมิดตามข้อ ๑ แล้ว
แต่ก็แยกว่า ถ้าภริยาจดทะเบียนสมรสกับเรา เราฆ่าชู้ เป็นป้องกัน ( ฏีกาที่๓๗๘/๒๔๗๙ )
แต่ถ้าไม่ได้จดทะเบียน ไม่เป็นป้องกัน แต่อ้างบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๗๒ เพื่อให้ศาลลงโทษน้อยลงได้ ( ฎีกาที่ ๒๔๙/๒๕๑๕ )

แม้จะมีภยันตรายตามข้อ ๑ แล้วก็ตาม แต่ผู้ที่จะอ้างป้องกันได้
จะต้องไม่มีส่วนผิดในการก่อให้เกิดภยันตรายดังกล่าวขึ้นด้วย คือ

- ไม่เป็นผู้ที่ก่อภัยขึ้นในตอนแรก
เช่น ฎีกาที่ ๒๕๑๔/ ๒๕๑๙ จำเลยชกต่อยก่อน แล้ววิ่งหนี เขาไล่ตามต่อเนื่อง
ไม่ขาดตอน จำเลยยิงเขาตาย อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่สมัครใจเข้าวิวาทกัน
เช่นฎีกาที่ ๒๓๒๒/๒๕๒๒ จำเลยโต้เถียงกับคนตาย แล้วก็ท้าทายกัน
สมัครใจเข้าชกต่อยต่อสู้กัน แม้คนตายจะยิงก่อน แล้วจำเลยยิงสวน
ก็อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ยินยอมให้ผู้อื่นกระทำต่อตนโดยสมัครใจ
เช่น ให้เขาลองของคุณไสย์ คงกระพัน แล้วจะไปโกรธตอบโต้ภายหลัง
อ้างป้องกันไม่ได้
- ไม่เป็นผู้ที่ไปยั่วให้คนอื่นเขาโกรธก่อน
เช่นไปร้องด่าพ่อแม่ ด่าหยาบคายกับเขาก่อน พอเขาโกรธมาทำร้ายเรา
เราก็ตอบโต้ เราอ้างป้องกันไม่ได้

๒. เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง
เช่น เขากำลังจะยิงเรา เราจึงต้องยิงสวน
ฎีกาที่ ๒๒๘๕ / ๒๕๒๘ จำเลยกับคนตายคุยตกลงกันเรื่องแบ่งวัว จำเลยชวน
ให้ไปคุยตกลงกันที่บ้านกำนัน คนตายไม่ยอมไป กลับชักปืนออกมาจากเอว
จำเลยย่อมเข้าใจว่าจะยิงตน จึงยิงสวน ๑ นัด เป็นป้องกัน
ฎีกาที่ ๑๗๓๒ /๒๕๐๙ คนตายชักมีดพกจากเอวมาถือไว้ แล้วเดินเข้ามาหาจำเลย
ระยะกระชั้นชิด จำเลยยิงสวน ๑ ที คนตายยังเดินต่อเข้ามาอีก จึงยิงสวน อีก ๑ ที
ล้มลงตาย เป็นป้องกันสมควรแก่เหตุ
ฎีกาที่ ๑๗๔๑/ ๒๕๐๙ คนตายจับมือถือแขนคู่หมั้นจำเลย พอจำเลยมาเห็น
คนตายก้มหยิบมีดพร้าที่วางใกล้ๆ ยาว ๑๒ นิ้ว ด้ามยาวอีก ๑๒ นิ้ว
แสดงว่าคนตายจะทำร้ายทันทีเมื่อหยิบมีดได้ จำเลยใช้มีดฟันตนตายไป ๑ ที
ป้องกันพอแก่เหตุ
ฎีกาที่๑๖๙ / ๒๕๐๔ คนตายเมาสุราร้องท้าทายจำเลยให้มาต่อสู้กัน
จำเลยไม่สู้ คนตายถือมีดดาบปลายแหลมลุยน้ำข้ามคลอง จะเข้าไปฟันจำเลย
ถึงในบ้าน จำเลยไม่หนีเพราะบ้านตัวเอง และใช้ปืนยิงสวนไป ๑ นัด
ขณะที่คนตายอยู่ห่าง ๖ ศอกถึง ๒ วา เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

-ฎีกานี้วางหลักว่า ผู้รับภัยไม่จำเป็นต้องหลบหนีภยันตราย ก็อ้างป้องกันได้
๓. ผู้กระทำจำต้องกระทำเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายนั้น
ข้อนี้ตามที่อธิบายข้างต้นไปแล้ว

๔. ต้องเป็นการกระทำป้องกันสิทธิที่ไม่เกินขอบเขต
ไม่งั้นจะเป็นการป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่งการ
จำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ ไป
ซึ่งจะทำให้ยังมีความผิดอยู่

แบบไหนไม่เกินกว่าเหตุ ยากมากครับ ต้องแล้วแต่พฤติการณ์แห่งคดีที่เกิดขึ้น
ฎีกาที่ ๘๒๒ / ๒๕๑๐ คนตายเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อน จะเข้ามาชกต่อยทำร้ายจำเลย
จำเลยจึงเอาปืนยิงลงพื้นดินไป ๑ นัด เพื่อขู่ให้คนตายกลัว แต่คนตายไม่หยุด
กลับเข้ามากอดปล้ำใช้แขนรัดคอแล้วแย่งปืนจำเลย จำเลยจึงยิงขณะชุลมุนนั้น
ไป ๑ นัด ตาย เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิด

ฎีกาที่ ๙๔๓ /๒๕๐๘ คนร้ายจูงกระบือออกจากใต้ถุนบ้านแล้ว มีปืนลูกซองมาด้วย
จำเลยร้องถามแล้ว คนร้ายหันปืนมาทางจำเลย จำเลยยิงสวนทันที
ศาลฎีกาบอกว่า คนร้ายหันปืนมาแล้ว อาจยิงได้ และถ้าจำเลยไม่ยิง คนร้ายก็อาจเอา
กระบือไปได้ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๑๒๕๖ /๒๕๓๐ คนตายบุกรุกเข้าไปฉุดลูกสาวในบ้านจำเลย
เมื่อมารดาเด็กเข้าห้ามถูกคนร้ายตบหน้า แล้วจะฉุดพาลูกสาวออกบ้าน
จำเลยยิงไปทันที ๔ นัด เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๖๐๖ / ๒๕๑๐ คนตายเข้ามาชกจำเลย จำเลยล้มลง คนตายเงื้อมีด
จะเข้าไปแทง จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

เทียบกับ

ฎีกาที่ ๒๗๑๗/ ๒๕๒๘ คนตายยืนถือมีดอยู่ห่าง ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่
จะฟันทำร้ายจำเลย การที่จำเลยด่วนยิงคนตายไปก่อน
เป็นป้องกันจริง แต่เกินสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๔๕๔๔ / ๒๕๓๑ คนตายบุรุกเข้าไปในบ้านจำเลยยามวิกาล
เมื่อจำเลยได้ยินเสียงผิดปกติ คว้าปืนลงมาดู คนตายยิงทันที
จำเลยยิงสวน เป็นป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ฎีกาที่ ๑๘๒ / ๒๕๓๒ ก.ถือไม้ไปที่บ้านจำเลย ร้องท้าทายให้จำเลยมาสู้กัน
ก.เดินเข้าหาจำเลย จำเลยตกใจกลัวว่า ก. จะเข้ามาเอาไม้ตีทำร้าย จึงวิ่งไปเอาปืน
แล้วเล็งยิงไปที่ขา ก. รวม ๓ นัด เมื่อรู้ว่ากระสุนถูกที่ขา ก. จำนวน ๑ นัด
จำเลยก็ไม่ยิงซ้ำ เป็นป้องกันที่พอสมควรแก่เหตุ

คราวนี้มาดูกรณีที่ถือว่าเกินสมควรกว่าเหตุ
ฎีกาที่ ๒๙๘๓ / ๒๕๓๑ คนตายขับมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน พบจำเลยระหว่างทาง
จำเลยพูดทวงหนี้คนตาย คนตายโกรธเคืองต่อว่าจำเลย พร้อมเดินเข้าไปหาจำเลย
ด้วยมือเปล่าเพื่อจะทำร้าย ระยะห่างประมาณ ๑ วา จำเลยใช้ปืนยิง ๑ นัด
เป็นป้องกันตัวจากการจะถูกทำร้าย แต่เกินกว่าเหตุเพราะคนตายมือเปล่า

ฎีกาที่ ๖๔ / ๒๕๑๕ ก.และ ข.มือเปล่าไม่มีอาวุธ เข้ารุมชกต่อยจำเลย
จำเลยใช้ปืนยิง ในระยะติดพันกันนั้นรวม ๓-๔-๕ นัด จน ก. ตาย
เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๔๐๕ / ๒๔๙๐ จำเลยเฝ้าไร่พืชผัก คนตายเข้าไปในไร่ เวลากลางวันเพื่อ
จะลักพืชผัก จำเลยจึงใช้ปืนยิงคนตาย เป็นป้องกันจริง แต่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๑๓๔๓ / ๒๔๙๕ ยิงคนร้ายขณะกำลังวิ่งหนีและพาเอาห่อของที่ลักไปด้วย
โดยคนร้ายไม่ได้ทำอะไรแก่ตนเลย เป็นป้องกัน แต่เกินสมควรแก่เหตุมาก

ฎีกาที่ ๒๙๔ /๒๕๐๐ ยิงคนร้ายที่จูงกระบือในเวลากลางคืน ตรงนั้นมืดมาก
โดยคนร้ายไม่ได้แสดงกริยาต่อสู้ เป็นป้องกันที่เกินสมควรกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๒๗๑๗ / ๒๕๒๘ คนตายเข้ามาลักลอบตัดข้าวโพดในไร่จำเลย
ในตอนกลางคืน โดยคนร้ายเอามีดมาด้วย แต่ขณะที่จำเลยมาเห็น คนตายยืนถือมีด
ห่างประมาณ ๒ วา ยังไม่อยู่ในลักษณะพร้อมที่จะฟันทำร้าย จำเลยด่วนยิง
จึงเป็นการป้องกันที่เกินกว่าเหตุ

ฎีกาที่ ๑๘๙๕ / ๒๕๒๖ คนตายเมาสุรา เดินถือปืนตรงเข้าไปหาบิดาจำเลย
พูดทำนองจะฆ่าบิดา จำเลยจึงสกัดกั้นยิงคนตายไปก่อน ๑ นัด แล้วกระโดด
เข้าแย่งปืนคนตายมาได้ แต่กลับเอาปืนคนตายนั้นมายิงคนตายซ้ำอีก ๓ นัด
จึงเกินกว่าเหตุ


ฎีกาที่ ๖๒๐ / ๒๕๓๒ คนตายถือมีดทำครัวบุกรุกเข้าไปในห้องจำเลยจะทำร้าย
แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงคนตายถึง ๕ นัด เป็นการเกินกว่าเหตุ

ครับเป็นเกร็ดความรู้ทางกฎหมายเล็กๆน้อยๆ ที่นำมาฝากกันครับ ...
Posted Image
ที่มา : http://www.gunsandgames.com


#298560 ชาวเคหะร่มเกล้า ยินดีต้อนรับ ฆาตกร91ศพ พรุ่งนี้มีนบุรี

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 07:16

จขกท.เอ็งลองนึกคิดตามดูนะ...

10 เม.ย.53 เอ็งรู้มั๊ยฝ่ายวางแผนของพวกเอ็งน่ะ มันโง่ดักดานขนาดไหน
เสือกยิงทหารตายทำไม? ได้ประโยชน์อะไร?
...ถ้าพวกเสื้อแดงตายล้วนๆนะ พวกแกนนำเอ็งโหมเรื่องถล่มรัฐบาลได้ง่าย...

แต่พอทหารตายปั๊บ...คนดูทั่วโลกรู้เลยว่า...พวกเอ็งมีอาวุธต่อสู้เจ้าหน้าที่รัฐ เรื่องง่ายๆที่ไอ้เสธแดงโครตโง่ คิดไม่เป็น

แล้วยังเสือกมีหน้ามาอ้างว่าทหารยิงกันเอง...ทหารโดน M.79
โถ...ใครๆทั่วโลกเค้าก็รู้ว่า ไอ้ M.79 เค้าเลิกใช้ประจำการมานานแล้ว มันเป็นอาวุธล้าสมัย
มีแต่กองโจรเท่านั้นที่มันเอาไปใช้กัน


#298554 ผมชอบบทบาทและการวางเกมส์ของประชาธิปัตย์ในตอนนี้จังครับ

โดย คนกรุงธน on 15 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 06:54


4ปีก่อน ด่าเสื้อแดงยังไง ทั้งเคเบิ้ล ทั้งจัดชุมนุม วันนี้วันสันหลังหวะ มาทำเองน่า หน้าด้านจริงๆ

แต่ก่อนพ่นแต่พอเพียง สุภาพบุรุษ สู้ในสภา หลักการเถรตรง พอไม่ได้ผลประโยชน์ ก็ลายออก อันตพาล ประชานิยมหยาบคาย เปิดทีวี ลุยข้างถนน

สรุปทำทุกอย่างเพื่อพรรคพวกตัวเอง จะได้กลับมาอีกครั้ง

นี่เหรอคนดี สมัยปี 40 มั้งไปกราบหลวงตา เจอสวน พวกโจรปากหวาน หลวงตาอ่านขาดจริงๆ


แล้ว 4 ปีมานี้เราเจออะไรมาบ้างล่ะครับ

คนที่ทำทีวีเสื้อแดง ซื้อสื่อ ปลุกมวลชนเล่นการเมืองข้างถนน เป็นที่นิยมจนชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย

นั่นแปลว่าพฤติกรรมแบบนี้ผู้คนยอมรับ ไม่ได้เป็นสิ่งผิด

แล้วพรรคการเมืองจะไม่ปรับตัวเพื่อให้เป็นที่ชื่นชอบของประชาชนได้อย่างไรครับ? จริงไหม?

ต่อไปถ้า ปชป.จะชุมนุมปิดราชประสงค์ มีการ์ดเสื้อฟ้า มีกองกำลังติดอาวุธชุดขาวบ้างผมก็จะไม่แปลกใจ

มีอลัชชีมาชุมนุม มีตกใจเผาห้างขโมยของใครพลาดตายไปได้เงินเจ็ดล้าน มันก็สมน้ำสมเนื้อ

ก็สังคมไทยเราอยากได้แบบนี้กันเองนี่ครับ มีพรรคการเมืองในสภาไม่เลือกกัน ชอบเลือกพวกข้างถนน

พรรคการเมืองไหนอยากให้คนเลือกเขาก็ต้องทำบ้าง ผิดตรงไหน?

4 ปีก่อนที่เคยด่าไว้ก็เพราะคิดว่ามันผิดมารยาท ผิดธรรมเนียม ผิดกติกา

ผมเองก็เคยคิดว่ามันผิดแต่คนส่วนใหญ่ของประเทศเขาว่าทำได้ไม่ผิด

แล้วใครจะไปโง่ถือกติกาที่อีกฝ่ายไม่ยึดถือล่ะครับ

คุณเตะบอล อีกฝ่ายเตะคน แล้วกรรมการไม่เป่าฟาวล์

เตะมา 4 ปีแล้วคุณคิดว่าคุณยังควรทนโดนเตะฝ่ายเดียวต่อไปไหมล่ะครับ?

โว๊วๆๆๆๆๆๆๆ ใช่เลยครับ รบในรูปแบบ สู้กับสงครามกองโจรไม่ได้ครับ
รบกับโจร ต้องใช้กองโจรสู้กับมัน
...เมื่อก่อนที่ ปชป.บอกว่าจะสู้ในสภาก็เพราะคิดว่า สส.ทุกๆคนจะพูดกันรู้เรื่อง แต่นี่มันไม่ใช่นี่หว่า สส.เผาไทยใช่วิธีถ่อยๆมาตลอด...
เช่น ไอ้เก่งถีบ สส.ปชป. ถ้าเป็นผมๆก็จะกระทืบมันเหมือนกัน


#298167 ชาวเคหะร่มเกล้า ยินดีต้อนรับ ฆาตกร91ศพ พรุ่งนี้มีนบุรี

โดย คนกรุงธน on 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 20:33

ได้ข่าว สำนักงานเขต ให้จัดคน เขตละ 100 ไปร่วมงาน พรุ่งนี้ด้วย สงสัยเงินสะพัด แต่คงไม่ใช่แบงค์ปลอมนะ

ต้องโง่และเลว ถึงจะเป็นพวกเสื้อแดงได้...

ได้ข่าว...
...***...ได้ข่าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อะไรๆก็ได้ข่าว แต่ไม่มีที่มาที่ไป

สำนักงานเขต ให้จัดคน เขตละ 100
สำนักงานเขตไหนวะ สั่งเขตให้จัดคน 555+ แมร่งโง่+บ้าแล้ว

ถ้าจะเต้าข่าวก็ไปศึกษาหาความรู้ซะบ้างนะ

ถ้าบอกว่า...ผู้ว่า กทม.หรือ ปลัด กทม.สั่งให้ ทุก สนง.เขต จัดคนไปเขตละ????????????
ยังพอฟังได้นะ
โง่แล้วอยากนอนเตียง 555


#295940 มึงกับกูสิ้นกันในวันนี้

โดย คนกรุงธน on 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 15:47

Posted Image


#294428 เมื่อมาร์คไม่คืนรถ ...(เอามาให้แดงกับคนกลางในนี้เล่นกัน)

โดย คนกรุงธน on 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 19:20

อย่างนี้ต้องด่าให้แสบ...
ไอ้หน้าด้าน เค้าได้ใช้อย่างถูกต้อง มรึงไปว่าเค้าทำไม
ก็ไม่เพราะพวกตัววรนุชสีแดงที่บุกกระทรวงมหาดไทยหรอกรึ ที่ทำให้ต้องใช้รถป้องกันตัววรนุสสีแดงมากัดทำร้าย
พวกสัตว์ประเภทเดียวกันทำเรื่องระยำสถุลไว้ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น

ไอ้แสร๊ดดดดดดดดดดดดดดดเอ๊ย


#292150 ผ่าความจริง ปชป. หลังเวทีโล่งเพียบเลย

โดย คนกรุงธน on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 10:06

โอ๊ๆๆๆ อกจะแตกตายอยู่แล้ว...
Posted Image


#292054 ปชป. อภิสิทธิ์นำทัพปราศรัยอีก 10 มิถุนายน 5 โมงเย็น วงเวียนใหญ่

โดย คนกรุงธน on 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555 - 08:07

ไอ้พวกแก๊งค์ควายแดงทั้งหลายจำใส่หัวของพวกเอ็งไว้ด้วยว่า...

พวกเราทุกคนเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา
แต่กรูไม่เชื่อมั่นพวก สส.ควายแดงในสภาว่ะ