taecu

รู้สึกดีใจ ที่ไม่คิดจะมีลูก

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (27 ก.พ.) มีมติเห็นชอบยุทธศาสตร์ลงทุนก่อสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง 4 เส้นทาง คือ กรุงเทพ-เชียงใหม่ กรุงเทพ-โคราช กรุงเทพ-หัวหิน กรุงเทพ-พัทยา และรถไฟฟ้า 10 เส้นทาง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มาถึงมอเตอร์เวย์เส้นทางสำคัญ จากนั้นเตรียมที่จะจัดนิทรรศการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงความจำเป็นในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 7-10 มีนาคมนี้ ณ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อระดมความเห็นและข้อเสนอแนะของฝ่ายต่างๆ จากนั้น กลางเดือนมีนาคม จะนำร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และสภาฯ ในขั้นตอนต่อไป เพื่อเริ่มก่อสร้างให้มีผลเป็นรูปธรรมในช่วงเวลา 7 ปีข้างหน้า
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพูดคุยเรื่องนี้กันนาน เพราะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีความสำคัญ

lol ในที่สุดก็ผ่านจนได้

หนี้สาะารณะตอนนี้ 4.9 ล้านล้าน

+ 1.1 ล้านล้าน ซุกไว้ใต้พรม

ถ้ากู้ก้อนนี้ รวมเป็น 8 ล้านล้านบาท

คิดต่อหัว แค่คนละ ประมาณ 125000 บาทเอง ขำขำ

ผมว่าจริงๆๆแล้ว ไอ้นโยบายในเนตพวกนี้ ขายได้แต่คนเล่นเนต เล่นเฟส เท่านั้นแหละ โอกาสชนะยากถึงยากมาก
นโยบายพวกนี้ พูดใครก็พูดให้ดูดีได้

อย่างที่ในกระทู้นี้ บอกว่า ไม่อยากให้ขับรถออกจากบ้าน >>> การพัฒนาขนส่งมวลชนนั้นแหละ

แต่ชาวบ้านจริงๆ ที่เค้าเลือกเพราะเค้าได้จริงๆ ได้ใช้ประโยชน์ พัฒนาคุณภาพชีวิต
ตัวอย่าง
ฝั่งธน BTS มีแต่รางมาหลายชาติ พอ ปชป. ทำส่วนต่อขยาย ถึงวงเวียนใหญ่ มันสะดวกขึ้น จับต้อง รับรู้ว่าเค้าต้องการอะไร! อันนี้ สำคัญ แสดงว่ามีการพูดคุยกับคนในพื้นที่ว่า ว่าจริงๆแล้วเค้าต้องการอะไร

ตอนนี้เปิดถึงตลาดพูล แล้ว ยิ่งสะดวกมากขึ้น เชื่อมต่อกับระบบ BRT ดึงคนจากบ้านไม่ต้องใช้รถ อันนี้สิทำได้จริง
บาง... ถึงกับศูนย์พันธ์ ในฝั่งธนเลยทีเดียว

อย่าง BRT ที่สนันสนุนให้ใช้ตอนแรกอันไม่สะดวกเพราะจะต่อ BTS ต้องนั่งไปสาธรด้านเดียว ตอนนี้ด้านตลาดพูลเปิดแล้วมันก็ต่อ BTS ได้ทั้งสองด้าน

เรื่องน้ำท่วมเหมือนกัน ใครจะจำเค้าได้ละ ไม่ใช่คนที่มาช่วยเค้า ตอนลำบาก มาช่วยขนของ มาถามว่าเป็นยังไง มาช่วยเหลือ แจกข้าว
ไม่ใช่คนเดียว มันต้องร่วมแรงใจ กับทั้งพรรค มันถึงเห็น

ใครทำได้ ใครทำชั่ว ผมว่าคนเห็นนะ ไม่ต้องมาปั้นกระแสลวงๆๆ ตามเนตหรอก เพราะชาวบ้าน เค้าไม่ได้เล่นเนตกันหมด

^

 

ขอตอบเฉพาะ BRT ก่อนนะครับ

 

ผิวจราจรหายไป 1 เลน แต่ขนคนมากกว่า 1000 คน ถ้าคนครึ่งหนึ่งในนั้นขับรถ 500 คัน ติดหนักกว่าเดิมอีกครับ

 

บนทางด่วนออกจะกว้างมากกกกกกก แล้วทำไมมันยังติดละครับ

เคยมีคนเขาวิเคราะห์เรื่อง  BRT ไว้  ลองอ่านดูนะครับตามลิงค์

http://transport2553...ok-brt-3-3.html

 

 จะเห็นได้ว่า โครงการ BRT ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจราจร และไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน รวมถึงสะท้อนวิธีการคิดแก้ปัญหาแบบไทยๆ ที่มองแต่ละปัญหาแยกจากกัน ไม่ได้มองในภาพรวม ทำให้การวางแผนแก้ไขปัญหา ไม่ได้ทำไปทุกภาคส่วนพร้อมๆ กัน   เพราะเส้นทางการต่อรถสาธารณะมันไม่สะดวก เช่น ขึ้น BRT ต้องไปต่อรถเมลล์  คนที่ขับรถยนต์เขาจะลงมานั่งเหรอ ทำไมไม่ทำให้มันต่อรถไฟฟ้าได้, รถต่อจาก BRT ไม่สะดวก ต้องรอต่อรถเมลล์อย่างเดียวคงจะนานน่าดู (ในบางเส้นทาง)

 

ที่พูดเคยขึ้นเหรอครับ

 

ถ้ามันไม่ดีจริง คงไม่มีแนวคอนโด ขึ้นมาตรึมตามแนวหรอกครับ เพื่อประสิทธิการขนส่งมวลชน แย่กว่า สนับสนุนให้คนออกรถส่วนตัว อืม

เพราะอันนี้หรือเปล่า

สมจิตต์ นวเครือสุนทร

จับตาการเมืองยึด ธกส. บีบ เจ๊ง เพื่อ จำนำข้าว?

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2556 ครม.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติเห็นชอบแต่งตั้งบอร์ดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธกส.รวม 13 คน โดยมี 6 รายมาจากฝ่ายการเมือง มีทั้งทนายคนเสื้อแดง และอดีตส.ส.สอบตก ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจว่าการเมืองกำลังจะฮุบ ธกส.อย่างเบ็ดเสร็จเพื่อเดินหน้านโยบายจำนำข้าว หลังจากผู้บริหารธนาคารชุดปัจจุบันไม่เห็นด้วยที่จะให้นำสภาพคล่องของธนาคารมารองรับโครงการจำนำข้าว เพราะจะทำให้ธนาคารได้รับผลกระทบจนสั่นคลอนสถานะทางการเงินในที่สุด

สำหรับรายชื่อบอร์ดใหม่ 6 คนที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลมีดังนี้ 1.) นายยรรยง พวงราช อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่แสดงบทบาทรับใช้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างออกนอกหน้า ถึงขั้นเคยถูกตั้งคำถามว่าปั้นตัวเลขเศรษฐกิจในเรื่องเงินเฟ้อจนถูกวิจารณ์อย่างหนักมาแล้ว และยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยรัฐบาลผลักดันโครงการจำนำข้าวด้วย 2.) นายสมหมาย กู้ทรัพย์ นอกจากจะเคยเป็นหัวหน้าทีมทนายความให้กับลูกชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีในคดีฆ่าดาบยิ้มแล้ว ยังเป็นทนายความคนเสื้อแดงด้วย

3.) นายธนรัชต์ วิเชียรรัตน์ เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เคยเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐมนตรีหลายคนของพรรคเพื่อไทย 4.)นายวศิน ธีรเวชญาณ มีความใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของกระทรวงการต่างประเทศ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) เพื่อทำหน้าที่การเจรจาในกรอบเจเบีซีกับฝ่ายกัมพูชา ในรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แต่ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าเจรจาเอื้อประโยชน์ให้กัมพูชามากกว่ารักษาผลประโยชน์ให้ฝ่ายไทย จนถูกปลดออกในรัฐบาลอภิสิทธิ์ 5.) นายวิรัติ ศักดิ์จิรพาพงษ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช (สอบตก) พรรคไทยรักไทย ปี 2544 6.) นายทวีป ตันพิพัฒนกุล เป็นที่ปรึกษา ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้บอร์ด ธกส.มีทั้งสิ้น 15 คน มีนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลังเป็นประธาน โดยกรรมการส่วนหนึ่งมาจากข้าราชการประจำ ซึ่งถูกครอบงำได้โดยฝ่ายการเมืองอยู่แล้ว เมื่อรวมกับบอร์ดใหม่ที่เป็นสายตรงของรัฐบาลจะทำให้มีคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งในการตัดสินใจเรื่องสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการบริหารของ ธกส.ได้ จึงต้องจับตาว่าภายใต้การบริหารของบอร์ดชุดนี้จะมีการนำ ธกส.ไปตอบสนองนโยบายประชานิยมรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างไร โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าวที่ ผู้บริหารชุดปัจจุบันของ ธกส.พยายามทัดทานไม่ให้มีการนำเอาสภาพคล่องของธนาคารมาดำเนินโครงการจำนำข้าวจนอาจทำให้ ธกส.ต้องประสบปัญหาขาดทุน เพราะรัฐยังไม่สามารถนำเงินที่ ธกส.จ่ายไปล่วงหน้ามาคืนให้ได้ เนื่องจากยังไม่สามารถระบายข้าวได้ตามแผนที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาระบุ

ปัจจุบัน ธกส.มีสภาพคล่องสำหรับดำเนินโครงการจำนำข้าวนาปรังปี 2556 ที่จะเริ่มในเดือนเมษายนนี้เพียงแค่ 2 หมื่นล้านบาท จากสภาพคล่องของธนาคารทั้งหมดประมาณ 1.9 แสนล้านบาท ซึ่งต้องกันไว้สำหรับการดำเนินงานตามปกติของ ธกส.ด้วย แต่ฝ่ายการเมืองต้องการให้ ธกส.นำเงินมารองรับโครงการจำนำข้าวทั้งหมด โดยที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันให้ ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องใช้เงินสำหรับการจำนำข้าวถึง 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งหากนำเอาสภาพคล่องของ ธกส.มารองรับทั้งหมดย่อมส่งผลกระทบต่อสถานะของธนาคารให้สั่นคลอนจนอาจถึงขั้นเกิดปัญหาไม่แตกต่างจากเอสเอ็มอี แบ๊งก์และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ที่กำลังประสบปัญหาหนี้เน่ารวม 8 หมื่นล้านบาทอยู่ในขณะนี้ แต่วิกฤตที่จะเกิดขึ้นกับ ธกส.จะส่งผลกระทบโดยตรงไปถึงเกษตรกรโดยรวมด้วย

ก่อนหน้านี้ ธกส.เคยทำหนังสือทวงหนี้กระทรวงพาณิชย์ จนเป็นที่ฮือฮามาแล้วหลังจากที่ถูกเบี้ยวหนี้จำนวน 8.5 หมื่นล้านบาท แต่กระทรวงพาณิชย์จ่ายคืนให้ ธกส.เพียงแค่ 5.8 หมื่นล้านบาท โดยในปัจจุบันจากการเปิดเผยของนายบุญไทย แก้วขันดี รองผู้จัดการ ธกส.เปิดเผยว่ารัฐบาลยังค้างชำระเงินโครงการจำนำข้าวที่ต้องจ่ายให้ ธกส.ถึง 2.5 หมื่นล้านบาท

สำหรับ ธกส.นั้นไม่เพียงแต่ต้องตอบสนองนโยบายจำนำข้าวของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังมีโครงการประชานิยมอีกหลายโครงการที่สร้างผลกระทบต่อรายได้ของธนาคาร อาทิ โครงการบัตรสินเชื่อเกษตรกร ได้ออกบัตรให้เกษตรกรแล้ว2,087,673 ราย วงเงินสินเชื่อ 40,467 ล้านบาท

โครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท แบ่งเป็นโครงการพักชำระหนี้ปี 54 มีเกษตรกรใช้สิทธิ์เข้าร่วมโครงการ 403,734 ราย เป็นเงิน 46,680 ล้านบาท โครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้ปี 55 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 2,225,794 ราย เป็นเงิน 250,592 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีโครงการรักษาเสถียรภาพราคาผลผลิต ได้แก่ โครงการจำนำมันสำปะหลังปีการผลิต 2555/56 เริ่มดำเนินการ 1 ธ.ค. 55-31 มี.ค. 56 มีการทำสัญญาและจ่ายเงินกู้เกษตรกร 3,934 ราย ปริมาณมันสำปะหลัง 0.7 ล้านตัน เป็นเงิน 1,867 ล้านบาท และโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรในการรักษาเสถียรภาพราคายาง จ่ายเงินกู้แล้ว 22,000 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า ธกส.เป็นแหล่งเงินนอกระบบสำคัญของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ในการใช้จ่ายเพื่อเดินหน้าโครงการประชานิยม ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นกับ ธกส.จนกระทบต่อเสถียรภาพของธนาคาร รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบโดยตรงกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ท่านทักษิณก็ได้ เหมือนกันนะครับ

 

ผู้นำที่เลวที่สุดของโลก ไง 5555555555555+

ดูโพลล์ในบอร์ดพันทิป มีแต่คนเชียร์ รฟท. กะ ขสมก.     

รัฐบาลจะเชื่อเสียงส่วนใหญ่ป่าวเอ่ย

ผมไปตั้งเองละครับ

 

ต้องให้คนรู้ข่าวกันเยอะๆๆ หึหึ

เรียงเอาที่ ชอบเลยนะ

1. รถไฟฟ้า สายธนบุรีไปฝั่งธน ถึงวนเวียนใหญ่
2. รถไฟฟ้า ไปแบริ่ง
3. BRT สาธรไปท่าพระ
4. ป้องกันน้ำท่วมเขตสำคัญๆ ที่เหลือ
5. ป้ายจราจรอัจริยะ ดูว่าโซนไหนรถติดมั้ง
6. หยุดขายของวันจันทร์เพื่อทำความสะอาด ถ้าไม่มีเลยไม่ไหวมั้ง ไม่มีของกิน หาของกินลำบาก ต้องเข้า 7/11 ของแพงอย่างเดียว
7. รถไฟฟ้าไปตลาดพูล เชื่อมอีกด้านของ BRT

คนบางคนโลกสวยมาก จนป่านนี้ยังไม่รู้อีกว่ากำลังจะโดนยึดบ้าน ยังร่ำร้องเอาโน่นเอานี่ตามใจโดยไม่ดูเหตุผลหรือความเป็นจริง ก็คงต้องปล่อยตามมีตามเกิด

คนไทยลืมง่ายครับ

หรือ กลวงก็ไม่รู้ ความดีของคนไม่จำ จำได้แต่ข้อมูล 1 - 2 ปีนี้เท่านั้น

มีเหตุผลจำไม่ได้ เลือกคนอะไรก็ไม่รู้ ภาพลวงตาทั้งนั้นแล้วคิดว่า ตัวเองอะโคตรเท่ แนว เก่งเหนือคนอื่นสุดๆ

อยากถามคนในนี้ที่เลือกชูวิทย์รู้สึกไงบ้างครับ ที่มันเป็นหมารับใช้อะ

เฮ้อ .....

มันอะไรกันหนักหนา

ผมว่าเหมือนเค้าทำสำเร็จแล้วละ

ที่สะกดจิตว่า สุขุมพันธ์ ไม่มีอะไรดี ไม่ทำงานอะไรเลย ไม่มีอะไรดี ปชป. เลือกมาแล้วไม่เห็นจะได้เรื่องเลย ไม่มีอะไรในกรุงเทพดีขึ้นเลย

ถ้าสะกดจิตเรื่องนี้ได้ เรื่องอื่นคงได้อีก เพราะทำงานเป็นทีมๆ

ทั้งๆ ทีผลงานก็มีมากมายทั้ง BTS ส่วนของแบริ่ง ตลาดพูล ฝั่งธน BRT

ระบบระบายน้ำ

- -? กำลังงง

ไอ้ 2.2 ล้านล้านบาท แรกกู้ไปแล้วช่ายม่ะ >>>>> หลักใช้หนี้เก่าประมาณ 1 ล้านล้าน โครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน ทำประกันภัย 4.5 แสนล้าน ที่เหลือ จำนำข้าว กับ งบประมาณรัฐบาลที่ขาดดุลการค้าอีก

แล้วไอ้ก้อนใหม่ดีนี้คือ 2 ล้านล้านบาท ก้อนที่สอง ก็ทำระบบรางรถไฟฟ้า

คือมันมหาศาลมากเลยนะ - - ไอ้ราวๆ 4.5 ล้านล้าน 3 แสนล้าน จากจำนำข้าวรอบแรก จิปาถะอีก

รัฐบาลนี้โคตรกู้เลยนะเนี้ย

เริ่มปรี๊ดแตกละ

 

เป็นไรครับ ไม่มีผลงานอะไรครับ หรือไม่มีได้มีความรู้อะไรเลย

 

เล่นกล้องดัมมี่ เหมือนพวกกากแดงเล่น ทั้งๆดีก็บอกให้ดู Tor ว่ามีการสั่งซื้อแบบถูกต้องจริงๆ ไม่ต่างกันพวกละอ่อนการเมือง เล่นเอากระแสไม่รู้จักหาความรู้จริงๆจังๆๆเลย

 

เอาง่ายๆ ผลงานนะ มีอยู่แล้ว

 

ทั้ง BTS ส่วนต่อขยาย เส้น แบริ่ง เส้น ธนบุรี ถ้าไม่ใช่ ปชป. ตอนนี้ก็ยังไม่มีใช้หรอก

 

BRT ก็ดีมากมาย ดึงคนใช้รถประจำทาง

 

พวกนี้กากพอๆ กับเสื้อแดงอีกให้เค้าจูงจมูก พูดแล้วเครียดนะ พวกละอ่อน แล้ว คิดว่าตัวเองเทพ เท่ มีความรู้ ไม่ต่างกับพวกกบในกะลาเลยมั้ง

 

เลือกชูวิทย์เข้าไปเป็นไงบ้าง ทำไรได้มั้ง - -

ช่วงนี้ฉลองปีใหม่เพลินๆ มานั่งไล่ดูความห่วยของรัฐบาลดีกว่า แย่กว่าที่คิดส่งออกได้แค่ 2.32 เปอร์เซ็นต์เอง

นำเข้าทะลุโลกไปละ ติดลบล่อไป 5.67 แสนล้าน จากนำเข้าน้ำมัน

พาณิชย์ เผยยอดส่งออกเดือนพฤศจิกายนโต 26.86 % แต่เมื่อรวม 11 เดือนขยายตัวแค่ 2.32% แต่ยังหวังเดือนสุดท้ายออร์เดอร์กระหน่ำช่วยให้โตตามเป้า 5%ขณะที่นำเข้ายังนำโด่ง ทำให้ไทยขาดดุลการค้า 5.67 แสนล้านบาท

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการค้าระหว่างประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2555 มีมูลค่า19,555.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 26.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหรือคิดในรูปแบบเงินบาทมีมูลค่า 595,784.4 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26.34%

ปัจจัยที่ส่งผลการส่งออก เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจยุโรปและการลุกลามของปัญหา สภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและจีนรวมทั้ง อุตสาหกรรมส่งออกไทย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่ยังต้องฟื้นฟูกิจกรรมภายหลังน้ำลดมาอีกระยะหนึ่ง โดยในตลาดหลัก ภาพรวมเพิ่ม 21.2 % เช่น ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 13.5 %ตลาดสหภาพยุโรป(อียู) เพิ่มขึ้น 9.6% และสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 22% ส่วนตลาดศักยภาพสูง อย่างตลาดอาเซียน ส่งออกเพิ่มขึ้น18.6% ขณะที่ตลาดศักยภาพรองภาพรวมยังเพิ่มขึ้น 40.1% โดยเฉพาะทวีปออสเตรีย เพิ่มขึ้น 73% และทวีปแอฟริกา เพิ่มขึ้น 42.6% เป็นต้น

สำหรับในหมวดสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม ภาพรวมลดลง 5.9 % โดยสินค้าที่ส่งออกลดลง ได้แก่ข้าว ลดลง 3.8 %ยางพาราลดลง 29.7% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ลดลง 15.4% น้ำตาล ลดลง 32 % สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 24.2 %อาหารทะเลแช่แข็ง กระป๋อง และแปรรูป (ไม่รวมกุ้ง) เพิ่มขึ้น 15.2% ผักและผลไม้ เพิ่มขึ้น 3.8% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป เพิ่มขึ้น 17.7%

หมวดสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญพบว่าภาพรวมเพิ่มขึ้น 47.2 %สินค้าที่ส่งออกเพิ่มขึ้นได้แก่ เครื่องอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น 80.7% เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 36.3% ยานยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบเพิ่มขึ้น 172.8% เม็ดและผลิตภัณฑ์พลาสติกเพิ่มขึ้น 5% สิ่งทอเพิ่มขึ้น 7.5% วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 111.3% ผลิตภัณฑ์ยางเพิ่มขึ้น 5.5% เครื่องหนังและรองเท้าเพิ่มขึ้น 7.2%ส่วนสินค้าส่งออกที่ลดลงได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับลดลง13.2% สิ่งพิมพ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์ ลดลง 2.5%

เมื่อรวมยอดการส่งออกในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555(มกราคม-พฤศจิกายน)มีมูลค่าทั้งสิ้น 211,417.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.32 %หรือคิดในรูปแบบของเงินบาท มีมูลค่า 6,539,750.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.20%

ขณะที่การนำเข้าเดือนพฤศจิกายน 2555 มีมูลค่า 21,010.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 24.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดในรูปแบบของเงินบาทมีมูลค่า 648,126.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.4 %โดยหมวดสินค้าที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ หมวดสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 62.5 % หมวดวัตถุดิบ /กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 8.8 %เคมีภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 6.0 %เหล็กและผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้น 21.6% หมวดอุปโภค/บริโภค เพิ่มขึ้น 35.8% สินค้าที่ลดลง ได้แก่ หมวดเชื้อเพลิง ลดลง 7.3 %

เมื่อรวมยอดนำเข้าในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2555(มกราคม-พฤศจิกายน)พบว่ามีมูลค่าทั้งสิ้น 227,123.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดในรูปแบบเงินบาท มีมูลค่า 7,107,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.53%ทำให้ในเดือนพฤศจิกายน 2555 ไทยขาดดุลการค้า 1,454.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดในรูปแบบเงินบาท มีมูลค่า 52,342.4 ล้านบาท และเมื่อรวม 11 เดือนไทยขาดดุลการค้ามูลค่า 15,706 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดในรูปแบบเงินบาทขาดดุลการค้ามูลค่า 567,400.4 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยังคาดหวังว่าการส่งออกในเดือนธันวาคมเดือนสุดท้ายของปี น่าจะมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งกำลังติดตามการสั่งซื้อสินค้าไทยมากขึ้นเพียงใด หากความต้องการสินค้าไทยในเดือนสุดท้ายมีมูลค่ากว่า 20,000-30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โอกาสที่ส่งออกของไทยในปีนี้จะเติบโตมากกว่า 5 % แต่หากการส่งออกไม่ถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนธันวาคม จะทำให้ส่งออกทั้งปีอยู่ที่ 4-5 %เท่านั้น แต่ในปี 2556 ได้ประเมินภาพรวมการส่งออกเติบโตไม่ต่ำกว่า 8-9 %โดยยังเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกจะปรับตัวดีขึ้น

อย่าลืมดิ 15 ล้าน คนโหวตไปเพราะ 300 15000 ก็เยอะนะ ไม่เหมือนกัน

คุณ อภิสิทธิ์ ครับ

บริหารเก่ง มีความรู้ความสามารถ เป็นคนดี ชอบนโบายเรียนฟรี เคยเรียน AUA อาจารย์ฝรั่งพูดว่า นักการเมืองบ้านเรา ชอบให้คนไทยโง่ๆ การศึกษาน้อยๆ จะได้ปกครองได้ง่ายๆ ผมวง เถียงขาดใจเลย

ผมค่อนข้างเป็นคนชั่งสังเกตุนะ ช่วง 2553 - 2554 ตึกที่มันร้างสมัย 2540 ก็เริ่มมีการทุบ มีการลงทุนใหม่ๆๆ แล้ว เพราะเศรษฐกิจประเทศมันดีไง

คนไทย ไม่ชอบการแข่งขันอย่างเสรี ค่อนข้างเห็นแก่ตัว ไม่มีความพยายามแต่ก็อยากรวยๆ คนที่เก่งและพยายาม เค้าก็ดิ้นรน ไม่มีใครสบายๆมาได้หรอกครับ

แต่ตอนนี้คงเจ๊งกับระนาวอีกรอบละมั้ง -*-